เอเสเคียล 35-1 ต่อต้านเสอีร์

เอเสเคียล 35:1-9

พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าว่า
“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย… จงหันหน้าของเจ้าสู้ภูเขาเสอีร์
และกล่าวคำต่อต้านมัน
กล่าวว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
..ดูเถิด เราต่อสู้เจ้า… ภูเขาเสอีร์ และเราจะยื่นมือของเราออกสู้เจ้า
และเราจะทำให้เจ้ากลายเป็นที่ว่างเปล่า ถูกทิ้งร้างไป

เราจะทำให้เมืองของเจ้านั้นร้าง..
และเจ้าจะกลายเป็นที่เปลี่ยว
และเจ้าจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

เพราะเจ้ามีใจพยาบาทอยู่ไม่หยุดยั้ง
และมอบประชาชนอิสราเอลให้ตกอยู่ในเงื้อมมือของดาบ
ในเวลาที่พวกเขาพบภัยพิบัติ
ในเวลาของการลงโทษครั้งสุดท้ายของพวกเขา

lued

ดังนั้น  เรามีชีวิตอยู่ฉันใด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เราจะเตรียมเจ้าไว้เพื่อรับโทษที่เจ้าทำให้เกิดการหลั่งเลือด
เลือดจะติดตามเจ้าไป
เพราะเจ้าไม่รังเกียจการทำให้เกิดการหลั่งเลือด
ดังนั้น เลือดจะติดตามเจ้าไป
เราจะทำให้ภูเขาเสอีร์เป็นที่ร้าง และเป็นที่เปลี่ยว
เราจะตัดมันออกไปจากคนที่ไป ๆ มา ๆ

และเราจะเอาคนที่ถูกสังหารไปทิ้งไว้บนภูเขานั้น
คนที่ถูกดาบจะล้มลงบนเนินเขา ตามหุบเขา ตามลำน้ำทั้งสิ้นของเจ้า
เราจะทำให้เจ้ากลายเป็นที่ร้างเปล่าตลอดไป
เมืองของเจ้าจะไม่มีใครอาศัย
แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

 

เอเสเคียล 34-4 คำสัญญาสันติสุข

เอเสเคียล 34:25-31

เราจะทำพันธสัญญาแห่งสันติสุขกับพวกเขา
และจะไล่สัตว์ร้ายออกไปจากแผ่นดิน
เพื่อว่า พวกเขาจะได้อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยในถิ่นกันดาร
และสามารถนอนในป่าได้อย่างปลอดภัย
เราจะทำให้พวกเขาและสถานที่รอบ ๆ เนินเขาของเราเป็นพระพร

และเราจะส่งฝนลงมาตามฤดูของมัน  จะเป็นฝนแห่งพระพร
ต้นไม้ในทุ่งก็จะออกผลของมัน
แผ่นดินจะเกิดพืชพันธ์ต่างๆ และจะมีความปลอดภัยในแผ่นดินของเขา
และพวกเขาจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อเราทำลายแอกบนบ่าของพวกเขา

และจะกู้พวกเขาจากมือของคนที่จับเขาไปเป็นทาส
พวกเขาจะไม่เป็นเหยื่อของบรรดาประชาชาติต่อไป
สัตว์ร้ายบนแผ่นดินก็จะไม่เขมือบพวกเขาอีกต่อไป
พวกเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย
ไม่มีใครสักคนที่ต้องกลัว
เราจะให้พวกเขามือแผ่นดินทำการเกษตรเพื่อว่า
พวกเขาจะไม่ต้องหิวโหยอีกต่อไป
จะไม่ต้องถูกประชาชาติทั้งหลายดูหมิ่นเยาะเย้ยอีกต่อไป

ไร่มะม่วงทางเหนือของกาลิลี ถ่ายภาพโดย פואד מועדי  /http://commons.wikimedia.org/wiki/
ไร่มะม่วงทางเหนือของกาลิลี ถ่ายภาพโดย פואד מועדי /http://commons.wikimedia.org/wiki/

และพวกเขาจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงอยู่กับพวกเขา
และพวกเขา คือวงศ์วานอิสราเอลจะเป็นคนของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
และเจ้าจะเป็นคนเลี้ยงแกะของเรา
แกะที่เป็นมนุษย์บนผืนหญ้าของเรา
และเราคือพระเจ้าของเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 

เอเสเคียล 34-3 แกะกับแพะ

เอเสเคียล 34:17-24

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“สำหรับเจ้า  ฝูงสัตว์ของเรา  ดูเถิด เราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแพะ
ระหว่างแกะผู้และแพะผู้
ไม่พอหรือที่เจ้าได้กินหญ้าเขียวสด
แล้วเจ้าก็มาเหยียบย่ำทุ่งที่เหลือด้วยเท้าของเจ้า?
ไม่พอหรือที่เจ้าได้ดื่มน้ำใสสะอาด
แต่เล้วเจ้าก็ไปทำให้มันขุ่นด้วยเท้าของเจ้า?
แกะของเราจะต้องกินหญ้าที่พวกเจ้าเหยียบย่ำ
และต้องดื่มน้ำขุ่นด้วยเท้าของเจ้าอย่างนั้นหรือ?

Parable of Sheep and Goats

ดังนั้น  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับพวกเขาว่า
ดูเถิด.. เราเองจะเป็นผู้พิพากษาระหว่างแกะอ้วนและแกะผอม
เพราะเจ้าเอาไหล่ ข้างตัวของเจ้าไถแกะของเรา
เจ้าเอาเขาของเจ้าไล่แกะที่อ่อนแอ จนพวกมันต้องกระจัดกระจายไปทั่ว
เราจะช่วยกู้ฝูงแกะของเรา
พวกมันจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป

และเราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ
เราจะให้มีผู้เลี้ยงคนหนึ่ง คือ ดาวิดผู้รับใช้ของเรา

และเขาจะเลี้ยงพวกมัน และเป็นผู้เลี้ยงของพวกมัน
และเรา  องค์พระผู้เป็นเจ้า จะเป็นพระเจ้าของพวกมัน
ผู้รับใช้ของเราคือดาวิดจะเป็นเจ้าชายเหนือพวกมัน
เราเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า  ได้ตรัสไว้แล้ว”

เอเสเคียล 34-2 เราจะเลี้ยงดู

เอเสเคียล 34:11-16

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิด เราเองจะเป็นผู้ตามแกะเหล่านั้น

เราจะตามหาลูกแกะของเราดั่งคนเลี้ยงที่เฝ้าตามหาแกะที่กระจัดกระจายไป
และเราจะช่วยพวกมันจากที่ต่าง ๆ ที่มันต้องกระเจิดกระเจิงไปในวันที่มืดมิดเต็มด้วยเมฆ
และเราจะนำพวกเมันออกมาจากผู้คน
และรวบรวมพวกมันมาจากพื้นที่ต่าง ๆ
และเราจะนำพวกมันกลับไปยังแผ่นดินของมัน
และเราจะเลี้ยงมันบนภูเขาแห่งอิสราเอล
ริมลำธารน้ำ   ในแผ่นดินที่มีคนอาศัย
เราจะเลี้ยงพวกมันด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี
ที่ ๆ พวกมันจะเล็มหญ้าคือบนภูเขาสูงแห่งอิสราเอล
มันจะนอนลงในทุ่งที่อุดม
มันจะกินหญ้าเขียวขจีบนภูเขาสูงแห่งอิสราเอล

merino_sheep_grazing_source-wikimedia-commons
merino_sheep_grazing_source-wikimedia-commons

เราเองจะเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา และเราจะทำให้มันนอนลง
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เราจะตามหาตัวที่หลงหาย และเราจะนำตัวที่พลัดฝูงกลับมา
เราจะพันบาดแผลให้ตัวที่บาดเจ็บ
เราจะทำให้ตัวที่อ่อนแอเข้มแข็งขึ้น
ตัวที่อ้วนและแข็งแรงเราจะทำลายเสีย
เราจะเลี้ยงมันด้วยความยุติธรรม

