อิสยาห์ 65-2 ความแตกต่างคนสองแบบ

อิสยาห์65:8 -13

พระเจ้าตรัสว่า “ก็เหมือนกับที่ยังมีน้ำองุ่นเหลืออยู่ในพวงองุ่น  และเขากล่าวว่า ..อย่าทำลายมันเลย เพราะยังมีพระพรอยู่ในนั้นบ้าง” ดังนั้น เราก็จะทำเพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของเรา และจะไม่ทำลายมันหมด
เราจะนำลูกหลานของยาโคบและของยูดาออกมา พวกเขาจะได้ครอบครองภูเขาของเรา คนที่เราเลือกจะได้ครอบครองแผ่นดินเหล่านั้น  และผู้รับใช้ของเราก็จะอาศัยที่นั่น

ชาโรนจะเป็นทุ่งหญ้าเพื่อเลี้ยงฝูงแกะ และหุบเขาแห่งอาโคร์ก็จะเป็นที่พักของพวกมัน  สำหรับประชากรที่แสวงหาเรา

แม้ว่าพระเจ้าจะทรงทำลายคนชั่วร้าย แต่ยังมีคนของพระองค์ที่ซื่อสัตย์  … พระองค์จะไม่ทรงทำลายเขา   ประชาชาติอิสราเอลทั้งหมด เป็นเหมือนผู้รับใช้ของพระองค์ก็จริง  แต่ไม่ใช่ทุกคนทีเป็นผู้รับใช้    คนที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์แท้จริง คือคนที่เชื่อวางใจในพระสัญญาของพระองค์  และเชื่อฟังพันธสัญญานั้น  

เขาเหล่านี้จะได้อยู่ในแผ่นดินอันเป็นที่ปรารถนาautumn

 

แต่เจ้าผู้ละทิ้งพระเจ้า ผู้ลืมภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา  ผู้ที่กางโต๊ะให้กับการดูดวง  และเติมเหล้าองุ่นผสมเพื่อสังเวยให้กับเจ้าแห่งเคราะห์กรรมเหล่านั้น

คมดาบคืออนาคตของเจ้า  และเจ้าทั้งหมดจะถูกล้างสังหาร เพราะว่า เมื่อเราเรียก เจ้าไม่ตอบ เมื่อเราตรัสเจ้าไม่ฟัง  แต่กลับทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของเรา และเลือกสิ่งที่เราไม่พอใจ”

ดังนั้น พระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะอิ่ม แต่เจ้าจะหิวโหย  ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะได้ดื่ม แต่เจ้าจะกระหาย  ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะยินดี แต่เจ้าจะต้องอับอาย

ดูเถิดผู้รับใช้ของเราจะร้องเพลงด้วยความชื่นบานจากใจ แต่เจ้าจะร้องออกมาจากใจที่เจ็บปวดรวดร้าว จะคร่ำครวญ จิตวิญญาณแตกสลาย

เจ้าจะทิ้งชื่อไว้เพื่อให้เขาสาปแช่ง และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสังหารเจ้า แต่สำหรับบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์  พระองค์จะทรงเรียกเขาด้วยชื่ออื่น    เพื่อว่าคนที่ขอพรในแผ่นดินนั้น จะขอพรจากพระเจ้าแห่งความจริง

คนที่ให้คำปฏิญาณในแผ่นดิน ก็จะให้คำปฏิญาณโดยพระเจ้าแห่งความจริง  เพราะความทุกข์ยากเก่าก่อนจะถูกลืม และถูกซ่อนจากสายตาของเรา”

พระเจ้าทรงให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ติดตามพระองค์กับคนที่ไปตามทางของตัวเองอย่างชัดเจน!

อิสยาห์ 65-1 บทลงโทษคนดื้อ

อิสยาห์ 65:1-7

เราพร้อมที่จะให้คนที่ไม่เคยถามหาเรา ได้พบเรา
เราพร้อมที่จะให้คนที่ไม่เคยแสวงหาเรา ได้พบเรา
เรากล่าวว่า “เราอยู่ที่นี่ เราอยู่นี่” กับประชาชาติที่ไม่ได้เรียกตามชื่อของเรา
พระเจ้าทรงพร้อมที่จะเมตตาต่อประชาชาติที่ไม่เคยรู้จักพระองค์มาก่อนเลย
ต่อชาติที่พระองค์ไม่ได้ทรงเลือกเป็นพิเศษอย่างอิสราเอล

the lord's hand

เรายื่นมือของเราออกทั้งวันต่อเหล่าคนที่ดื้อดึง
คนที่เดินไปในทางที่ไม่ดี เดินตามความเห็นของตนเองเท่านั้น
คนที่พยายามยั่วให้เราโกรธไม่หยุดหย่อน
พระเจ้าไม่ได้ซ่อนพระพักตร์จากอิสราเอลเลย
พวกเขาจำเป็นต้องหันมาตามพระองค์แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
พวกเขายั่วยุพระเจ้าจากการกราบไหว้สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา

พวกเขาถวายเครื่องบูชาในสวน และถวายเครื่องบูชาแก่อิฐ ชอบไปนั่งอยู่ในถ้ำเก็บศพ
และใช้เวลาตอนกลางคืนในที่ลึกลับ กินเนื้อหมู และต้มเนื้อสกปรกในหม้อ
เขากล่าวว่า “ออกไปให้ห่างข้า เพราะข้าบริสุทธิ์เกินไปสำหรับเจ้า”

