2 พงศาวดาร 29:31-36
เมื่อเขาได้กราบนมัสการพระเจ้าพร้อมกับบทเพลงอันอลังการ…. พระราชาตรัสว่า
“ตอนนี้ พวกท่านก็ได้ถวายตัวแด่พระเจ้าแล้ว ขอให้ท่านเข้ามาใกล้ ๆ และนำเครื่องบูชา และเครื่องถวายโมทนาพระคุณพระเจ้ามายังพระวิหารของพระเจ้า”
ดังนั้น ทุกคนจึงทำตามคำของพระราชา
พวกเขาได้นำสัตว์มาถวายบูชา
นำเครื่องบูชาที่จะขอบคุณพระเจ้ามาด้วย
มากมายจริง ๆ
มีวัวผู้ 70 ตัว
แกะผู้ 100 ตัว
ลูกแกะ 200 ตัว
และยังมีเครื่องบูชาเพิ่มเติมเป็นวัวผู้อีก 600 ตัว !
และแกะอีก 3000 ตัว!
มันเป็นการถวายเครื่องบูชาที่โกลาหลเป็นอย่างมาก เพราะสัตว์มีมาก ในขณะที่ปุโรหิตมีไม่พอ พวกเขาไม่สามาถฆ่า และถลกหนังสัตว์เหล่านี้ได้ทัน
“ไป ท่านไปเรียกคนเลวีเข้ามาช่วย เดี๋ยวงานจะไม่สำเร็จ” หัวหน้าปุโรหิตท่านหนึ่งสั่ง
ดังนั้น จึงมีคนเลวีเข้ามาช่วยอย่างขมีขมัน ปรากฏว่า คนเลวีนั้น มีหัวใจที่อุทิศถวาย และชำระตัวอย่างจริงจังมากกว่าเหล่าปุโรหิตเสียอีก นี่แสดงว่า ผู้นำในพระวิหารยังสู้ผู้ตามไม่ได้เลย
นอกจากจะมีเครื่องเผาบูชาที่มากมายแล้ว
ยังมีเครื่องศานติบูชา เป็นไขมันอีกมามาย ที่ต้องเผา รวมทั้งมีเครื่องดื่มบูชาอีกที่ถวายคู่ไปกับเครื่องเผาบูชา
เวลาคนสมัยก่อนจะกลับมาคืนดีกับพระเจ้านั้น
มันยากเย็น
และเต็มไปด้วยกองเลือดของสัตว์
เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของสัตว์เหล่านั้นที่มาตายเป็นเครื่องบูชาแทนความบาปของคน….
บรรยากาศมันดูน่ากลัวยิ่งนัก
อย่างไรก็ดี การรับใช้ในพระวิหารของพระเจ้าได้รับการดูแล จัดระบบระเบียบขึ้นมาใหม่อย่างเรียบร้อง และราชาเฮเซคียาห์รวมทั้งประชาชนต่างชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าได้จัดเตรียมทุกอย่างให้เพียงพอ
ถ้าเป็นพวกเขาทำกันเอง โดยไม่ได้การช่วยเหลือจากพระเจ้า จะทำไม่สำเร็จ เพราะว่า เรื่องนี้ราชาเฮเซคียาห์ทรงทำทุกอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบทีเดียว