องค์จอมเจ้านายตรัสกับข้าด้งนี้
“เจ้าจงไปตั้งยาม ให้เขารายงานทุกสิ่ง ที่เห็น….
ถอดความจาก อิสยาห์ 21:6
ถอดความจากอิสยาห์ 42:6
บทสรุปย่อ อิสยาห์ ตอน 2
เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้อ่านพระคัมภีร์โดยมองเห็นภาพรวมโดยฟังจากดร.ทิม แมคกี
พร้อมกับดูโปสเตอร์ จะเข้าใจความหมายได้อย่างสมบูรณ์ ดูยูทูบที่
เลือกซับไตเติ้ลภาษาไทยได้ ให้คลิกที่เครื่องหมาย setting
บทสรุปที่เป็นโปสเตอร์นี้ เราได้รับอนุญาตการแปลจาก ไบเบิลโปรเจกต์
โดยสามารถนำไปใช้เพื่อการศึกษาในคริสตจักร กลุ่มเซลต่าง ๆ ในชั้นเรียนรวีฯ
หรือการเรียนพระคัมภีร์ส่วนตัวได้โดยไม่ให้ใช้เพื่อการค้า
ขอบคุณสำหรับฟอนต์ไทยจาก ฟอนต์.คอม
ถุอดความจาก อิสยาห์ 1:18
บทสรุปย่อ อิสยาห์ ตอน1
เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้อ่านพระคัมภีร์โดยมองเห็นภาพรวมโดยฟังจากดร.ทิม แมคกี
พร้อมกับดูโปสเตอร์ จะเข้าใจความหมายได้อย่างสมบูรณ์ ดูยูทูบที่
เลือกซับไตเติ้ลภาษาไทยได้ ให้คลิกที่เครื่องหมาย setting
บทสรุปที่เป็นโปสเตอร์นี้ เราได้รับอนุญาตการแปลจาก ไบเบิลโปรเจกต์
โดยสามารถนำไปใช้เพื่อการศึกษาในคริสตจักร กลุ่มเซลต่าง ๆ ในชั้นเรียนรวีฯ
หรือการเรียนพระคัมภีร์ส่วนตัวได้โดยไม่ให้ใช้เพื่อการค้า
ขอบคุณสำหรับฟอนต์ไทยจาก ฟอนต์.คอม
เพลงนี้บอกว่า
ถอดความจาก อิสยาห์ 52:7
https://www.youtube.com/watch?v=sWrZyBsNcQY&list=PLLK0WBbQ8H3R-FfK10GYpx1BDJ9mt-_Gw
ถอดความจาก อิสยาห์ 25:1
อิสยาห์ 66:18-24
เพราะเรารู้จักที่พวกเขาทำ รู้ทุกสิ่งที่พวกเขาคิด
และก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องรวบรวมประชาชาติทั้งหมด ชนทุกภาษา และเขาจะมา
จะเห็นพระสิริของเรา และเราจะวางสัญลักษณ์หนึ่งไว้ท่ามกลางพวกเขา
คิดว่า สัญลักษณ์นี้ น่าจะเป็นไม้กางเขน
และจากพวกเขาเราจะส่งคนที่มีชีวิตรอดไปยังประชาชาติต่าง ๆ ไปยังทารชิช พูล และลูท
คนที่โก่งคันธนู ไปยังทูบาลและยาวาน รวมถึงแผ่นดินชายทะเลที่อยู่ไกลออกไป
ถึงเหล่าคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเรา ไม่เคยเห็นพระสิริของเรา
พระเจ้าทรงตั้งพระทัยที่จะส่งคนของพระองค์ไปบอกถึงชื่อเสียง และพระสิริของพระองค์กับคนในโลกอีกมากมาย
และเขาจะประกาศพระสิริของเราท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
และเขาจะนำพี่น้องของเจ้าจากประชาชาติทั้งหลายมาเป็นดั่งเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า
พาหนะของเขาคือม้า รถรบ เกวียน ล่อและอูฐโหนกเดียว
พวกเขามุ่งหน้ามายังภูเขาบริสุทธิ์ของเราที่เยรูซาเล็ม พระเจ้าตรัส