 

เอเสเคียล 34-1 ต้านผู้เลี้ยงอิสราเอล

เอเสเคียล 34:1-6

คำขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าว่า

“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย   จงกล่าวคำต่อต้านผู้เลี้ยงของอิสราเอล
จงกล่าวแก่เหล่าคนเลี้ยงแกะ  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
อา… บรรดาคนเลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลที่คอยแต่เลี้ยงตัวเอง
เจ้าควรที่จะเลี้ยงแกะมิใช่หรือ?
เจ้ากินไขมัน  เจ้าสวมเสื้อขนแกะ
เจ้าได้ฆ่าแกะตัวอ้วน ๆ แต่ไม่เลี้ยงดูแกะเลย
ตัวที่อ่อนแอ เจ้าก็ไม่ช่วยให้แข็งแรงขึ้น
ตัวที่ป่วย  เจ้าก็ไม่รักษา
ตัวที่บาดเจ็บ เจ้าก็ไม่ได้พันแผลให้
ตัวที่เตร็ดเตร่ไป เจ้าก็ไม่นำกลับมา
ตัวที่หลงทางเจ้าก็ไม่ตามหา
เจ้าเลี้ยงมันด้วยความโหดร้าย ใจดำ
lost

ดังนั้นมันจึงกระจัดกระจายไป
เพราะว่าไม่มีผู้เลี้ยง
มันกลายเป็นอาหารของสัตว์ป่า
แกะของเรากระเจิดกระเจิงไป
มันเร่ร่อนไปตามเนินเขาและบนภูเขาสูง

ลูกแกะของเรากระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดินโลก
โดยไม่มีใครตามหา แสวงหาพวกมันเลย

เอเสเคียล 33-3 ฟังเท่านั้น

เอเสเคียล 33:23-33

พระวจนะของพระเจ้ามายังข้า
“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย คนที่อาศัยอยู่ในที่ร้างแห่งอิสราเอลมักพูดว่า
..อับราฮัมเป็นเพียงมนุษย์คนเดียว  แต่เขายังได้ครอบครองแผ่นดิน
เราซิ เป็นคนจำนวนมาก แผ่นดินนี้ก็ต้องมอบให้เราครอบครอง
ดังนั้น เจ้าจงกล่าวแก่พวกเขาว่า ..องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

เจ้าได้กินเนื้อพร้อมกับเลือด และยังเงยหน้ามองรูปเคารพและหลั่งเลือด
เจ้ายังสมควรที่จะได้ครอบครองแผ่นดินอีกหรือ?
เจ้าหวังพึ่งในดาบ เจ้าทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน
เจ้าแต่ละคนทำให้ภรรยาของเพื่อนบ้านเป็นมลทิน
เจ้ายังสมควรได้ครอบครองแผ่นดินหรือ?

จงกล่าวแก่พวกเขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
เพราะเรามีชีวิตอยู่  เหล่าคนที่อยู่ในที่ร้างเหล่านี้จะต้องล้มลงด้วยดาบ
และใครก็ตามที่อยู่ตามทุ่งโล่ง  จะเป็นอาหารของสัตว์ป่า
คนที่อยู่ตามป้อม หรือในถ้ำก็จะตายด้วยโรคระบาด
และเราจะทำให้แผ่นดินนี้ร้างเปล่า กลายเป็นที่ไร้ค่า
เพื่อว่าความยะโสที่เคยมีจะได้จบลงเสียที
ภูเขาทั้งหลายในอิสราเอลจะกลายเป็นที่ร้างซึ่งไม่มีใครเดินทางผ่านเข้ามา

แล้วพวกเขาจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อเราได้ทำให้แผ่นดินร้างเปล่า เป็นที่ไร้ค่า
ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาได้กระทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน

ezekiel

ส่วนเจ้า ลูกชายของมนุษย์  คนจะซุบซิบเรื่องเจ้าตามกำแพง ตามประตูบ้าน
พูดกับพี่น้องของเขาว่า “มา มาฟังคำที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า”
และพวกเขาจะมาหาเจ้า และนั่งต่อหน้าเจ้าเหมือนกับคนของเรา
พวกเขาจะฟังคำของเจ้า แต่จะไม่ทำตาม
เพราะพวกเขาจะกระทำสิ่งที่พวกเขาพูดตามราคะของพวกเขา
ใจของเขาคิดแต่จะได้

