เยเรมีย์ 46-1 เรื่องของอียิปต์

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ เกี่ยวกับประเทศทั้งหลาย
เกี่ยวกับอียิปต์…..

เรื่องของกองทัพฟาโรห์เนโค  กษัตริย์แห่งอียิปต์
ซึ่งอยู่ข้างแม่น้ำยูเฟรตีสที่คารเคมิช
ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้โจมตีเอาชนะได้
ในปีที่สี่ของรัชสมัยเยโฮยาคิม โอรสราชาโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์

ฟาโรห์เนโคที่สอง  ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Necho_II
ฟาโรห์เนโคที่สอง ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Necho_II

จงเตรียมโล่ทั้งเล็กและใหญ่  เตรียมตัวเข้าสู่สงคราม
ใส่อานให้ม้า .. ขึ้นขี่มัน  เหล่าพลม้า!
เข้าประจำที่พร้อมหมวกเกราะ
ขัดหอกของเจ้าให้พร้อม   สวมเสื้อเกราะ!

ทำไมเราจึงเห็นสิ่งเหล่านี้ ?
พวกเขากลัวลาน และหันกลับไป

เหล่านักรบพ่ายแพ้ รีบหนีอย่างรวดเร็ว ไม่หันกลับมามองเสียด้วยซ้ำ
ความสยดสยองอยู่รอบด้าน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ….

“แต่คนเท้าไวรีบเร่งก็ยังหนีไม่พ้น
นักรบไม่อาจจะหนีรอดไปได้
พวกเขาสะดุดและล้มลง

ทางเหนือ ริมแม่น้ำยูเฟรตีส

เยเรมีย์ 45 ปลอบใจบารุค

ภาพจาก http://www.soulshepherding.org/
ภาพจาก http://www.soulshepherding.org/

เยเรมีย์ 45:1-5

นี่เป็นคำที่เยเรมีย์กล่าวแก่บารุค ลูกชายเนริยาห์ เมื่อเขาเขียนคำตามคำบอกของเยเรมีย์
ในปีที่สี่ของรัชสมัยเยโฮยาคิม โอรสโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้แก่เจ้านะ บารุค

….เจ้ากล่าวว่า วิบัติแก่ตัวข้า
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เอาความทุกข์ใจเพิ่มให้กับความเจ็บปวดของข้า
ข้าเหน็ดเหนื่อยกับการคร่ำครวญ
และข้าไม่ได้พักเลย….
ดังนั้นเจ้าจะพูดกับเขาว่า   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิดสิ่งที่เราสร้างขึ้นนั้น เราจะทำลายลง
สิ่งที่เราปลูก  เราก็จะถอนมันออกมา นั่นคือแผ่นดินทั้งหมด

“และเจ้าจะหาสิ่งใหญ่เพื่อตัวเองหรือ  อย่าหามันเลย
เพราะดูเถิด  เรากำลังนำหายนะมาสู่มนุษย์ทั้งปวง” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
“แต่เราจะให้ชีวิตแก่เจ้า   เป็นบำเหน็จแห่งการสงคราม ในทุกที่ ๆ เจ้าไป ”

เยเรมีย์ 44-4 คำใครจะเป็นจริง?

เยเรมีย์ 44:24-30

เยเรมีย์กล่าวแก่ประชาชนและเหล่าผู้หญิงทั้งหลายว่า
“จงฟังพระคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าคนยูดาห์ที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์
องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้
..เจ้า และภรรยาของเจ้า ได้ประกาศด้วยปาก และทำสำเร็จด้วยมือของเจ้า
กล่าวว่า เราจะทำตามคำปฏิญาณที่เราได้ให้ไว้ว่า
จะถวายเครื่องบูชาและเทเครื่องดื่มบูชาแก่เทวีสวรรค์
ถ้าอย่างนั้น ก็ย้ำให้แน่ใจว่า เจ้าจะทำสิ่งนัั้น

และจงฟังพระคำจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าคนยูดาห์ที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์
ดูเถิด  เราได้สาบานโดยนามยิ่งใหญ่ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
ว่านามของเราจะไม่เป็นที่กล่าวขานโดยปากของคนยูดาห์คนไหนก็ตามในแผ่นดินอียิปต์
ว่า.. ตราบเท่าที่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่..

