อาหัสผู้นี้….๒๘-๖

2 พงศาวดาร 28:22-27

ยิ่งถูกศัตรูรุกทำร้ายมากเท่าไร  ราชาอาหัสก็ยิ่งห่างไกลจากพระเจ้าไปเพียงนั้น  ราชาอาหัสทรงหันหลังให้กับพระเจ้า  และคิดหาทางที่จะรอดพ้นด้วยวิธีของพระองค์เอง

มีอย่างที่ไหน  แพ้ซีเรียแล้ว แทนที่จะซมซานมาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า กลับนำเอาเทวรูปของซีเรียมาตั้งในเยรูซาเล็ม  …ทรงกล่าวว่า “เพราะว่าชาวซีเรียมีพระของเขาช่วยเหลืออยู่   เดี๋ยวเราจะกราบไหว้ บูชา ถวายเครื่องสักการะพระเหล่านั้น   เผื่อว่า พระของซีเรียจะช่วยเราได้”

ราชาอาหัสตัวจริงคือผู้นี้…

คิดเอง ทำเองตามใจ  ไม่เกรงใจใครทั้งสิ้นแม้แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่บรรพบุรุษของพระองค์ได้วางใจมาโดยตลอด

อาหัสทรงตั้งใจว่า พระของซีเรียนี่แหละ  จะเป็นพระที่พระองค์นับถือ

ไปกันใหญ่….  เพราะว่า ยิ่งอาหัสทำอย่างนั้น  ความหายนะก็ยิ่งโถมเข้ามาในยูดาห์    ราชาอาหัสทรงรวบรวมภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้ในพระวิหารออกมา  เอาออกมาทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และปิดประตูพระวิหาร

ยิ่งกว่านั้น ก็สร้างแท่นบูชาตามเมืองต่าง ๆ  สร้างที่สูงขึ้นมาเพื่อถวายเครื่องบูชากับเทวรูปสารพัดแบบ    ราชาอาหัสทรงทำให้พระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพระองค์ทรงกริ้วยิ่งนัก

ยังมีหลายอย่างที่ราชาอาหัสได้กระทำ และบันทึกไว้ในหนังสือของกษัตริย์แห่งยูดาห์และอิสราเอล

เมื่อราชาอาหัสสิ้นพระชนม์   เฮเซคียาห์ โอรสก็ขึ้นครองแทน

 

 

ศึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ๒๘-๕

2 พงศาวดาร 28:16-21
ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์กวาดเชลยไปสะมาเรีย  แล้วนำกลับมายังเมืองเยรีโคนั้นเอง  ราชาอาหัส ก็ได้ส่งสาส์นขอความช่วยเหลือไปยังราชาแห่งอัสซีเรีย

ไม่แต่อิสราเอลมาโจมตีจากทางเหนือเท่านั้น  แต่ยังมีชาวเอโดมทางใต้เข้ามาบุกและชนะศึก  กวาดคนยูดาห์ไปด้วยมากมาย

ส่วนทางตะวันตกเฉียงใต้   นักรบตัวใหญ่ผู้กล้าจากฟิลิสเตียก็จู่โจมเข้ามาใกล้เคียงกัน ไม่มีทางที่ยูดาห์จะเงยหน้าอ้าปากได้เลย

ฟิลิสเตียปล้นหัวเมืองเชเฟลาห์  เบธเชเมธ  อัยยาโลน  เกเกโรธ  โสโค และเมืองเล็ก ๆ รอบ ๆ    มิหนำซ้ำ ยังพาคนของพวกเขาเข้ามาตั้งถิ่นฐานแทรกไปกับชาวเมืองด้วย  …. ขืนเป็นอย่างนี้นาน ๆ ไป จะไม่มีคนยูดาห์เหลือ เพราะพวกเขาจะต้องพยายามเปลี่ยนเชื้อชาติด้วยการบังคับการแต่งงานระหว่างสองชนชาติ

ยูดาห์โดนโจมตีรอบด้าน

ทำไมจึงเป็นเช่นนี้?

พระเจ้าทรงกระทำให้ยูดาห์ตกต่ำสุด ๆ เพราะว่า ตัวพระราชาเองนั่นแหละ   ราชาอาหัสได้ทำผิดต่อพระเจ้าอย่างร้ายแรง… และไม่ได้คิดแม้จะปรับเปลี่ยนพระองค์เพื่อความอยู่รอดของชาติ….  ราชาอาหัสนำให้ประชาชนจำนวนมากมายร่าเริงไปกับการกราบไหว้เทวรูป   พาพวกเขาไปนมัสการสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า แต่ยกย่องมันเป็นพระ

ราชาอาหัสไม่ได้หันมาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า  ไม่กลับใจ  แต่ ทรงซ้ำเติมชนชาติยูดาห์ด้วยการไปขอความช่วยเหลือจากราชาอัสซีเรียผู้อหังการ!

ราชาอาหัสขนของในพระวิหารของพระเจ้า ทั้งเงิน ทอง และโลหะต่าง ๆ รวมทั้งอัญมณีที่มีค่า ไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่ทิกลัสปิเลเสอร์….ซึ่งเป็นราชาแห่งอัสซีเรีย

เมื่อได้ของบรรณาการ แทนที่จะมาช่วยราชาอาหัส

กลับโจมตีทั้งอิสราเอลทางเหนืออย่างย่อยยับ (ประมาณ 722 ปีก่อนคริสตศักราช)   และรุกรานยูดาห์ซ้ำเติมเข้าไปอีก…  คราวนี้ยูดาห์แทบสิ้นชาติ  สิ้นเนื้อประดาตัว

ประชาชนรู้สึกโกรธแค้นพระราชา  และศัตรูยิ่งนัก  แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้  จำต้องรับเคราะห์กรรมจากสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   แล้วจะทำอย่างไรต่อไปกันดี ??

