2 พงศาวดาร 14:8-15
ใช่ว่าประเทศสงบสุขแล้ว จะละเลยการป้องกันประเทศ
ราชาอาสาทรงจัดให้มีการเกณฑ์ทหารเพื่อการป้องกันตนเอง พระองค์ไม่ได้ทรงตั้งพระทัยที่จะไปตีใครก่อน ดังนั้นจึงรวบรวมทหารกล้าที่มีฝีมือ จากเผ่ายูดาห์ จำนวน 300,000 คน และจากเผ่าเบนยามิน 280,000 คน โดยทั้งสองเผ่ามีความสามารถต่างกัน
เผ่ายูดาห์จะใช้โล่ใหญ่ และหอก
ส่วนเผ่าเบนยามินจะใช้โล่ และธนู
ทายซิว่า พวกไหนเวลารบจะต้องรบแบบประชิดตัว??
อยู่มาไม่นาน
ศัตรูทางตะวันตกก็ยกมา พวกนี้มาจากเอธิโอเปีย ซึ่งอยู่ไกลออกไป ทางใต้ของอียิปต์ แม่ทัพเศ-ราห์ชาวเอธิโอเปีย ยกกองทัพมีทหารจำนวน 1,000,000 คนมาบุกอิสราเอล!
ทหารหนึ่งล้านรึ??
ราชาอาสามีทหารเพียง 580,000 คนเท่านั้น อีกแล้ว อีกครั้งที่จะต้องสู้กับทัพใหญ่กว่าหนึ่งเท่าตัว
เพียงรู้ข่าว ไม่ทันไร….
เศ-ราห์ก็มาพร้อมกับรถรบ 300 คันที่เมืองมาเรชาห์
ราชาอาสา ซึ่งเป็นราชาแห่งสันติภาพ ต้องออกไปรบโดยตั้งแนวรบที่หุบเขาเศฟาธาห์
ราชาอาสาทรงทราบดีว่า พระองค์ไม่มีทางชนะ
ทรงร้องต่อพระเจ้าสุดพระทัยว่า
“ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล พระองค์เจ้าข้า ไม่มีใครจะช่วยพวกเราได้อย่างพระองค์ ดูซิพระเจ้าข้า มันเป็นการรบของคนแข็งแรงกับคนอ่อนแอ”
ราชาอาสาทรงตระหนักว่า พระองค์นั่นแหละคือคนที่อ่อนแอ
พระองค์ไม่ทรงเชี่ยวชาญในการรบแม้แต่น้อย
พระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐานของราชาอาสา
และทรงบันดาลให้ชาวเอธิโอเปียพ่ายแพ้กองทัพของราชาอาสา
พวกเขาหนีเตลิดเปิดเปิง
และด้วยความที่ไม่ชินกับสภาพแวดล้อม พวกเขาหลงทิศหลงทาง
ทำให้ราชาอาสาและกองทัพตามไปได้จนถึงเมืองเก-ราห์
ทหารเอธิโอเปียล้มตายหมด ไม่เหลือสักคนเดียว!!
ทำให้ทหารอิสราเอลได้ริบข้าวของกลับมามากมาย และแถมยังโจมตีเมืองรอบ ๆ เมืองเก-ราห์อีก ผู้คนต่างเกิดความรู้สึกเกรงกลัวพระเจ้าไปตาม ๆ กัน
กองศพที่มากมาย มหึมา ทำให้พวกเขารู้ว่า ครั้งนี้ พระเจ้าทรงช่วยกองทัพของราชาอาสาจริง ๆ
มันเป็นไปไม่ได้ที่กองทัพเล็กกว่าครึ่งหนึ่งจะรบชนะขาดลอย
คนทั้งหลายเห็นชัดว่า พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายทัพราชาอาสาจริง ๆ