2 พงศาวดาร 26:19-23
“ข้าแต่พระราชา ขอทรงโปรดฟังข้าพระบาท โปรดฟังด้วย …. เสด็จออกจากที่นี่ เดี๋ยวนี้ พะยะค่ะ ข้าพระบาทกลัวแทนพระองค์จริง ๆ”
ไม่เลย ราชาอุสซียาห์ไม่ทรงฟังเสียงของปุโรหิต ที่เตือนพระองค์ด้วยความหวังดี
“อย่ามายุ่งกับข้า ข้าจะทำอะไร มันก็เรื่องของข้า” ขณะนั้น ราชาอุสซียาห์ทรงอุ้มกระถางไฟ พร้อมที่จะเผาเครื่องหอม
ทรงกริ้วเหล่าปุโรหิตมาก
….ทำไมต้องมาห้ามด้วย ข้าเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน ยังจะมีกฎเกณฑ์ใดใหญ่ยิ่งกว่าความต้องการของข้ารึ? และสิ่งที่ข้ากำลังจะทำนี้ ก็ทำเพื่อถวายพระเจ้า….
ราชาอุสซียาห์ลืมกฎเกณฑ์ทั้งสิ้นของพระเจ้า
ขณะนั้นเอง
“โอ๊ะ… ดู ดูนั่น” ปุโรหิตคนหนึ่งร้องออกมา พร้อมกับมองไปที่หน้าผากของพระราชา
เกิดมีรอยขาว ๆ ขึ้น …. นั่น นั่นมันโรคเรื้อนนี่นา อะไรกัน โรคเรื้อนปรากฏกันรวดเร็ว ง่าย ๆ อย่างนี้เอง เกิดขึ้นในพระวิหารด้วย….
พวกเขาร้องเสียงหลง
มีคนหนึ่งผลักพระราชาออกไป
“ไปเถอะ ขอพระองค์รีบออกไปจากพระวิหาร!”
พระราชาเองตกพระทัยมาก
“โอย… อะไรนี่ มันผุดออกมาบนหน้าผากข้าได้อย่างไร?”
พระราชารีบรุดออกไปจากพระวิหารทันที พระเจ้าทรงลงโทษพระองค์ เพราะพระองค์ไม่ยอมฟังเสียงของคนที่เตือนก่อนหน้านี้
และแล้ว พระราชาต้องทรงอยู่ในกฎเกณฑ์ของพระเจ้า พระองค์ต้องอยู่ในพระราชวังที่แยกออกไปจากคนอื่น ๆ ไม่มีโอกาสดำเนินเข้าไปในพระวิหารอีกเลย พระองค์ทรงเป็นโรคเรื้อนจนวันที่สิ้นพระชนม์
น่าเสียดายเหลือเกิน
พระราชาที่แสนดี
กลับกลายมาเสียทีกับความเย่อหยิ่งของพระองค์เองในบั้นปลาย
พระองค์ทรงถูกฝังไว้กับบรรพบุรุษในทุ่งอันเป็นฝังพระศพของพระราชา เพราะว่า พระองค์ทรงเป็นโรคเรื้อน จึงไม่ได้ถูกเก็บอยู่ในถ้ำเหมือนพระราชาองค์อื่น ๆ
โยธาม ราชโอรส ขึ้นครองราชย์แทน….