18 เมษายน 2013 โปรดส่งข้าไป

และข้าก็ได้ยินเสียงของพระเจ้าตรัสว่า

“เราจะส่งใครไป  และใครจะไปแทนเรา?”   

แล้วข้าตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่

โปรดส่งข้าพระองค์ไปเถิด พระเจ้าข้า”  

ถอดความจากอิสยาห์ 6:8
Daily2013_4_16_3

อิสยาห์พร้อมที่จะไปตามคำสั่งของพระเจ้า

แต่ที่สำคัญคือ พระเจ้าได้บอกเขาว่า คนที่เขาไปพูดด้วยนั้น จะไม่ฟังเขา

หรือพยายามฟังเท่าไร ก็จะไม่เข้าใจ

ดูแล้วดูอีก  ก็มองไม่เห็น

นานเท่าไรที่จะต้องกล่าวคำของพระเจ้าทั้ง ๆ ที่คนไม่เข้าใจ….

พระองค์ตรัสว่า “จนกว่าเมืองจะร้างเปล่า ไม่มีคนอาศัย และบ้านไม่มีคนอยู่ แผ่นดินกลายเป็นที่รกร้าง
และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่งทุกคนไปยังแดนไกล แผ่นดินถูกทิ้งร้างจนหมดสิ้น    

พระเจ้าทรงบอกอิสยาห์ว่า ยากที่จะมีคนเห็น ได้ยิน และเข้าใจสิ่งที่อิสยาห์เตือนสติ

จนกระทั่งพวกเขาต้องรับผลแห่งการกระทำของตนเอง 

เพื่อน ๆ ครับ พวกเราอย่าเป็นอย่างนั้นเลย  เมื่อพระเจ้าตรัสอะไรกับเราก็หูผึ่งฟัง  และเชื่อฟัง จะปลอดภัยที่สุด

อิสยาห์ 43-3

อิสยาห์ 43:14-21

พระเจ้าผู้ทรงไถ่เจ้า พระองค์ผู้ทรงบริสุทธิ์แห่งอิสราเอลตรัสว่า “เราได้ส่งเจ้าไปยังบาบิโลนเพื่อเห็นแก่เจ้าเอง และได้นำพวกเขามาเป็นผู้ลี้ภัย พวกนั้นก็คือชาวบาบิโลนเองที่เคยโห่ร้องยินดีอยู่ในกำปั่น”
เราคือพระเจ้า องค์บริสุทธิ์ของเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างอิสราเอล กษัตริย์ของเจ้า
ดังนั้น พระเจ้าตรัส พระเจ้าผู้ทรงสร้างทางในทะเล หนทางทะลุคลื่นทะเลที่พัดกล้า
พระเจ้าผู้ทรงนำรถรบและม้าศึก  กองทัพและนักรบ ต้องล้มลงนอนราบตายหมู่ และไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก  พวกเขาสูญสิ้นไป ดับไปง่าย ๆ เหมือนกับไฟจากเทียน

ภาพวาดโดย Frederick Arthur Bridgman (November 10, 1847 – January 13, 1928)
ภาพวาดโดย Frederick Arthur Bridgman (November 10, 1847 – January 13, 1928)

“ไม่ต้องจำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ไม่ต้องพิจาราณาสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อันยาวนาน…  ดูเถิด เราจะทำสิ่งใหม่  มันกำลังจะเกิดขึ้นมา เจ้ามองไม่เห็นเลยหรือ? เราจะสร้างทางในถิ่นกันดาร และ แม่น้ำในทะเลทราย
สัตว์ป่าจะยกย่องเรา  ทั้งหมาไนและนกกระจอกเทศ เพราะเราให้น้ำกับถิ่นกันดารแห้งผาก  ให้แม่น้ำในทะเลทราย เพื่อให้คนที่เราเลือกไว้ได้ดื่ม…  คนที่เราได้สร้างขึ้นมาเพื่อเราเอง เพื่อเขาจะประกาศสรรเสริญนามของเรา…

17 เมษายน 2013 ถ่านจากเสราฟิม

“ข้าต้องวิบัติแน่  ข้าพินาศแน่  เพราะข้าเป็นคนปากไม่สะอาด!”

อิสยาห์ร้อง

ถอดความจาก อิสยาห์ 6:5

Daily2013_4_16_2

 

วันที่อิสยาห์เห็นพระเจ้าประทับบนบัลลังก์ในพระวิหารนั้น

ที่ ๆ นั่นก็สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว… ควันเต็มวิหารนั้น

เขาจึงรู้สึกท่วมท้น ร้องออกมาว่า “ข้าต้องวิบัติแน่  ข้าพินาศแน่  เพราะข้าเป็นคนปากไม่สะอาด!”

ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาได้เห็นพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์

และพระเจ้าทรงกรุณาต่อเขามากที่เขาไม่ตายไปตรงนั้น

เพราะคนบาปกับพระเจ้าจะอยู่กันอย่างนั้นไม่ได้เลย….

แต่…เสราฟิม*   ตนหนึ่ง ได้บินมา และเอาถ่านแตะปากของเขา

“ดูซิ  สิ่งนี้ แตะต้องปากของเจ้า   กรรมชั่วของเจ้าพระเจ้ายกโทษให้ และเจ้าได้รับการลบบาปแล้ว”

 

“ขอพระเจ้าทรงช่วยเราที่จะรักษาใจและปากให้สะอาด  ไม่พูดในสิ่งที่สกปรก ชั่วร้าย  

เมตตาด้วยพระเจ้าข้า…”

 

*เสราฟิม… คือสิ่งที่มีชีวิตซึ่งมีปีก 6 ปีก มีเสียงเป็นคน มือและเท้าเหมือนคน ตามที่อิสยาห์เห็นในวิหารนั้น  พวกเขาเป็นผู้ที่อยู่ใกล้พระเจ้าและนมัสการพระองค์ไม่หยุดหย่อน   ดังนั้น หลายคนจึงคิดว่า เขาเป็นทูตสวรรค์อีกแบบหนึ่ง  พระคัมภีร์กล่าวถึงเขาในหนังสืออิสยาห์ 

ชื่อของเขาบ่งบอกถึงไฟ และรูปร่างยาว และเขาจึงมีไฟที่จะชำระอิสยาห์ให้สะอาด

อิสยาห์ 43-2

อิสยาห์ 43:8-13
พระเจ้ายืนยันพระองค์เอง ผู้ซึ่งเป็นมาตั้งแต่อดีต และจะทรงดำรงต่อไปเป็นนิตย์

จงนำคนที่ยังมีตา แต่ตาบอดออกมา นำคนที่มีหู แต่หูหนวกออกมาจากประชาชาติทั้งหลาย
นำคนทั้งหลายทุกชาติออกมาอยู่รวมกัน ให้พวกเขาประชุมพร้อมกัน ใครบ้างในพวกเขาที่สามารถบอกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาให้คนอื่นรับรู้ได้?
ให้พวกเขาเอาพยานมาพิสูจน์ว่า เขาถูกต้อง และให้พวกเขาได้ยินและกล่าวว่า มันเป็นความจริง
“เจ้าเป็นพยานของเรา” พระเจ้าตรัส

ภาพจาก http://shortonwords.blogspot.com/โดยคุณ Susan Keller
ภาพจาก http://shortonwords.blogspot.com/โดยคุณ Susan Keller

“เจ้าเป็นคนรับใช้ที่เราได้เลือกไว้ เพื่อว่าเจ้าจะรู้จักและวางใจในเรา และเข้าใจว่า เราเป็นซึ่งเราเป็น
ก่อนเราไม่มีพระเจ้าอื่น และก็จะไม่มีพระอื่นใดตามเรามา เรา เราคือพระเจ้า
นอกเหนือจากเราไม่มีพระเจ้าผู้ช่วยให้รอด
เราพูดไว้ และช่วยให้รอดพ้น และเล่าให้เจ้าฟัง
ในขณะที่ไม่มีพระแปลกๆ ท่ามกลางเจ้า และเจ้าเองก็เป็นพยานฝ่ายเรา” พระเจ้าตรัสดังนี้
“และเราเองคือพระเจ้าแต่ไหนแต่ไรมา
และต่อไปเราก็ยังเป็นพระองค์นั้นอยู่
ไม่มีใครที่จะเอาใครไปจากมือของเราได้
เมื่อเราทำสิ่งใด ใครจะมาทำลายสิ่งนั้นได้?”

16 เมษายน 2013 อิสยาห์เห็นพระเจ้า

บริสุทธิ์  บริสุทธิ์   บริสุทธิ์  คือพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

ทั้งแผ่นดินเต็มด้วยพระสิริของพระองค์ 

ถอดความจาก อิสยาห์ 6:3

Daily2013_4_16_1
อิสยาห์ เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกให้มากล่าวคำของพระองค์ในหลายรัชกาล

ช่วงเวลานั้น ราชาอุสซิยาห์สิ้นพระชนม์

เขาได้เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า

น่าแปลกที่สุด สิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ที่รู้จักพระเจ้ามา ก็ปรากฏให้เขาเห็น

เขาเห็นพระเจ้าประทับบนพระที่นั่ง สูง และเทิดทูนและชายฉลองพระองค์ก็เต็มพระวิหาร

เสราฟิม ยืนอยู่ และร้องสรรเสริญว่า พระเจ้าทรงบริสุทธิ์

เขาคนนี้เป็นผู้เขียนหนังสืออิสยาห์ที่เรากำลังอ่านประจำวันอยู่

เพื่อน ๆ พอจะนึกออกไหมว่า

เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  เขารู้สึกอย่างไรกับตัวเอง?

อิสยาห์ 43-1

พระเจ้าองค์เดียวของอิสราเอล
อิสยาห์ 43:1-7
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างเจ้ามา โอยาโคบ พระองค์ผู้ทรงปั้นเจ้า พระองค์ตรัสว่า “อย่ากลัวไป เพราะว่า เราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา

เมื่อเจ้าต้องลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าข้ามแม่น้ำ มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ เปลวไฟจะไม่ลามเผาเจ้า
back

เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล เป็นพระผู้ช่วยเจ้าให้รอด เราให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า คูช และเศบา เพื่อแลกเปลี่ยนเอาเจ้ามา
เพราะว่าเจ้ามีค่าในสายตาของเรา และมีเกียรติด้วย และเรารักเจ้า เราได้ให้คนอื่นไปเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า
ดูซิ พระเจ้าทรงรักอิสราเอลมาก จนพระองค์ได้ยอมแลกคนอื่น ๆ เพื่อได้เข้ากลับคืนมา! อิสราเอลรู้ไหมนี่?

