ราชาดาวิดจนถึงพระเยซู ๒๙-๔

1 พงศาวดาร 29:21-30, 2 ซามูเอล 7

วันต่อมา ปุโรหิต  เลวี ได้นำวัวหนุ่ม 1000 ตัว  แกะผู้ 1000 ตัว  และลูกแกะตัวผู้อีก 1000 ตัว มาถวายเป็นเครื่องเผาบูชา

คิดดูซิว่า วันนั้นต้องเตรียมการมาตั้งแต่เช้าตรู่   แค่วัวตัวเดียวยังต้องใช้คนหลายคนช่วย  แล้วนี่มีสัตว์ 3000  ตัว  มันช่างมากมายจริง ๆ  พวกเขาได้ถวายทั้งเครื่องบูชาอื่น ๆ ด้วย

และหลังจากเสร็จพิธีเผาบูชาต่าง ๆ  แล้ว   คนทั้งเยรูซาเล็มก็จัดงานเลี้ยงฉลองด้วยความยินดีต่อพระพักตร์พระเจ้า

ต่อมาก็ได้สถาปนาซาโลมอนเป็นกษัตริย์ต่อจากราชาดาวิด  เป็นการสถาปนาครั้งที่สอง วันนั้น เจิมตั้งพระราชาใหม่ และท่านปุโรหิตศาโดก เป็นการเริ่มต้นรัชสมัยที่สงบเรียบร้อย  ทั้งประชาชน  แม่ทัพนายกอง  ข้าราชการต่างจงรักภักดีต่อซาโลมอน  ทำให้การปกครองเป็นไปอย่างราบรื่น ระบบการปกครองประเทศก็เข้าสู่ที่ทาง

สิ่งที่สำคัญคือ

พระเจ้าได้ทรงเชิดชูซาโลมอนอย่างมากมาย ต่อหน้าคนอิสราเอล  พระเจ้าได้ประทานเกียรติสูงส่งให้กับราชาซาโลมอนอย่างที่ไม่มีกษัตริย์อิสราเอลเคยได้รับมาก่อนด้วย
ซาโลมอนทรงยิ่งใหญ่….และมีพระนามของพระองค์ลือเลื่องไปไกลยิ่งนัก….


ภาพวาดโดย เกอริท วาน ฮอนธอส (1590-1656) และคาร์ล บลอช (1834-1890)

ส่วนราชาดาวิดผู้ได้ปกครองอิสราเอลมา 40 ปี ก็สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระชรามาก  และราชาดาวิดทรงเห็นความยิ่งใหญ่ของราชโอรส ทรงได้ชื่นชมกับชีวิตที่ยืนนาน  เกียรติยศ และความมั่งคั่ง

ราชาดาวิดทรงเป็นราชาที่พระเจ้าทรงเลือกให้อิสราเอล    พระองค์เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงรักยิ่ง  และเป็นผู้ที่จะติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ    ราชาดาวิดทรงเป็นกวีที่ยิ่งใหญ่  ทรงเขียนบทเพลงไว้มากมาย และทำให้ผู้เชื่อในพระเจ้าในสมัยต่อมา จนถึงพวกเราได้รับการบันดาลใจ  รับพลังใจจากบทเพลงของพระองค์ถ้วนหน้าทุกคน

ที่สำคัญ  พระเจ้าทรงกำหนดให้ราชาดาวิดองค์นี้  เป็นบรรพบุรุษของราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ องค์พระเยซูคริสต์  สมดังที่พระองค์เคยตรัสกับราชาดาวิดว่า

“เจ้าจะเป็นผู้เลี้ยงดู และเป็นผู้ปกครองอิสราเอล  ประชากรของเรา”

“วงศ์วานของเจ้า และอาณาจักรของเจ้าจะดำรงอยู่ตลอดไปต่อหน้าเรา  บัลลังก์ของเจ้าจะยั่งยืนเป็นนิตย์”

และวันนี้ พระเยซูคริสต์ ทรงเป็นราชาในหัวใจของคนในโลกหลายพันล้านคน…..

ทรงเป็นราชาในใจของเรา

วันหนึ่ง… วันขององค์พระเจ้า….ทุกเข่าจะต้องคุกกราบลงต่อพระเยซู

ทุกลิ้นจะรับว่า พระเยซูเป็นพระเจ้า