เป็นเหมือนอิสราเอลได้นำเครื่องถวายธัญบูชาในภาชนะที่สะอาดมายังพระนิเวศของพระเจ้า
และเราก็จะใช้บางคนในพวกเขาให้เป็นปุโรหิตและเลวี … พระเจ้าตรัส
“ท้องฟ้าใหม่และโลกใหม่ที่เราสร้างจะดำรงอยู่ต่อหน้าเราฉันใด
ลูกหลานของเจ้าและชื่อของเจ้าก็จะดำรงอยู่ฉันนั้น
จากเดือนต่อเดือน สัปดาห์ต่อสัปดาห์ เนื้อหนังทั้งหลายจะเข้ามานมัสการต่อหน้าเรา … พระเจ้าทรงประกาศ
พระเจ้าจะทรงรักษาคนของพระองค์ไว้ แม้จะมีสิ่งที่ยากเย็นแสนเข็ญเกิดขึ้น จะมีเวลาที่คนนมัสการพระเจ้าตลอดเวลาในเยรูซาเล็มใหม่
“และพวกเขาจะออกไป และมองเห็นศพของคนที่ดื้อดึงต่อเรา
เพราะว่า หนอนที่กินเขาจะไม่ตาย
อิสยาห์ 66: 12- 17
พระเจ้าตรัสว่า “ดูเถอะ เราจะนำความสันติสุขมาให้เธอราวกับแม่น้ำ
และศักดิ์ศรีของประชาชาติเหมือนกับธารน้ำที่กำลังไหล
และเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดู เธอจะอุ้มเจ้าไว้ที่บั้นเอว และเขย่าตัวขึ้นลงตรงเข่าของเธอ
เราจะปลอบใจเจ้าเหมือนกับคนที่แม่ของเขาปลอบใจ เจ้าจะได้รับการปลอบใจในเยรูซาเล็ม
เจ้าจะได้เห็น และใจของเจ้าจะยินดี
กระดูกของเจ้าจะเบิกบานเหมือนกับหญ้า
และพระกรของพระเจ้าจะอยู่กับผู้รับใช้ของพระองค์
และพระองค์จะทรงแสดงพระพิโรธต่อศัตรูของพระองค์
เยรูซาเล็มใหม่จะเลี้ยงดูคนของพระเจ้า เหมือนกับแม่ที่ปลอบลูกและดูแลลูก คนของพระเจ้าจะมีความยินดีที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนอนาคตของเขา หน้ามือเป็นหลังมือ แต่พระเจ้ายังคงพิโรธต่อศัตรูของพระองค์ และพระองค์จะทรงจัดการกับพวกเขา
เพราะดูเถิด พระเจ้าจะเสด็จมาพร้อมกับไฟ และรถรบของพระองค์มารวดเร็วราวกับพายุหมุน
เพื่อแสดงให้เห็นพระพิโรธอย่างยิ่งของพระองค์ และพระองค์จะทรงขนาบเขาด้วยเปลวเพลิง
เพราะพระเจ้าจะทรงพิพากษาด้วยไฟ ด้วยพระแสงของพระองค์เหนือคนทั้งหลาย
พระองค์จะทรงประหารคนจำนวนมากมาย
คนที่ทำพิธีชำระตัวและทำตัวให้บริสุทธิ์เพื่อจะได้เข้าไปในสวน
ติดตามผู้หนึ่งท่ามกลางเขา กินเนื้อหมู สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน และเนื้อหนู พวกเขาจะถึงที่สิ้นสุด สูญสิ้นไปด้วยกัน
พระเจ้าทรงประกาศ
อิสยาห์ 66:7-11
“ก่อนที่เธอจะปวดท้องคลอด ก็คลอดลูกออกมาเสียแล้ว
ก่อนที่เธอจะเจ็บปวด เธอก็ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่ง
อิสยาห์กำลังมองภาพของศิโยนที่จะกลับมาคืนสู่สภาพดีอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่า ลูกชายผู้นี้ คือชนอิสราเอลทั้งชาติ
ใครเคยได้ยินเรื่องอย่างนี้บ้าง?
ใครเคยเห็นเรื่องอย่างนี้?
แผ่นดินจะเกิดขึ้นได้ในวันเดียวหรือ?
ประชาชาติหนึ่งจะเกิดขึ้นมาได้ในครู่เดียวหรือ?
ทันทีที่ศิโยนปวดท้องคลอด เธอก็คลอดบุตรทั้งหลายของเธอ
แล้วเราจะนำมาถึงจุดที่จะคลอด แต่ไม่ช่วยให้คลอดออกมาหรือ?” พระเจ้าตรัส
เรา ผู้เป็นต้นเหตุให้คลอด จะปิดครรภ์หรือ?” พระเจ้าของเจ้าตรัส
อิสราเอลจะกลับคืนสูสภาพดีอย่างไม่ต้องทุกข์ทรมาน หรือยากลำบากเลย นี่ต้องเป็นการอัศจรรย์จากพระเจ้า และมันจะเกิดขึ้นเมื่อการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
“จงยินดีกับเยรูซาเล็ม และยินดีไปกับเธอ เจ้าทุกคนที่รักเธอ
จงยินดีกับเธออย่างชื่นบาน เจ้าทุกคนที่ไว้ทุกข์ให้เธอ
เพื่อว่าเจ้าจะได้รับการดูดนมอย่างพึงใจ จากอกที่ให้การปลอบใจ
เพื่อว่าเจ้าจะได้ดูดดื่มให้หมดด้วยความปลาบปลื้มจากความมั่งคั่งอันมากล้นของเธอ”
อิสราเอลสามารถดูแลคนของเธอได้ เมืองจะมีทุกสิ่งทุกอย่างที่คนอาศัยต้องการ คนที่วางใจพระเจ้าจะได้รับพลังมาจากเยรูซาเลมนี่เอง
อิสยาห์ 66:1-6
ดังนั้นพระเจ้าตรัสว่า “สวรรค์เป็นบัลลังก์ของเรา และแผ่นดินโลกเป็นที่วางเท้าของเรา
แล้วบ้านที่เจ้าจะสร้างให้เรานั่น มันอะไรกันเล่า? และที่พักของเรามันคืออะไรหรือ?
ทุกสิ่งนี้ เป็นผลงานของมือเราทั้งสิ้น เป็นเพราะเรา มันจึงเกิดขึ้นมา พระเจ้าประกาศ
พระเจ้าทรงเตือนคนของพระองค์ว่า สิ่งที่สำคัญคือ พระองค์
ไม่ใช่วิหารที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเพื่อพระองค์
แต่คนเรามักจะชื่นชมกับความงามทางสถาปัตกรรม การตกแต่ง มากกว่าพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่
แต่คนที่เราจะมองก็คือ คนที่ใจถ่อมและจิตใจฟกช้ำ และตัวสั่นกับคำของเรา
“คนที่สังหารวัวก็เหมือนคนที่ฆ่ามนุษย์
คนที่ถวายลูกแกะเป็นเครื่องบูชาก็เหมือนคนที่หักคอหมา
คนที่นำเครื่องธัญบูชามาก็เหมือนกับคนที่ถวายเลือดหมู
คนที่ถวายเครื่องบูชาแห่งความทรงจำด้วยกำยาน ก็เหมือนกับคนที่อวยพรให้กับรูปเคารพ
พวกเขาเลือกทางของตัวเอง และจิตวิญญาณของเขาชื่นชมในความน่าสะอิดสะเอียนเหล่านั้น
คนที่พึ่งพาการถวายเครื่องบูชาแบบพิธีกรรมต่าง ๆ การเอาใจใส่ในรายละเอียดของพิธีกรรม
ทำให้ดูขลัง อลังการ เหล่านั้น เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงสะอิดสะเอียน
แต่คนเราคิดไม่ถึงว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงต้องการสิ่งเหล่านี้ พระองค์ทรงปรารถนาคนที่ใจถ่อมและฟกช้ำ
รู้ว่าตนไม่สมควรที่จะได้รับพระพร เพราะได้ทำบาปต่อพระองค์ คนที่จนมุมและยอมพระองค์แม้ไม่ถูกใจตนเอง
เราจะเลือกวิธีการจัดการกับเขาอย่างรุนแรง และให้พวกเขาเกิดความกลัวลาน
เพราะเมื่อเราเรียก ไม่มีใครตอบ เมื่อเราพูด ไม่มีใครฟัง
แต่กลับทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของเรา และเลือกสิ่งที่เราไม่ยินดีด้วย “
ฟังคำของพระเจ้า เหล่าคนที่ตัวสั่นต่อคำของพระองค์
“พี่น้องของเจ้าที่เกลียดเจ้า และไล่เจ้าออกไปเพราะนามของเราได้กล่าวกันว่า
“ขอให้พระเจ้าทรงได้รับเกียรติ เพื่อว่าเราจะได้เห็นความยินดีของเจ้า”
แต่พวกเขานั่นแหละจะต้องอับอาย “
เสียงลุกฮือเกิดขึ้นในเมือง! เสียงจากพระวิหาร!
