ศึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ๒๘-๕

2 พงศาวดาร 28:16-21
ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์กวาดเชลยไปสะมาเรีย  แล้วนำกลับมายังเมืองเยรีโคนั้นเอง  ราชาอาหัส ก็ได้ส่งสาส์นขอความช่วยเหลือไปยังราชาแห่งอัสซีเรีย

ไม่แต่อิสราเอลมาโจมตีจากทางเหนือเท่านั้น  แต่ยังมีชาวเอโดมทางใต้เข้ามาบุกและชนะศึก  กวาดคนยูดาห์ไปด้วยมากมาย

ส่วนทางตะวันตกเฉียงใต้   นักรบตัวใหญ่ผู้กล้าจากฟิลิสเตียก็จู่โจมเข้ามาใกล้เคียงกัน ไม่มีทางที่ยูดาห์จะเงยหน้าอ้าปากได้เลย

ฟิลิสเตียปล้นหัวเมืองเชเฟลาห์  เบธเชเมธ  อัยยาโลน  เกเกโรธ  โสโค และเมืองเล็ก ๆ รอบ ๆ    มิหนำซ้ำ ยังพาคนของพวกเขาเข้ามาตั้งถิ่นฐานแทรกไปกับชาวเมืองด้วย  …. ขืนเป็นอย่างนี้นาน ๆ ไป จะไม่มีคนยูดาห์เหลือ เพราะพวกเขาจะต้องพยายามเปลี่ยนเชื้อชาติด้วยการบังคับการแต่งงานระหว่างสองชนชาติ

ยูดาห์โดนโจมตีรอบด้าน

ทำไมจึงเป็นเช่นนี้?

พระเจ้าทรงกระทำให้ยูดาห์ตกต่ำสุด ๆ เพราะว่า ตัวพระราชาเองนั่นแหละ   ราชาอาหัสได้ทำผิดต่อพระเจ้าอย่างร้ายแรง… และไม่ได้คิดแม้จะปรับเปลี่ยนพระองค์เพื่อความอยู่รอดของชาติ….  ราชาอาหัสนำให้ประชาชนจำนวนมากมายร่าเริงไปกับการกราบไหว้เทวรูป   พาพวกเขาไปนมัสการสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า แต่ยกย่องมันเป็นพระ

ราชาอาหัสไม่ได้หันมาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า  ไม่กลับใจ  แต่ ทรงซ้ำเติมชนชาติยูดาห์ด้วยการไปขอความช่วยเหลือจากราชาอัสซีเรียผู้อหังการ!

ราชาอาหัสขนของในพระวิหารของพระเจ้า ทั้งเงิน ทอง และโลหะต่าง ๆ รวมทั้งอัญมณีที่มีค่า ไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่ทิกลัสปิเลเสอร์….ซึ่งเป็นราชาแห่งอัสซีเรีย

เมื่อได้ของบรรณาการ แทนที่จะมาช่วยราชาอาหัส

กลับโจมตีทั้งอิสราเอลทางเหนืออย่างย่อยยับ (ประมาณ 722 ปีก่อนคริสตศักราช)   และรุกรานยูดาห์ซ้ำเติมเข้าไปอีก…  คราวนี้ยูดาห์แทบสิ้นชาติ  สิ้นเนื้อประดาตัว

ประชาชนรู้สึกโกรธแค้นพระราชา  และศัตรูยิ่งนัก  แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้  จำต้องรับเคราะห์กรรมจากสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   แล้วจะทำอย่างไรต่อไปกันดี ??

 

ราชาอาหัสครองประมาณ    735-719   ปี ก่อนคริสตศักราช