อิสยาห์ 45-4

อิสยาห์ 45:20-25

จงรวบรวมกันเข้ามา  เข้ามาใกล้ ๆ พร้อมกัน เจ้าคนที่ยังหลงเหลืออยู่ตามประชาชาติต่าง ๆ!

เจ้าไม่รู้เลยนะ  เจ้าคนที่แบกรูปเคารพไม้ และเฝ้าอธิษฐานต่อเทพที่ไม่อาจจะช่วยเจ้าได้
จงประกาศและแจ้งคดีของเจ้า  ปล่อยให้มันปรึกษากันไป

ใครล่ะ ที่บอกเรื่องนี้มานานแล้ว?
ใครล่ะ ที่ประกาศเรื่องนี้มาตั้งแต่อดีต?

ไม่ใช่เรา…องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ได้บอกกับเจ้าหรอกหรือ?เราคือพระเจ้าผู้ทรงธรรม และเป็นพระผู้ช่วยให้รอด

โลกทั้งโลกเอ๋ย  จงหันมาหาเราและรับความรอดพ้น
เพราะเราคือพระเจ้า และไม่มีอื่นใดนอกเหนือจากเรา
เราได้สัญญาไว้แล้ว   คำสัญญาด้วยความเที่ยงธรรมออกจากปากของเรา มันจะเกิดขึ้น  เราจะไม่กลับคืนคำของเรา

 

prayer

“ทุกเข่าจะคุกลงกราบต่อเรา  ทุกลิ้นจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช่แล้ว … พระเจ้าเท่านั้น ทรงธรรมและทรงทรงพลัง”
และคนที่โมโหร้ายใส่พระองค์นั้น จะถูกนำมาต่อพระพักตร์ของพระองค์ จะต้องอับอายเพราะความไม่เชื่อของเขา
และเหล่าลูกหลานของอิสราเอลนั้นจะได้รับการประกาศว่า พวกเขาเป็นคนชอบธรรมในพระเจ้า และเขาจะได้รับเกียรติศักดิ์ศรีในพระองค์

อิสยาห์ 45-3

อิสยาห์ 45:14-19

พระเจ้าตรัสว่า

“ทั้งความมั่งคั่งของอียิปต์ และสินค้าต่าง ๆ ของเอธิโอเปีย รวมทั้งเสบา ซึ่งเป็นคนแกล้วกล้าร่างใหญ่ จะมาหาเจ้าและกลายเป็นของเจ้า

เป็นของเจ้าทั้งหมด  พวกเขาจะตามเจ้า มือถูกล่ามโซ่ และคุกเข่าให้กับเจ้า   พวกเขาจะอ้อนวอนเจ้ากล่าวว่า
“แน่นอนเลย… พระเจ้าทรงอยู่ในท่าน  และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือไปจากพระองค์”

Cyrus-II-le-Grand-et-les-Hébreux-par-Jean-Fouquet2

ผู้คนก้มกราบไซรัสมหาราช ภาพวาดโดย jean Fouguet (1420-1481)

 

ความจริงคือ  พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่ซ่อนพระองค์เองไว้ โอ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
ทุกคนจะต้องอับอาย และไม่อาจจะเสนอหน้าออกมาได้  คนที่สร้างรูปเคารพก็จะกลับเป็นสับสน  ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
แต่อิสราเอลได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า ด้วยความรอดพ้นนิรันดร์     เจ้าจะไม่ต้องอับอาย หรือสะเปะสปะ สับสนตลอดนิรันดร์

เพราะพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้า ผู้สร้างแผ่นดินและก่อร่างรูปทรงของมันขึ้นมา
พระองค์ทรงไม่ปล่อยให้มันอยู่อย่างว่างเปล่า พระองค์ทรงสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

“เราคือพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา  เราไม่ได้พูดในที่ลึกลับ ในดินแดนแห่งความมืด
เราไม่ได้กล่าวกับลูกหลานของยาโคบว่า … จงแสวงหาเราอย่างไร้ผล”   เราคือพระเจ้า ตรัสความจริง เราประกาศสิ่งที่ถูกต้อง

อิสยาห์ 45-2

อิสยาห์ 45:8-13

ฟ้าเอ๋ย  จงให้เมฆเทฝนแห่งความชอบธรรมลงมาเถิด
ผืนดินแห่งโลกก็จงเปิดออก เพื่อว่าทั้งความรอดและความชอบธรรมจะเกิดผล
แผ่นดินจงปล่อยให้ทั้งสองงอกงาม เราผู้เป็นพระเจ้าได้สร้างเหล่านี้ขึ้น

is45fafon

วิบัติแก่คนที่พยายามต่อสู้พระองค์ผู้สร้างเขามา  เป็นเหมือนหม้อดินท่ามกลางเหล่าหม้อดินทั้งหลาย!
ดินเหนียวจะกล่าวกับคนที่ปั้นมันขึ้นมาว่า “ท่านกำลังทำอะไร?” อย่างนั้นหรือ?
หรือมันจะกล่าวว่า “งานปั้นของท่านไม่มีหูจับ”  อย่างนั้นหรือ?