พระสุรเสียงของพระเจ้า พระองค์กำลังแก้แค้นศัตรูของพระองค์
อิสยาห์ 65:17-25
พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะสร้างฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่ ให้กับมนุษย์ที่เคยทำบาปผิด เพื่อให้เขาได้มีความชอบธรรม ไม่มีชีวิตอย่างเดิมอีกต่อไป ข้อความจากนี้ต่อไป อิสยาห์กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ในระหว่างการที่พระเจ้าจะทรงครอบครองหนึ่งพันปี
ดูเถิด เราสร้างฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ จะไม่มีการจดจำถึงสิ่งเก่าก่อนอีกต่อไป จะไม่มีการคิดถึงมัน
แต่จงยินดีและชื่นชมในสิ่งที่เราสร้างตลอดไป
เพราะดูเถิด เราสร้างเยรูซาเล็มให้เป็นความยินดี และคนของนครนั้นเพื่อจะมีความชื่นชม
เราจะยินดีในนครเยรูซาเล็ม ชื่นชมในคนของเรา ไม่มีการได้ยินเสียงร้องไห้ และเสียงร้องแห่งความทุกข์อีกต่อไป
พระเจ้าเองจะทรงยินดีในสิ่งใหม่ที่พระองค์ทรงสร้างนั้น
จะไม่มีเด็กทารกอายุสองสามวันในเมืองนั้นอีกต่อไป จะไม่มีคนแก่ที่ไม่ตายตามกำหนด
เพราะคนหนุ่มจะมีอายุถึงหนึ่งร้อยปีจึงจะตาย และคนบาปที่มีอายุหนึ่งร้อยปีจะเป็นที่แช่งสาป
ช่วงชีวิตของคนเราจะยาวขึ้น ไม่เหมือนสมัยนี้ !
เขาจะสร้างบ้านและอาศัยในนั้น เขาจะปลูกสวนองุ่นและกินผลของมัน
เขาจะไม่สร้างโดยให้คนอื่นเข้าไปอยู่ เขาจะไม่ปลูกเพื่อให้คนอื่นกิน
อายุของต้นไม้จะเป็นเหมือนอายุของคนของเรา
และผู้ที่เราเลือกนั้นจะได้ชื่นชมกับผลงานจากน้ำมือของเขาเอง
เขาจะไม่ทำงานโดยไร้ผล หรือเกิดลูกหลานเพื่อความวิบัติ
เพราะเขาจะเป็นลูกหลานแห่งพระพรของพระเจ้า และลูกหลานที่จะตามมาด้วย
ดูนะ มนุษย์ยังจะทำงาน และมีความชื่นชมในผลงานด้วย โห… การงานในสมัยนั้นจะเป็นอย่างไร อยากรู้จริง!
ก่อนที่เขาจะเรียก เราก็ตอบแล้ว ขณะที่เขาเพียงพูดถึงเราก็ได้ยิน
สุนัขป่ากับลูกแกะจะกินหญ้าเคียงข้างกัน สิงโตจะกินฟางเหมือนกับวัว
และฝุ่นดินจะเป็นอาหารของงู พวกมันจะไม่ทำร้ายใครไม่ทำลายใครในภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา”
พระเจ้าตรัสดังนั้น
อิสยาห์65:8 -13
พระเจ้าตรัสว่า “ก็เหมือนกับที่ยังมีน้ำองุ่นเหลืออยู่ในพวงองุ่น และเขากล่าวว่า ..อย่าทำลายมันเลย เพราะยังมีพระพรอยู่ในนั้นบ้าง” ดังนั้น เราก็จะทำเพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของเรา และจะไม่ทำลายมันหมด
เราจะนำลูกหลานของยาโคบและของยูดาออกมา พวกเขาจะได้ครอบครองภูเขาของเรา คนที่เราเลือกจะได้ครอบครองแผ่นดินเหล่านั้น และผู้รับใช้ของเราก็จะอาศัยที่นั่น
ชาโรนจะเป็นทุ่งหญ้าเพื่อเลี้ยงฝูงแกะ และหุบเขาแห่งอาโคร์ก็จะเป็นที่พักของพวกมัน สำหรับประชากรที่แสวงหาเรา
แม้ว่าพระเจ้าจะทรงทำลายคนชั่วร้าย แต่ยังมีคนของพระองค์ที่ซื่อสัตย์ … พระองค์จะไม่ทรงทำลายเขา ประชาชาติอิสราเอลทั้งหมด เป็นเหมือนผู้รับใช้ของพระองค์ก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกคนทีเป็นผู้รับใช้ คนที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์แท้จริง คือคนที่เชื่อวางใจในพระสัญญาของพระองค์ และเชื่อฟังพันธสัญญานั้น
เขาเหล่านี้จะได้อยู่ในแผ่นดินอันเป็นที่ปรารถนา
แต่เจ้าผู้ละทิ้งพระเจ้า ผู้ลืมภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา ผู้ที่กางโต๊ะให้กับการดูดวง และเติมเหล้าองุ่นผสมเพื่อสังเวยให้กับเจ้าแห่งเคราะห์กรรมเหล่านั้น
คมดาบคืออนาคตของเจ้า และเจ้าทั้งหมดจะถูกล้างสังหาร เพราะว่า เมื่อเราเรียก เจ้าไม่ตอบ เมื่อเราตรัสเจ้าไม่ฟัง แต่กลับทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของเรา และเลือกสิ่งที่เราไม่พอใจ”
ดังนั้น พระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะอิ่ม แต่เจ้าจะหิวโหย ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะได้ดื่ม แต่เจ้าจะกระหาย ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะยินดี แต่เจ้าจะต้องอับอาย
ดูเถิดผู้รับใช้ของเราจะร้องเพลงด้วยความชื่นบานจากใจ แต่เจ้าจะร้องออกมาจากใจที่เจ็บปวดรวดร้าว จะคร่ำครวญ จิตวิญญาณแตกสลาย
เจ้าจะทิ้งชื่อไว้เพื่อให้เขาสาปแช่ง และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสังหารเจ้า แต่สำหรับบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์จะทรงเรียกเขาด้วยชื่ออื่น เพื่อว่าคนที่ขอพรในแผ่นดินนั้น จะขอพรจากพระเจ้าแห่งความจริง
คนที่ให้คำปฏิญาณในแผ่นดิน ก็จะให้คำปฏิญาณโดยพระเจ้าแห่งความจริง เพราะความทุกข์ยากเก่าก่อนจะถูกลืม และถูกซ่อนจากสายตาของเรา”
พระเจ้าทรงให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ติดตามพระองค์กับคนที่ไปตามทางของตัวเองอย่างชัดเจน!
อิสยาห์ 65:1-7
เราพร้อมที่จะให้คนที่ไม่เคยถามหาเรา ได้พบเรา
เราพร้อมที่จะให้คนที่ไม่เคยแสวงหาเรา ได้พบเรา
เรากล่าวว่า “เราอยู่ที่นี่ เราอยู่นี่” กับประชาชาติที่ไม่ได้เรียกตามชื่อของเรา
พระเจ้าทรงพร้อมที่จะเมตตาต่อประชาชาติที่ไม่เคยรู้จักพระองค์มาก่อนเลย
ต่อชาติที่พระองค์ไม่ได้ทรงเลือกเป็นพิเศษอย่างอิสราเอล
เรายื่นมือของเราออกทั้งวันต่อเหล่าคนที่ดื้อดึง
คนที่เดินไปในทางที่ไม่ดี เดินตามความเห็นของตนเองเท่านั้น
คนที่พยายามยั่วให้เราโกรธไม่หยุดหย่อน
พระเจ้าไม่ได้ซ่อนพระพักตร์จากอิสราเอลเลย
พวกเขาจำเป็นต้องหันมาตามพระองค์แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
พวกเขายั่วยุพระเจ้าจากการกราบไหว้สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา
พวกเขาถวายเครื่องบูชาในสวน และถวายเครื่องบูชาแก่อิฐ ชอบไปนั่งอยู่ในถ้ำเก็บศพ
และใช้เวลาตอนกลางคืนในที่ลึกลับ กินเนื้อหมู และต้มเนื้อสกปรกในหม้อ
เขากล่าวว่า “ออกไปให้ห่างข้า เพราะข้าบริสุทธิ์เกินไปสำหรับเจ้า”
พวกเขาไม่ได้สนใจทางของพระเจ้า แต่ตั้งหลักเกณฑ์ของตนขึ้นมา
แถมยังคิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั่นแหละทำให้ตนบริสุทธิ์สะอาด
ทั้ง ๆ ที่ความบริสุทธิ์ที่เขาคิดคือสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเจ้าเป็นอย่างมาก
คนเหล่านี้เป็นเหมือนควันออกมาจากจมูกของข้า เป็นไฟที่เผาไหม้ตลอดวัน
ดูเถิด มันเขียนไว้ต่อหน้าเราว่า
“เราจะไม่นิ่งเฉย แต่เราจะตอบสนอง เราจะตอบสนองให้สาสม
ตอบสนองทั้งบาปของเจ้าและของบรรพบุรุษเจ้า “ พระเจ้าตรัส
เพราะว่า พวกเขาได้ถวายเครื่องบูชาบนเนินเขา
ดูหมิ่นเราบนเนินเขาเหล่านั้น เราจะตอบสนองเขาอย่างเต็มที่เพราะการกระทำของเขาตั้งแต่เดิมนั้น”
การแก้คืนของพระเจ้าเกิดขึ้นแน่นอน พระองค์ตรัสไว้
อิสยาห์ 64:7-12
แต่บัดนี้ ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเรา
เราเป็นเพียงดิน พระองค์ทรงเป็นช่างปั้น เราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์
ขอพระองค์อย่าทรงโกรธเกรี้ยวกับเราเลย พระเจ้าข้า
ขออย่าทรงจำบาปของเราตลอดไป
ขอพระองค์โปรดทอดพระเนตรดู เราทั้งหลายเป็นคนของพระองค์
นครบริสุทธิ์ของพระองค์กลายเป็นที่ร้างเปล่ากันดาร
ศิโยนกลายเป็นถิ่นร้าง เยรูซาเลมถูกคนละทิ้งไป
บ้านที่บริสุทธิ์สวยงามของเรา
บ้านที่พ่อของเราอาศัยและสรรเสริญพระองค์ก็ถูกไฟเผาไหม้เสียสิ้น
และสถานที่ดี ๆ ของเรากลายเป็นซากปรักหักพัง
พระองค์จะทรงเมินพระองค์จากสิ่งเหล่านี้หรือ พระเจ้าข้า?
