เมื่อแม่ทัพไม่เห็นด้วย ๒๑-๑

1  พงศาวดาร 21:1-6

ไม่นานต่อมา ราชาดาวิด ทรงจำเริญขึ้นในการปกครอง ในการทำให้อิสราเอลได้เข้าใกล้ชิดพระเจ้า  กลับทำสิ่งหนึ่งที่พลาดไป   ไม่น่าเลย

ในช่วงเวลานั้น  ศัตรูของพระเจ้าคือ มาร  ได้เข้ามาดลใจให้ดาวิดทำการนับจำนวนคนอิสราเอล

การนับจำนวนครั้งนี้ จะทำให้ราชาดาวิดได้รู้สึกภาคภูมิกับจำนวนประชาชนในการปกครอง  ทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่า…ฉันเก่ง  ฉันใหญ่  ฉันสามารถยิ่งนัก …..

ราชาดาวิดทรงบัญชาโยอาบ แม่ทัพใหญ่

“เจ้าจงออกไปนับจำนวนคนอิสราเอลให้เรา  ตั้งแต่เบเออร์เชบาจนถึงดาน  แล้วกลับมารายงานให้เรารู้จำนวนประชากรที่มีอยู่”

“แต่ว่า”  โยอาบทูลทัดทาน

“ขอพระเจ้าประทานประชากรให้พระราชาร้อยเท่า  พวกเขาทุกคนไม่ได้เป็นไพร่พลผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทหรือพะยะค่ะ?  เหตใดพระองค์จึงทรงต้องการจำนวนประชากรเล่า?”

โยอาบเป็นแม่ทัพที่ฉลาดปราชญ์เปรื่องเป็นอย่างยิ่ง   เขามองเห็นว่า ราชาดาวิดกำลังก้าวเข้าไปในความเย่อหยิ่ง และจะทำให้เป็นที่ไม่พอพระทัยพระเจ้า

“ขอพระราชาทรงพิจารณาอีกครั้งพะยะค่ะ   เหตุใดจึงจะทรงทำให้เกิดเหตุร้ายแก่อิสราเอลโดยไม่จำเป็น?”

แต่… ความประสงค์ของพระราชาย่อมชนะการทัดทานของแม่ทัพโยอาบ

แม้แม่ทัพจะไม่เห็นด้วย  แต่เขาก็จำต้องไปทำตามคำบัญชาของราชาดาวิด   เขาและกองทหารกลุ่มเล็ก ๆ ได้เดินทางไปทั่วอิสราเอล   เพื่อนับจำนวนคน

เมื่อได้ครบแล้ว เขาก็กลับมายังเยรูซาเล็ม   เขาถวายรายงานจำนวนประชากร

1,100,000   คน เป็นจำนวนชายที่สามารถออกรบได้ทั่วอิสราเอล

470,000  คน เป็นจำนวนชายในเผ่ายูดาห์ที่ออกรบได้

แต่…แม่ทัพโยอาบ  ไม่ได้บอกจำนวนทั้งหมด

เขาไม่ได้นับชนเผ่าเบนยามิน และเผ่าเลวี   เพราะเขารู้สึกรังเกียจกับคำสั่งของพระราชาครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง

 

ศึกที่เมืองรับบาห์ ๒๐

1 พงศาวดาร 20:1-3

 

หลังจากศึกคราวนั้น  โยอาบแม่ทัพ ได้พาทหารอิสราเอลกลับมาจากอัมโมน โดยยังไม่ได้ทำศึกขั้นเด็ดขาดแต่อย่างใด

เมื่อถึงฤดูแล้งในปีต่อมา  จึงได้ยกทัพไปอีกครั้ง เพื่อกวาดล้างคนอัมโมน  ตอนนั้น โยอาบยกทัพไปโดยราชาดาวิดยังคงอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

แต่ขณะที่กำลังทำศึกอยู่ โยอาบได้ส่งข่าวมายังดาวิด ทูลให้พระองค์ออกไปสำเร็จศึกที่เมืองรับบาห์ มิฉะนั้น เมืองนั้นจะถูกเรียกตามชื่อของโยอาบ   เขาต้องการให้เมืองรับบาห์เป็นเมืองที่ราชาดาวิดได้ชื่อว่า เป็นผู้มีชัยชนะ มิใช่เขา

โยอาบได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง เกียรติยศกลับมาเป็นของราชาดาวิด  พระองค์ทรงยกทัพมาและตีรับบาห์แตก   พระองค์ได้ยึดทรัพย์สินจากเมืองนั้นมากมาย  ทั้งทองคำ เพชรพลอย และข้าวของอื่น  ๆ    และสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้แหละที่กลายเป็นของซึ่งซาโลมอนได้นำมาใช้ในการสร้างพระวิหารของพระเจ้าต่อมา