วิบัติแก่คนที่พูดกับบิดาว่า  “ท่านทำให้ใครเกิดใครมานี่?”  หรือพูดกับสตรีว่า “ท่านคลอดอะไรออกมานี่?”

ดังนั้น องค์พระเจ้า  พระเจ้าผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ผู้ทรงสร้างเขาตรัสว่า
“จงถามถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต.. เจ้าจะสั่งเราเรื่องลูกหลานและผลงานจากมือของเราหรือ?
เราสร้างแผ่นดินโลก และสร้างมนุษย์ขึ้นมาบนนั้น

มือของเราขึงฟ้าสวรรค์ และบัญชาเหล่าดวงดาวบริวารทั้งหลายขึ้นมา
เราได้เร้าเขาในทางแห่งความชอบธรรม และจะทำทางทั้งสิ้นให้ราบเรียบ
เขาจะสร้างเมืองของเรา และทำให้เชลยของเราเป็นอิสระ ไม่ใช่เพื่อเงินหรือรางวัล”
พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้

อิสยาห์ 45-2

อิสยาห์ 45-1

อิสยาห์ 45:1-7

พระดำรัสของพระเจ้ามายังราชาไซรัส ผู้ซึ่งพระองค์เองทรงเจิมไว้  ผู้ที่พระองค์ทรงจับแขนขวาไว้
เพื่อว่าราชาไซรัสจะสยบประชาชาติทั้งหลายที่อยู่ต่อหน้า
และจะทำให้กษัตริย์ทั้งหลายหวาดหวั่น
เพื่อเปิดประตูไว้ ไม่มีการปิดประตูเมืองอีก

ไซรัสมหาราช
ไซรัสมหาราช

“เราจะนำหน้าเจ้า และทำให้ที่สูงทั้งหลายลดต่ำลง เราจะทำลายประตูทองสัมฤทธิ์ และตัดดาลเหล็กออกเสีย
เราจะให้ทรัพย์แห่งความมืดแก่เจ้า ให้สมบัติที่สะสมในที่ลึกลับแก่เจ้า
เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่า เรานี่แหละ องค์พระพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ที่ได้เรียกชื่อของเจ้า
เพื่อเห็นแก่คนรับใช้ของเราคือ ยาโคบ และอิสราเอลผู้ที่เราเลือกไว้
เราเรียกชื่อของเจ้า เราตั้งชื่อให้เจ้า ทั้งๆที่เจ้าไม่รู้จักเรา

เราคือพระเจ้า และไม่มีผู้ใดเป็นพระเจ้านอกจากเราเท่านั้น เราได้เตรียมเจ้าไว้ ทั้งๆที่เจ้าไม่รู้จักเรา

เพื่อคนทั้งหลายจะได้รู้ว่า จากที่ตะวันขึ้นจนกระทั่งตกนั้น หามีผู้ใดเหมือนเราไม่

เราเป็นผู้สร้างความสว่าง และสร้างความมืด  เราให้สวัสดิภาพและความพินาศยับเยิน

เราคือพระเจ้าผู้ทรงทำทุกสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น”

อิสยาห์ 44-5

อิสยาห์ 44:21-28

พระเจ้าทรงไถ่อิสราเอล

จงจำสิ่งเหล่านี้ไว้นะ ทั้งยาโคบและอิสราเอล  เพราะว่าเจ้าเป็นคนรับใช้ของเรา

เราสร้างเจ้ามา เจ้าเป็นคนรับใช้ของเรา โอ อิสราเอล  เราจะไม่ลืมเจ้า
เราได้ลบการประพฤติผิดของเจ้าออกไปเหมือนอย่างเมฆ

เอาบาปของเจ้าออกไปเหมือนอย่างหมอก

จงกลับมาหาเรา เพราะเราได้ไถ่เจ้า

ฟ้าสวรรค์เอ๋ย  จงร้องเพลง เพราะพระเจ้าได้ทรงทำสิ่งนี้
ที่ลึกของแผ่นดิน.. 
ภูเขาทั้งหลาย … ป่าไม้ทั้งสิ้น และต้นไม้ทุกต้นในป่านั้น  จงตะโกนเสียงดังออกมาให้เป็นเพลง!  
เพราะพระเจ้าทรงไถ่ยาโคบ และพระเจ้าจะได้รับพระสิริในอิสราเอล

is44Forest

พระผู้ไถ่ของเจ้า ผู้สร้างเจ้าตั้งแต่จากครรภ์มารดา  พระองค์ตรัสว่า

“เราคือพระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่ง  เราผู้เดียวที่ขึงขยายฟ้าสวรรค์ออกไป  และขึงขยายแผ่นดินโลกด้วยตัวของเราเอง