ดูเถิด  เรากำลังเฝ้าดูพวกเขาให้เจอกับหายนะ ไม่ใช่สิ่งดี
ชาวยูดาห์ทุกคนที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์ จะถูกสังหารด้วยดาบ ด้วยความอดอยากจนกระทั่งไม่มีใครหลงเหลืออยู่
และคนที่หนีจากดาบจะกลับจากอียิปต์ไปยังแผ่นดินยูดาห์  ไม่กี่คน
และคนที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์ที่เดินทางมายังอียิปต์
จะรู้ว่า คำใดล่ะที่จะดำรงอยู่ เป็นคำของเราหรือพวกเขา
นี่จะเป็นสัญญาณให้กับพวกเจ้า  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
ว่าเราจะลงโทษเจ้าในแผ่่นดินนี้ เพื่อว่าเจ้าจะได้รู้ว่า
คำของเราจะต่อต้านเจ้า เป็นอันตรายต่อเจ้า

ฟาโรห์องค์ที่เยเรมีย์กล่าวถึง
ฟาโรห์องค์ที่เยเรมีย์กล่าวถึง

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

ดูเถิด   เราจะให้ฟาโรห์โฮฟราซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งอียิปต์อยู่ในมือของศัตรู
อยู่ในมือของคนที่แสวงหาชีวิตของเขา
เหมือนอย่างที่เรามอบเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ให้อยู่ในมือของเนบูคัดเนสซาร์
กษัตริย์แห่งบาบิโลนผู้เป็นศัตรูซึ่งแสวงชีวิตของเขา

เยเรมีย์ 44-3 ก็จะไม่ฟัง

เยเรมีย์  44:15-23

แล้วเหล่าพวกผู้ชายที่รู้ว่า ภรรยาของตนได้ถวายเครื่องบูชาให้กับพระอื่น
และเหล่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น เป็นที่ประชุมใหญ่
คนทั้งปวงที่อาศัยในปัทโรส แผ่นดินอียิปต์ ตอบเยเรมีย์ว่า
“สำหรับคำที่ท่านกล่าวกับเราในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เราจะไม่ฟังท่าน
แต่เราจะทำทุกอย่างที่เราได้สัญญาเอาไว็
ถวายเครื่องบูชาแก่เทวีสวรรค์ และถวายเครื่องดื่มบูชาให้ด้วย
อย่างที่เรากับบรรพบุรุษของเรา รวมทั้งกษัตริย์และข้าราชการได้ทำในหัวเมืองต่าง ๆ แห่งยูดาห์
และตามท้องถนนในนครเยรูซาเล็ม

เพราะเมื่อเราทำอย่างนั้น เราก็มีอาหารบริบูรณ์ เราเจริญรุ่งเรือง และไม่เห็นมีหายนะใด ๆ
ตั้งแต่ที่เราเลิกถวายเครื่องบูชา เลิกถวายเครื่องดื่มบูชาแก่เทวีสวรรค์
เราก็ขาดแคลนทุกอย่าง และถูกคมดาบสังหาร ต้องเจอกับความอดอยาก

และพวกผู้หญิงกล่าวว่า
“เมื่อเราถวายเครื่องบูชา และเทเครื่องดื่มบูชาให้กับเทวีสวรรค์  เราทำเองโดยสามีไม่รู้หรือ
เราทำขนมถวาย และเทเครื่องดื่มบูชาโดยที่พวกเขาไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”

 เยเรมีย์จึงกล่าวแก่ทัั้งชายหญิง และประชาชนที่ตอบเขาเช่นนั้น
“สำหรับเครื่องบูชาที่ทั้งเจ้าและบรรพบุรุษ  กษัตริย์และข้าราชการ รวมทั้งประชาชนในแผ่นดิน
ถวายตามหัวเมืองในยูดาห์ ตามถนนหนทางในนครเยรูซาเล็มนั้น
คิดหรือว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงจดจำ?
เรื่องพวกนั้นไม่ได้เข้ามาในความคิดของพระองค์หรือ?