ดังนั้น อย่ากลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากตะวันออก และจากตะวันตก เราจะรวบรวมพวกเจ้ามา เราจะพูดกับทางเหนือว่า ปล่อยคนของเรา พูดกับทางใต้ว่า อย่ายึดเหนี่ยวพวกเขาไว้ จงนำลูกชายของเรากลับมาจากที่ไกล นำลูกสาวของเรามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก
ทุกคนที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา คนที่เราได้สร้างขึ้นเพื่อศักดิ์ศรีของเรา คนที่เราได้ปั้นและสร้างขึ้นมา

15 เมษายน 2013

แต่คนที่รอคอยพระเจ้าจะรับกำลังใหม่

พวกเขาจะก้าวขึ้นมาพร้อมกับปีกดั่งอินทรี

พวกเขาจะวิ่ง และไม่อ่อนแรง

พวกเขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

อิสยาห์ 40:31

อิสยาห์ 42-5

อิสราเอลไม่ได้ยินและไม่เห็น!

อิสยาห์ 42:18-25

จงฟัง เจ้าคนหูหนวก  จงดู เจ้าคนตาบอด เพื่อเจ้าจะได้เห็น!
ใครละที่ตาบอด …ก็เจ้าคนรับใช้ของเรานะซิ?
ใครล่ะที่หูหนวกเหมือนกับผู้สื่อสารที่เราส่งไป?
ใครที่ตาบอดหมือนกับคนที่เราอุตส่าห์ไว้ใจส่งไป?
ใครที่มองไม่เห็นอะไรเหมือนอย่างคนของเรา?

เขาเห็นอะไรตั้งหลายอย่าง แต่ไม่เคยสังเกตอะไร
หูของเขาก็เหมือนฟังอยู่  แต่เขากลับไม่ได้ยิน
พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะให้ความสำคัญแก่พระธรรมของพระองค์  และทำให้มันยิ่งใหญ่ มีเกียรติ เพราะเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์
แต่นี่กลับกลายเป็นชนชาติที่ถูกปล้น ถูกขโมยไป  พวกเขาต่างติดกับอยู่ในรูและซ่อนอยู่ในที่จองจำ  พวกเขากลายเป็นเหยื่อซึ่งไม่มีใครช่วยได้  เป็นของริบมาที่ไม่มีใครกล่าวว่า “เอากลับคืน!”

เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์
เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์

จะมีใครในพวกเจ้าที่ฟังเรื่องนี้  และจะตั้งใจฟังเรื่องราวของอนาคตที่จะมาถึง?
ใครยกยาโคบให้แก่คนที่มาปล้น ใครยกอิสราเอลให้กับโจร?
ไม่ใช่องค์พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือที่ทรงทำเช่นนั้น?  เราทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์  เราไม่ยอมเดินในหนทางของพระองค์  และไม่ยอมเชื่อฟังบัญญัติของพระองค์ด้วย
ดังนั้น พระองค์จึงเทความโกรธกริ้วของพระองค์มาบนเขาและทรงเทอานุภาพในการสงคราม  มันทำให้เขามีไฟติดลุกรอบด้าน แต่เขาก็ไม่เข้าใจ มันใหม้ลามเลียเขา  แต่เขาก็ยังไม่เอาใจใส่เลย

 

ทั้ง ๆ ที่เป็นคนของพระเจ้า  แต่พวกเขาตั้งใจจะมองไม่เห็น จะไม่ฟังเสียงของพระเจ้าใช่ไหม?    มีคนในโลกนี้ ทั้งที่เป็นคนของพระเจ้าแต่พวกเขาก็ยังไม่ใส่ใจคำของพระองค์  นี่มันน่ากลัวมากเลย 

พระเจ้าทรงเตือนแล้วเตือนเล่า ที่พวกเขาควรจะทำสิ่งที่ถูกต้อง

พระเจ้าทรงเตือนดี ๆ  และทรงเตือนด้วยไม้เรียวที่รุนแรง  ถึงอย่างนั้นพวกเขายังไม่ใส่ใจ   ลูกหลานของพวกเขาต้องรับสิ่งที่น่ากลัวเพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้ามาตั้งแต่ต้น ….

ไม่ว่าพระเจ้าจะทรงเตือนเราอย่างไร  อย่าลืม…. เอาใจใส่คำเตือนของพระองค์   

ลองดูเหตุการณ์ที่น่ากลัวอันนี้ ….. แม้ถึงกระนั้นจนพวกเขาได้ประเทศอิสราเอลมา  คนอิสราเอลส่วนใหญ่ก็ยังไม่ฟังเสียงของพระเจ้าเลย

อิสยาห์ 42-4

อิสยาห์ 42: 14-17

นานมาแล้วที่เรานิ่งอยู่ เรานิ่งเงียบและสะกดใจเอาไว้

แต่ตอนนี้เราจะร้องออกมาเหมือนกับหญิงที่กำลังคลอดบุตร

เราจะหายใจถี่ ๆ เราจะหอบ

เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาทั้งหลาย และจะทำให้พืชที่ขึ้นนั้นเหี่ยวเฉาไป
เราจะทำให้แม่น้ำกลายเป็นเกาะ และทำให้สระทั้งหลายแห้งไป

เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก  พาไปตามทางที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
เราจะนำพวกเขา และจะทำให้ความมืดต่อหน้าเขากลายเป็นสว่าง

darktolight
ทางที่ขรุขระจะกลายเป็นทางเรียบ
นี่เป็นสิ่งที่เราทำ และเราไม่ทอดทิ้งพวกเขา

 คนที่วางใจในรูปสลัก  คนที่กล่าวกับรูปโลหะว่า “ท่านเป็นพระของเรา”  จะต้องหันกลับและละอายเป็นที่สุด

พระเจ้าตรัสเองว่าพระองค์ทรงนิ่งเงียบอยู่  แต่วันหนึ่งพระองค์จะทรงร้องเสียงดัง คนทั้งโลกจะได้ยินว่า พระองค์ตรัสอะไรบ้าง
ไม่มีอะไรในโลกจะขวางพระองค์ได้   แต่พระองค์จะทรงนำคนของพระองค์ไป  

และเวลานั้นเราจะเห็นความแตกต่างของคนที่วางใจพระเจ้า กับคนที่พึ่งพารูปปั้น

อิสยาห์ 42-3

อิสยาห์ 42:10-13

ร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า

จงร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า
สรรเสริญแด่พระองค์จากที่สุดปลายแผ่นดินโลก
เจ้าคนที่ลงไปยังทะเล และบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น แผ่นดินชายทะเล และคนที่อยู่ในนั้น
จงให้ทะเลทรายและเมืองต่าง ๆ ในนั้นส่งเสียงขึ้นมา ให้หมู่บ้านที่ชายเคดาร์อาศัยอยู่
จงให้คนที่อยู่ในเส-ลาร้องเพลงด้วยความยินดี ให้เขาตะโกนก้องมาจากยอดเขา
ให้เขาถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า และประกาศสรรเสริญพระองค์ตามแผ่นดินชายทะเล
พระเจ้าเสด็จออกมาดั่งชายที่มีกำลัง

is42

พระองค์ทรงกระตุ้นความกระตือรือร้นขึ้นมาดั่งนักรบ
พระองค์ทรงร้อง ทรงตะโกนเสียงดัง
พระองค์ทรงทำให้เห็นว่า พระองค์ทรงฤทธิ์ต่อหน้าศัตรูของพระองค์

อิสยาห์ 42-2

อิสยาห์ 42:5-9

องค์พระเจ้าผู้ทรงสร้างสวรรค์ และขึงมันออกมา ผู้ที่ขยายโลกออกไป และสิ่งที่ออกมาจากโลกนั้นด้วย

พระเจ้าผู้ทรงประทานลมหายใจแก่เหล่ามนุษย์ที่อยู่ในโลกนั้น และประทานจิตวิญญาณแก่ผู้ที่เดินในโลก

พระเจ้าองค์นี้ตรัสว่า

“เราเป็นพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาในความชอบธรรม
เราจะจูงมือเจ้า และรักษาเจ้าไว้

is42blind ภาพจาก http://christianradiokids.blogspot.com

เราจะให้เจ้าเป็นพันธสัญญาสำหรับประชาชนทั้งหลาย
เจ้าจะเป็นแสงสว่างสำหรับประชาชาติ  เพื่อเปิดตาที่บอด  เพื่อนำนักโทษออกมาจากคุกมืด   พาคนที่นั่งอยู่ในความมืดของที่คุมขัง
เราคือพระเจ้า นี่เป็นนามของเรา
เราจะไม่มอบศักดิ์ศรีของเราให้กับใคร ไม่ให้คำสรรเสริญแก่รูปที่ถูกสลักขึ้นมาก

ดูเถิด สิ่งเก่า ๆ ได้ผ่านไปแล้ว  และเรากำลังประกาศสิ่งใหม่  เราได้บอกเรื่องเหล่านี้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”

อิสยาห์ 42-1

อิสยาห์ 42:1-4

ผู้รับใช้ที่พระเจ้าทรงเลือก

พระคำตอนนี้ ทำให้เราสงสัยไหมว่า ผู้รับใช้ของพระองค์ผู้นี้ คือใครกัน?….

ดูเถิด ผู้รับใช้ของเรา ผู้ที่เรายกขึ้นให้สูง  เขาเป็นผู้ที่เราเลือก จิตใจของเราก็ยินดีเพราะเขา  เราได้ให้วิญญาณของเราเหนือเขา  และเขาจะนำพาให้เกิดความยุติธรรมท่ามกลางประชาชาติ

พระเจ้าทรงเรียกให้ทุกคนได้สนใจบุคคลผู้หนึ่งที่พระเจ้าทรงยกให้สูง  แต่… ทำไมพระเจ้าจึงทรงบอกทั้ง ๆ ที่คนรุ่นอิสยาห์ยังไม่เห็นเลยว่า เขาคือใคร  

อีก กว่าหกร้อยกว่าปีต่อมา พวกเขาจึงรู้ว่า …. บุคคลผู้นั้นคือ พระเยซูคริสต์   พระเยซูเองเปิดอิสยาห์บทนี้   และได้ตรัสถึงพระองค์เองให้ทุกคนได้รู้  แปลกไหม?