และดูเถิด เขามองเจ้าว่า เป็นเหมือนคนที่ร้องเพลงแห่งราคะด้วยเสียงไพเราะ
และเล่นดนตรีอย่างชำนาญ
เพราะพวกเขาจะได้ยินสิ่งที่เจ้าพูด แต่เขาจะไม่ทำตาม
และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น  มันจะเกิดขึ้นแน่
พวกเขาก็จะสำนึกได้ว่า มีผู้กล่าวคำของพระเจ้าเคยมาอยู่ท่ามกลางพวกเขา

เอเสเคียล 33-2 ทำไมเจ้าต้องมาตาย?

เอเสเคียล 33:10-20
“และเจ้า..ลูกชายของมนุษย์  จงกล่าวแก่วงศ์วานอิสราเอล
เจ้าได้กล่าวว่า .. แน่นอนที่การกล่วงละเมิดและความบาปของเราก็ตกอยู่กับเรา
และเราก็ถูกกัดกร่อนไปเพราะบาปเหล่านั้น
แล้วเราจะอยู่ได้อย่างไร?..
เจ้าจงกล่าวกับพวกเขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่า
เพราะเรามีชีวิตอยู่ เราไม่ได้มีความพอใจในความตายของคนชั่ว
แต่เราพอใจที่เขาจะหันจากทางแห่งความชั่วและมีชีวิต
จงหันกลับมา  หันกลับมาจากทางชั่วของเจ้า
ทำไมเจ้าจะต้องมาตายเล่า วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย?”

just

“และเจ้า ลูกชายของมนุษย์ จงกล่าว
ความชอบธรรมของคนชอบธรรมจะไม่ช่วยเขาเวลาเขาล่วงละเมิด
และความชั่วร้ายของคนชั่วนั้น
เขาจะไม่ล้มลงหากว่าเขาหันจากความชั่วร้ายของเขา
คนชอบธรรมไม่สามารถอยู่ได้ด้วยความชอบธรรมของเขา เมื่อเขาทำบาป

แม้ว่าเราจะกล่าวกับคนชอบธรรมว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้
แต่หากเขาเชื่อในความดีของเขา แล้วหันไปทำความอยุติธรรม
ก็จะไม่มีก่ีจดจำถึงความชอบธรรมของเขาเลย
แต่เขาจะต้องตายเพราะการอยุติธรรมของเขา

และเช่นกัน แม้ว่าเราจะกล่าวกับคนชั่วว่า “เจ้าต้องตายแน่”
แต่หากเขาหันจากความบาป และทำสิ่งที่ยุติธรรม ถูกต้อง
หากคนชั่วได้ชดใช้  และคืนสิ่งที่เขาได้ขโมยมา และเดินในทางที่ถูกต้อง
ไม่ทำการอยุติธรรม เขาก็จะมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ตาย
ความบาปที่เขาได้ทำจะไม่ถูกนำมาใช้ลงโทษเขา
เมื่อเขาได้ทำสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้อง เขาจะมีชีวิตอยู่

“แต่คนของเจ้ายังกล่าวว่า ..หนทางของพระเจ้าไม่ยุติธรรม
ในขณะที่ทางของพวกเขานั่นแหละที่ไม่ยุติธรรม

เมื่อคนชอบธรรมหันจากความชอบธรรมของเขาและกระทำการอยุติธรรม
เขาจะต้องตายเพราะมัน
และเมื่อคนชั่วหันจากความชั่วของเขา และกระทำสิ่งที่ชอบธรรม ถูกต้อง
เขาก็จะมีชีวิต
แต่เจ้าก็ยังกล่าวว่า ..ทางของพระเจ้าไม่ยุติธรรม
โอ วงศ์วานอิสราเอล เราจะพิพากษาเจ้าแต่ละคน ตามทางที่เจ้าเดิน