เราทำให้คนทำวิทยาคมต้องอับอาย และทำให้ปราชญ์กลายเป็นคนโง่เขลา

เราย้ำคำของผู้รับใช้ของเรา และทำให้สิ่งที่ผู้สื่อสารของเรากล่าวนั้น เกิดขึ้นจริง

เรากล่าวเกี่ยวกับเยรูซาเล็มว่า … เยรูซาเล็มจะมีคนอยู่

กล่าวถึงแผ่นดินยูดาห์ว่า ..จะถูกสร้างขึ้นมา เราจะทำให้ซากปรักหักพังกลายเป็นเมือง

เราบอกที่ลึกว่า จงแห้ง และน้ำในแม่น้ำก็แห้งเหือดไป

เราแจ้งแก่ไซรัสรับรู้ว่า เขาเป็นคนเลี้ยงแกะของเรา และเขาจะทำให้ความประสงค์ของเราสำเร็จทั้งหมด

กล่าวแก่เยรูซาเล็มว่า  “เจ้าจะถูกสร้างขึ้นมา”

เรากล่าวแก่วิหารว่า “จะมีการวางรากฐานของเจ้า”

อิสยาห์ 44-4

อิสยาห์ 44:15-20

แล้วไม้เหล่านั้นก็กลายมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับมนุษย์  เขาเอาบางส่วนมา จุดไฟให้ความอบอุ่น  เอาไว้ปิ้ง อบขนมปัง  บางส่วนก็เอาไปสร้างเป็นเทวรูปและกราบไหว้มัน  เขาทำมันออกมาเป็นรูปเคารพและคุกเข่าต่อหน้ามัน

ครึ่งหนึ่งเขาเอามาจุดไฟให้อุ่น อีกครั้งเขาเอาไปย่างเนื้อ เป็นที่พออกพอใจของเขา   ยิ่งกว่านั้นเขาผิงไฟ และกล่าวว่า “เออ.. ข้าอุ่นดี  ข้าได้เห็นไฟแล้ว!”

maifire 14

ที่ยังเหลืออยู่อีก ก็เอามาออกแบบเป็นรูปเคารพของเขา ก้มกราบไหว้บูชามันและอธิษฐานต่อมัน “ขอโปรดช่วยข้าด้วย เพราะว่า ท่านเป็นพระของข้า”
เขาไม่รู้เลย หรือว่าเขาไม่สังเกต … เขาปิดตาตัวเอง เพื่อว่าจะได้ไม่ต้องเห็นความจริง  เขาปิดใจของเขา เพื่อจะไม่ต้องเข้าใจอะไรเลย

ไม่มีใครพิจารณาดู หรือมีความรู้ความเข้าใจที่จะกล่าวว่า “ครึ่งหนึ่งข้าเผาไป และยังอบขนมปังจากถ่านไม้นั้น  ข้าย่างเนื้อและกินเข้าไป และข้าจะทำให้ทั้งหมดที่เหลือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจรึ?  ข้าจะก้มกราบท่อนไม้หรือ?”

เขายังมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความว่างเปล่า ใจของเขาลวงล่อให้เขาหลงไป  ไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง เขาไม่สามารถมองไม้ที่มือของตัวเองและกล่าวว่า “นี่มันของโกหกไม่ใช่หรือ?”

อิสยาห์ 44-3

อิสยาห์ 44:9-14

คนที่ทำรูปเคารพขึ้นมานั้น ก็กลายเป็นศูนย์เปล่า และสิ่งที่เขาชื่นชมก็หาได้ให้กำไรกับเขาไม่

คนเป็นพยานให้นั้นก็ไม่รู้ไม่เห็นว่า พวกเขาจะต้องตกอยู่ในความอับอาย
คนที่สร้างพระหรือหล่อรูปปั้นขึ้นมาที่ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรนั้น คือใคร?
ดูเถิด  เพื่อน ๆ ของเขาทุกคนจะต้องอับอาย และช่างปั้นก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

ให้เขามาประชุมรวมกัน และยืนอยู่  พวกเขาจะตกใจกลัว และจะต้องอับอายไปพร้อม ๆ กัน
คนที่เป็นช่างเหล็กได้เอาเครื่องมือมา ทำอยู่ข้างหน้าถ่านหินร้อน เขาทุบมันด้วยค้อน แขนของเขาแข็งแรง

ภาพจากหนังสือการเดินทางไปอินเดียและจีน ของนักสำรวจชาวฝรั่งเศส ชื่อ Pierre Sonnerat
ภาพจากหนังสือการเดินทางไปอินเดียและจีน ของนักสำรวจชาวฝรั่งเศส ชื่อ Pierre Sonnerat

 

ไม่นานก็หิว และแรงก็หมด เขาไม่ได้ดื่มน้ำจึงเป็นลมไป
คนที่เป็นช่างไม้ก็เขียนเส้น  เอาดินสอมาทำรอยไว้  เขาเอาสิ่วเจาะ และใช้วงเวียน

ในที่สุดรูปก็ออกมาเป็นเหมือนรูปร่างมนุษย์  มีความงามอย่างคน เพื่อเอาไปวางไว้ในบ้าน
เขาตัดต้นสีดาร์ หรือบางทีก็ไปเลือกไม้สนไซเปรส หรือต้นโอ๊ค

ปล่อยให้มันเติบโตแข็งแรง เขาปลูกต้นสีดาร์ และฝนก็ให้อาหารแก่มัน

อิสยาห์ 44-2

อิสยาห์ 44:6-8

ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกเหนือไปจากเรา
ดังนั้น พระเจ้าตรัส  พระองค์ผู้ทรงเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล  และเป็นผู้ไถ่ของเขา  พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
“เราเป็นต้น และเป็นปลาย นอกจากเราแล้ว…ไม่มีพระเจ้าอื่น

niran

มีใครเป็นเหมือนเราบ้างล่ะ?  ให้เขาประกาศออกมาได้เลย  ให้เขาประกาศออกมาและวางไว้หน้าเรา
ตั้งแต่ที่เราได้แต่งตั้งคนโบราณ ให้เขาบอกสิ่งที่จะมาในอนาคต  ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
อย่ากลัว อย่าตกใจไป  เราไม่ได้บอกเจ้ามาตั้งแต่อดีต เราไม่ได้ประกาศหรอกหรือ?
และเจ้าก็เป็นพยานของเรา   มีพระเจ้าอื่นนอกเหนือจากเราหรือ?
ไม่มีศิลาอื่น

เราไม่เคยรู้จักสักหนึ่งเดียว

อิสยาห์ 44-1

อิสยาห์ 44:1-5

อิสราเอล คนที่พระเจ้าทรงเลือกไว้

เวลานี้ ขอให้ฟังเรา โอ ยาโคบ คนรับใช้ของเรา อิสราเอล คนที่เราเลือก
พระเจ้าตรัสดังนั้น

พระองค์ผู้ทรงสร้างเจ้า  ผู้ได้ให้รูปร่างแก่เจ้าตั้งแต่ที่อยู่ในครรภ์มารดา

ในท้องแม่... พระเจ้าทรงสร้างเรา
ในท้องแม่… พระเจ้าทรงสร้างเรา

และเราจะช่วยเจ้า  อย่ากลัวไปเลย  โอ ยาโคบ คนรับใช้ของเรา

เยชูรุน* ผู้ซึ่งเราได้เลือกไว้

เพราะเราจะเทวิญญาณของเราให้กับลูกหลานของเจ้า และเทพรให้แก่เหล่าวงศ์วานของเจ้า

พวกเขาจะเกิดขึ้นท่ามกลางต้นหญ้า เหมือนกับต้นหลิวที่อยู่ริมน้ำที่กำลังไหล…

คนนี้จะกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นของของพระเจ้า”

อีกคนจะร้องเรียกชื่อตัวเองด้วยนามของยาโคบ

และคนอื่น ๆ จะเขียนบนมือของเขาว่า “เป็นของพระเจ้า”

และเรียกชื่อสกุลของตนเองเป็นชื่อของอิสราเอล

เยชูรุน แปลว่า คนที่เที่ยงตรง

19 เมษายน 2013

ดังนั้น พระเจ้าจะประทานหมายสำคัญให้ท่าน!

คือหญิงสาวพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชาย 

และเขาจะเรียกนามบุตรชายนั้นว่า อิมมานูเอล 

ถอดความจาก อิสยาห์ 7:14

 

Daily2013_4_19

 

 

อิสยาห์ได้ทูลบอกราชาอาหัสว่า  จะถามอะไรก็ถามมา  จะขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าก็ได้เลย

แต่ราชาอาหัส ทรงต้องการทำตามใจของพระองค์เอง

ไม่สนใจที่จะฟังพระคำของพระเจ้า อ้างอย่างนั้นอย่างนี้

พระเจ้าจึงทรงให้อิสยาห์บอกสิ่งสำคัญแก่พระราชา

อิสยาห์กล่าวถึงการมาบังเกิดของบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นเชื้อสายของราชาอาหัสด้วย

แต่ผู้นั้นจะเกิดอย่างมหัศจรรย์ คือเกิดจากหญิงสาวพรหมจารี!

….ท่านอิสยาห์เอง คงไม่ทราบว่า เป็นเมื่อไร

แต่หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้วประมาณ  600 ปี

พระเจ้าได้ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาบังเิกิดจากหญิงพรหมจารีจริง ๆ

ถ้าท่านอิสยาห์ไม่ได้บันทึกเอาไว้ล่วงหน้า  เราก็จะไม่รู้เรื่องนี้เลย

ดีจริง…ที่ท่านได้บันทึกเอาไว้  

ดีใจ .. ที่พระเจ้าทรงดลใจให้อิสยาห์บันทึกอะไรที่สำคัญ ๆ ไว้มากมาย

 

อิสยาห์ 43-4

อิสยาห์ 43: 22-28

แต่เจ้าก็ยังไม่เรียกร้องหาเรา โอ ยาโคบ
เจ้ากลับเบื่อหน่ายเรา โอ อิสราเอล
เจ้าไม่นำแกะมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชา หรือถวายเกียรติเราด้วยเครื่องบูชาของเจ้า
เราไม่ได้ทำให้เจ้าต้องเป็นภาระด้วยเครื่องบูชา  ไม่ได้ขอให้เจ้ามาเหนื่อยเพราะเครื่องหอมถวาย…

เจ้าไม่ได้นำอ้อยหวานมาพร้อมกับเงิน หรือทำให้เราพอใจกับไขมันจากเครื่องบูชาของเจ้า
แต่เจ้ากลับทำให้เราเหนื่อยใจเพราะบาปของเจ้า  ทำให้เราเหนื่อยหน่ายกับการล่วงละเมิดของเจ้า

“เรา เราเป็นพระเจ้าองค์นั้นที่นำเอาบาปของเจ้าออกไปเพื่อเห็นแก่เราเอง   และเราจะไม่จดจำบาปของเจ้าอีกต่อไป

ภาพพิมพ์จากศตวรรษที่ 17  การเป็นเชลยที่บาบิโลน  P. Van Somer british museum
ภาพพิมพ์จากศตวรรษที่ 17 การเป็นเชลยที่บาบิโลน
P. Van Somer british museum

จำไว้… ให้เรามาตอบโต้กัน  และให้การในคดีของเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะพิสูจน์ความถูกต้องของเจ้า
พ่อคนแรกของเจ้านั้นทำบาป  และตัวกลางของเจ้ากับเราก็ยังทรยศต่อเราอีก
ดังนั้น เราจะถอดผู้นำแห่งพระวิหารออกไป

และทำให้ยาโคบเจอกับการถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ยับเยินไม่เหลืออะไร  และอิสราเอลเองจะเจอกับการกล่าวร้ายไม่จบสิ้น

อิสยาห์ 43-3

อิสยาห์ 43:14-21

พระเจ้าผู้ทรงไถ่เจ้า พระองค์ผู้ทรงบริสุทธิ์แห่งอิสราเอลตรัสว่า “เราได้ส่งเจ้าไปยังบาบิโลนเพื่อเห็นแก่เจ้าเอง และได้นำพวกเขามาเป็นผู้ลี้ภัย พวกนั้นก็คือชาวบาบิโลนเองที่เคยโห่ร้องยินดีอยู่ในกำปั่น”
เราคือพระเจ้า องค์บริสุทธิ์ของเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างอิสราเอล กษัตริย์ของเจ้า
ดังนั้น พระเจ้าตรัส พระเจ้าผู้ทรงสร้างทางในทะเล หนทางทะลุคลื่นทะเลที่พัดกล้า
พระเจ้าผู้ทรงนำรถรบและม้าศึก  กองทัพและนักรบ ต้องล้มลงนอนราบตายหมู่ และไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก  พวกเขาสูญสิ้นไป ดับไปง่าย ๆ เหมือนกับไฟจากเทียน

ภาพวาดโดย Frederick Arthur Bridgman (November 10, 1847 – January 13, 1928)
ภาพวาดโดย Frederick Arthur Bridgman (November 10, 1847 – January 13, 1928)

“ไม่ต้องจำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ไม่ต้องพิจาราณาสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อันยาวนาน…  ดูเถิด เราจะทำสิ่งใหม่  มันกำลังจะเกิดขึ้นมา เจ้ามองไม่เห็นเลยหรือ? เราจะสร้างทางในถิ่นกันดาร และ แม่น้ำในทะเลทราย
สัตว์ป่าจะยกย่องเรา  ทั้งหมาไนและนกกระจอกเทศ เพราะเราให้น้ำกับถิ่นกันดารแห้งผาก  ให้แม่น้ำในทะเลทราย เพื่อให้คนที่เราเลือกไว้ได้ดื่ม…  คนที่เราได้สร้างขึ้นมาเพื่อเราเอง เพื่อเขาจะประกาศสรรเสริญนามของเรา…

อิสยาห์ 43-2

อิสยาห์ 43:8-13
พระเจ้ายืนยันพระองค์เอง ผู้ซึ่งเป็นมาตั้งแต่อดีต และจะทรงดำรงต่อไปเป็นนิตย์

จงนำคนที่ยังมีตา แต่ตาบอดออกมา นำคนที่มีหู แต่หูหนวกออกมาจากประชาชาติทั้งหลาย
นำคนทั้งหลายทุกชาติออกมาอยู่รวมกัน ให้พวกเขาประชุมพร้อมกัน ใครบ้างในพวกเขาที่สามารถบอกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาให้คนอื่นรับรู้ได้?
ให้พวกเขาเอาพยานมาพิสูจน์ว่า เขาถูกต้อง และให้พวกเขาได้ยินและกล่าวว่า มันเป็นความจริง
“เจ้าเป็นพยานของเรา” พระเจ้าตรัส

ภาพจาก http://shortonwords.blogspot.com/โดยคุณ Susan Keller
ภาพจาก http://shortonwords.blogspot.com/โดยคุณ Susan Keller

“เจ้าเป็นคนรับใช้ที่เราได้เลือกไว้ เพื่อว่าเจ้าจะรู้จักและวางใจในเรา และเข้าใจว่า เราเป็นซึ่งเราเป็น
ก่อนเราไม่มีพระเจ้าอื่น และก็จะไม่มีพระอื่นใดตามเรามา เรา เราคือพระเจ้า
นอกเหนือจากเราไม่มีพระเจ้าผู้ช่วยให้รอด
เราพูดไว้ และช่วยให้รอดพ้น และเล่าให้เจ้าฟัง
ในขณะที่ไม่มีพระแปลกๆ ท่ามกลางเจ้า และเจ้าเองก็เป็นพยานฝ่ายเรา” พระเจ้าตรัสดังนี้
“และเราเองคือพระเจ้าแต่ไหนแต่ไรมา
และต่อไปเราก็ยังเป็นพระองค์นั้นอยู่
ไม่มีใครที่จะเอาใครไปจากมือของเราได้
เมื่อเราทำสิ่งใด ใครจะมาทำลายสิ่งนั้นได้?”

อิสยาห์ 43-1

พระเจ้าองค์เดียวของอิสราเอล
อิสยาห์ 43:1-7
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างเจ้ามา โอยาโคบ พระองค์ผู้ทรงปั้นเจ้า พระองค์ตรัสว่า “อย่ากลัวไป เพราะว่า เราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา

เมื่อเจ้าต้องลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าข้ามแม่น้ำ มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ เปลวไฟจะไม่ลามเผาเจ้า
back

เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล เป็นพระผู้ช่วยเจ้าให้รอด เราให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า คูช และเศบา เพื่อแลกเปลี่ยนเอาเจ้ามา
เพราะว่าเจ้ามีค่าในสายตาของเรา และมีเกียรติด้วย และเรารักเจ้า เราได้ให้คนอื่นไปเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า
ดูซิ พระเจ้าทรงรักอิสราเอลมาก จนพระองค์ได้ยอมแลกคนอื่น ๆ เพื่อได้เข้ากลับคืนมา! อิสราเอลรู้ไหมนี่?

ดังนั้น อย่ากลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากตะวันออก และจากตะวันตก เราจะรวบรวมพวกเจ้ามา เราจะพูดกับทางเหนือว่า ปล่อยคนของเรา พูดกับทางใต้ว่า อย่ายึดเหนี่ยวพวกเขาไว้ จงนำลูกชายของเรากลับมาจากที่ไกล นำลูกสาวของเรามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก
ทุกคนที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา คนที่เราได้สร้างขึ้นเพื่อศักดิ์ศรีของเรา คนที่เราได้ปั้นและสร้างขึ้นมา

อิสยาห์ 42-5

อิสราเอลไม่ได้ยินและไม่เห็น!

อิสยาห์ 42:18-25

จงฟัง เจ้าคนหูหนวก  จงดู เจ้าคนตาบอด เพื่อเจ้าจะได้เห็น!
ใครละที่ตาบอด …ก็เจ้าคนรับใช้ของเรานะซิ?
ใครล่ะที่หูหนวกเหมือนกับผู้สื่อสารที่เราส่งไป?
ใครที่ตาบอดหมือนกับคนที่เราอุตส่าห์ไว้ใจส่งไป?
ใครที่มองไม่เห็นอะไรเหมือนอย่างคนของเรา?

เขาเห็นอะไรตั้งหลายอย่าง แต่ไม่เคยสังเกตอะไร
หูของเขาก็เหมือนฟังอยู่  แต่เขากลับไม่ได้ยิน
พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะให้ความสำคัญแก่พระธรรมของพระองค์  และทำให้มันยิ่งใหญ่ มีเกียรติ เพราะเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์
แต่นี่กลับกลายเป็นชนชาติที่ถูกปล้น ถูกขโมยไป  พวกเขาต่างติดกับอยู่ในรูและซ่อนอยู่ในที่จองจำ  พวกเขากลายเป็นเหยื่อซึ่งไม่มีใครช่วยได้  เป็นของริบมาที่ไม่มีใครกล่าวว่า “เอากลับคืน!”

เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์
เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์

จะมีใครในพวกเจ้าที่ฟังเรื่องนี้  และจะตั้งใจฟังเรื่องราวของอนาคตที่จะมาถึง?
ใครยกยาโคบให้แก่คนที่มาปล้น ใครยกอิสราเอลให้กับโจร?
ไม่ใช่องค์พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือที่ทรงทำเช่นนั้น?  เราทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์  เราไม่ยอมเดินในหนทางของพระองค์  และไม่ยอมเชื่อฟังบัญญัติของพระองค์ด้วย
ดังนั้น พระองค์จึงเทความโกรธกริ้วของพระองค์มาบนเขาและทรงเทอานุภาพในการสงคราม  มันทำให้เขามีไฟติดลุกรอบด้าน แต่เขาก็ไม่เข้าใจ มันใหม้ลามเลียเขา  แต่เขาก็ยังไม่เอาใจใส่เลย

 

ทั้ง ๆ ที่เป็นคนของพระเจ้า  แต่พวกเขาตั้งใจจะมองไม่เห็น จะไม่ฟังเสียงของพระเจ้าใช่ไหม?    มีคนในโลกนี้ ทั้งที่เป็นคนของพระเจ้าแต่พวกเขาก็ยังไม่ใส่ใจคำของพระองค์  นี่มันน่ากลัวมากเลย 

พระเจ้าทรงเตือนแล้วเตือนเล่า ที่พวกเขาควรจะทำสิ่งที่ถูกต้อง

พระเจ้าทรงเตือนดี ๆ  และทรงเตือนด้วยไม้เรียวที่รุนแรง  ถึงอย่างนั้นพวกเขายังไม่ใส่ใจ   ลูกหลานของพวกเขาต้องรับสิ่งที่น่ากลัวเพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้ามาตั้งแต่ต้น ….

