เศฟันยาห์ 1-4

เศฟันยาห์ 1:14-18

และนี่คือเหตุการณ์ที่จะเกิดกับคนทั้งโลก

วันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว  ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว  เสียงแห่งวันของพระเจ้านั้นขมขื่น   ณ ที่นั่นนักรบผู้กล้าส่งเสียงร้องดังลั่น
วันนั้นเป็นวันของความกริ้วโกรธ  เป็นวันของความทดท้อใจและระทมขมขื่นยิ่ง เป็นวันของความหายนะ และพินาศ  เป็นวันของความมืดและความหดหู่  เป็นวันของเมฆมืดและความดำมิด    วันนี้ เป็นวันที่พระเจ้าทรงเป็นศัตรูกับคนทั้งหลายที่ทำเฉยเมยต่อคำเตือนของพระองค์

เป็นวันของเสียงแตรดังสนั่น เสียงร้องของสงครามเพื่อโจมตีเมืองที่มีป้อมเข้มแข็ง  และเพื่อต่อสู้กับป้อมสูงทั้งหลาย

แม้เมืองที่เข้มแข็งของยูดาห์ ก็ไม่อาจต้านทานพระเจ้าได้

เราจะนำความเจ็บปวดทรมานมาสู่มนุษยชาติ  พวกเขาจะเดินไปเหมือนคนตาบอด  เพราะว่า เขาได้ทำบาปต่อพระเจ้า  เลือดของเขาจะถูกเทออกมาเหมือนฝุ่น  เนื้อของเขาจะถูกเทออกมาเหมือนมูลสัตว์

ตอนนี้ พระเจ้ากำลังกล่าวถึงคนทั้งโลกที่ไม่รับพระองค์  พวกเขาไม่ยอมให้พระเจ้าทรงนำชีวิตของเขา  เขาจึงเหมือนคนตาบอด คลำหาทางหนียังไม่เจอเลย   ดูซิ เลือดและเนื้อจะถูกเทเหมือนสิ่งไร้ค่า

เงินและทองคำของเขา ไม่อาจช่วยเขาให้รอดพ้นในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า

ให้รวยเท่าไรก็ช่วยไม่ได้  ภาพจากรอยเตอร์

สิ่งที่มนุษย์เห็นว่า มีค่ามาก ไม่อาจจะช่วยใครได้เลย

แผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะถูกเผาผลาญด้วยไฟแห่งความหวงแหนของพระองค์

พระเจ้าจะทรงเป็นผู้ให้สิ่งที่มีชีวิตทั้งสิ้นบนผืนโลก ถึงจุดจบโดยฉับพลัน

ความหวงแหนของพระเจ้านั้น คือ พระเจ้าทรงถือว่ามันเป็นพื้นฐานสำคัญของการที่พระเจ้าทรงทำสัญญากับมนุษย์ตั้งแต่สมัยโบราณมา  พระองค์จะไม่ให้ใครมาแทนที่พระองค์… และไม่มีใครจะมาแทนที่พระองค์ได้ด้วย

 

เศฟันยาห์ 1-3

เศฟันยาห์ 1:11-13

เศฟันยาห์กำลังเล่าถึงเหตุการณ์ในอนาคตของนครเยรูซาเล็ม

“จงคร่ำครวญเถิด ชาวบ้านย่านตลาด   เพราะว่า ไม่มีพ่อค้าต่อไปแล้ว  และคนที่ชั่งเงินก็ถูกทำลายไป

จากประตูปลาทางเหนือ   ย่านตลาดครกนั้นอยู่ในกำแพงเมือง เป็นที่ ๆ ทำการค้าขายกันในนครเยรูซาเล็ม  รูปร่างของพื้นที่เป็นเหมือนครก

ภาพ License Some rights reserved by Palestine Exploration Fund

ภาพหุบเขาคิดโรนและหมู่บ้านครกหรือซิโลอาม ภาพนี้น่าจะถ่ายช่วงทศวรรษ  1950

 

ในเวลานั้น เราจะใช้ตะเกียงสำรวจนครเยรูซาเล็ม   และเราจะลงโทษคนที่ปล่อยตัวตามสบาย คิดในใจว่า .. พระเจ้าจะไม่ทรงทำสิ่งดี  และจะไม่ทรงทำสิ่งร้าย…

ที่พระเจ้าทรงเน้นคือ คนที่ปล่อยตัวตามสบาย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่สนใจอะไรรอบตัว ไม่สนใจว่า ตนเองได้ทำตัวอย่างไรต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า  พวกเขาไม่คิดจะช่วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ

พวกเขาเหล่านี้เชื่อว่ามีพระเจ้า  แต่เขาคิดว่า พระองค์ไม่ได้ทรงใส่พระทัยในเหตุการณ์ต่าง ๆ  เขาคิดว่า เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในโลกนั้น  เป็นเรื่องของมนุษย์เท่านั้น ไม่ใช่ของพระองค์  แต่…ความจริงแล้ว พระเจ้าทรงอยู่เหนือทุกสิ่ง  พระองค์ทรงมองทุกสิ่งที่กำลังเกิดบนพื้นโลก…..