เอเสเคียล 33-1 ยามแห่งอิสราเอล

เอเสเคียล 33:1-9

พระดำรัสของพระเจ้ามายังข้า

“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย  จงกล่าวแก่คนของเจ้า กล่าวว่า
หากเรานำดาบมายังแผ่นดิน
และประชาชนในแผ่นดินนั้น นำชายคนหนึ่งมาจากท่ามกลางพวกเขา
และทำให้ชายคนนั้นเป็นยามแห่งแผ่นดิน
และหากเขาเห็นดาบกำลังมุ่งหน้ามายังแผ่นดิน
แล้วเขาก็เป่าแตร และเตือนประชาชน
ดังนั้น ใครที่ได้ยินเสียงเตือนของแตร
และไม่ได้สนใจคำเตือนนั้น
ดาบก็จะมาถึงและนำเขาออกไป
เลือดของเขาจะตกบนหัวของเขาเอง

shofar
เขาได้ยินเสียงของแตร แต่ไม่ได้สนใจคำเตือน
เลือดของเขาจะตกอยู่บนเขา
แต่หากเขาได้รับคำเตือน เขาก็จะช่วยชีวิตตนเองไว้ได้

แต่หากยามได้เห็นดาบมา
แล้วไม่ได้เป่าแตรเตือน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับการเตือน
ดาบก็มา และสังหารพวกเขาทุกคน
คนนั้นจะถูกนำออกไปด้วยความบาปผิดของเขา
แต่เลือดนั้นเราจะมาทวงเอาจากมือของยามเฝ้าแผ่นดิน

ดังนั้น  ลูกชายของมนุษย์
เราได้ทำให้เจ้าเป็นยามแห่งวงศ์วานอิสราเอล
เมื่อใดที่เจ้าได้ยเนเสียงจากปากของเรา
เจ้าก็จะให้คำเตือนสติจากเรา

หากเรากล่าวแก่คนชั่วว่า โอคนชั่วร้าย เจ้าจะต้องตายแน่นอน
แล้วเจ้าไม่เตือนให้พวกเขาหันจากทางชั่วนั้น
เขาคนนั้น ก็จะตายเพราะความบาปของตน
แต่เลือดของเขาเราจะมาทวงเอาจากมือของเจ้า

แต่หากเจ้าได้เตือนให้คนชั่วหันจากทางของเขา
และเขาไม่ได้หันจากทางนั้น
เขาจะต้องตายในความบาปของเขา
แต่เจ้าจะได้ทำให้ตนเองรอด

 

เอเสเคียล 32-4 สภาพของผู้แพ้

เอเสเคียล 32:24-32

เอลามก็อยู่นั่น รวมทั้งมวลชนทั้งหมดอยู่รอบ ๆ หลุมฝังศพของเขา
ทุกคนถูกสังหารด้วยดาบ พวกเขาลงไปในโลกเบื้องล่าง

ไปอยู่กับคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต คนที่ทำให้แผ่นดินคนเป็นต้องหวาดหวั่น
และพวกเขาต้องแบกรับความอายพร้อมกับคนที่ลงไปในหลุมนั้น

พวกเขาทำให้เธอนอนลงท่ามกลางคนที่ถูกสังหาร และมวลชนทั้งหลาย
พวกเขาอยู่รอบ ๆ มีหลุมศพอยู่รอบ ๆ   เหล่าคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัตและถูกสังหารด้วยดาบ
ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาทำให้แผ่นดินของคนเป็นต้องหวาดหวั่น
พวกเขาถูกกำหนดให้อยู่กับพวกที่ถูกสังหาร

เมเชลกับทูบัลก็อยู่ที่นั่น พร้อมกับมวลชนของเขา
หลุมศพอยู่รอบ ๆ พวกเขา  ทุกคนไม่ได้เข้าสุหนัต
และถูกสังหารด้วยดาบ
พวกเขาสร้างความหวาดกลัวให้แก่แผ่นดินของคนเป็น