พระองค์จะทรงเงียบเฉยและทรงทำให้เราทุกข์ยากแสนสาหัสอย่างนั้นหรือ?
สภาพของอิสราเอลนั้นเลวร้ายมาก นครที่เคยมีคนมากมายกลับกลายเป็นที่ร้างเปล่า
น่าอาย น่ากลัว น่าสยองยิ่งนัก ศัตรูได้มาทำลายเมืองและปล้นทั้งทรัพย์สมบัติและผู้คนไป…
อิสยาห์ทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ถึงแม้พระองค์จะไม่ทรงมองพวกเขาเลยก็ตาม
อิสยาห์ 64:1-6
โอ ข้าปรารถนาให้พระองค์ฉีกสวรรค์ออกและเสด็จลงมา เพื่อเหล่าภูเขาจะได้สั่นสะเทือนเมื่อพระองค์เสด็จ
เหมือนกับไฟที่ลุกอยู่ในป่า ไฟที่ทำให้น้ำเดือด เพื่อทำให้ศัตรูของพระองค์ได้รู้จักพระนามของพระองค์
และเพื่อประชาชาติจะตัวสั่นเมื่อเผชิญพระพักตร์พระองค์
เมื่อพระองค์ทรงทำสิ่งยิ่งใหญ่ที่เราไม่ได้คาดฝัน
พระองค์เสด็จลงมา บรรดาภูเขาก็สั่นไหวสะเทือนลั่นต่อพระพักตร์พระองค์
ภาพจากhttp://www.gns.cri.nz
อิสยาห์ทูลขอให้พระเจ้าปรากฏพระองค์อีกครั้งแก่อิสราเอล เพราะตอนนี้พวกเขาต้องการพระองค์ยิ่งนัก
เพียงแต่พระเจ้าปรากฏพระองค์ และทรงทำสิ่งอัศจรรย์เพื่อพวกเขา ทุกอย่างจะดีขึ้น อิสยาห์ขอร้องพระเจ้าอย่าทรงนิ่งเฉยต่อพวกเขาเลย
ตั้งแต่อดีต ไม่มีใครได้ยิน หรือได้เอาใจใส่ ไม่มีใครเห็นองค์พระเจ้าอย่างพระองค์
พระองค์ผู้กระทำราชกิจให้แก่คนที่รอ คอยพระองค์
พระองค์ทรงพบคนที่ทำสิ่งชอบธรรมอย่างชื่นบาน
คนที่คอยระลึกถึงพระองค์ ทางของพระองค์
ดูเถิด พระองค์ทรงโกรธ และเราก็ทำบาป เราอยู่ในบาปของเรานานมาก และเราจะรอดไหมนี่?
เราทั้งหมดกลายเป็นคนไม่สะอาด สิ่งดีที่เราทำก็เหมือนกับเสื้อผ้าสกปรก
เราค่อย ๆ จางหายไปเหมือนใบไม้ และความผิดของเราก็หอบเราไปเหมือนลม
อิสยาห์สงสัยว่า จากที่พวกเขาทำบาปมานาน เขายังจะมีโอกาสอีกครั้งไหม? พระเจ้าจะทรงให้โอกาสอีกไหม มีแต่พระองค์เท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้?
อิสยาห์ 63:15-19
อธิษฐานขอพระเมตตา
ขอพระเจ้าทรงมองลงมาจากสวรรค์จากที่ประทับอันงดงามของพระองค์ และโปรดดูเรา
ความกระตือรือร้นและฤทธานุภาพมหันต์ของพระองค์อยู่ที่ไหน?
