เอเสเคียล 17-3 อุปมาเรื่องอินทรีกับองุ่น (ต่อ)

เอเสเคียล 17:16-24

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า .. ตราบเท่าที่เรามีชีวิต
แน่นอน ในที่ซึ่งกษัตริย์องค์นั้นประทับอยู่ องค์ที่ทำให้เขาเป็นกษัตริย์
แต่เขากลับดูหมิ่นคำปฏิญาณของพระองค์
และหักพันธสัญญาที่มีกับพระองค์เสีย
เขาจะต้องตายในบาบิโลน
ฟาโรห์และกองทัพใหญ่โตของพระองค์ รวมทั้งคนอีกมากมาย
จะไม่ช่วยเขาทำสงคราม
แม้เมื่อมีการสร้างเชิงเทิน และก่อกำแพงขึ้นเพื่อทำลายชีวิตมากมายนั้น

เขาดูหมิ่นคำปฏิญาณด้วยการหักพันธสัญญา
และดูเถิด ในเมื่อเขาทำเช่นนี้ เขาจะไม่มีทางหนีพ้นไปได้

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า
ตราบเท่าที่เรามีชีวิต  และเขาได้ดูหมิ่นคำปฏิญาณของเรา
และได้หักพันธสัญญาของเรา
เราจะให้โทษนั้นตกเหนือหัวของเขา
เราจะเหวี่ยงตาข่ายของเราเหนือเขา และเขาจะติดกับของเรา
เราจะนำเข้าเข้าไปในบาบิโลน ไปสู่การพิพากษาที่นั่น
เรื่องที่เขาได้กบฎต่อเรา
กองทัพที่เขาได้เลือกไว้จะล้มลงด้วยดาบ
ผู้ที่รอดตายจะกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง
แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า  เราได้กล่าวไว้แล้ว

toncedars

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เราเอง เราจะเอากิ่งจากยอดต้นสีดาร์  และปลูกเอาไว้
เราจะหักยอด คือกิ่งอ่อนๆ ของมัน
และจะปลูกมันไว้บนภูเขาสูง
ใช่…บนเขาสูงแห่งอิสราเอล  เราจะปลูกมันไว้
เพื่อว่ามันจะแตกยอด และออกผล และกลายเป็นต้นสีดาร์ที่ทรงเกียรติ
ใต้ต้นนั้น จะเป็นที่อาศัยของนกทุกชนิด
ภายใต้เงาของกิ่งก้านนั้น นกทั้งหลายจะมาทำรัง
และต้นไม้ทั้งหลายในทุ่ง จะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

เราจะทำให้ต้นไม้ใหญ่ต่ำลง
และทำให้ต้นที่ต่ำเตี้ยนั้นสูงขึ้น
เราจะทำให้ต้นที่เขียวเหี่ยวแห้งไป
และทำให้ต้นที่แห้งกลับงดงาม
เรา..องค์พระผู้เป็นเจ้า ได้กล่าวไว้ และเราจะทำดังนั้น