rabad

องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่อาจจะทนการกระทำอันชั่วร้ายของเจ้า
และการกระทำอันน่าสะอิดสะเอียนของเจ้า
ดังนั้น แผ่นดินของเจ้าจึงต้องรกร้าง กลายเป็นที่คนทิ้งไป กลายเป็นคำแช่งสาป
ไร้คนอาศัย จนกระทั่งทุกวันนี้
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเจ้าได้ถวายเครื่องบูชาเหล่านั้น
และเพราะเจ้าได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ได้ฟังพระสุรเสียงของพระองค์
ไม่ได้เดินตามธรรมบัญญัติ และกฎเกณฑ์ และพระโอวาทของพระองค์
ทำให้ความหายนะจึงเกิดขึ้นดังเช่นทุกวันนี้  

 

เยเรมีย์ 44-2 ไม่มีใครได้กลับไป

เยเรมีย์ 44:7-14

และบัดนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
เหตุใดเจ้าจึงทำความชั่วร้ายใหญ่หลวงต่อตัวเองเช่นนี้
มันทำให้เจ้าไม่มีชาย หญิง เด็กเล็ก เด็กโตอยู่ท่ามกลางยูดาห์  ทำให้เจ้าไม่มีคนหลงเหลืออยู่ในแผ่นดิน
เหตุใดเจ้าจึงยั่วยุให้เราโกรธด้วยผลงานแห่งน้ำมือของเจ้า
ไปถวายเครื่องบูชาให้กับพระอื่นในดินแดนแห่งอียิปต์ซึ่งเจ้าเข้าไปอาศัยอยู่
เพื่อว่าเจ้าจะถูกตัดออก  และกลายเป็นที่แช่งสาป และเป็นสิ่งที่ใคร ๆ พูดถากถางตามประชาชาติต่าง ๆ บนแผ่นดินโลก

เหล่าพระที่ชาวอียิปต์เชื่อถือ
เหล่าพระที่ชาวอียิปต์เชื่อถือ

เจ้าลืมความชั่วร้ายของพ่อเจ้า
ความชั่วร้ายของกษัตริย์แห่งยูดาห์
ความชั่วของภรรยาพวกเขา
ความชั่วร้ายของตัวเจ้าเอง และความชั่วร้ายของภรรยาของพวกเจ้า
ที่ได้ทำในแผ่นดินยูดาห์ และบนถนนหนทางในนครเยรูซาเล็มอย่างนั้นหรือ?

พวกเขามิได้ถ่อมตนลงจนถึงวันนี้
พวกเขาไม่กลัว ไม่เดินตามบัญญัติและกฎเกณฑ์ของเรา
ที่เราได้ตั้งไว้ต่อหน้าต่อตาเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
ดูเถิด เราจะตั้งหน้าต่อต้านเจ้า เราจะนำภัยมาสู่เจ้า  จะตัดยูดาห์ออกให้หมดสิ้น
เราจะให้คนที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์ที่ได้ตั้งหน้ามาอาศัยในแผ่นดินอียิปต์ พินาศเสีย
ในแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาจะล้มลงด้วยดาบ ความอดอยาก
ตั้งแต่คนที่เล็กน้อยที่สุดจนถึงคนที่ใหญ่ที่สุด
พวกเขาจะตายด้วยดาบ ด้วยความอดอยาก
พวกเขาจะกลายเป็นคำสาบาน  เป็นความน่ากลัว ความแช่งสาป เป็นสิ่งที่คนกล่าวถึง
เราจะลงโทษคนที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์ ดังที่เราได้ลงโทษนครเยรูซาเล็มด้วยดาบ ความอดอยากและโรคระบาด
และจะไม่มีใครในบรรดาผู้ที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์ที่ได้มาอาศัยในอียิปต์
จะหนีพ้น หรือรอดตายจนกลับไปแผ่นดินยูดาห์ได้สักคน
แม้ว่าพวกเขาอยากจะกลับไปอาศัยที่นั่น
พวกเขาจะไม่ได้กลับไป ยกเว้นผู้ลี้ภัยไม่กี่คน

