เยเรมีย์ 35-2 พรสำหรับตระกูลเรคาบ

เยเรมีย์ 35:12-19

แล้วพระดำรัสของพระเจ้าก็มาถึงเยเรมีย์

“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้..
จงไปและกล่าวแก่ประชาชนยูดาห์และคนที่อาศัยในเยรูซาเล็ม ว่า
เจ้าจะไม่รับคำสอนและจะไม่ฟังคำของเราหรือ?..
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศ
คำสั่งของโยนาดับ ลูกชายเรคาบที่สั่งลูกๆ ของเขาไว้ว่าไม่ให้ดื่มเหล้าองุ่น
ลูก ๆ เขายังเชื่อฟัง ไม่ดื่มเหล้าองุ่นจนทุกวันนี้

rechabites
ที่เป็นอย่างนั้นเพราะพวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของพ่อ
เราเองได้พูดกับเจ้าไม่หยุดหย่อน แต่เจ้าก็ไม่ฟังเสียงของเรา
เราส่งคนรับใช้ของเรา ทั้งผู้กล่าวคำ ส่งไปหาเจ้าอยู่เรื่อย ๆ  เตือนเจ้าว่า ..
ให้เจ้าทุกคนหันจากทางแห่งความชั่ว และแก้ไขการกระทำของตน
และไม่ให้วิ่งตามไปปรนนิบัติพระอื่น
เพื่อว่าเจ้าจะได้อาศัยในแผ่นดินที่เรามอบให้เจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า
แต่เจ้าก็ไม่เอียงหูของเจ้าเพื่อฟังเรา
พวกลูกชายของโยนาดับ ลูกเราคาบได้รักษาคำสั่งที่พ่อสั่งไว้ แต่ประชาชนเหล่านี้ไม่เชื่อฟังเรา

ดังนั้น … องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
ดูเถอะ เราจะนำหายนะมายังยูดาห์และคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม
เป็นหายนะที่เราได้บอกล่วงหน้าไว้ เพราะเราพูดกับพวกเขา แต่เขาก็ไม่ฟัง
เราเรียกเขา แต่ก็ไม่มีใครตอบ”

แต่สำหรับตระกูลเรคาบนั้น เยเรมีย์กล่าวว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
เพราะเจ้าได้เชื่อฟังคำสั่งของพ่อเจ้า และรักษากฎเกณฑ์ทั้งกลาย
รวมทั้งยังได่ทำทุกสิ่งที่พ่อสั่งไว้ ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าแห่งอิสราเอลจึงได้ตรัสว่า โยนาดับ ลูกชายของเรคาบ
จะไม่ขาดชายที่จะยืนอยู่ต่อหน้าเราเลย

เยเรมีย์ 35-1 ก็จะเชื่อฟัง..

เยเรมีย์ 35:1-11

ความเชื่อฟังของคนตระกูลเรคาบ

พระดำรัสของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ ในรัชสมัยของราชาเยโฮยาคิม
โอรสราชาโยสิยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์
“เจ้าจงไปที่บ้านของคนตระกูลเรคาบและพูดกับเขา

และนำเขามายังพระวิหารของพระเจ้า  มายังห้อง ๆ หนึ่ง
และให้พวกเขาดื่มเหล้าองุ่น

ดังนั้น ข้าจึงนำยาอาซันยาห์ บุตรเยเรมีย์ซึ่งเป็นบุตรฮาบาซินยาห์กับพี่น้องชาย รวมกับลูกชายทุกคน และคนทั้งตระกูลเรคาบ
ข้านำเข้าไปยังพระวิหารของพระเจ้า
เข้าไปในห้องของลูกชายฮานันซึ่งเป็นลูกชายของอิกดาลิยาห์คนของพระเจ้า
ห้องนี้อยู่ใกล้ห้องของเจ้าหน้าที่
อยู่เหนือห้องของมาอาเสอาห์ลูกชายของชัลลูมคนที่มีหน้าที่ดูแลธรณีประตู

เมื่อข้าวางไหซึ่งมีเหล้าองุ่นบรรจุอยู่เต็ม รวมทั้งถ้วยอีกหลายใบ กล่าวกับพวกเขาว่า
..ดื่มเหล้าองุ่นซิขอรับ..

 

ภาพเอื้อเฟื้อจาก http://www.visualbiblealive.com/
ภาพเอื้อเฟื้อจาก http://www.visualbiblealive.com/

แต่พวกเขาตอบว่า ..เราไม่ดื่มเหล้าองุ่น
เพราะท่านพ่อของเราคือโยนาดับบุตรเรคาบได้สั่งเราไว้ว่า..
เจ้าจะต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่น ทั้งตัวเจ้าและลูกหลานของเจ้าตลอดไป
พวกเจ้าจะต้องไม่สร้างบ้าน หรือหว่านเมล็ดพืช ปลูกหรือมีสวนองุ่น
แต่เจ้าจะต้องอาศัยในกระโจมตลอดไป
เพื่อว่าเจ้าจะได้มีชีวิตยืนนานในแผ่นดินที่เจ้าอาศัยอยู่

เราได้เชื่อฟังคำสั่งของท่านพ่อ คือโยนาดับ ลูกชายของเรคาบ
ที่ท่านพ่อสั่งเรื่องไม่ให้ดื่มเหล้าองุ่นตลอดชีวิตของเรา
ทั้งตัวเรา ภรรยา ลูกชาย ลูกสาวของเราด้วย
และเราจะต้องไม่สร้างบ้านเรือนเพื่ออาศัย เราจะไม่มีส่วนองุ่นหรือท้องนา หรือเมล็ดพันธุ์
แต่เราได้อาศัยในกระโจม และได้เชื่อฟังทุกอย่างที่พ่อของเราบัญชาเรา
แต่เมื่อราชาเนบูคัดเนสซาร์ได้เข้ามาโจมตีแผ่นดิน เรากล่าวว่า
”มาเถอะ ให้เราเข้าไปที่เยรูซาเล็ม
เพราะเรากลัวกองทัพของคนเคลเดียและคนซีเรีย”
ดังนั้นตอนนี้เราจึงอาศัยในนครเยรูซาเล็ม

เยเรมีย์ 34-3 เมื่อละเมิดสัญญา

เยเรมีย์ 34:17-22

“ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
เจ้าไม่ได้เชื่อฟังเรา  เจ้าไม่ประกาศอิสรภาพให้กับพี่น้องและเพื่อนบ้านของเจ้า
ดูเถิด เราจะประกาศให้เจ้าพบกับดาบ โรคระบาดและความอดอยาก
เราจะทำให้เจ้าเป็นที่หวาดหวั่นต่อเหล่าอาณาจักรทั้งหลายในโลก

และคนที่ได้ล่วงละเมิดพันธสัญญาของเรา และไม่รักษาสัญญา
ตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ได้ทำต่อหน้าเรา
เราจะทำให้เขาเป็นเหมือนวัวที่ถูกตัดเป็นสองท่อน
และมีคนเดินผ่านท่อนเหล่านั้น
เหล่าข้าราชการของยูดาห์  ขันที ปุโรหิต
และประชาชนทั้งหลายในแผ่นดินคือคนที่เดินผ่านท่อนวัวนั้น

และเราจะมอบเขาไว้ในมือของศัตรู  ให้ไปอยู่ในมือของคนที่พยายามเอาชีวิตของเขา

ซากศพของพวกเขาจะกลายเป็นอาหารของนกในอากาศ และสัตว์ป่าบนแผ่นดิน

zedekiah (2)

และเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์พร้อมกับข้าราชการของเขานั้น
เราจะมอบให้ไว้ในมือของศัตรู  ของคนที่พยายามจะเอาชีวิตของเขา
ให้ไว้ในมือของกองทัพแห่งกษัตริย์แห่งบาบิโลนซึ่งตอนนี้ได้ถอยทัพไปจากเจ้า
ดูเถิด… องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ …
เราจะบัญชา และเราจะนำพวกเขากลับมายังนครนี้
พวกเขาจะสู้และสามารถยึดเมืองได้ จะเผาเมืองเสียด้วยไฟ
เราจะทำให้เมืองต่าง ๆ ในยูดาห์กลายเป็นเมืองรกร้าง ไม่มีคน

เยเรมีย์ 34-2 เอาทาสของข้าคืนมา

เยเรมีย์ 34:8-16

พระวจนะของพระเจ้าที่มาถึงเยเรมีย์จากองค์พระผู้เป็นเจ้า
หลังจากที่ราชาเศเดคียาห์ได้ทำพันธสัญญากับประชาชนทั้งปวงในนครเยรูซาเล็ม
เพื่อประกาศอิสรภาพให้กับพวกเขา
นั่นคือ ทุกคนควรจะปล่อยทาสที่เป็นชาวฮิบรู ทั้งชายและหญิง
เพื่อว่าจะไม่มีใครทำให้ยิวซึ่งเป็นพี่น้องของเขาต้องเป็นทาสเลย

พวกเขาเชื่อฟัง ทั้งข้าราชการและคนที่ได้เข้ามาทำพันธสัญญาปลดปล่อยทาสทั้งชายหญิง
เพื่อว่าพวกเขาจะไม่ต้องเป็นทาสอีกต่อไป  พวกเขาเชื่อฟัง และปล่อยให้ทาสเป็นอิสระ

แต่หลังจากนั้นมา พวกเขาก็หันกลับ และเอาทั้งชายหญิงที่เคยเป็นทาสนั้น ให้กลับมาเป็นทาสอีกครั้ง

พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงมายังเยเรมีห์ว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
เราเองได้ทำสัญญากับบรรพบุรุษของพวกเจ้า
เมื่อเรานำเขาออกมาจากอียิปต์ ซึ่งเป็นดั่งเรือนทาสกล่าวด้วยว่า
.. ทุก ๆ ปีที่เจ็ดเจ้าจะต้องปล่อยเพื่อนชาวฮิบรูด้วยกันที่ถูกขายมาให้เจ้า
และได้รับใช้เจ้ามาหกปี  เจ้าจะต้องปล่อยเขาให้เป็นอิสระ
แต่บรรพบุรุษของเจ้าไม่ได้ฟังเสียงของเรา ไม่เอียงหูฟังเรา  freeslave

ไม่นานมานี้ พวกเจ้าก็ได้กลับใจ และทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา
โดยการประกาศอิสรภาพให้เพื่อนบ้านของตน
และเจ้าก็ได้ทำพันธสัญญาต่อหน้าเรา ในวิหารที่เรียกตามชื่อของเรา
แต่แล้วเจ้ากลับหันหลังและทำให้นามของเราเป็นที่เสื่อมเสีย
เมื่อเจ้าได้นำชายและหญิงเหล่านั้นกลับมาเป็นทาสตามใจของเจ้า
และเจ้าทำให้พวกเขาต้องยอมเป็นทาสใต้บังคับของเจ้าอีก

เยเรมีย์ 34-1 ทำนายถึงความตาย

เยเรมีย์ 34:1-7

พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์

เมื่อเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนและกองทัพ
รวมไปถึงราชอาณาจักรต่างๆในโลกที่อยู่ใต้อำนาจ
และประชาชนที่เข้ามารุมต่อสู้กับเยรูซาเล็มและเมืองบริวาร

องค์พระผู้เป็นเจ้า  พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
เจ้าจงไปพูดกับราชาเศเดคียาห์แห่งยูดาห์ว่า
..องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
..ดูเถิด เรากำลังมอบเมืองนี้ให้อยู่ในมือของราชาแห่งบาบิโลน  เขาจะเผาเมืองนี้ด้วยไฟ

เจ้าจะไม่สามารถหนีพ้นเงื้อมมือเขาได้
แต่จะถูกจับกุมและส่งตัวไปให้เขา
เจ้าจะได้พบราชาแห่งบาบิโลนตัวต่อตัว พูดกับเขาด้วยตัวเจ้าเอง
และเจ้าจะต้องไปอยู่บาบิโลนjere-Zede

จงฟังคำของพระเจ้า  โอ เศเดคียาห์ ราชาแห่งยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรื่องของท่านว่า… “ท่านจะไม่ตายด้วยดาบ
แต่จะตายอย่างสงบ
เขาได้เผาเครื่องหอมให้กับบรรพบุรุษของท่าน
คือกษัตริย์องค์ก่อนๆ อย่างไร
เขาก็จะเผาเครื่องหอมให้และคร่ำครวญให้ท่านอย่างนั้น
กล่าวว่า ..โอ้อนิจจา…  องค์พระผู้เป็นเจ้า..
เพราะเราได้กล่าวไว้แล้ว …  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส”

แล้วเยเรมีย์ผู้กล่าวคำของพระเจ้าก็ได้กล่าวคำทั้งสิ้น
แก่ราชาเศเดคียาห์  กษัตริย์แห่งยูดาห์  ในนครเยรูซาเล็ม 

ขณะนั้น กองทัพของราชาบาบิโลนกำลังต่อสู้กับเยรูซาเล็ม
และเมืองในยูดาห์ที่ยังเหลืออยู่
คือเมืองลาคิชและเมืองอาเซคา เพราะเป็นเมืองที่มีป้อมเข้มแข็ง

เยเรมีย์ 33-4 ผู้จัดระเบียบเอกภพ

เยเรมีย์ 33.23-26
พระดำรัสของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ ว่า
“เจ้าสังเกตสิ่งที่คนเหล่านี้พูดไหมว่า
…องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิเสธเผ่าสองเผ่าที่พระองค์ทรงเลือก?
พวกเขากำลังดูหมิ่นคนของเรา
ไม่ให้มีฐานะเป็นประเทศในสายตาของพวกเขา

แอนโดรมีดา กาแลกซี่ที่สวยงาม
แอนโดรมีดา กาแลกซี่ที่สวยงาม

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“ถ้าเราไม่ได้แต่งตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับวันและคืน
และจัดระบบของสวรรค์และโลกแล้ว
เราก็จะปฏิเสธ ไม่รับลูกหลานของยาโคบและดาวิดผู้รับใช้ของเรา
และจะไม่เลือกคนหนึ่งในเชื้อสายของดาวิด
เพื่อปกครองเหนือลูกหลานของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ
เพราะเราจะรื้อฟื้นพวกเขาขึ้นใหม่ และจะเมตตาพวกเขา”

เยเรมีย์ 33-3 นับทรายไปสิ

เยเรมีย์ 33.14-22
ดูเถิด วันนั้นจะมาถึง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เมื่อเราจะทำให้คำสัญญาที่เราให้ไว้กับวงศ์วานอิสราเอลและยูดาห์สำเร็จ
ในวันเหล่านั้น เวลานั้น เราจะทำให้กิ่งแห่งความชอบธรรม
เกิดขึ้นมาเพื่อดาวิด และเขาจะให้แผ่นดินนั้นมีความยุติธรรมและชอบธรรม
ในวันเหล่านั้น ยูดาห์จะรอด และเยรูซาเล็มจะอยู่อย่างปลอดภัย
และเขาจะเรียกว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความชอบธรรมของเรา”

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดาวิดจะไม่ขาดบุรุษที่นั่งอยู่บนบัลลังก์แห่งวงศ์วานอิสราเอล
และปุโรหิตเผ่าเลวี จะไม่ขาดชายผู้หนึ่งที่จะถวายเครื่องเผาบูชา
เครื่องธัญบูชา และที่จะสักการบูชาต่อหน้าเราตลอดไป

Emilian Robert Vicole via flickr
Emilian Robert Vicole via flickr

พระวจนะของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ว่า
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
หากว่าเจ้าหักพันธสัญญาของวันและคืนที่เรามีให้นั้น จนวันและคืนไม่กลับมาตามที่เรากำหนด
เมื่อนั้นแหละที่เราจะหักพันธสัญญาที่เราให้ไว้แก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา
เพื่อว่าเขาจะไม่มีลูกชายที่จะครองบัลลังก์ของเขา
และพันธสัญญาที่เรามีต่อปุโรหิตเผ่าเลวีผู้ปรนนิบัติเรา
ในเมื่อไม่อาจนับเหล่าดวงดาวในท้องฟ้า และไม่อาจนับจำนวนทรายในทะเลได้
ดังนั้นเราจะเพิ่มลูกหลานของดาวิดผู้รับใช้ของเรา
และปุโรหิตเผ่าเลวีผู้ปรนนิบัติเราให้ทวีมากขึ้นเช่นดาวและทรายเหล่านั้น

เยเรมีย์ 33-2 แม้แกะก็กลับคืน

เยรมีย์ 33.10-13
ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ในสถานที่ซึ่งเจ้ากล่าวว่า..
เป็นที่ร้างไม่มีคนหรือสัตว์อาศัยอยู่..
ในเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์และถนนในนครเยรูซาเล็มซึ่งเผป็นที่ร้าง ไม่มีมนุษย์อาศัย ไม่มีสัตว์เหลืออยู่นั้น
จะได้ยินเสียงเหล่านี้อีก คือเสียงของความร่าเริงยินดี
เสียงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
เสียงร้องเพลงในขณะที่พวกเขานำเครื่องบูชาเข้ามายังพระวิหารของพระเจ้า

“จงร้องเพลงขอบคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
เพราะว่า พระเจ้าทรงดี
ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์”

เพราะเราจะรื้อฟื้นสภาพดีอย่างสมัยแรกๆ ของแผ่นดินให้คืนกลับมา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

ภาพจากhttp://en.wikipedia.org/wiki/Shepherd
ภาพจากhttp://en.wikipedia.org/wiki/Shepherd

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า ..
ในที่นี้ซึ่งเป็นสถานที่ร้างเปล่าไม่มีคนหรือสัตว์อาศัยในเมือง
จะกลายเป็นที่ ๆ เหล่าผู้เลี้ยงแกะนำแกะของเขามาพักผ่อน
ตามเมืองแถบเทือกเขา  ในเมืองเชเฟลาห์  และในเมืองแถบเนเกบ
ในแผ่นดินเบนยามิน และสถานที่ในนครเยรูซาเล็ม
ในเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์ ฝูงแกะจะเดินผ่านมือของคนที่นับจำนวนของมันอีกครั้งหนึ่ง …

เยเรมีย์ 33-1 ลงโทษแล้ว..รักษาให้

เยเรมีย์ 33: 1-9

พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์เป็นครั้งที่สอง
ในขณะที่เขายังถูกจำจองอยู่ในเขตทหารรักษาพระองค์
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างโลกนี้
พระองค์ผู้ทรงสร้างและจัดตั้งมันไว้  พระนามของพระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า ..
จงร้องเรียกหาเรา และเราจะตอบเจ้า
และเราจะบอกถึงสิ่งยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ซึ่งเจ้าไม่เคยรู้ให้แก่เจ้า

rongkau
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล
ตรัสถึงบ้านทั้งหลายในเมือง
และราชวังของกษัตริย์แห่งยูดาห์ซึ่งถูกรื้อถอนไปทำเป็นที่กำบังจากการล้อมเมือง และอาวุธ..
พวกเขาจะเข้ามาต่อสู้คนเคลเดีย
และทำให้เมืองเต็มไปด้วยซากศพ เป็นศพของเหล่าคนที่เราสังหารเพราะความโกรธเกรี้ยวของเรา
เราได้ซ่อนหน้าของเราไว้จากเมืองนี้ เพราะความชั่วร้ายของพวกเขา

ดูเถิด เราจะรักษาเขา ให้เขามีสุขภาพดี
เราจะรักษาเขาให้หาย และทำให้เขาเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์  ความมั่งคั่ง และความปลอดภัย

เราจะรื้อฟื้นยูดาห์และอิสราเอลให้กลับสู่สภาพเดิม และสร้างพวกเขาใหม่ให้เป็นเหมือนเดิม
เราจะชำระบาปของเขาที่ทำต่อเรา และเราจะยกโทษบาปและความดื้อดึงทั้งปวงที่เขาทำต่อเรา
และเมืองนี้จะเป็นเมืองที่มีชื่อแห่งความชื่นบานต่อหน้าเรา
เป็นความสรรเสริญ และเป็นศักดิ์ศรีต่อบรรดาประชาชาติในโลกที่ได้ยินถึงสิ่งดีที่เราทำให้กับพวกเขา
คนเหล่านั้นจะเกรงกลัวและตจัวสั่นเพราะสวัสดิภาพและความมั่งคั่งที่เราให้ พวกเขา