IsaiahJesus

เขาจะไม่ร้องเสียงดัง จะไม่เค้นเสียงขึ้นมา หรือทำให้คนตามถนนได้ยิน

พระเยซูจะไม่ทรงส่งเสียงดังเพื่อทำให้คนรู้จักพระองค์  แต่ทรงดำรงพระองค์เองอย่างถ่อมตน อย่างเหลือเชื่อ 

เขาจะไม่หักไม้อ้อที่ช้ำชอก   และเขาจะไม่ดับใส้ตะเกียงที่ริบหรี่

เขาจะนำความยุติธรรมออกไปด้วยความซื่อตรง
เขาจะไม่เหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้ จนกว่าเขาจะได้สถาปนาความเที่ยงตรงบนแผ่นดินโลก  และบรรดาแผ่นดินชายทะเลก็รอคอยบัญญัติของเขา

พระองค์จะทรงนำความเที่ยงตรงออกไปทั่วโลก ไม่เฉพาะกับคนอิสราเอลเท่านั้น

อิสยาห์ 41-6

อิสยาห์ 41: 25-29

เราได้เร้าให้ผู้หนึ่งมาจากทางเหนือ และเขาก็มาแล้วด้วย จากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาจะเรียกชื่อของเรา เขาจะเหยียบย่ำผู้ปกครองเหมือนกับเหยียบลงบนปูนสอ เหมือนกับที่ช่างปั้นนวดดิน


ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ตรงนี้ พระเจ้าได้ทรงบอกให้คนอิสราเอลรู้ล่วงหน้าว่า กษัตริย์ไซรัสจะมาจากทางเหนืออย่างแน่นอน พิสูจน์ ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ที่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงบอกชัดว่า ทรงเป็นผู้เร้าให้ไซรัสเดินทางมาโจมตีอิสราเอล! และเมื่อตอนที่ไซรัสมา พระองค์ก็อ้างพระนามของพระเจ้าแห่งอิสราเอลเสียด้วยว่า ทรงใช้พระองค์มา ทั้ง ๆ ที่พระองค์ไม่ได้เชื่อวางใจในพระเจ้าเที่ยงแท้องค์นี้
นโยบายในการทำการศึกของไซรัส เป็นส่วนที่พระเจ้าทรงใช้เปิดเผยพระองค์เองให้คนโลกโบราณได้รู้จักพระองค์

มีใครที่ได้แจ้งเรื่องราว(ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์)มาตั้งแต่เวลาเบื้องต้น เพื่อจะให้เรารู้ และแจ้งเรื่องมาตั้งแต่ก่อนมันเกิดขึ้น เพื่อเราจะได้พูดว่า “เออ เขาพูดถูกต้องนะ” ? ไม่มีใครเลยที่เคยบอกอะไรมาล่วงหน้า ไม่มีใครเคยประกาศ ไม่มีใครได้ยินคำของเจ้า

แต่เราเอง เป็นผู้แรกที่กล่าวกับศิโยนว่า “ดูเถิด มันเป็นอย่างนี้นะ” และเราเป็นผู้แจ้งข่าวดีแก่เยรูซาเล็ม
แต่เมื่อเรามองมา ก็ไม่มีใครเลย ไม่มีผู้ให้คำปรึกษาท่ามกลางคนเหล่านี้ คนที่จะให้คำตอบได้เมื่อเราถาม
ดูเถิด ทุกอย่างเป็นแต่เรื่องหลอก งานของพวกเขาเป็นสิ่งไร้ความหมาย รูปปั้นโลหะของพวกเขาก็เป็นเพียงลมพัดไปเปล่า ๆ

เป็นอันว่า ชัดเจน… ไม่มีใครบอกอนาคตอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาได้นอกจากพระเจ้าเที่ยงแท้

อิสยาห์ 41-5

อิสยาห์ 41:21-24
ข้อความตอนนี้ เป็นตอนที่พระเจ้าทรงท้าทายประชาชาติทั้งหลายในโลก พระองค์ทรงเรียกให้เขาเข้ามาใกล้เพื่อพิพากษา ว่าประชาชาติเหล่านั้นได้ให้พระที่เป็นรูปปั้นช่วยพวกเขา พระเจ้าจะทรงให้เห็นว่า พวกเขากำลังเชื่ออะไรอยู่ โดยผ่านคำกล่าวของอิสยาห์ พระองค์ทรงให้เขาเห็นว่า พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าเทวรูปของคานาอัน และอัสซีเรีย (ทั้ง ๆ ที่พวกเขากำลังจะเข้ามาโจมตีคนของพระองค์)
พระเจ้าตรัสว่า จงเตรียมคดีของเจ้าให้พร้อม …
องค์ราชาแห่งยาโคบตรัสว่า จงนำข้อพิสูจน์ของเจ้ามา
ให้พวกเขานำมา และบอกเราว่า จะเกิดอะไรขึ้น
จงบอกสิ่งที่เกิดขึ้นมาในอดีต มันคืออะไร เพื่อเราจะได้พิจารณา เพื่อเราจะได้ทราบของผลที่ได้จากเหตุการณ์เหล่านั้น
หรือเจ้าจะประกาศถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
meso_idol
พระเจ้าทรงถามเขาว่า เทวรูปเหล่านั้น สามารถบอกอนาคตได้หรือ ทั้ง ๆ ที่จะเดินไปไหนมาไหนยังไม่ได้… ต้องให้คนช่วยพาไปตามที่ต่าง ๆ ( พวกเขาเชื่อว่า เทวรูปของเขาสามารถบอกเหตุการณ์ในอนาคตได้)
บอกเราว่าอะไรจะเกิดตามมา เพื่อว่าเราจะได้รู้ว่าพวกเจ้าเป็นเหล่าเทพเจ้า
จงทำดี หรือทำร้ายเพื่อว่าเราจะได้หวาดหวั่น ตกใจ
พระเจ้าตรัสให้เทวรูปเหล่านั้น ทำอะไรขึ้นมาสักอย่างเพื่อให้คนได้รู้พลังของมัน