เยเรมีย์ 44-1 ที่อียิปต์

เยเรมีย์ 44:1-6

พระวจนะของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์
เรื่องคนยูเดียที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์ ที่มิกดล  ทาปานเหส เมมฟิส และแผ่นดินปัทโรส
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้….
เจ้าได้เห็นหายนะที่เรานำมาถึงนครเยรูซาเล็ม และเมืองต่าง ๆ ในยูดาห์แล้ว
ดูเถิด วันนี้ เมืองต่างๆ กลายเป็นที่ร้าง และไม่มีคนอาศัย

ที่เป็นอย่างนี้เพราะความชั่วที่พวกเขาได้ลงมือทำ
ยั่วยุให้เราโกรธ ด้วยการไปถวายเครื่องบูชาและปรนนิบัติพระอื่น
ที่พวกเขา  พวกเจ้า หรือบรรพบุรุษของเจ้าไม่รู้จัก

ถึงอย่างนั้น เราเองได้ส่งผู้กล่าวคำซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรามาหาเจ้าไม่หยุดหย่อน
กล่าวว่า “ขออย่าทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนที่เราเกลียดชัง!”

แต่ก็ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเอียงหูเข้ามา
ไม่มีใครสนใจที่จะหันจากความประพฤติชั่ว และหยุดถวายเครื่องบูชาแก่พระอื่นๆ

ดังนั้น ความกริ้ว และความโกรธของเราจึงต้องเทออกมา
และจุดเป็นไฟตามเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์
ตามถนนหนทางในนครเยรูซาเล็ม
และเมืองเหล่านี้จึงกลายเป็นเมืองที่ปรักหักพัง เป็นเมืองร้าง เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

เยเรมีย์ 43-2 สั่งตรงมาที่อียิปต์

เยเรมีย์ 43:8-13

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ในเมืองทาปานเหสว่า
“จงถือหินก้อนใหญ่หลาย ๆ ก้อน
แล้วซ่อนไว้ตรงแท่งปูนตรงทางเดินที่จะเข้าไปยังราชวังของฟาโรห์ในเมืองปาทานเหส
ทำต่อหน้าต่อตาชาวยูดาห์  และกล่าวกับพวกเขาว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
..ดูเถิด  เราจะนำเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรามา
และเราจะตั้งบัลลังก์ชของเขาเหนือหินที่เราได้ซ่อนไว้
เขาจะกางพลับพลาของเขาเหนือก้อนหินเหล่านี้
เขาจะมาและโจมตีแผ่นดินอียิปต์
จะมอบผู้ถูกกำหนดให้เจอกับโรคระบาดให้ไปเผฃิญกับโรคเหล่านั้น
จะให้คนที่ถูกกำหนดไปเป็นเชลย ได้ไปเป็นเชลย
และจะสังหารคนที่ถูกกำหนดให้เจอกับดาบ

เราจะจุดไฟในวิหารของพระแห่งอียิปต์
และเขาจะเผาวิหารเหล่านั้น และกวาดเชลยไป
เขาจะชำระแผ่นดินอียิปต์ เหมือนกับผู้เลี้ยงแกะที่ชำระเสื้อคลุมจากตัวเห็บเหา
เขาจะจากที่นั่นไปด้วยสันติ
เขาจะทำลายเสาโอเบลิสก์ในเฮลิโปลิส
และจะเผาวิหารของเหล่าพระในอียิปต์เสีย