พระองค์เจ้าข้า ดูเหมือนว่า น้ำพระทัยและความสงสารของพระองค์หายไปจากข้าพเจ้า
แม้อิสยาห์จะรู้ว่า พระเจ้าทรงเมตตา แต่เขาไม่เห็นอะไรในคนอิสราเอลที่ทำให้เห็นถึงพระเมตตานั้น
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเรา แม้อับราฮัมไม่รู้จักเรา และอิสราเอลไม่ยอมรับเรา
แต่พระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเรา พระนามของพระองค์คือพระผู้ไถ่
อิสยาห์อธิษฐานบอกพระเจ้าว่า พระองค์ทรงเป็นพระบิดา บิดาก็ต้องสงสารเห็นใจลูกมิใช่หรือ เขาทูลต่อพระองค์เพื่อให้พระองค์ทรงช่วยอิสราเอล
ข้าแต่พระเจ้า เหตุใดพระองค์จึงทรงทำให้เราหลงเจิ่นไปจากทางของพระองค์
และทำให้ใจของเราแข็งจนเราไม่เกรงกลัวพระองค์
ขอพระองค์ทรงกลับมาเพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์
บรรดาชนเผ่าอันเป็นมรดกของพระองค์เหล่าคนผู้บริสุทธิ์ของพระองค์ครอบครองชั่วขณะหนึ่ง
และศัตรูของเราได้เหยียบย่ำพระวิหารบริสุทธิ์ของพระองค์
เราแปลกใจว่า เหตุใดอิสยาห์ถึงพูดราวกับว่า พระเจ้าทรงเป็นต้นเหตุของบาปทั้งปวง เขาตัดพ้อพระเจ้าหรือเปล่า เขาได้ทูลขอให้พระองค์กลับมาช่วยเพื่อเห็นแก่เขา …. แทนที่คนของพระองค์จะครอบครองพระวิหาร แต่ศัตรูกลับเหยียบย่ำพระวิหารของพระองค์เป็นเวลานาน
เราทั้งหลายเป็นอย่างคนที่พระองค์ไม่เคยครอบครอง เป็นเหมือนคนที่พระองค์ไม่ได้ทรงเรียกด้วยพระนามของพระองค์!
อิสยาห์กำลังทูลขอพระเจ้าทรงช่วย ช่วยให้คนอิสราเอลได้กลับมาเป็นคนขอพระองค์ อย่าให้เป็นเหมือนคนต่างชาติที่ไม่รู้จักพระองค์
อิสยาห์ 63:7-14
ข้าจะบอกถึงรายการความรักของพระเจ้า
ราชกิจที่ทำให้เราต้องสรรเสริญพระองค์
สิ่งทั้งปวงที่พระองค์ประทานแก่เราและความดีอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อเหล่าอิสราเอล
พระองค์ประทานให้เราตามพระทัยเมตตาของพระองค์ ตามความรักมั่นคงที่มีมากล้นเหลือ
เพราะพระองค์ตรัสว่า “ จริง ๆ แล้ว เขาเป็นคนของเรา ลูกหลานที่จะไม่ทรยศต่อเรา และพระองค์จึงทรงมาเป็นพระผู้ช่วยของเขา
พระองค์ทรงเดือดร้อน เมื่อพวกเขาเดือดร้อน และทูตสวรรค์ที่อยู่ต่อพระพักตร์ก็มาช่วยเขาให้รอด
พระองค์ทรงไถ่เขาด้วยความรักและความสงสาร พระองค์ทรงยกเขาขึ้น และพาเขาไปตลอดเวลาที่ผ่านมาในอดีต
แต่พวกเขากลับดื้อดึงต่อพระองค์ และทำให้พระวิญญาณของพระองค์เสียพระทัย
ดังนั้น พระองค์จึงกลับกลายเป็นศัตรูของเขา ทรงสู้ต่อต้านเขา
แล้วพระองค์ทรงระลึกถึงวันก่อนเก่าตั้งแต่สมัยโมเสสและประชาชนของพระองค์
พระองค์ผู้ทรงนำเขาออกมาจากทะเล และทรงเลี้ยงดูพวกเขาดั่งเลี้ยงดูฝูงสัตว์อยู่ที่ไหน?
พระองค์ผู้ประทานพระวิญญาณให้อยู่ท่ามกลางเขา
ผู้ทรงให้ฤทธิ์เดชตระการแห่งพระหัตถ์ไปอยู่ที่แขนขวาของโมเสส ผู้ทรงแยกน้ำต่อหน้าพวกเขา
และกระทำให้พระนามของพระองค์เป็นพระนามนิรันดร์
ผู้ทรงนำพวกเขาผ่านเข้าไปในที่ลึก พระองค์ทรงอยู่ที่ไหน?