พวกเขาไม่ได้สนใจทางของพระเจ้า แต่ตั้งหลักเกณฑ์ของตนขึ้นมา
แถมยังคิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั่นแหละทำให้ตนบริสุทธิ์สะอาด 
ทั้ง ๆ ที่ความบริสุทธิ์ที่เขาคิดคือสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเจ้าเป็นอย่างมาก

คนเหล่านี้เป็นเหมือนควันออกมาจากจมูกของข้า เป็นไฟที่เผาไหม้ตลอดวัน
ดูเถิด มันเขียนไว้ต่อหน้าเราว่า
“เราจะไม่นิ่งเฉย แต่เราจะตอบสนอง เราจะตอบสนองให้สาสม
ตอบสนองทั้งบาปของเจ้าและของบรรพบุรุษเจ้า “ พระเจ้าตรัส
เพราะว่า พวกเขาได้ถวายเครื่องบูชาบนเนินเขา
ดูหมิ่นเราบนเนินเขาเหล่านั้น เราจะตอบสนองเขาอย่างเต็มที่เพราะการกระทำของเขาตั้งแต่เดิมนั้น”
การแก้คืนของพระเจ้าเกิดขึ้นแน่นอน พระองค์ตรัสไว้

อิสยาห์ 64-2 คำอ้อนวอนของอิสยาห์

อิสยาห์ 64:7-12

แต่บัดนี้  ข้าแต่พระเจ้า  พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเรา
เราเป็นเพียงดิน  พระองค์ทรงเป็นช่างปั้น  เราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์
ขอพระองค์อย่าทรงโกรธเกรี้ยวกับเราเลย พระเจ้าข้า
ขออย่าทรงจำบาปของเราตลอดไป
ขอพระองค์โปรดทอดพระเนตรดู  เราทั้งหลายเป็นคนของพระองค์

Dinnเรายอมให้พระองค์ปั้นเราไหม?

นครบริสุทธิ์ของพระองค์กลายเป็นที่ร้างเปล่ากันดาร
ศิโยนกลายเป็นถิ่นร้าง  เยรูซาเลมถูกคนละทิ้งไป
บ้านที่บริสุทธิ์สวยงามของเรา
บ้านที่พ่อของเราอาศัยและสรรเสริญพระองค์ก็ถูกไฟเผาไหม้เสียสิ้น
และสถานที่ดี ๆ ของเรากลายเป็นซากปรักหักพัง
พระองค์จะทรงเมินพระองค์จากสิ่งเหล่านี้หรือ พระเจ้าข้า?
พระองค์จะทรงเงียบเฉยและทรงทำให้เราทุกข์ยากแสนสาหัสอย่างนั้นหรือ?

สภาพของอิสราเอลนั้นเลวร้ายมาก  นครที่เคยมีคนมากมายกลับกลายเป็นที่ร้างเปล่า
น่าอาย น่ากลัว น่าสยองยิ่งนัก  ศัตรูได้มาทำลายเมืองและปล้นทั้งทรัพย์สมบัติและผู้คนไป…
อิสยาห์ทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ถึงแม้พระองค์จะไม่ทรงมองพวกเขาเลยก็ตาม

อิสยาห์ 64-1 เราต้องการพระองค์มาก

อิสยาห์ 64:1-6

โอ ข้าปรารถนาให้พระองค์ฉีกสวรรค์ออกและเสด็จลงมา เพื่อเหล่าภูเขาจะได้สั่นสะเทือนเมื่อพระองค์เสด็จ
เหมือนกับไฟที่ลุกอยู่ในป่า ไฟที่ทำให้น้ำเดือด เพื่อทำให้ศัตรูของพระองค์ได้รู้จักพระนามของพระองค์
และเพื่อประชาชาติจะตัวสั่นเมื่อเผชิญพระพักตร์พระองค์
เมื่อพระองค์ทรงทำสิ่งยิ่งใหญ่ที่เราไม่ได้คาดฝัน
พระองค์เสด็จลงมา  บรรดาภูเขาก็สั่นไหวสะเทือนลั่นต่อพระพักตร์พระองค์

kaosateun

ภาพจากhttp://www.gns.cri.nz

อิสยาห์ทูลขอให้พระเจ้าปรากฏพระองค์อีกครั้งแก่อิสราเอล  เพราะตอนนี้พวกเขาต้องการพระองค์ยิ่งนัก

เพียงแต่พระเจ้าปรากฏพระองค์  และทรงทำสิ่งอัศจรรย์เพื่อพวกเขา  ทุกอย่างจะดีขึ้น  อิสยาห์ขอร้องพระเจ้าอย่าทรงนิ่งเฉยต่อพวกเขาเลย

ตั้งแต่อดีต ไม่มีใครได้ยิน หรือได้เอาใจใส่  ไม่มีใครเห็นองค์พระเจ้าอย่างพระองค์
พระองค์ผู้กระทำราชกิจให้แก่คนที่รอ คอยพระองค์
พระองค์ทรงพบคนที่ทำสิ่งชอบธรรมอย่างชื่นบาน
คนที่คอยระลึกถึงพระองค์ ทางของพระองค์

ดูเถิด พระองค์ทรงโกรธ และเราก็ทำบาป  เราอยู่ในบาปของเรานานมาก  และเราจะรอดไหมนี่?
เราทั้งหมดกลายเป็นคนไม่สะอาด สิ่งดีที่เราทำก็เหมือนกับเสื้อผ้าสกปรก
เราค่อย ๆ จางหายไปเหมือนใบไม้ และความผิดของเราก็หอบเราไปเหมือนลม

อิสยาห์สงสัยว่า จากที่พวกเขาทำบาปมานาน  เขายังจะมีโอกาสอีกครั้งไหม? พระเจ้าจะทรงให้โอกาสอีกไหม  มีแต่พระองค์เท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้?

อิสยาห์ 63-3 ทำไมพระเจ้าทรงทิ้งเรา?

อิสยาห์ 63:15-19

อธิษฐานขอพระเมตตา
ขอพระเจ้าทรงมองลงมาจากสวรรค์จากที่ประทับอันงดงามของพระองค์  และโปรดดูเรา
ความกระตือรือร้นและฤทธานุภาพมหันต์ของพระองค์อยู่ที่ไหน?
พระองค์เจ้าข้า ดูเหมือนว่า น้ำพระทัยและความสงสารของพระองค์หายไปจากข้าพเจ้า

แม้อิสยาห์จะรู้ว่า พระเจ้าทรงเมตตา  แต่เขาไม่เห็นอะไรในคนอิสราเอลที่ทำให้เห็นถึงพระเมตตานั้น 

ที่ค่ายเอาชวิทซ์ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง คนยิวจะรู้สึกเหมือนกับพระคำตอนนี้มากที่สุด ว่าไหม?
ที่ค่ายเอาชวิทซ์ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง คนยิวจะรู้สึกเหมือนกับพระคำตอนนี้มากที่สุด ว่าไหม?

เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเรา แม้อับราฮัมไม่รู้จักเรา และอิสราเอลไม่ยอมรับเรา
แต่พระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเรา  พระนามของพระองค์คือพระผู้ไถ่

อิสยาห์อธิษฐานบอกพระเจ้าว่า พระองค์ทรงเป็นพระบิดา  บิดาก็ต้องสงสารเห็นใจลูกมิใช่หรือ   เขาทูลต่อพระองค์เพื่อให้พระองค์ทรงช่วยอิสราเอล

ข้าแต่พระเจ้า เหตุใดพระองค์จึงทรงทำให้เราหลงเจิ่นไปจากทางของพระองค์
และทำให้ใจของเราแข็งจนเราไม่เกรงกลัวพระองค์
ขอพระองค์ทรงกลับมาเพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์
บรรดาชนเผ่าอันเป็นมรดกของพระองค์เหล่าคนผู้บริสุทธิ์ของพระองค์ครอบครองชั่วขณะหนึ่ง
และศัตรูของเราได้เหยียบย่ำพระวิหารบริสุทธิ์ของพระองค์

เราแปลกใจว่า เหตุใดอิสยาห์ถึงพูดราวกับว่า พระเจ้าทรงเป็นต้นเหตุของบาปทั้งปวง  เขาตัดพ้อพระเจ้าหรือเปล่า  เขาได้ทูลขอให้พระองค์กลับมาช่วยเพื่อเห็นแก่เขา  …. แทนที่คนของพระองค์จะครอบครองพระวิหาร  แต่ศัตรูกลับเหยียบย่ำพระวิหารของพระองค์เป็นเวลานาน

เราทั้งหลายเป็นอย่างคนที่พระองค์ไม่เคยครอบครอง เป็นเหมือนคนที่พระองค์ไม่ได้ทรงเรียกด้วยพระนามของพระองค์!

 อิสยาห์กำลังทูลขอพระเจ้าทรงช่วย  ช่วยให้คนอิสราเอลได้กลับมาเป็นคนขอพระองค์ อย่าให้เป็นเหมือนคนต่างชาติที่ไม่รู้จักพระองค์ 

อิสยาห์ 63-2 ย้อนกลับไปในอดีต

อิสยาห์ 63:7-14

ข้าจะบอกถึงรายการความรักของพระเจ้า
ราชกิจที่ทำให้เราต้องสรรเสริญพระองค์
สิ่งทั้งปวงที่พระองค์ประทานแก่เราและความดีอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อเหล่าอิสราเอล
พระองค์ประทานให้เราตามพระทัยเมตตาของพระองค์  ตามความรักมั่นคงที่มีมากล้นเหลือ

เพราะพระองค์ตรัสว่า “ จริง ๆ แล้ว เขาเป็นคนของเรา  ลูกหลานที่จะไม่ทรยศต่อเรา  และพระองค์จึงทรงมาเป็นพระผู้ช่วยของเขา

พระองค์ทรงเดือดร้อน เมื่อพวกเขาเดือดร้อน  และทูตสวรรค์ที่อยู่ต่อพระพักตร์ก็มาช่วยเขาให้รอด
พระองค์ทรงไถ่เขาด้วยความรักและความสงสาร พระองค์ทรงยกเขาขึ้น และพาเขาไปตลอดเวลาที่ผ่านมาในอดีต

