โยนาห์ 1-2

โยนาห์ 1:4-6

แต่พระเจ้าบันดาลให้เกิดลมพัดแรงในทะเล  และมันกลายเป็นพายุปั่นป่วนท้องทะเล ทำให้เรือเกือบจะแตกอยู่แล้ว   เหล่าลูกเรือต่างตกใจกลัว  ทุกคนเรียกร้องพระเจ้าของตน   พวกเขาช่วยกันเอาข้าวของ สินค้าโยนลงไปในทะเลเพื่อจะทำให้เรือเบาขึ้น

แต่โยนานั้น ได้เข้าไปในเรือ นอนหลับไป

กัปตันเรือได้เข้ามาหาและกล่าวกับเขาว่า “ผู้โดยสารขี้เซา  นี่มันหมายความว่าอย่างไร? ลุกขึ้น เร็ว ทูลขอพระเจ้าของท่านให้ช่วยพวกเรา  บางทีพระองค์จะทรงคิดถึงเราบ้าง เราจะได้ไม่ต้องพินาศ”

ครั้งนี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้ส่งพายุมาให้โยนาห์โดยเฉพาะ  เขาคิดว่าจะหนีพระองค์ไปได้  ขนาดมีพายุยังอุตส่าห์ลงไปนอนเสียอีก  เขาปิดหูปิดตากับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่า พระเจ้าทรงเตือนเขาแล้ว

พายุครั้งนี้ต้องไม่ธรรมดาเหมือนลมพายุที่มักจะเกิดขึ้นในทะเล  เพราะว่า เหล่ากลาสีเรือนั้น ไม่คาดคิดว่าจะมีลมแรงขนาดนี้  และพวกเขาก็กลัวกันมากด้วย

แต่ความแรงของพายุ

เสียงร้องทูลต่อพระเจ้าของเหล่ากลาสี !

เสียงโวยวาย เร่งช่วยกันเอาของโยนลงทะเล….

ไม่ได้ทำให้โยนาห์สนใจอะไรได้เลย…. เขาหลับสนิท….

อี๋ย… เราเคยเป็นอย่างโยนาห์ไหมนี่… มีอะไรเกิดขึ้นเตือนเราตั้งมากมาย  แต่เรายังไม่สนใจ ไม่คิดว่า พระเจ้าทรงเตือน กลับอยู่เฉย ไม่ใส่ใจ  สิ่งที่ใครพูด ก็ไม่สน  รอบตัวเป็นอย่างไรก็ช่าง ฉันจะเป็นของฉันอย่างนี้…..

แล้วดูซิ  กัปตันเรือ ซึ่งน่าจะเป็นเรือของชาวฟินิเชียซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการเดินเรือในทะเลเมดิเตอเรเนียน  ได้บอกให้โยนาห์อธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งอิสราเอล …. เขารู้ว่า พระเจ้าทรงฤทธิ์ ถ้าพระองค์ทรงฟัง พระองค์ก็จะทรงช่วยพวกเขาได้

คนที่ไม่ได้เชื่อในพระองค์ยังรู้เลยว่า พระองค์ทรงฤทธิ์มากยิ่ง

แล้วยังไงกันนี่  โยนาห์อุตส่าห์หนีพระเจ้ามา  แล้วตอนนี้มีคนมาบังคับให้อธิษฐานต่อพระองค์ที่เขาพยายามหนี…. เป็นอย่างไรล่ะ ท่านโยนาห์