2 พงศาวดาร 15:1-8
เมื่อราชาอาสาเสด็จกลับมาจากการรบ อาซาริยาห์บุตรโอเดด มาเฝ้าพระองค์ เพราะว่า พระวิญญาณของพระเจ้าทรงอยู่เหนือเขา และมีบางสิ่งที่เขาต้องทูลพระราชาให้ทรงทราบ
สิ่งนี้สำคัญมาก
จะช่วยให้ราชาอาสาได้ปกครองประเทศต่อไป
เมื่อเขาได้เข้าเฝ้า จึงทูลว่า “ขอพระราชาโปรดทรงฟังข้าพเจ้า ทั้งชนเผ่ายูดาห์ และชนเผ่าเบนยามิน ขอโปรดฟังข้าพเจ้า”
เขาหันไปมองทุก ๆ คนที่ล้อมกันอยู่ ณ ที่นั่น
“พระเจ้าตรัสว่า พระองค์สถิตกับท่านทั้งหลายเมื่อท่านอยู่กับพระองค์ หากพวกท่านแสวงหาพระองค์ ท่านจะพบพระองค์แน่นอน”
“เอเมน” เสียงทุกคนร้องตอบ พวกเขาขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงย้ำเตือนการที่พระองค์ทรงอยู่ด้วยกับพวกเขา
“แต่ว่า” อาซาริยาห์กล่าวต่อไป “หากพวกท่านละทิ้งพระองค์ พระองค์ก็จะทรงละทิ้งท่าน นานแล้วนะที่อิสราเอล ประเทศของเรานี้ อยู่กันไปอย่างไม่มีพระเจ้า ไม่มีปุโรหิตผู้สอนความจริง ไม่มีแม้กระทั่งบทบัญญัติ”
พวกเขาหันหน้ามองกันและพยักหน้า
“แต่ในยามลำบากครั้งนี้ ศึกที่ผ่านมา พวกท่านได้แสวงหาพระเจ้า แล้วพวกท่านก็ได้พบพระองค์”
“ใช่แล้ว… ท่านต้องการบอกอะไรเราหรือ?” ราชาอาสาถาม
“พระราชาพะยะค่ะ ก่อนหน้านี้ บ้านเมืองวุ่นวายสับสน ไม่มีใครกล้าเดินทางไปไหนมาไหนเพราะว่า ไม่ปลอดภัยเลย โจรผู้ร้ายชุกชุม ยิ่งกว่านั้นยังมีสงครามระหว่างเมือง ระหว่างประเทศอีก ที่เป็นเช่นนี้เพราะพระเจ้าทรงให้ความทุกข์เหล่านั้นแก่พวกเขา”
“เอ๊ะ ท่านหมายความว่า ความทุกข์ยากกระหน่ำเข้ามาก็เพราะพระเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้วพะยะค่ะ แต่ส่วนองค์ราชา ขอทรงพระเจริญ
ขอพระองค์ทรงเข้มแข็ง
ขออย่าทรงยอมแพ้ หรือท้อถอย และพระเจ้าจะประทานรางวัลให้กับผลงานของพระองค์พะยะค่ะ”
ช่างเป็นคำดีจริง เป็นคำหนุนกำลังให้กับพระราชาหลังจากสงครามครั้งใหญ่ที่พระองค์เองทรงทราบดีว่า เป็นการช่วยเหลือของพระเจ้าอย่างแน่นอน
พระราชาทรงรู้สึกมีกำลังขึ้นมา พร้อมที่จะทำงานรับใช้พระเจ้าและประชาชนอย่างถูกทาง
ประชาชนกลับมาหาพระเจ้าอีกครั้ง
หลังจากนั้น ราชาอาสาก็ได้กวาดล้างรูปเคารพอีก ทั่วดินแดนยูดาห์ เบนยามิน และหัวเมืองต่าง ๆ ในเทือกเขาเอฟราอิม ประชาชนจะพอใจหรือไม่ พระราชาเป็นผู้ทรงตัดสินพระทัยให้พวกเขา ทรงชักชวนให้ประชาชนกลับมานมัสการพระเจ้าอีก และวิหารของพระเจ้าที่เสียไปครั้งนั้นจากการบุกของฟาโรห์ชิชัก พระองค์ก็ทรงสั่งให้ซ่อมแซมจนกลับมาใช้ได้อีกครั้ง