ดูเถิด เจ้าไม่เป็นอะไรเลย งานของเจ้าก็น้อยยิ่งนั้น ไร้ค่า คนที่เลือกให้เจ้าเป็นพระของเขากลายเป็นสิ่งที่น่าชัง

อิสยาห์ 41-4

อิสยาห์ 41:17-20

คนที่ยากจนไร้บ้าน คนที่ขัดสนแสวงหาน้ำ ลิ้นของพวกเขาแห้งผากเพราะความกระหายอย่างยิ่ง
แต่เรา ผู้เป็นพระเจ้า จะทรงตอบเขา  เราผู้เป็นพระเจ้าแห่งอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา

shkia_big

 

ภาพข้างบน จิตรกร แมนเดลคิดถึงพระคำของพระเจ้าตอนนี้แหละ

เราจะทำให้มีแม่น้ำบนเนินเขาที่แห้งแล้ง  ให้มีน้ำพุท่ามกลางหุบเขา  เราจะทำให้ถิ่นกันดารกลายเป็นบ่อน้ำ และที่แห้งแล้งกลายเป็นน้ำพุ

เราจะปลูกต้นสีดาร์ ต้นกระถินเทศ  ต้นน้ำมันเขียว และต้นมะกอกเทศ

เราจะให้มีต้นสนไซเปรสขึ้นมาในทะเลทราย และยังมีต้นโอ๊ค และต้นสนอีกมากมาย

ทุกคนจะได้เห็น และรู้ และจะค่อย ๆ พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นและเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่า

พระหัตถ์ของพระเจ้าได้ทำสิ่งนี้  องค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลได้สร้างมันขึ้นมา

ความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อคนยากจนนั้น ปรากฏชัดในองค์พระเยซูคริสต์   ทุกคนเข้ามาหาพระเจ้าได้  ไม่ว่าเขาจะจนหรือรวย  เงื่อนไขไม่ได้อยู่ที่ฐานะ แต่อยู่ที่ว่า  ใครก็ตามที่มีความเชื่อในพระองค์  ก็จะเป็นที่พอพระทัยของพระองค์ 

และเมื่อมนุษย์ไม่อาจช่วยซึ่งกันและกัน… ยามนั้น เรายังมีพระเจ้า

และหากทุก ๆ คนมองให้ดี ย้อนไปในประวัติศาสตร์โลก  ก็จะเห็นว่า พระเจ้าทรงควบคุมทุกอย่าง และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พระองค์ก็ทรงบอกล่วงหน้าหลายอย่างมากมาย    ถ้าทุกคนพิจารณาให้ดี …จะเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าที่คอยช่วยไว้ 

หากพระองค์ไม่ได้ทรงทำให้  ป่านนี้ โลกไม่เหลือแล้ว… เพราะมนุษย์นี่แหละที่ประหัตประหารกันอย่างไร้ความปราณี  …  แต่จะมีวันหนึ่งที่พระเจ้าทรงจบมันด้วยพระองค์เอง

อิสยาห์ 41-3

อิสยาห์ 41:11-16

ดูเถิด คนที่พยายามต่อต้านเจ้า จะต้องอับอาย และสับสน คนที่ต่อสู้กับเจ้าจะกลายเป็นศูนย์ และจะพินาศไป

เจ้าจะตามหาคนที่สู้กับเจ้า แต่เจ้าจะหาเขาไม่พบ คนที่พยายามทำสงครามกับเจ้า จะกลายเป็นไม่เหลืออะไร

เพราะเรา พระเจ้าของเจ้า จะจับมือขวาของเจ้าว่า เรานี่แหละที่พูดกับเจ้าว่า “อย่ากลัวเลย เราจะเป็นผู้ที่ช่วยเจ้า”

เลื่อนนวดข้าว
เลื่อนนวดข้าว

อย่ากลัวไป เจ้าหนอนยาโคบ  คนแห่งอิสราเอล! เราคือผู้ที่ช่วยเจ้า  พระเจ้าตรัสดังนั้น … ผู้ไถ่ของเจ้าคือ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเป็นเลื่อนนวดข้าว ทั้งใหม่และคมกริบมีฟันเลื่อย

เจ้าจะบดขยี้ทั้งภูเขา และทำให้มันแหลกละเอียด และเจ้าจะทำให้เนินเขาเป็นเหมือนแกลบ

เจ้าจะซัดมัน และลมจะพัดมันไป  พายุจะทำให้มันกระจัดกระจาย กระเจิดกระเจิงไป และเจ้าจะยินดีในพระเจ้า

เจ้าจะถวายเกียรติแด่องค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

เมื่อพระเจ้าตรัสว่า หนอนยาโคบ  พระองค์ทรงบอกให้พวกเขารู้ว่า เขาอ่อนแอ และไม่ได้มีความสำคัญ  

พระผู้ไถ่องค์นี้ คือพระองค์ผู้ทรงมีความตั้งพระทัยที่จะทำให้อิสราเอลได้หลุดจากการเป็นเชลย  ให้เขากลับใจใหม่ และไม่พึ่งพารูปเคารพอีกต่อไป

ลมและพายุในที่นี มีความหมายถึงพลังอำนาจที่ทำลาย ซึ่งเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลก  พระเจ้าทรงจัดให้มันเกิดขึ้นเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ  

 

อิสยาห์ 41-2

อิสยาห์ 41:5-10

แผ่นดินชายทะเลเห็นและกลัว  ที่สุดปลายแผ่นดินโลกก็ตัวสั่น  พวกเขามาใกล้ และมาจริง ๆ  ทุกคนต่างช่วยเพื่อนบ้านของตน และกล่าวกับพี่น้องของตนว่า “จงเข้มแข็ง!”

cyrus-the-great-2 (2)

ช่างฝีมือให้กำลังใจกับช่างทอง ผู้ที่ทำให้งานเรียบเนียนด้วยค้อนก็ให้กำลังใจกับคนที่ใช้ทั่ง  พูดถึงการที่บัดกรีออกมาว่า “ดีนะ”   แล้วเขาก็เอาตะปูไปตรึงไว้

เมื่อมีศัตรูเข้ามาโจมตี  ดูซิ  แทนที่พวกเขาจะมาหาพระเจ้า  กลับมาปลอบใจกันเอง และพากันสร้างรูปเคารพขึ้นอีก  

แต่เจ้า อิสราเอล  เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา  ยาโคบที่เราได้เลือก  ลูกหลานของอับราฮัมเพื่อนของเรา
เจ้า ผู้ที่เราได้นำมาจากที่สุดปลายแผ่นดินโลก  และเรียกมาจากดินแดนไกลโพ้น

พวกเขาเป็นคนรับใช้ของพระเจ้า… เมื่อเทียบกับชนชาติอื่นที่ไม่ใช่  พวกเขามีสิทธิพิเศษจริง ๆ   และพระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมผู้เป็นบิดาของชาวอิสราเอลว่า “เพื่อน” ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์นั้นแนบแน่นกว่าการเป็นคนรับใช้เสียอีก

ในยุคสุดท้าย พระเจ้าจะทรงเรียกคนของพระองค์กลับมาจากสถานที่ซึ่งพวกเขากระจัดกระจายกันไป…  

และเราพูดกับเจ้าว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราได้เลือกเจ้าและมิได้เขวี้ยงเจ้าทิ้งไป  อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า  อย่าท้อแท้ เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า  เราจะให้กำลังเจ้า ใช่ เราจะช่วยเจ้า  เราจะยกเจ้าขึ้นด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา”

พระเจ้าทรงให้กำลังใจพวกเขาขนาดนี้  พวกเขารู้ไหมนะว่า คนอื่น ๆ ยังไม่ได้อย่างนี้เลย 

อิสยาห์ 41-1

อย่ากลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า

อิสยาห์ 41:1-4

ในความเงียบ  จงฟังเรา  แผ่นดินชายทะเลเอ๋ย
จงให้ผู้คนได้รื้อฟื้นกำลังขึ้นมาใหม่
ให้พวกเขาเข้ามา และได้พูด
ให้พวกเราเข้ามาเพื่อรับการพิพากษา

Is41Cyrus

ใครล่ะ ที่ได้เร้าให้คนหนึ่งจากตะวันออกเข้ามาพบกับชัยชนะทุกฝีก้าว?
ผู้นั้นได้มอบประชาชาติทั้งหลายให้เขา เพื่อว่าเขาจะได้เหยียบย่ำเหล่ากษัตริย์อยู่ใต้เท้า เขาใช้ดาบทำให้เหล่ากษัตริย์เหล่านั้นเป็นเหมือนฝุ่น
เขาใช้ธนูทำให้พวกนั้นเป็นเหมือนตอข้าวที่ถูกพัดไป
เขาตามไล่ล่าและผ่านพวกเขาไปอย่างปลอดภัย  ตามทางที่เขาไม่เคยเหยียบไปเลย
ใครล่ะ เป็นผู้ที่ทำสิ่งนี้ให้เห็น  เรียกบรรดาชนทุกรุ่นมาจากตั้งแต่เวลาปฐมกาล?

เรา องค์พระผู้เป็นเจ้า  ผู้เป็นต้น และเป็นสุดท้าย เราคือเขาผู้นั้น

อ่านตอนนี้แล้วต้องเข้าใจว่า ใครล่ะ นั่นคือ องค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนคนที่มาจากตะวันออกนั้นคือ  ราชาไซรัสมหาราชแห่งเปอร์เซีย   ไซรัสได้รบชนะบาบิโลน (ถ้าเราดูการ์ตูนของวันที่ 4 เมษายน 13 ช่องที่ 7 ก็จะเข้าใจมากขึ้น)

พระเจ้าทรงมอบอำนาจให้ไซรัสมหาราชได้ชนะไปรอบทิศ …. เราจะเห็นว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้กำหนดสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น ไม่ใช่อะไรเกิดตามความบังเอิญ  …

พระเจ้าทรงเป็นต้น และเป็นสุดท้าย มีความหมายชัดเจนว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และทรงเป็นผู้ปกครองทุก ๆ ส่วนของประวัติศาสตร์โลกนี้

อิสยาห์ 40-5

อิสยาห์ 40:25-31

เจ้าจะเปรียบเรากับใคร เราเหมือนใครหรือ? องค์ผู้บริสุทธิ์ตรัส  จงเงยหน้ามองดูที่สูง  ใครล่ะ  ใครสร้างสิ่งเหล่านี้มา?
พระองค์ผู้ทรงนำดวงดาวออกมาตามจำนวน และเรียกชื่อของมัน  ด้วยความยิ่งใหญ่แห่งอำนาจของพระองค์  และเพราะพระองค์ทรงพลังเข้มแข็ง จึงไม่มีดาวดวงใดขาดไปเลย

“โอ ยาโคบ เหตุใดเจ้าจึงกล่าวว่า…  โอ อิสราเอล เหตุใดเจ้าจึงพูดว่า… ..หนทางของข้าพเจ้าซ่อนไว้จากพระเจ้า  และพระเจ้าไม่ทรงสนพระทัยในสิทธิของข้าพเจ้า..? “

เจ้าไม่เคยรู้เลยหรือ?  เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ?   ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้านิรันดร์  ทรงเป็นพระผู้สร้างจนที่สุดปลายแผ่นดินโลก  พระองค์ไม่ทรงอ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้า   ความเข้าใจของพระองค์นั้นเกินที่จะหยั่งรู้ได้

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Unported License.
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Unported License.

PHOTO BY SCOTT BOURNE

พระองค์ประทานกำลังให้กับคนที่อ่อนเพลีย  และคนที่ไม่มีพลัง พระองค์ก็ทรงเพิ่มกำลังให้
แม้ว่าเด็กหนุ่มสาวจะอ่อนเพลียและเหน็ดเหนื่อย  แม้เด็กหนุ่มจะล้มลงด้วยความล้า  แต่คนที่รอคอยพระเจ้าจะรับกำลังใหม่  พวกเขาจะก้าวขึ้นมาพร้อมกับปีกดั่งอินทรี  พวกเขาจะวิ่ง และไม่อ่อนแรง  พวกเขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

อิสยาห์ 40-4

อิสยาห์ 40:18-24

พระเจ้าเท่านั้น ทรงเป็นพระเจ้า

ดูเหมือนว่า คราวนี้อิสยาห์กำลังเยาะเย้ยคนที่สร้างรูปเคารพขึ้น  อ่านดูว่า ท่านกล่าวไว้อย่างไร

เจ้าจะเปรียบองค์พระผู้เป็นเจ้ากับอะไร  จะมีสิ่งใดมาเปรียบเทียบกับพระองค์ได้ ?

รูปเคารพหรือ ช่างปั้นก็หล่อมันขึ้นมา  และช่างทองก็เคลือบมันด้วยทอง  และยังหล่อโซ่เงินให้อีก
และสำหรับคนที่ยากจน ก็เลือกเอาไม้ที่ไม่ผุมาทำเป็นรูปเคารพ เขาหาช่างฝีมือให้ตกแต่งไม้เป็นรูปเคารพที่จะไม่เคลื่อนไหวไปไหน

เจ้าไม่รู้หรือ? เจ้าไม่ได้ยินหรือ? ไม่ได้มีการบอกมาตั้งแต่ต้นหรอกหรือ? เจ้าไม่เข้าใจมาตั้งแต่การเริ่มวางฐานแผ่นดินโลกหรือ?

พระองค์ผู้ประท้บเหนือวงอาณาเขตของโลก  (น่าสนใจจริง เอกภาพอันกว้างใหญ่ ทำให้เรารู้ว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก)
และเหล่าคนที่อยู่ในโลกก็เป็นเหมือนตั๊กแตน
พระองค์ทรงขึงฟ้าราวกับขึงม่าน
และกางมันออกเหมือนกับกระโจมที่อาศัย

meathook galaxy  ภาพถ่ายโดยWide Field Imager on the MPG/ESO 2.2-metre telescope at La Silla, Chile ใช้ภาพผ่าน creative commons
meathook galaxy ภาพถ่ายโดยWide Field Imager on the MPG/ESO 2.2-metre telescope at La Silla, Chile ใช้ภาพผ่าน creative commons

พระองค์ทรงทำให้เจ้าชายทั้งหลายกลายเป็นความว่าง
และทำให้ผู้ปกครองของแผ่นดินกลายเป็นความว่างเปล่า

พวกเขาถูกปลูกขึ้นไม่กี่คน  หว่านไม่กี่คน   รากก็ลงไปในดิน ยังไม่ทันไร เมื่อพระเจ้าทรงเป่าพวกเขา เขาก็เหี่ยวแห้งไป  พายุพัดเขาออกไปเหมือนตอข้าว

เพื่อน ๆ ครับ เมื่อเราสามารถมองลึกเข้าไปในจักรวาล  เห็นกาแล็กซี่อื่น ๆ  มันพอจะทำให้เราเห็นไหมว่า เราเหมือนความว่างเปล่าขนาดไหน