เยเรมีย์ 32-5 จะได้กลับมา

เยเรมีย์ 32:36-44

ดังนั้น… องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าแห่งอิสราเอล
ตรัสถึงเรื่องเมืองซึ่งเจ้ากล่าวว่า..
”เมืองนี้ถูกมอบไว้ให้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน ด้วยดาบ ด้วยความอดอยาก และด้วยโรคระบาด
ดูเถิด เราจะรวบรวมทุกคนจากประเทศต่าง ๆ ที่เราเนรเทศเขาไป
ด้วยความโกรธ พิโรธ และโกรธเกรี้ยว
และเราจะนำพวกเขากลับมาที่นี้ และอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย
และเขาจะเป็นคนของเรา เราจะเป็นพระเจ้าของเขา

nungheart
เราจะให้พวกเขามีใจเดียว มีทางเดียว
เพื่อว่าเขาจะเกรงกลัวเราตลอดไป เพื่อสวัสดิภาพของพวกเขา และลูกหลานของเขาสืบไป
เราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับพวกเขา
เพื่อว่า เราจะไม่หันไปจากการทำดีให้เขา
และเราจะทำให้ใจของเขาเกรงกลัวเรา
เพื่อว่า พวกเขาจะไม่หันไปจากเรา
เราจะยินดีในการทำดีให้พวกเขา
และจะปลูกเขาในแผ่นดินนี้ด้วยความซื่อตรง ด้วยสุดใจ สุดจิตของเรา” 
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เหมือนอย่างที่เรานำหายนะยิ่งใหญ่มาสู่ประชาชน  ดังนั้น เราจะนำสิ่งดีที่เราสัญญาให้เขาไว้มาด้วย
จะมีการซื้อขายที่ดินในแผ่นดินที่พวกเจ้าพูดว่า ..
เป็นแผ่นดินร้างเปล่า ไม่มีมนุษย์หรือสัตว์อาศัยอยู่   มันถูกมอบให้กับชาวเคลเดียแล้ว”
จะมีการใช้เงินซื้อที่นา จะมีการเซ็นสัญญา มีตราประทับ และมีพยานด้วย
พื้นที่ในแผ่นดินเบนยามิน   พื้นที่ต่าง ๆ ในนครเยรูซาเล็ม ในเมืองแถบภูเขา
ในเมืองแห่งเชเฟลาห์  และเมืองแถบเนเกบ  เพราะว่า เราจะรื้อฟื้นเขาให้กลับสู่สภาพเดิม …”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 

เยเรมีย์ 32-4 ชอบยั่วให้โกรธนัก

เยเรมีย์ 32:26-35

พระวจนะของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ว่า
“ดูเถิด  เราเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง มีอะไรที่ยากสำหรับเราหรือ?
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า … ดูเถิด เราจะมอบเมืองนี้ให้กับคนเคลเดีย
และเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน และเขาจะเอาเมืองนี้เป็นเชลย
คนเคลเดียที่สู้กับเมืองนี้ จะมาและจุดไฟเผาเมองให้วอดวาย  พร้อมๆ กับบ้านที่ถวายเครื่องบูชาแก่เจ้าบาอัล และเครื่องดื่มบูชาแก่เจ้าต่าง ๆ เพื่อยั่วยุให้เราโกรธ
เพราะลูกหลานอิสราเอล และยูดาห์ไม่ทำอะไรนอกจากความชั่วร้ายต่อหน้าต่อตาเราตั้งแต่ยังเยาว์  ลูกหลานอิสราเอลไม่ทำอะไรนอกจากยั่วยุให้เราโกรธเกรี้ยวด้วยน้ำมือของพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ ….
เมืองนี้ทำให้เราโกรธเกรี้ยวจากวันที่สร้างมันขึ้นมาจนกระทั่งวันนี้ เพื่อว่า เราจะได้เอามันออกไปจากสายตาของเรา
เพราะความชั่วร้ายของลูกหลานอิสราเอลและยูดาห์ ที่เขาได้ทำให้เราโกรธ ทั้งหล่าเจ้านาย และข้าราชการ  ปุโรหิตและผู้กล่าวคำ บุรุษแห่งยูดาห์ และ เหล่าผู้ที่อาศัยในเยรูซาเล็ม
พวกเขาได้หันหลังให้เรา ไม่ได้หันหน้า แม้ว่าเราจะสอนพวกเขาไม่หยุดหย่อน เขาก็ไม่ฟัง ไม่รับคำสอนเหล่านั้น
พวกเขาได้วางสิ่งน่าเกลียดน่าชังไว้ในบ้านที่เรียกตามชื่อของเรา และทำให้บ้านนั้นเป็นมลทิน
พวกเขาสร้างที่สูงของบาอัลในหุบเขาแห่งลูกชายของฮินโนม  นำลูกชายลูกสาวไปถวายเป็นเครื่องบูชาแก่เจ้าโมเลค  ทั้งที่เราไม่ได้สั่งพวกเขา เราไม่เคยคิดสิ่งเหล่านี้ก่อนว่าพวกเขาจะทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ทำให้ยูดาห์ได้ทำบาปต่อเรา

เยเรมีย์ 32-3 ขอเหตุผลพระเจ้าข้า!

เยเรมีย์ 32:16-
หลังจากที่ได้มอบเอกสารการซื้อที่ดินให้กับบารุคบุตรชายเนริยาห์แล้ว
ข้าก็ได้อธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า.. พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่
ด้วยพระหัตถ์ที่เหยียดออก ไม่มีสิ่งใดที่ยากสำหรับพระองค์
พระองค์ทรงแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อคนเป็นพัน
แต่ได้ทรงตอบสนองความผิดบาปของพวกเขากับลูกหลานของพวกเขา
โอพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
พระนามของพระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระองค์ทรงให้คำปรึกษายิ่งใหญ่ และทรงฤทธิ์ในพระราชกิจทั้งปวง
พระเนตรของพระองค์มองหนทางทั้งหลายของลูกหลานมนุษย์
และทรงตอบแทนพวกเขาตามหนทางเดิน ตามผลแห่งการกระทำของพวกเขา
พระองค์ทรงแสดงหมายสำคัญพร้อมสิ่งอัศจรรย์ในแผ่นดินอียิปต์
และจนกระทั่งวันนี้ยังทรงทำการ ในอิสราเอลและท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย
ทรงทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือไปอย่างทุกวันนี้
พระองค์ได้ทรงนำคนอิสราเอลของพระองค์ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
ด้วยหมายสำคัญและสิ่งอัศจรรย์ ด้วยพระหัตถ์เหยียดออกที่เข้มแข็ง
ด้วยความน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
และพระองค์ได้ประทานแผ่นดินนี้ให้พวกเขา
เป็นแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา

Illustrator of Henry Davenport Northrop's 1894 "Treasures of the Bible"
Illustrator of Henry Davenport Northrop’s 1894 “Treasures of the Bible”

ดินแดนนี้เต็มด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม
และพวกเขาได้เข้ามา และถือกรรมสิทธิ์ในแผ่นดิน
แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อฟังพระดำรัสของพระองค์ ไม่ได้เดินในกฎเกณฑ์ของพระองค์
สิ่งใดที่พระองค์ทรงบัญชา พวกเขาก็ไม่สนใจที่จะกระทำเลย
ดังนั้น พระองค์จึงทรงให้เกิดหายนะขึ้นท่ามกลางพวกเขา
ดูเถิด เชิงเทินก็ได้เข้ามาล้อมเมืองแล้ว
และพวกเขาก็ถูกมอบไว้ในมือของชาวเคลเดียที่พวกเขากำลังสู้อยู่
ด้วยดาบ ความอดหยากและโรคระบาด
สิ่งที่พระองค์ได้ตรัสก็เกิดขึ้นจริง และพระองค์ทรงเห็นทุกอย่าง
แต่…องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงกล่าวกับข้าว่า
“ให้ใช้เงินซื้อที่ดิน และหาพยานมาด้วย”
ทั้ง ๆ ที่เมืองนี้จะถูกมอวบให้กับคนเคลเดีย.
….

เยเรมีย์ 32-2 ปฏิบัติการซื้อที่ดิน

เยเรมีย์ 32:6-15

เยเรมีย์กล่าวว่า “พระดำระสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังข้าว่า
ฮานัมเอล ลูกชายของชัลลูมซึ่งเป็นอาของเจ้าจะมาหาเจ้า
บอกว่า .. ขอให้ท่านซื้อที่นาของข้าพเจ้าในตำบลอานาโธท  เพราะว่า ท่านมีสิทธิในการซื้อไถ่นานั้น”

j32-jeremiah-buys-the-field

ต่อมา ฮานัมเอลลูกพี่ลูกน้องของข้าเองก็ได้มาหาข้าที่บริเวณทหารรักษาพระองค์
ตามพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาพูดกับข้าว่า
“ขอท่านซื้อที่นาของข้าพเจ้าที่ตำบลอานาโธทในแผ่นดินเบนยามิน
เพราะว่า สิทธิในการซื้อไถ่ที่นั่นเป็นของท่าน  ขอให้ท่านซื้อไว้เพื่อตัวท่านเองเถอะนะ..”
ดังนั้นข้าจึงรู้ว่านี่เป็นพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

ข้าจึงซื้อที่นาตำบลอานาโธท จากฮานัมเอลลูกพี่ลูกน้องของข้า
ข้าชั่งเงินให้เขา 17 เชเขล  ข้าเซ็นชื่อ ประทับตรา มีพยาน และชั่งเงินด้วยตาชั่ง
แล้วข้าก็เอาโฉนดที่ประทับตรา พร้อมด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ในการซื้อ
รวมทั้งฉบับที่เปิดอยู่มา
และข้าได้มอบโฉนดนั้นกับบารุค ลูกชายของเนริยาห์ ลูกชายมาอาเสอาห์
ต่อหน้าฮานัมเอลลูกพี่ลูกน้องของข้า   ต่อหน้าพยานซึ่งได้เซ็นรับรู้การซื้อครั้งนี้
และต่อหน้าเหล่าคนยูดาห์ซึ่งนั่งอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์
ข้าสั่งบารุคต่อหน้าคนทั้งหลายว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า จงเอาโฉนดเหล่านี้ไป
ทั้งฉบับที่ประทับตรา และฉบับที่เปิดอยู่
และเอาไปเก็บไว้ในภาชนะดินเพื่อว่า มันจะอยู่ทนนาน
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า
จะมีการซื้อบ้านและที่นา และสวนองุ่นในแผ่นดินนี้อีกครั้ง”

เยเรมีย์ 32-1 พูดไม่เข้าหู

เยเรมีย์ 32:1-8

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ในปีที่สิบของราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
ซึ่งเป็นปีที่สิบแปดแห่งรัชกาลของเนบูคัดเนสซาร์
เวลานั้นกองทัพของราชาบาบิโลน กำลังล้อมนครเยรูซาเล็ม

jeremiahinprisonภาพวาดโดย 

 

และเยเรมีย์ผู้กล่าวคำถูกจำจองในบริเวณของทหารรักษาพระองค์  ซึ่งอยู่ในวังของราชาแห่งยูดาห์
ราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์สั่งจำจองเยเรมียห์ไว้  ตรัสว่า
“เหตุใดท่านจึงกล่าวคำพยากรณ์ว่า .. องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิด เราจะมอบเมืองนี้ให้ไว้ในมือแห่งราชาแห่งบาบิโลน และเขาจะยึดเมืองนี้ไว้
ราชาเศเดคียาห์แห่งยูดาห์จะไม่สามารถหนีไปจากเงื้อมมือของชาวเคลเดียได้
แต่จะตกในหัตถ์ของราชาบาบิโลน ทั้งสองจะได้พบกันตัวต่อตัว เห็นกันตาต่อตา
และราชาบาบิโลนจะนำราชาเศเดคียาห์ไปบาบิโลน
และเขาจะอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะเยี่ยมเขา  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ  ..
ถึงแม้ท่านจะสู้กับชาวเคลเดีย แต่ก็จะไม่สำเร็จ”

 

เยเรมีย์ 31-8 จะวัดฟ้าได้หรือ?