 

ราชาอาหัสครองประมาณ    735-719   ปี ก่อนคริสตศักราช

ผลของการทำชั่ว ๒๘-๒

 

ราชาอาหัส โดย  Guillaume Rouille (1518?-1589)

2  พงศาวดาร 28:5-7

ในเมื่ออาหัสไม่ยอมติดตามพระเจ้า แต่กลับไปถวายลูกชายเป็นเครื่องบูชาเทวรูปต่าง ๆ  พระเจ้าจึงทรงมอบราชาอาหัสไว้ให้ตกอยู่ใต้ราชาแห่งซีเรีย และราชาแห่งอิสราเอลที่ชื่อเปคาห์ บุตรเรามาลิยาห์

ไม่ไหวแล้ว  ประชาชนแตกตื่น และกลัวลานกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา

“ข้าว่าเราต้องอพยพไปแล้ว  อยู่ไม่ได้”

“ท่านไปได้เพราะท่านมีเงิน  แต่ข้าเป็นคนจน ยังไงก็ต้องเจอกับสิ่งร้าย ๆ เหมือนกับคนอื่น”

 

ช่วงเวลานั้น  ไม่มีความปลอดภัยในอิสราเอลเลย

ราชาเปคาห์แห่งอิสราเอลเข้ามาโจมตี และฆ่าทหารยูดาห์เก่ง ๆ  ตายไปถึง 120,000  คน  ภายในวันเดียว!!

วันเดียวเท่านั้น คนตายเป็นแสน

นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร  แล้วราชาอาหัสทรงคิดบ้างไหมว่า…. ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ เป็นเพราะพระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้น??

ยิ่งเกิดเหตุการณ์เช่นนี้  ประชาชนต่างขวัญหนีดีฝ่อไปตาม ๆ กัน   คนที่หนีได้ก็อพยพไป   ส่วนคนที่ยากจนก็หนีไม่พ้น

พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

“ที่เกิดเหตุเช่นนี้ เป็นเพราะเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย”

คราวนี้ ยูดาห์ซึ่งเคยเก่งกล้า ใคร ๆ ก็ยำเกรงสมัยราชาโยธาม กลับกลายเป็นยูดาห์ที่ใคร ๆ หัวเราะเยาะ

พวกเขาไม่ได้ทำตัวให้ถูกต้อง  ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า อะไรดีไม่ดี….

พรุ่งนี้เราจะมาดูว่า พวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง

ผู้ตามรอยกษัตริย์ที่ชั่วร้าย ๒๘-๑

2 พงศาวดาร 28:1-4

อายุเพียง 20 ปี  ราชาอาหัสก็ขึ้นครองต่อจากราชบิดาโยธาม  แต่ราชาอาหัส ได้ทรงหักมุมจากความดีงามของเสด็จพ่อ และเสด็จปู่

และพระองค์ไม่ทรงทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าเลย แต่กลับทรงกระทำทุกอย่างตามแบบของกษัตริย์อิสราเอลทางภาคเหนือ

นอกจากไม่เข้าในพระวิหารของพระเจ้า ไม่นมัสการพระเจ้าแล้ว  ราชาอาหัสยังสร้างเทวรูปจ้าวบาอัลจากโลหะ  และถวายเครื่องสักการะที่หุบเขาแห่งบุตรฮินนอม และที่ร้ายไปกว่านั้น…

“ฮ้า พระราชาทำอย่างนี้ได้ไง?”

“มันโหดเหี้ยมมาก  ข้ากลัวจริง พระเจ้าจะทรงลงโทษพวกเรานะเนี่ย”

“เราจะไปห้ามพระองค์อย่างไรกัน  กับลูกชายของพระองค์ยังทำลงได้”

 

ไม่ใช่โอรสคนเดียว   แต่ราชาอาหับได้เอาโอรสจากมเหสี จากสนม มาเผาเป็นเครื่องบูชา !!

การบูชาแบบนี้ ทำให้เราประมาณการได้ว่า ราชาอาหัสบูชาจ้าวโมเลคด้วย  ซึ่งพวกเขาจะทำให้เทวรูปนั้นร้อนจัด  จากนั้นก็เอาเด็กตัวเล็ก ๆ  วางบนมือโลหะร้อนที่ยื่นออกมา

พวกเขาจะตีกลองเสียงดังจนกระทั่งเด็กคนนั้นร้องจนหมดลมหายใจ

น่าขยะแขยงจริง ๆ กับการทำเช่นนี้

ขณะที่ประชาชนต่างกลัวกันลนลาน

“ข้ากลัวว่า พระราชาจะบังคับให้ข้าบูชายัญลูกชายของข้า”

“เจ้าควรจะเอาลูกหลบไปให้ไกล  ไปอยู่เมืองอื่นก็ได้นะ”

แต่สำหรับราชาอาหัส  กลับทรงคิดอีกอย่าง

“ดูซิ  นี่ข้าทำเหมือน ๆ  ชาติต่าง ๆ ที่อยู่ล้อมรอบข้าแล้ว  ตอนนี้ ก็อยู่ในกระแสแล้วล่ะ   เหมือนกัน จะได้เป็นเพื่อนบ้านกัน”

ไม่เท่านั้น

ราชาอาหัสยังถวายเครื่องบูชามากมายตามที่สูง  ตามเนินเขา  ตามใต้ต้นไม้ต่าง ๆ  อย่างสม่ำเสมอ…..