สินค้าของพวกเขาจะถูกปล้น  และบ้านพักอาศัยจะถูกทิ้งร้าง  แม้เขาจะเป็นผู้สร้างบ้านเหล่านั้น  เขาจะไม่ได้อาศัยในบ้านนั้น
แม้เขาจะปลูกสวนองุ่น  แต่เขาจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น “

สินค้า บ้านและสวนไร่นา  เป็นสมบัติของคนมั่งคั่ง   แต่เพราะพวกเขาทำผิดต่อพระเจ้า และคนยากจน พวกเขาจะไม่ได้รับผลตอบแทนจากน้ำมือที่เขาได้กระทำ

 

เศฟันยาห์ 1-2

เศฟันยาห์ 1:7-10

เศฟันยาห์บอกให้ทุกคนนิ่ง ในวันที่พระเจ้าพิพากษา การแก้ตัว หรือแก้ต่าง ไม่มีประโยชน์ในวันนั้น  

วันของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว

จงนิ่งสงบอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า เพราะวันของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว พระเจ้าทรงเตรียมเครื่องบูชา และจะทรงชำระแขกที่พระองค์ทรงเชิญมาให้บริสุทธิ์

แขกของพระองค์คือชาวบาบิโลเนียที่น่ากลัว!

และในวันถวายเครื่องบูชาของพระเจ้าของพระเจ้า เราจะลงโทษข้าราชการ และโอรสของกษัตริย์ รวมทั้งคนที่สวมเสื้อ และทำตามพิธีของคนต่างชาติ

ในวันนั้นเราจะลงโทษทุกคนที่กระโดดข้ามธรณีประตู และคนที่เอาความชั่วร้ายและการหลอกลวงเติมลงไปในบ้านของเจ้านายตน

การข้ามธรณีประตูหมายถึงคนที่รีบออกไปกระทำชั่ว

พระเจ้าประกาศว่า “ในวันนั้น จะได้ยินเสียงร้องไห้จากประตูปลา และเสียงคร่ำครวญจากส่วนที่สอง เสียงกระทบดังโครมครามจากบรรดาเนินเขา

โยเอล ๒-๒

โยเอล 2:4-11

ท่านโยเอลพูดให้ผู้ฟังได้รับทราบว่า กองทัพของข้าศึกนั้น น่ากลัวเพียงไร มีอำนาจศักดาเพียงไหน   มันเป็นกองทัพที่มีระเบียบวินัยสูง  การมุ่งไปข้างหน้าของกองทัพนี้…ชัดเจน ทหารทุกคนมุ่งมั่น  มุ่งที่จะทำลายยูดาห์ตามคำสั่งที่ได้มา

โยเอลต้องการให้คนที่ฟังเขาได้ทราบว่า   อำนาจสูงสุดนั้นก็ยังไม่ได้อยู่ที่กองทัพอันยิ่งใหญ่   แต่อยู่ที่พระเจ้า  และเหตุการณ์อันน่ากลัว สยองขวัญ เขย่าโลกแบบนี้ จะเกิดขึ้นได้ในวันของพระเจ้าเท่านั้น

 

โยเอล ๒-๑

โยเอล 2: 1-3

 

โยเอลกล่าวถึงกองทัพที่จะมาว่า ใหญ่โตเหมือนเมฆที่ครองแผ่นดินในยามเช้า   และแม้จะรู้สึกว่า เคยอยู่สบายเหมือนอยู่ในสวนเอเดน

แต่กองทัพเหล่านี้จะมาทำหลายความสุขเหล่านั้นจนสิ้น

สำหรับคนที่มีชีวิตติดตามพระเจ้า  เขาอยากจะเห็นวันของพระเจ้า  เขาไม่กลัวเพราะเขาอยู่ในพระองค์  แต่คนที่ไม่ได้เดินอย่างถูกต้องกับพระเจ้า วันนั้น เป็นวันที่น่ากลัวที่สุด  สำหรับยูดาห์ พวกเขาทำสิ่งที่ผิดต่อพระเจ้ามากมาย   วันของพระองค์จึงเป็นวันที่น่ากลัว สยดสยอง