เยเรมีย์ 31:37-40
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เมื่อไรที่สามารถวัดฟ้าสวรรค์ได้
และสืบค้นรากฐานพิภพได้จนหมด
นั่นแหละ เราจึงจะเหวี่ยงลูกหลานอิสราเอลออกไป เพราะสิ่งที่เขากระทำ”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เราจะวัดเอกภพและกาแล็กซี่อื่น ๆ ได้หมดจริงหรือ?  ยิ่งค้น ยิ่งเจอ ไม่เคยหมดเลย  ภาพจากนาซา กาแลกซี่แอนโดรมีดา
เราจะวัดเอกภพและกาแล็กซี่อื่น ๆ ได้หมดจริงหรือ? ยิ่งค้น ยิ่งเจอ ไม่เคยหมดเลย ภาพจากนาซา กาแลกซี่แอนโดรมีดา

“ดูเถิด.. วันเวลาจะมาถึง  เมื่อจะมีการสร้างเมืองใหม่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า จากหอแห่งฮานันเอลไปถึงประตูมุม
และสายวัดนั้นจะยาวไปไกลกว่านั้น ตรงไปยังเนินเขากาเรบ แล้วต่อไปยังบ้านโกอาห์
ทั้งหุบเขาแห่งศพและขี้เถ้า และทุ่งทั้งหมดไปจนถึงลำธารขิดโรน จนถึงมุมประตูม้า ไปทางตะวันออก จะเป็นที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
จะไม่มีการถอนทิ้ง หรือคว่ำอีกต่อไปเลยจวบจนนิรันดร์

เยเรมีย์ 31-7 เจ้าแห่งกฎเอกภพ

เยเรมีย์ 31: 31-35

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่า “ดูเถิด วันหนึ่งจะมาถึง เมื่อเราทำพันธสัญญาใหม่กับวงศ์วานอิสราเอลและยูดาห์
ไม่เหมือนพันธสัญญานั้นที่เราได้ทำกับบรรพบุรุษของเขาในวันที่เราจูงเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยมือของเรา
เป็นพันธสัญญาที่พวกเขาหักทิ้งเสียแม้ว่าเราเป็นสามีของเขา … องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส ..
นี่เป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับวงศ์วานอิสราเอลหลังจากนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศ…
เราจะใส่บัญญัติของเราไว้ในตัวเขา และเราจะเขียนมันลงในใจของพวกเขา
และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา  พวกเขาจะเป็นประชากรของเรา
เขาจะไม่สอนเพื่อนบ้าน และพี่น้องต่อไปว่า .. จงรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า..
เพราะเขาทุกคนจะรู้จักเรา ตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุด จนถึงคนที่ใหญ่โตที่สุด
..องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ..
เพราะเราจะยกโทษความบาปผิดของพวกเขา
จะไม่จดจำบาปของพวกเขาอีกต่อไป

kotakapop
องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงให้กฏระเบียบว่าดวงอาทิตย์ส่องแสงในเวลากลางวัน
และเป็นกฎตายตัวว่า ดวงจันทร์และดวงดาวส่องแสงในเวลากลางคืน
พระองค์ผู้ทรงกวนน้ำทะเลจนคลื่นคำราม พระนามของพระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

เยเรมีย์ 31-6 เข็ดฟันเอง

เยเรมีย์ 31:27-30

ดูเถิด วันนั้นจะมาถึง.. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
วันนั้นเราจะหว่านเมล็ดแห่งมนุษย์ และเมล็ดแห่งสัตว์ในหมู่วงศ์วานอิสราเอลและยูดาห์
สิ่งที่จะสำเร็จ
คือ.. ขณะที่เราได้เฝ้ามองพวกเขาเพื่อจะถอน และคว่ำลง
เพื่อเหวี่ยงออกไป เพื่อทำลาย และนำเหตุร้ายมาให้
เราก็จะเฝ้ามองพวกเขาเพื่อจะสร้าง และปลูกเช่นกัน  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ในวันเหล่านั้น เขาจะไม่พูดอีกต่อไปว่า  “พ่อ ๆ กินองุ่นเปรี้ยว และลูก ๆ ก็เข็ดฟัน”
แต่ทุกคนจะต้องตายเพราะบาปของตนเอง  คนที่กินองุ่นเปรี้ยว เขาจะเข็ดฟันangunpreaw