เยเรมีย์ 43-1 เยเรมีย์ ..ถูกพาไปอียิปต์

เยเรมีย์ 43:1-7

เมื่อเยเรมีย์กล่าวคำขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่ประชาชนจบ..
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งเขามายังประชาชนเหล่านี้
อาซาริยาห์ลูกชายโฮชายาห์ และโยฮานันลูกชายคาเรอาห์
พร้อมกับเหล่าคนที่ยะโส..กล่าวกับเยเรมีย์ว่า
“ท่านกำลังมุสาต่อพวกเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ส่งท่านมาห้ามไม่ให้พวกเราไปอาศัยในอียิปต์
แต่..บารุคลูกชายเนริยาห์ได้ยุยงให้ท่านต่อสู้พวกเรา
เพื่อว่าจะได้ส่งพวกเราให้ตกในเงื้อมมือของชาวเคลเดีย
เพื่อว่าพวกเขาจะสังหารเรา หรือไม่ก็เนรเทศพวกเราไปบาบิโลน
โยฮานัน ลูกชายคาเรอาห์และผู้บัญชาการกองทัพทั้งปวง
รวมทั้งประชาชนไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าที่ทรงบัญชาให้พวกเขาอาศัยในแผ่นดินยูดาห์

แต่โยฮานัน ลูกชายคาเรอาห์ พร้อมกับผู้บัญชาการกองทัพได้นำ
คนที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์
คนที่ย้ายเข้ามาจากประเทศต่าง ๆ ที่พวกเขาถูกเนรเทศไป
ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กๆ ทั้งเจ้าหญิง
และทุกคนที่เนบู-ซาระดานซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์
ได้มอบไว้ให้เกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัม ลูกชายชาฟานดูแล
และรวมไปถึงเยเรมีย์ และบารุค ลูกชายเนริยาห์
พวกเขาไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า

และในที่สุดก็มาถึงเมืองทาปานเหส

เยเรมีย์ 42-2 อย่าไปนะ!

เยเรมีย์ 42:7-17

หลังจากนั้นสิบวัน  พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์
เขาจึงเชิญโยฮานันลูกชายคาเรอาห์ และเหล่าผู้บัญชาการกองทหาร
รวมทั้งประชาชนตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด กล่าวแก่พวกเขาว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล

ผู้ที่ท่านส่งเราไปเฝ้า เพื่อทูลขอพระกรุณา ตรัสดังนี้ว่า ..
หากเจ้ายังคงอยู่ในแผ่นดินนี้ เราก็จะสร้างเจ้าขึ้น ไม่รื้อทิ้งลง
เราจะปลูกเจ้า ไม่ใช่ถอนเจ้า
เพราะเราได้เปลี่ยนใจจะไม่ทำลายเจ้าตามที่เราได้ทำแก่พวกเจ้ามาแล้ว

nebuchadnezzar-04
อย่าไปกลัวกษัตริย์แห่งบาบิโลน ผู้ที่พวกเจ้ากลัวกันเหลือเกิน
อย่าไปกลัวเขา… องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ  เพราะว่าเราอยู่กับเจ้า
เพื่อจะช่วยเจ้า เพื่อจะช่วยกู้พวกเจ้าให้พ้นมือของเขา
เราจะเมตตาเจ้า และให้เจ้าได้ดำรงอยู่ในแผ่นดินของเจ้าเอง
แต่หากเจ้ากล่าวว่า .. เราจะไม่อยู่ในแผ่นดินนี้..
ไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า  พระเจ้าของเจ้า
และกล่าวว่า … ไม่  เราจะเดินทางไปยังอียิปต์
ที่นั่นเราจะไม่ต้องเจอสงครามหรือได้ยินเสียงแตร
หรือหิวโหย และเราจะอาศัยอยู่ที่นั่น..
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ขอฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เหล่าผู้ที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
หากเจ้ามุ่งหน้าที่จะเข้าไปในอียิปต์เพื่ออาศัยที่นั่นแล้วละก็
ดาบที่พวกเจากลัวก็จะตามเจ้าไปในดินแดนอียิปต์
ความอดอยากที่เจ้าหวั่นก็จะตามเจ้าไปติด ๆ
และเจ้าจะตายในอียิปต์นั่นเอง
ทุกคนที่ตั้งหน้าจะไปยังอียิปต์เพื่ออาศัยที่นั่นจะตาย
ด้วยดาบ ความอดอยากและโรคระบาด
จะไม่มีใครเหลืออยู่หรือจะไม่มีใครรอดจากหายนะที่เราจะนำมาเหนือเขาเลย