ไม่ว่าพระเจ้าจะทรงเตือนเราอย่างไร  อย่าลืม…. เอาใจใส่คำเตือนของพระองค์   

ลองดูเหตุการณ์ที่น่ากลัวอันนี้ ….. แม้ถึงกระนั้นจนพวกเขาได้ประเทศอิสราเอลมา  คนอิสราเอลส่วนใหญ่ก็ยังไม่ฟังเสียงของพระเจ้าเลย

อิสยาห์ 42-4

อิสยาห์ 42: 14-17

นานมาแล้วที่เรานิ่งอยู่ เรานิ่งเงียบและสะกดใจเอาไว้

แต่ตอนนี้เราจะร้องออกมาเหมือนกับหญิงที่กำลังคลอดบุตร

เราจะหายใจถี่ ๆ เราจะหอบ

เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาทั้งหลาย และจะทำให้พืชที่ขึ้นนั้นเหี่ยวเฉาไป
เราจะทำให้แม่น้ำกลายเป็นเกาะ และทำให้สระทั้งหลายแห้งไป

เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก  พาไปตามทางที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
เราจะนำพวกเขา และจะทำให้ความมืดต่อหน้าเขากลายเป็นสว่าง

darktolight
ทางที่ขรุขระจะกลายเป็นทางเรียบ
นี่เป็นสิ่งที่เราทำ และเราไม่ทอดทิ้งพวกเขา

 คนที่วางใจในรูปสลัก  คนที่กล่าวกับรูปโลหะว่า “ท่านเป็นพระของเรา”  จะต้องหันกลับและละอายเป็นที่สุด

พระเจ้าตรัสเองว่าพระองค์ทรงนิ่งเงียบอยู่  แต่วันหนึ่งพระองค์จะทรงร้องเสียงดัง คนทั้งโลกจะได้ยินว่า พระองค์ตรัสอะไรบ้าง
ไม่มีอะไรในโลกจะขวางพระองค์ได้   แต่พระองค์จะทรงนำคนของพระองค์ไป  

และเวลานั้นเราจะเห็นความแตกต่างของคนที่วางใจพระเจ้า กับคนที่พึ่งพารูปปั้น

อิสยาห์ 42-3

อิสยาห์ 42:10-13

ร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า

จงร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า
สรรเสริญแด่พระองค์จากที่สุดปลายแผ่นดินโลก
เจ้าคนที่ลงไปยังทะเล และบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น แผ่นดินชายทะเล และคนที่อยู่ในนั้น
จงให้ทะเลทรายและเมืองต่าง ๆ ในนั้นส่งเสียงขึ้นมา ให้หมู่บ้านที่ชายเคดาร์อาศัยอยู่
จงให้คนที่อยู่ในเส-ลาร้องเพลงด้วยความยินดี ให้เขาตะโกนก้องมาจากยอดเขา
ให้เขาถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า และประกาศสรรเสริญพระองค์ตามแผ่นดินชายทะเล
พระเจ้าเสด็จออกมาดั่งชายที่มีกำลัง

is42

พระองค์ทรงกระตุ้นความกระตือรือร้นขึ้นมาดั่งนักรบ
พระองค์ทรงร้อง ทรงตะโกนเสียงดัง
พระองค์ทรงทำให้เห็นว่า พระองค์ทรงฤทธิ์ต่อหน้าศัตรูของพระองค์

อิสยาห์ 42-2

อิสยาห์ 42:5-9

องค์พระเจ้าผู้ทรงสร้างสวรรค์ และขึงมันออกมา ผู้ที่ขยายโลกออกไป และสิ่งที่ออกมาจากโลกนั้นด้วย

พระเจ้าผู้ทรงประทานลมหายใจแก่เหล่ามนุษย์ที่อยู่ในโลกนั้น และประทานจิตวิญญาณแก่ผู้ที่เดินในโลก

พระเจ้าองค์นี้ตรัสว่า

“เราเป็นพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาในความชอบธรรม
เราจะจูงมือเจ้า และรักษาเจ้าไว้

is42blind ภาพจาก http://christianradiokids.blogspot.com

เราจะให้เจ้าเป็นพันธสัญญาสำหรับประชาชนทั้งหลาย
เจ้าจะเป็นแสงสว่างสำหรับประชาชาติ  เพื่อเปิดตาที่บอด  เพื่อนำนักโทษออกมาจากคุกมืด   พาคนที่นั่งอยู่ในความมืดของที่คุมขัง
เราคือพระเจ้า นี่เป็นนามของเรา
เราจะไม่มอบศักดิ์ศรีของเราให้กับใคร ไม่ให้คำสรรเสริญแก่รูปที่ถูกสลักขึ้นมาก

ดูเถิด สิ่งเก่า ๆ ได้ผ่านไปแล้ว  และเรากำลังประกาศสิ่งใหม่  เราได้บอกเรื่องเหล่านี้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”

อิสยาห์ 42-1

อิสยาห์ 42:1-4

ผู้รับใช้ที่พระเจ้าทรงเลือก

พระคำตอนนี้ ทำให้เราสงสัยไหมว่า ผู้รับใช้ของพระองค์ผู้นี้ คือใครกัน?….