เยเรมีย์ 31-5 ป้ายชี้ทาง

เยเรมีย์ 31:21-26

จงปักป้ายที่ถนนให้กับตัวเจ้าเอง ทำป้ายชี้ทางให้ตัวเอง
พิจารณาทางหลวง คิดให้ดีว่าเจ้าจะไปทางไหน
กลับมาเถิด พรหมจารีอิสราเอล กลับมายังเมืองของเจ้า
เจ้าจะเหยียบเรือสองแคมอยู่ทำไม ลูกสาวที่ไม่ซื่อสัตย์?
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างสิ่งใหม่บนโลกนี้
ผู้หญิงล้อมผู้ชายไว้
Paisheetang
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
“อีกครั้งหนึ่งที่พวกเขาจะใช้คำเหล่านี้ ในแผ่นดินยูดาห์ และเมืองทั้งหลาย
เมื่อเราได้รื้อฟื้นพวกเขาขึ้น
..ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเจ้า ..
ที่อยู่แห่งความชอบธรรม โอภูเขาอันบริสุทธิ์..
และยูดาห์รวมทั้งเมืองทั้งหลายจะอยู่ร่วมกัน
รวมถึงเกษตรกรและคนที่เลี้ยงสัตว์เร่ร่อนไป
เพราะเราจะทำให้จิตใจที่อ่อนแรงนั้น มีกำลังขึ้น
และจิตใจที่อ่อนล้าก็จะได้อิ่มหนำสำราญ “
พอถึงตอนนี้ ข้าก็ตื่นขึ้น มองดู
เออ… การนอนหลับครั้งนี้ทำให้ข้ารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น….

เยเรมีย์ 31-4 ลูกรักของเรา

27 ตุลาคม 2013
เยเรมีย์ 31:15-20
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“ได้ยินเสียงร้องจากบ้านรามาห์ เป็นเสียงคร่ำครวญ ร้องไห้อย่างขื่นขม
ราเชลได้ร้องให้เพราะลูก ๆ ของเธอ
เธอไม่ยอมรับคำปลอบใจเพราะว่า ลูก ๆ สิ้นชีวิตไปหมดแล้ว”
rama
วาดโดย ซัลวาดอร์ ดาลิ 1968
ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“อย่าส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญไป อย่าให้น้ำตาไหลต่อไป
เพราะจะมีรางวัลสำหรับงานที่เจ้าได้ทำ.. องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศ
และพวกเขาจะได้กลับมาจากแผ่นดินของศัตรู
มีความหวังสำหรับอนาคต… องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ลูกหลานของเจ้าจะได้กลับมายังแผ่นดินของพวกเขา

เราได้ยินเสียงเอฟราอิมร่ำไห้ กล่าวว่า
..พระองค์ได้ทรงตีสอนข้า และข้าก็รับการตีสอนนั้น
เหมือนกับลูกวัวที่ไม่ได้ถูกฝึก
ขอพระองค์ทรงนำข้ากลับมา เพื่อว่าจะได้รับการรื้อฟื้นอีก
เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้า
เพราะหลังจากที่ข้าหันไป ข้าก็กลับใจ
และเมื่อข้าได้รับการสอน ข้าก็ทุบตีขาตัวเอง
ข้าละอายใจ และขายหน้า เพราะว่าข้าต้องรับความอับอายที่เคยทำเมื่อยังเด็ก
เอฟราอิมเป็นลูกรักของเราใช่ไหม?
เขาเป็นลูกแสนรักของเราใช่ไหม?
แม้ว่าเราจะพูดต่อต้านเขาเท่าไร เราก็ยังจำเขาได้มากเท่านั้น
ใจของเราจึงห่วงหาเขา
ดังนั้น ใจของเราปรารถนาเขา และเราจะมีความเมตตาต่อเขาเป็นแน่
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 31-3 ความสุขคืนมา

เยเรมีย์ 31:10-14

“โอ ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย จงฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
และประกาศให้กับเหล่าประชาชาติที่อยู่ริมทะเล กล่าวว่า
‘พระองค์ผู้ทรงทำให้อิสราเอลกระจัดกระจายไปนั้นจะทรงรวบรวมพวกเขา และจะทรงเป็นดั่งผู้เลี้ยงที่ดูแลฝูงแกะของเขา‘
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ไถ่ตัวยาโคบ และได้ซื้อพวกเขาคืนมาจากมือที่เข้มแข็งเกินกว่าพวกเขา
เขาจะมาและร้องเพลงเสียงดังบนที่สูงแห่งศิโยน
และเขาจะสดชื่นแจ่มใสเพราะความดีขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ภาพจาก http://commons.wikimedia.org/wiki/File:PikiWiki_Israel_16624_The_Shepherd.jpg
ภาพจาก http://commons.wikimedia.org/wiki/File:PikiWiki_Israel_16624_The_Shepherd.jpg

เพราะธัญพืช  น้ำองุ่นและน้ำมัน เพราะเหล่าฝูงสัตว์ตัวน้อย ๆ ที่เกิดใหม่ในฝูง
ชีวิตของพวกเขาจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำรดชุ่มฉ่ำ
และพวกเขาจะไม่อ่อนอกอ่อนใจอีกต่อไป
แล้วเหล่าหญิงสาวจะยินดี เต้นรำ
ชายหนุ่มและแก่ก็จะชื่นชมเช่นกัน
เราจะทำให้ความทุกข์ของเขากลายเป็นความยินดี
เราจะปลอบใจเขา และให้ความยินดีแทนความทุกข์
เราจะให้เหล่าปุโรหิตอิ่มบริบูรณ์
และคนของเรานั้น จะมีความชื่นชมพึงใจในความดีของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