พวกเขาไม่ได้ล้มลง เหมือนอย่างม้าในทะเลทราย
พระวิญญาณของพระเจ้าทรงทำให้เขาพักผ่อนเหมือนกับฝูงสัตว์ที่เดินลงไปในหุบเขา
พระองค์ทรงนำคนของพระองค์ เพื่อให้พระนามของพระองค์ยิ่งใหญ่ตระการ?
ถอดความจากอิสยาห์ 63:1-6
“ใครนะที่มาจากเอโดม สวมเสื้อสีแดงเข้มจากโบสราห์ พระองค์นั้นช่างงามสง่าในเครื่องแต่งองค์ ดำเนินมาด้วยความยิ่งใหญ่แห่งพระกำลัง ? “คือเราเอง เราคือผู้ที่สามารถช่วยให้รอดพ้นได้ เรากล่าวด้วยความชอบธรรม”
เหตุใดเครื่องทรงของพระองค์จึงเป็นสีแดง และฉลองพระองค์เป็นเหมือนคนที่ไปย่ำบ่อองุ่นมา?
“ใช่.. เราไปย่ำบ่อองุ่นคนเดียว ไม่มีใครจากหมู่ประชาชนไปกับเรา เราย่ำมันด้วยความโกรธ เราเหยียบย่ำเค้นมันด้วยความพิโรธ เลือดของพวกเขากระเซ็นสาดมาบนเสื้อของเรา และทำให้เครื่องทรงทั้งหมดเป็นรอยด่าง”
เพราะวันแห่งการแก้แค้นนั้นอยู่ในใจของเรา และปีของการไถ่ของเรานั้นมาถึงแล้ว
เรามองดู แต่ไม่มีใครมาช่วย เราตกใจ ไม่น่าเชื่อ เพราะไม่มีใครอุ้มชูไว้ ไม่มีใครอาสา
ดังนั้นเราจึงต้องนำความรอดมาด้วยแขนของเราเอง ความโกรธของเราชูเราไว้ เราเหยียบย่ำเหล่าชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธ และเราได้เทเลือดของเขาลงบนแผ่นดิน!
อิสยาห์ 62:6-12
โอเยรูซาเล็ม เราได้จัดเหล่าคนเฝ้ายามไว้บนกำแพงของเจ้า
ทั้งวันและทั้งคืน พวกเขาจะไม่นิ่งอยู่
เจ้าผู้ทำให้พระเจ้าระลึกถึงไม่หยุด จะไม่ยอมหยุดพัก
และไม่ยอมให้พระเจ้าทรงพักจนกว่าพระองค์จะทรงสถาปนาเยรูซาเล็ม
และทำให้นครนี้เป็นที่สรรเสริญในแผ่นดินโลก
หน้าที่ในการอธิษฐานนั้นเป็นของพวกเรา พระเจ้าทรงจัดเราไว้เป็นคนยาม คนยามต้องรู้ว่า เขาจะเฝ้าระวังอะไร และจากนั้นเขาต้องทำอะไร พวกเรารู้แล้วยังว่า … ในฐานะเป็นคนยาม ต้องทำอะไรบ้าง
พระเจ้าทรงปฏิญาณด้วยพระหัตถ์ขวา ด้วยพระกรที่เข้มแข็ง
“เราจะไม่ให้ธัญพืชเป็นอาหารแก่ศัตรูของเจ้าอีกต่อไป
และคนต่างชาติจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นที่เป็นหยาดเหงื่อของเจ้าอีกต่อไป
คนที่ทำงานจะได้กิน และสรรเสริญพระเจ้า
คนที่รวมรวมจะได้ดื่มในสถานที่บริสุทธิ์ของเรา”
จงเดินออกมาจากประตู ออกมาจากประตูและเตรียมทางให้กับประชาชน
สร้างซิ สร้างหนทางและเก็บก้อนหินออกไป
ตั้งเสาสัญญาณให้คนได้เห็น
ดูเถิด พระเจ้าได้ประกาศไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก
กล่าวกับลูกสาวแห่งศิโยนว่า
“ ดูเถิด ความรอดของเจ้ามาแล้ว
ดูซิ รางวัลก็อยู่กับพระองค์ การตอบแทนนั้นอยู่หน้าพระพักตร์ของพระองค์
พวกเขาจะถูกเรียกว่า คนบริสุทธิ์ ผู้ที่พระเจ้าทรงไถ่
และเจ้าจะถูกเรียกว่า หามาได้ เมืองที่ไม่ถูกทอดทิ้ง