ดูเถิด ผู้รับใช้ของเรา ผู้ที่เรายกขึ้นให้สูง  เขาเป็นผู้ที่เราเลือก จิตใจของเราก็ยินดีเพราะเขา  เราได้ให้วิญญาณของเราเหนือเขา  และเขาจะนำพาให้เกิดความยุติธรรมท่ามกลางประชาชาติ

พระเจ้าทรงเรียกให้ทุกคนได้สนใจบุคคลผู้หนึ่งที่พระเจ้าทรงยกให้สูง  แต่… ทำไมพระเจ้าจึงทรงบอกทั้ง ๆ ที่คนรุ่นอิสยาห์ยังไม่เห็นเลยว่า เขาคือใคร  

อีก กว่าหกร้อยกว่าปีต่อมา พวกเขาจึงรู้ว่า …. บุคคลผู้นั้นคือ พระเยซูคริสต์   พระเยซูเองเปิดอิสยาห์บทนี้   และได้ตรัสถึงพระองค์เองให้ทุกคนได้รู้  แปลกไหม?

IsaiahJesus

เขาจะไม่ร้องเสียงดัง จะไม่เค้นเสียงขึ้นมา หรือทำให้คนตามถนนได้ยิน

พระเยซูจะไม่ทรงส่งเสียงดังเพื่อทำให้คนรู้จักพระองค์  แต่ทรงดำรงพระองค์เองอย่างถ่อมตน อย่างเหลือเชื่อ 

เขาจะไม่หักไม้อ้อที่ช้ำชอก   และเขาจะไม่ดับใส้ตะเกียงที่ริบหรี่

เขาจะนำความยุติธรรมออกไปด้วยความซื่อตรง
เขาจะไม่เหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้ จนกว่าเขาจะได้สถาปนาความเที่ยงตรงบนแผ่นดินโลก  และบรรดาแผ่นดินชายทะเลก็รอคอยบัญญัติของเขา

พระองค์จะทรงนำความเที่ยงตรงออกไปทั่วโลก ไม่เฉพาะกับคนอิสราเอลเท่านั้น

อิสยาห์ 41-6

อิสยาห์ 41: 25-29

เราได้เร้าให้ผู้หนึ่งมาจากทางเหนือ และเขาก็มาแล้วด้วย จากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาจะเรียกชื่อของเรา เขาจะเหยียบย่ำผู้ปกครองเหมือนกับเหยียบลงบนปูนสอ เหมือนกับที่ช่างปั้นนวดดิน


ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ตรงนี้ พระเจ้าได้ทรงบอกให้คนอิสราเอลรู้ล่วงหน้าว่า กษัตริย์ไซรัสจะมาจากทางเหนืออย่างแน่นอน พิสูจน์ ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ที่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงบอกชัดว่า ทรงเป็นผู้เร้าให้ไซรัสเดินทางมาโจมตีอิสราเอล! และเมื่อตอนที่ไซรัสมา พระองค์ก็อ้างพระนามของพระเจ้าแห่งอิสราเอลเสียด้วยว่า ทรงใช้พระองค์มา ทั้ง ๆ ที่พระองค์ไม่ได้เชื่อวางใจในพระเจ้าเที่ยงแท้องค์นี้
นโยบายในการทำการศึกของไซรัส เป็นส่วนที่พระเจ้าทรงใช้เปิดเผยพระองค์เองให้คนโลกโบราณได้รู้จักพระองค์

มีใครที่ได้แจ้งเรื่องราว(ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์)มาตั้งแต่เวลาเบื้องต้น เพื่อจะให้เรารู้ และแจ้งเรื่องมาตั้งแต่ก่อนมันเกิดขึ้น เพื่อเราจะได้พูดว่า “เออ เขาพูดถูกต้องนะ” ? ไม่มีใครเลยที่เคยบอกอะไรมาล่วงหน้า ไม่มีใครเคยประกาศ ไม่มีใครได้ยินคำของเจ้า

แต่เราเอง เป็นผู้แรกที่กล่าวกับศิโยนว่า “ดูเถิด มันเป็นอย่างนี้นะ” และเราเป็นผู้แจ้งข่าวดีแก่เยรูซาเล็ม
แต่เมื่อเรามองมา ก็ไม่มีใครเลย ไม่มีผู้ให้คำปรึกษาท่ามกลางคนเหล่านี้ คนที่จะให้คำตอบได้เมื่อเราถาม
ดูเถิด ทุกอย่างเป็นแต่เรื่องหลอก งานของพวกเขาเป็นสิ่งไร้ความหมาย รูปปั้นโลหะของพวกเขาก็เป็นเพียงลมพัดไปเปล่า ๆ

เป็นอันว่า ชัดเจน… ไม่มีใครบอกอนาคตอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาได้นอกจากพระเจ้าเที่ยงแท้