พวกเขาไม่ได้นอนอยู่กับคนที่ทรงพลัง
คือคนที่ล้มลงท่ามกลางคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต
เขาลงไปในแดนคนตายพร้อมกับอาวุธสงครามของพวกเขา
ดาบนั้นถูกวางไว้ใต้หัวของพวกเขา
และความบาปผิดก็อยู่ในกระดูกของพวกเขา
เพราะว่าแผ่นดินของคนเป็นต่างหวาดกลัวคนทรงพลังเหล่านี้

แต่สำหรับเจ้า เจ้าจะแตกหักและนอนท่ามกลางคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต
พร้อมกับคนที่ถูกสังหารด้วยดาบ

 

เอโดมอยู่ตรงนี้ พร้อมกับราชาและเจ้าชายทั้งหลาย
พวกเขาก็ถูกวางไว้กับคนที่ถูกสังหารด้วยดาบ แม้ว่าจะมีอำนาจมาก
พวกเขานอนกับคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต กับคนที่ลงไปในหลุมลึก

เจ้าชายทางเหนืออยู่ที่นั่น  ทุกพระองค์
รวมทั้งคนไซดอนที่ลงไปด้วยความอับอายพร้อมกับคนที่ถูกสังหาร
เพราะความหวาดหวั่นที่พวกเขาทำให้เกิดขึ้นเพราะความเก่งกาจของพวกเขา

พวกเขานอนลงไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าสุหนัต
พร้อมกับคนที่ถูกสังหารด้วยดาบ และต้องมารับความอาย
พร้อมกับคนที่ลงไปในหลุมนั้น
เมื่อฟาโรห์เห็นเขาเหล่านั้น  เขาจะได้รับคำปลอบใจจากมวลชนของเขา
ฟาโรห์พร้อมกับกองทัพหลวง ถูกสังหารด้วยดาบ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

fire-flames-yellow-orangeเพราะเราได้หว่านความกลัวลงไปในแผ่นดินของคนเป็น
และเขาจะถูกวางไว้ท่ามกลางคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต
คนที่ถูกสังหารด้วยดาบ
ทั้งฟาโรห์และประชากรของเขา …
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เอเสเคียล 32-3 อาลัยอียิปต์

เอเสเคียล 32:17-22

ในปีที่สิบสอง เดือนที่สิบสอง วันที่สิบห้า
พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าว่า
“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย จงร้องคร่ำครวญเพื่อมวลชนมากมายของอียิปต์
จงส่งพวกเขาลงไป ทั้งตัวเขาและลูกสาวของประชาชาติที่สง่างาม
ส่งพวกเขาลงไปยังโลกเบื้องล่าง
ไปอยู่กับคนที่ได้ลงไปก่อนหน้านั้น

..เจ้าสวยงามกว่าใครหรือ?
จงลงไปนอนพักกับคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต..
พวกเขาจะตกลงไปอยู่กับคนที่ถูกสังหารด้วยดาบ
อียิปต์จะถูกส่งไปให้ดาบ จะถูกลากไปพร้อมกับมวลชนอียิปต์
หัวหน้าผู้ที่ทรงพลังพร้อมกับผู้ช่วยของเขาจะพูดถึงอียิปต์
จากที่ลึกของแดนคนตายว่า
..พวกเขามาแล้ว พวกเขานิ่งอยู่ เหล่าคนที่ไม่เข้าสุหนัต ถูกสังหารด้วยดาบ..
images

“อัสซีเรียอยู่ที่นั่น พร้อมกับพวกของเขา หลุมศพของเขาก็อยู่รอบ ๆ
ทุกคนถูกสังหาร ล้มลงด้วยดาบ
หลุมศพของเขาอยู่ที่ไกลมากในหลุมนั้น
คนของพวกเขาก็อยู่รอบ ๆ หลุมศพของเขา
ทุกคนถูกสังหาร ล้มลงด้วยดาบ
คนเหล่านี้เคยทำให้แผ่นดินของคนเป็นต้องหวาดกลัว