 

 

เยเรมีย์ 42-1 ขอพระองค์ทรงนำ

เยเรมีย์ 42:1-6

แล้วเหล่าผู้บัญชาการกองทัพและโยฮานันลูกชายคาเรอาห์
และเยซันยาห์ลูกชายโฮชายาห์
รวมทั้งเหล่าประชาชนทั้งคนต่ำต้อยไปจนถึงผู้ใหญ่ที่สุดได้มาหาเยเรมีย์ผู้กล่าวคำของพระเจ้า

“ขอท่านได้ฟังคำร้องเมตตาจากพวกเรา ขอท่านอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อพวกเราด้วย
เพื่อเหล่าคนที่หลงเหลืออยู่  เราเหลือกันอยู่ไม่กี่คนเท่าที่ท่านเห็น
เพื่อว่าพระองค์จะทรงบอกเราว่า
เราควรไปทางใด
เราควรทำอะไร”

เยเรมีย์ผู้กล่าวคำของพระเจ้ากล่าวแก่เขาว่า
“เราได้ยินท่านแล้ว ดูเถิด เราจะอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน
ตามที่ท่านขอร้อง และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบอย่างไร เราจะบอกท่าน
และจะไม่ปิดบังสิ่งใดจากท่านสักอย่างเดียว”

แล้วพวกเขากล่าวแก่เยเรมีย์ว่า
“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นพยานที่เที่ยงแท้ และซื่อตรง
จัดการกับเรา หากเราไม่ได้กระทำตามพระดำรัสที่พระองค์
ทรงส่งผ่านท่านมาให้พวกเรา
ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราจะเชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
ผู้ซึ่งเราได้ส่งท่านไปทูลขอ
เพื่อว่าเมื่อเราเชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งดีต่อพวกเรา”

เยเรมีย์ 41-2 แก้แค้นแทน…

เยเรมีย์ 41:11-18

แต่เมื่อโยฮานันลูกชายคาเรอาห์และเหล่าผู้บัญชาการกองทหารได้ยินเรื่องชั่วร้ายที่อิชมาเอล ลูกชายเนธานิยาห์ได้กระทำ
พกวเขาก็นำคนทั้งหมดมาเพื่อต่อสู้กับเขา
เขาทั้งหมดต่อสู้กันที่สระน้ำใหญ่ในเมืองกิเบโอน
และเมื่อประชาชนที่อยู่กับอิชมาเอลเห็นโยฮานันลูกชายคาเรอาห์พร้อมกับผู้บัญชาการกองทหารมากับเขาด้วย
พวกเขาต่างก็ดีใจยิ่งนัก
ดังนั้น ประชาชนทีถูกอิชมาเอลจับมาเป็นเชลยจึงหันกลับ
และวิ่งเข้ามาหาโยฮานันลูกชายคาเรอาห์

แต่อิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์หนีไปจากโยฮานันพร้อมกับชายอีก 8 คน  หนีไปหาชาวอัมโมนได้

จากนั้นโยฮานันลูกชายคาเรอาห์และผู้บัญชาการกองทหาร
จึงได้นำคนทั้งหลายที่ถูกจับไปตอนที่อิชมาเอลสังหารเกดาลิยาห์
คืนมาจากอิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์
ทั้งทหาร ผู้หญิง เด็ก และเหล่าขันทีกลับมาจากกิเบโอน

พวกเขาไปอยู่ที่เกรูธคิมฮัม ซึ่งอยู่ใกล่้เบธเลเฮม
ตั้งใจว่า จะหนีไปยังอียิปต์ หนีไปจากคนเคลเดีย

เพราะว่าเกดาลิยาห์ถูกอิชมาเอลสังหารคนที่กษัตริย์แห่งบาบิโลนตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการแผ่นดิน