ราชาดาวิดสำเร็จโทษเมืองรับบาห์

จากนั้นพระราชาให้กวาดคนในเมืองออกมา  ให้พวกเขาทำงานก่อสร้าง  อยู่กับเลื่อย ขวาน เหล็ก  ทุก ๆ หัวเมืองในแผ่นดินอัมโมนก็โดนเช่นนั้นกันหมด

จากนั้น ราชาดาวิดก็กลับมายังเยรูซาเล็ม

อัมโมนจึงกลายเป็นเมืองขึ้นของอิสราเอลอย่างสมบูรณ์แบบ

และต่อมา ก็ได้ประหารพวกมนุษย์ยักษ์เมืองเกเซอร์  และมนุษย์ยักษแห่งเมืองกัทซึ่งเป็นลูกหลานของโกลิอัทอีกมากมาย

 

ลีลาทหารรับจ้าง ๑๙-๓

 

1 พงศาวดาร 19:6-15

คนอัมโมน  ได้ดูหมิ่นเกียรติของราชาดาวิดจากการที่พวกเขาโกนเคราของทูตที่ไปเยี่ยม และยังตัดเสื้อผ้าท่อนล่างให้เดินเปลือยออกมา

แน่นอน พวกเขารู้ดีว่า ตัวเองทำให้ราชาดาวิดพิโรธ   และแน่นอนอีกด้วยว่า พวกเขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้จากกองทัพจากอิสราเอล

จะทำอย่างไรดี?

วิธีเดียวคือ จ้างทหารมารบให้  นี่เป็นวิธีการของโลกสมัยโบราณ  แม้จะเป็นวิธีการที่เสี่ยงมาก เพราะทหารรับจ้างไม่ได้มีหัวใจที่จะปกป้องจริง ๆ

ดังนั้นจึงรีบไปจ้างทหารจากทางเหนือ และตะวันออกมา  มีทหารและรถศึกจากเมโสโปเตเมีย และอารัม มาอาคาห์ และเมืองโศบาห์ (ซีเรีย)  มีรถม้าศึกรวบรวมมาถึง 32,000 คัน  มากมายจริง ๆ  พวกเขาเสียเงินไปหนึ่งพันตะลันต์กับการจ้างครั้งนี้

ดังนั้น จึงมีกษัตริย์และทหารรับจ้างมารวมตัวกับทหารของอัมโมน

โดยแบ่งให้ทหารอัมโมนรักษาเมือง

ส่วนทหารรับจ้างจากซีเรียก็อยู่ในทุ่งกลางแจ้ง

ชาวอัมโมนรู้สึกปลอดภัยขึ้นที่มีกองทัพสองกองคอยช่วยกันอยู่ ….

สงครามสมัยโบราณ  กุสตาฟ ดอเร่

 

ราชาดาวิดได้ส่งโยอาบ แม่ทัพผู้เก่งกล้าเข้ามาทำสงครามครั้งนี้  พระองค์ไม่ได้มาเอง ส่งเพียงทหารกล้ามาเป็นกองทัพใหญ่

เมื่อเขามาถึงก็เห็นว่า จะมีกองทัพขนาบอยู่สองด้าน…. ทหารอัมโมนและทหารรับจ้าง

โยอาบจึงแบ่งทัพออกเป็นสองส่วน  ส่วนหนึ่งไปสู้กับทหารรับจ้าง อีกส่วนไปสู้กับทหารอัมโมน โดยมีอาบีชัย ซึ่งเป็นน้องชายของแม่ทัพเป็นผู้คุมไป

แผนของโยอาบที่กล่าวกับอาบีชัยคือ

“ถ้าทัพของเรานั้นใครมีกำลังสู้ไม่ไหว  อีกกองทัพจะเข้าไปสมทบช่วยกัน …. เจ้าและทหารของเจ้าต้องกล้าหาญ  และเป็นลูกผู้ชาย  เราจะสู้เพื่อชาติของเรา และเพื่อหัวเมืองของพระเจ้าของเรา   ขอพรจากพระเจ้า  ให้พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ทรงพอพระทัย”

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ

แม่ทัพโยอาบตีคนซีเรียแตกพ่าย  กระเจิดกระเจิงไม่เป็นท่า  เสียศักดิ์ศรีทหารรับจ้างจริง ๆ

กองทัพอัมโมนที่ประจำเมืองอยู่ก็ใจเสียกันไปตาม ๆ กัน   แทนที่จะสู้ กลับหนีเข้าเมืองไป

 

ต่อมาซีเรียก็กลับกลายเป็นเมืองขึ้นของอิสราเอลเสียอีก  ไม่น่าเลย ไม่น่ามารับจ้างต่อสู้เช่นนี้