แต่พวกเขากลับดื้อดึงต่อพระองค์  และทำให้พระวิญญาณของพระองค์เสียพระทัย
ดังนั้น พระองค์จึงกลับกลายเป็นศัตรูของเขา  ทรงสู้ต่อต้านเขา

แล้วพระองค์ทรงระลึกถึงวันก่อนเก่าตั้งแต่สมัยโมเสสและประชาชนของพระองค์

moses
พระองค์ผู้ทรงนำเขาออกมาจากทะเล และทรงเลี้ยงดูพวกเขาดั่งเลี้ยงดูฝูงสัตว์อยู่ที่ไหน?
พระองค์ผู้ประทานพระวิญญาณให้อยู่ท่ามกลางเขา
ผู้ทรงให้ฤทธิ์เดชตระการแห่งพระหัตถ์ไปอยู่ที่แขนขวาของโมเสส ผู้ทรงแยกน้ำต่อหน้าพวกเขา
และกระทำให้พระนามของพระองค์เป็นพระนามนิรันดร์
ผู้ทรงนำพวกเขาผ่านเข้าไปในที่ลึก  พระองค์ทรงอยู่ที่ไหน?

พวกเขาไม่ได้ล้มลง เหมือนอย่างม้าในทะเลทราย
พระวิญญาณของพระเจ้าทรงทำให้เขาพักผ่อนเหมือนกับฝูงสัตว์ที่เดินลงไปในหุบเขา
พระองค์ทรงนำคนของพระองค์ เพื่อให้พระนามของพระองค์ยิ่งใหญ่ตระการ?

อิสยาห์ 63-1

ถอดความจากอิสยาห์ 63:1-6

“ใครนะที่มาจากเอโดม สวมเสื้อสีแดงเข้มจากโบสราห์ พระองค์นั้นช่างงามสง่าในเครื่องแต่งองค์  ดำเนินมาด้วยความยิ่งใหญ่แห่งพระกำลัง ?   “คือเราเอง เราคือผู้ที่สามารถช่วยให้รอดพ้นได้  เรากล่าวด้วยความชอบธรรม”

เหตุใดเครื่องทรงของพระองค์จึงเป็นสีแดง และฉลองพระองค์เป็นเหมือนคนที่ไปย่ำบ่อองุ่นมา?

isa_63_3

 

 

“ใช่.. เราไปย่ำบ่อองุ่นคนเดียว  ไม่มีใครจากหมู่ประชาชนไปกับเรา  เราย่ำมันด้วยความโกรธ  เราเหยียบย่ำเค้นมันด้วยความพิโรธ   เลือดของพวกเขากระเซ็นสาดมาบนเสื้อของเรา และทำให้เครื่องทรงทั้งหมดเป็นรอยด่าง”

เพราะวันแห่งการแก้แค้นนั้นอยู่ในใจของเรา และปีของการไถ่ของเรานั้นมาถึงแล้ว

เรามองดู แต่ไม่มีใครมาช่วย  เราตกใจ ไม่น่าเชื่อ เพราะไม่มีใครอุ้มชูไว้ ไม่มีใครอาสา

ดังนั้นเราจึงต้องนำความรอดมาด้วยแขนของเราเอง ความโกรธของเราชูเราไว้  เราเหยียบย่ำเหล่าชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธ  และเราได้เทเลือดของเขาลงบนแผ่นดิน!

อิสยาห์ 62-2 เมืองที่ไม่ถูกทิ้ง

อิสยาห์ 62:6-12

โอเยรูซาเล็ม  เราได้จัดเหล่าคนเฝ้ายามไว้บนกำแพงของเจ้า
ทั้งวันและทั้งคืน พวกเขาจะไม่นิ่งอยู่
เจ้าผู้ทำให้พระเจ้าระลึกถึงไม่หยุด จะไม่ยอมหยุดพัก
และไม่ยอมให้พระเจ้าทรงพักจนกว่าพระองค์จะทรงสถาปนาเยรูซาเล็ม
และทำให้นครนี้เป็นที่สรรเสริญในแผ่นดินโลก

หน้าที่ในการอธิษฐานนั้นเป็นของพวกเรา   พระเจ้าทรงจัดเราไว้เป็นคนยาม  คนยามต้องรู้ว่า เขาจะเฝ้าระวังอะไร และจากนั้นเขาต้องทำอะไร    พวกเรารู้แล้วยังว่า … ในฐานะเป็นคนยาม ต้องทำอะไรบ้าง 

YamWall
พระเจ้าทรงปฏิญาณด้วยพระหัตถ์ขวา ด้วยพระกรที่เข้มแข็ง
“เราจะไม่ให้ธัญพืชเป็นอาหารแก่ศัตรูของเจ้าอีกต่อไป
และคนต่างชาติจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นที่เป็นหยาดเหงื่อของเจ้าอีกต่อไป
คนที่ทำงานจะได้กิน และสรรเสริญพระเจ้า
คนที่รวมรวมจะได้ดื่มในสถานที่บริสุทธิ์ของเรา”

จงเดินออกมาจากประตู  ออกมาจากประตูและเตรียมทางให้กับประชาชน
สร้างซิ สร้างหนทางและเก็บก้อนหินออกไป
ตั้งเสาสัญญาณให้คนได้เห็น
ดูเถิด   พระเจ้าได้ประกาศไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก
กล่าวกับลูกสาวแห่งศิโยนว่า
ดูเถิด ความรอดของเจ้ามาแล้ว
ดูซิ รางวัลก็อยู่กับพระองค์  การตอบแทนนั้นอยู่หน้าพระพักตร์ของพระองค์
พวกเขาจะถูกเรียกว่า คนบริสุทธิ์ ผู้ที่พระเจ้าทรงไถ่
และเจ้าจะถูกเรียกว่า หามาได้  เมืองที่ไม่ถูกทอดทิ้ง

อิสยาห์ 62-1 มงกุฎในพระหัตถ์

อิสยาห์ 62:1-5
เพื่อเห็นแก่ศิโยน ข้าจะไม่นิ่งเฉย เพื่อเห็นแก่เยรูซาเล็ม ข้าจะไม่พัก
จนกว่าความชอบธรรมของเธอจะออกไปอย่างกระจ่างแจ้ง
จนกว่าความรอดของเธอจะเป็นดั่งตะเกียงที่ลุกไหม้อยู่
พระเจ้าทรงตั้งพระทัยที่จะให้เยรูซาเล็มเป็นแสงสว่างของบรรดาประชาชาติ”

บรรดาคนต่างชาติทั้งหลายจะเห็นความชอบธรรมของเจ้า
และราชาทั้งหลายจะเห็นศักดิ์ศรีของเจ้า
เจ้าจะถูกเรียกด้วยชื่อใหม่
ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า
ชื่อใหม่ของอิสราเอลมีเพราะว่า เยรูซาเล็มจะอยู่ในสภาพใหม่

เจ้าจะเป็นมงกุฎงามตระการในพระหัตถ์ของพระเจ้า
เป็นมงกุฎของราชาในพระหัตถ์ของพระเจ้า

คิดถึงมงกุฎที่มีความหมายต่อเราทุกคน ไม่ว่าเราจะเป็นใคร
คิดถึงมงกุฎที่มีความหมายต่อเราทุกคน ไม่ว่าเราจะเป็นใคร

เขาจะไม่เรียกเจ้าว่า “ผู้ที่ถูกทอดทิ้ง”
และเขาจะไม่เรียกแผ่นดินของเจ้าว่า “ที่รกร้าง”
แต่เจ้าจะถูกเรียกว่า “ความยินดีในเธอ”
และแผ่นดินของเจ้าก็จะเรียกว่า “สมรส”
เพราะว่าพระเจ้าทรงยินดีใจเจ้า
และแผ่นดินของเจ้าจะแต่งงาน
เขาจะกลับคืนมามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้าอีกครั้ง

เพราะว่าชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาวพรหมจารีอย่างไร
ลูกชายของเจ้าจะแต่งงานกับเจ้าอย่างนั้น
เจ้าบ่าวยินดีในเจ้าสาวอย่างไร
พระเจ้าก็ทรงยินดีในเจ้าอย่างนั้น

อิสยาห์ 61-3 สิ่งที่งอกขึ้นมา

อิสยาห์ 61:8-11

เพราะเรา  องค์พระเจ้าผู้ทรงรักความยุติธรรม   เราเกลียดชังการขโมยและความผิด
เราจะแก้แค้นอย่างแน่นอน และเราจะทำสัญญานิรันดร์กับเขา
ลูกหลานของเขาจะเป็นที่รู้จักท่ามกลางประชาชาติ
และเขาเหล่านั้นจะมีชื่อเสียงท่ามกลางคนทั้งหลาย
คนที่เห็นเขาก็จะยอมรับเขา ว่า เขาเป็นลูกหลานที่พระเจ้าทรงอวยพระพร

เราจะยินดีในพระเจ้าเป็นอย่างมา  วิญญาณของเราจะชื่นชมในพระเจ้า
เพราะพระองค์ทรงสวมเสื้อแห่งความรอดให้แก่เรา
พระองค์ทรงคลุมข้าด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม
เหมือนกับเจ้าบ่าวที่สวมชุดอันเหมาะสม เหมือนกับปุโรหิตที่มีมาลัยสวมศีรษะ
เหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวเธอเองด้วยอัญมณีที่งดงาม

Sprouts

เปรียบเหมือนที่โลกได้ให้เกิดต้นงอกออกมา

เปรียบเหมือนกับสวนที่ทำให้สิ่งที่หว่านลงไปงอกขึ้นมา

พระเจ้าจะทรงให้ความชอบธรรมและการสรรเสริญงอกขึ้นต่อหน้าบรรดาประชาชาติอย่างนั้น

อิสยาห์ 61-2 พระพรสองเท่า

อิสยาห์ 61:4-7

เขาจะสร้างสิ่งปรักหักพังโบราณขึ้นมาใหม่
จะยกความเสียหายก่อนเก่านั้นขึ้นมา และจะซ่อมแซมเมืองที่ถูกทำลาย
อันเป็นความหายนะที่เกิดมาหลายชั่วอายุคน
คนแปลกหน้าจะยืนอยู่ และเฝ้าฝูงแกะของเจ้า

kon
คนต่างชาติจะเข้ามาไถนา และปลูกสวนองุ่น
แต่เจ้าจะถูกเรียกว่า เป็นปุโรหิตของพระเจ้า
พวกเขาจะพูดถึงเจ้าว่า เป็นผู้ปรนนิบัติพระเจ้า
เจ้าจะกินความมั่งคั่งของประชาชาติทั้งหลาย และเจ้าจะอวดศักดิ์ศรี ความมั่งคั่งของพวกเขา

เจ้าจะได้รับพระพรสองเท่าแทนความอับอาย
เจ้าจะยินดีในส่วนของเขา แทนความอดสู
ดังนั้นพวกเขาจะได้กรรมสิทธิ์เป็นสองส่วน
และเขาจะมีความยินดีนิรันดร์

อิสยาห์ 61-1 ปีแห่งความโปรดปราน!

อิสยาห์ 61:1-3

ปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า

พระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่เหนือข้าฯ
เพราะว่า พระองค์ทรงเจิมข้าฯ ไว้
เพื่อให้นำข่าวดีไปยังคนยากจน
และพระองค์ทรงส่งข้าฯ ไป
เพื่อที่จะพันบาดแผลของคนที่ใจชอกช้ำแตกสลาย
เพื่อประกาศอิสรภาพให้แก่บรรดาเชลย
และเปิดประตูคุกให้กับคนที่ถูกล่ามไว้
เพื่อที่จะประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า
และวันแห่งการแก้แค้นของพระองค์

เพื่อที่จะปลอบโยนคนที่เศร้าโศก

เพื่อที่จะเอาใจใส่คนที่คร่ำครวญในศิโยน

เพื่อที่จะให้มาลัยสวมหัวที่งดงามแทนขี้เถ้าโปรย

น้ำมันแห่งความยินดี แทนการคร่ำครวญโศกสลด

เพื่อที่จะให้เสื้อผ้าแห่งการสรรเสริญแทนจิตใจที่อ่อนแรง

ว้าว....
ว้าว….

เพื่อว่าเขาจะได้รับการเรียกว่า ต้นโอ๊คแห่งความชอบธรรม ที่พระเจ้าทรงปลูกไว้

เพื่อว่า พระองค์จะทรงรับพระเกียรติตระการ!

ผู้ที่กล่าวคำข้างบนนี้คือ ผู้รับใช้ของพระเจ้าที่ได้ลงมาจากเบื้องบน  ลงมาเป็นผู้รับใช้บนแผ่นดินโลก   ผู้รับใช้ท่านนี้ ได้รับพระวิญญาณของพระเจ้า และนำคำแห่งการรักษา  อิสรภาพให้กับบรรดาคนที่ทุกข์ยาก และถูกจำขัง    การได้รับเจิมนั้นสำคัญยิ่ง  เพราะทำให้เรารู้ว่า เขามิได้เป็นแค่ผู้รับใช้ที่ทำสิ่งต่าง ๆ อย่างที่เขาอธิบายมา  แต่เขาเป็นกษัตริย์ด้วย  …..  ผู้ที่ได้รับการเจิม คือผู้ที่จะกลายมาเป็นกษัตริย์  

อิสยาห์ 60-4 จะถึงวันเร่งเวลา

อิสยาห์ 60:18-22

จะไม่ได้ยินถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในแผ่นดินของเจ้าอีกต่อไป ไม่ได้ยินเรื่องความเสียหาย  ภัยพิบัติต่างๆ ตามชายแดนอีก เจ้าจะเรียกกำแพงของเจ้าว่า ความรอดพ้น และประตูเมืองของเจ้าเรียกว่า สรรเสริญ

จริง ๆ เรากำลังอยู่ในโลกของความรุนแรง  แม้บางที่่จะมีความสงบ  แต่ความรุนแรงก็ระบาดทั่วไป  คำของพระเจ้าตอนนี้ทำให้เรามีความหวังว่า เราจะได้อยู่ในสภาพที่หมดจากความรุนแรง….  ภาวะเช่นนี้ คือภาพของหนึ่งพันปีที่พระเจ้าจะทรงครอบครอง  

ผู้ปกครองไม่ได้ปกครองด้วยดาบ คอรัปชั่น  แต่เขาจะครอบครองด้วยความชอบธรรมและสันติสุข

ดวงอาทิตย์จะไม่เป็นแสงสำหรับเจ้าตอนกลางวัน หรือกลางคืนก็จะไม่มีแสงของดวงจันทร์อีกต่อไป  แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นแสงสว่างนิรันดร์ของเจ้า  และพระเจ้าของเจ้าจะทรงเป็นศักดิ์ศรีของเจ้า

ในวันนั้นของพระเจ้า เราจะไม่เห็นดวงอาทิตย์ที่เคยชินอย่างนี้อีก แต่พระองค์คือแสงสว่างของเรา
ในวันนั้นของพระเจ้า เราจะไม่เห็นดวงอาทิตย์ที่เคยชินอย่างนี้อีก แต่พระองค์คือแสงสว่างของเรา

ดวงอาทิตย์ของเจ้าไม่มีวันตก ดวงจันทร์ไม่ซ่อนตัว เพราะว่า พระเจ้าทรงเป็นแสงสว่างนิรันดร์ของเจ้า
และวันแห่งความทุกข์โศกของเจ้าจะสิ้นสุดลง

หากเราคิดถึงเพื่อนคริสเตียนที่ถูกข่มเหงตามประเทศต่าง ๆ  ทั่วโลกทุกวันนี้ … เราจะเข้าใจว่า ความทุกข์โศกนั้นมันสาหัสมากเพียงใด 

คนของเจ้าจะเป็นผู้ชอบธรรมทั้งหมด และพวกเขาจะได้ครอบครองแผ่นดินเป็นนิตย์
เป็นพืชพันธุ์เขียวขจีที่เราปลูก  เป็นผลงานของมือของเราเอง เพื่อว่าเราจะได้รับการยกย่อง
คนเล็กน้อยสุดจะกลายเป็นเผ่าใหญ่  คนที่เล็กที่สุดจะกลายเป็นประชาชาติที่เข้มแข็ง
เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะ เราจะเร่งให้มันเร็วขึ้น

อิสยาห์ 60-3 อนาคตศิโยน

อิสยาห์ 60:13-17

ศักดิ์ศรีของเลบานอนจะมายังเจ้า ทั้งต้นไซเปรส ต้นโอ๊กและต้นสน  เพื่อที่จะประดับสถานที่บริสุทธิ์ของเราให้งดงาม
และเราจะทำให้สถานที่วางเท้าของเรารุ่งโรจน์
ลูกหลานของคนที่ข่มเหงเจ้าจะเข้ามาก้มลง และทุกคนที่ดูหมิ่นเจ้าจะทรุดลงที่เท้าของเจ้า

TONcypress

พวกเขาจะเรียกเจ้าว่า เมืองของพระเจ้า  ศิโยนขององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

นอกจากที่จะช่วยสร้างเมืองใหม่แล้ว   คนต่างชาติจะเอาของดีมาให้   คนของพระเจ้าที่เคยถูกข่มเหงก็จะเจอประสบการณ์ที่แปลกออกไป  อย่างไม่น่าเชื่อ 

ในเมื่อเจ้าถูกทิ้งและถูกเกลียดชัง ไม่มีใครเดินผ่าน เราจะทำให้เจ้ายิ่งใหญ่ตระการตลอดไป  เป็นความชื่นบานสำหรับคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า
เจ้าจะดื่มนมของประชาชาติทั้งหลาย  และเจ้าจะได้ดื่มนมจากอกของราชาทั้งหลาย

จะมีหลายชาติที่ช่วยสนับสนุนอิสราเอล  ตั้งแต่เริ่มต้นประเทศอิสราเอลใหม่จากปี 1948  แม้จะมีศัตรูมาก แต่ก็ไม่น้อยที่สนับสนุนพวกเขา
และเจ้าจะรู้ว่า เรา .. องค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
และเป็นผู้ไถ่เจ้า เราคือองค์ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบ

เราจะนำทองคำแทนที่ทองเหลือง   นำทองเหลืองมาแทนไม้ และนำเหล็กมาแทนหิน

เราจะให้สันติภาพเป็นผู้ดูแลเจ้า และความชอบธรรมเป็นนายของเจ้า…

อิสยาห์ 60-2

อิสยาห์ 60:8-12

ใครนะที่บินราวกับเมฆ  และเป็นเหมือนนกพิราบที่ทำให้ฟ้ามืดมัว?

เพราะเหล่าประเทศตามชายฝั่งทะเลจะหวังใจในเรา
นั่นคือ เรือแห่งทารซิส เพื่อที่จะนำลูกหลานของเจ้ามาจากที่ไกล
พร้อมกับเงินและทอง เพื่อพระนามของพระเจ้าของเจ้า และเพื่อองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
เพราะพระองค์ทรงทำให้เจ้างดงาม

คนต่างชาติจะสร้างกำแพงให้เจ้า และเหล่ากษัตริย์ทั้งหลายจะปรนนิบัติเจ้า

เพราะเราได้เฆี่ยนตีเจ้าด้วยความพิโรธ แต่เราก็เมตตาเจ้าด้วยความรักที่มีต่อเจ้า

 แทนที่จะต่อสู้กับอิสราเอล พวกเขากลับจะทำให้อิสราเอลสูงขึ้น

พระเจ้าทรงใช้อัสซีเรียมาทำให้คนของพระองค์ได้ตระหนักว่า พวกเขาทำผิดกับพระองค์อย่างไร

แต่การเฆี่ยนตีของพระเจ้าไม่ได้มีอยู่ตลอดไป   พระองค์ทรงมีเวลาที่บรรเทารักษาด้วย

PratuZion

ประตูเมืองของเจ้าจะเปิดอยู่เสมอ ทั้งวันและคืนไม่มีปิด

เพื่อว่า คนทั้งหลายจะได้นำทรัพย์สมบัติแห่งชาติของตนมาให้เจ้า มีกษัตริย์นำคนเหล่านั้นมาเป็นสาย

เพราะประเทศและอาณาจักรที่ไม่รับใช้เจ้า ก็จะพินาศไป และพวกเขาจะถูกทำลายไม่เหลือ

อิสยาห์ 60-1

อิสยาห์ 60:1-7

ประชาชนกลับมารวมตัวกัน อนาคตอันสุกใสของอิสราเอล

ลุกขึ้นเถอะ จงส่องแสง เพราะแสงสว่างของเจ้ามาแล้ว
และพระสิริของพระเจ้าได้ขึ้นมาเหนือเจ้า
เพราะดูเถอะ.. ความมืดจะปกคลุมโลก และความมืดหนาทึบจะคลุมชนชาติทั้งหลาย
แต่พระเจ้าจะทรงลุกขึ้นมาเหนือเจ้า
และพระสิริของพระองค์จะเป็นที่ประจักษ์เหนือเจ้า
บรรดาประชาชาติทั้งหลายจะเข้ามาหาความสว่างของเจ้า และราชาทั้งหลายจะเข้ามายังความสุกใสที่เจ้าได้ขึ้นมาให้เห็น

จงมองออกไปรอบ ๆ และดู  ดูซิ พวกเขารวบรวมเข้ามาด้วยกัน และมาหาเจ้า  ลูกชายของเจ้าจากที่ไกล และลูกสาวของเจ้านั้นจะมีคนอุ้มใส่เอวมา
และเจ้าจะได้เห็น และรู้สึกชื่นชมยินดียิ่ง ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและเปรมปรีดิ์ยิ่งนัก เพราะว่า ความมั่งคั่งแห่งทะเลก็จะมาหาเจ้า  ความมั่งคั่งของประชาชาติทั้งหลายจะมาหาเจ้าเช่นกัน

uut

กองคาราวานอูฐจะปกคลุมเจ้า และอูฐหนุ่มแห่งมีเดียนและเอฟาห์ รวมทั้งอูฐจากเชบาจะเข้ามา
เขาจะนำเอาทองคำและกำยาน และจะนำข่าวดีมาด้วย เป็นการสรรเสริญพระเจ้า

ฝูงสัตว์แห่งเคดาร์จะรวบรวมเข้ามาหาเจ้า และเหล่าแกะผู้แห่งเนบาโยทก็จะปรนนิบัติเจ้า พวกเขาจะถูกรับเข้ามายังแท่นบูชาของเรา  และเราจะตกแต่งบ้านอันงดงามของเรา 

อิสยาห์ 59-4 การแก้คืนของพระเจ้า

อิสยาห์ 59:14-21

การถูกพิพากษา และการไถ่ของพระเจ้า
ความยุติธรรมถูกเอาหันกลับไป และความชอบธรรมยืนอยู่ห่างไกล
เพราะความจริงสะดุดอยู่ที่สี่แยกสาธารณะ และความซื่อตรงไม่สามารถเข้าไปได้
ความจริงขาดไป และคนที่ออกจากความชั่ว ทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นเหยื่อ

พระเจ้าทรงเห็น และพระองค์ไม่ทรงพอพระทัยที่ไม่มีความยุติธรรม
พระองค์ทรงเห็นว่า ไม่มีใคร และไม่มีใครอ้อนวอนเผื่อ

ดังนั้น พระองค์จึงให้พระกรของพระองค์นำความรอดมาให้ และความชอบธรรมของพระองค์เชิดชูพระองค์ไว้

พระองค์ทรงสวมความชอบธรรมเป็นเครื่องป้องกันอก และทรงสวมหมวกแห่งความรอดไว้ที่ศีรษะ
และพระองค์ทรงสวมเสื้อแห่งการแก้แค้น และคลุมพระองค์ด้วยความกระตือรือร้นเป็นเสื้อคลุม

พระองค์จะทรงตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา
พระพิโรธให้แก่ศัตรูของพระองค์  ตอบสนองศัตรูของพระองค์
พระองค์จะทรงตอบแทนบรรดาประชาชาติตามชายทะเล
ดังนั้น เขาจะกลัวพระนามของพระองค์ จากทางตะวันตก
และพระสิริของพระองค์มาจากทิศที่ตะวันขึ้น

เพราะว่าเมื่อศัตรูมาเหมือนอย่างน้ำเชี่ยวกราก พระวิญญาณของพระเจ้าจะทรงยกธงขึ้นต่อต้านพวกเขา

namlhak
“และพระผู้ไถ่จะมายังศิโยน มายังบรรดาผู้ที่อยู่ในยาโคบซึ่งหันจากความชั่วร้าย “ พระเจ้าตรัสดังนั้น
“และสำหรับเราเอง นี่เป็นพันธสัญญาของเรากับพวกเขา”พระเจ้าตรัส
“พระวิญญาณของเราที่อยู่เหนือเจ้า
และคำของเราที่เราได้ใส่ไว้ในปากของเจ้า
จะไม่พรากจากปากของเจ้า หรือจากปากของลูกเจ้า หรือจากปากของหลานเจ้า “
พระเจ้าตรัส “ตั้งแต่วันนี้ไปถึงนิรันดร์กาล”

อิสยาห์ 59-2 ความผิดตรงหน้า

อิสยาห์ 59:9-13

ดังนั้น ความยุติธรรมก็ห่างไกลจากเรา และความชอบธรรมตามเราไม่ทันเลย
เราหวังว่าจะมีความสว่าง แต่กลับกลายเป็นความมืด เราหวังว่าจะมีแสงที่สดใสแต่เรากลับเดินในความมืดมน

เราคลำทางไปตามกำแพงราวกับคนตาบอด  เราคลำทางเหมือนคนที่ไม่มีตา เราสะดุดในเวลากลางวันเหมือนกับที่เราสะดุดยามค่ำ

isa59_10

เราเหมือนคนตายท่ามกลางคนที่มีกำลังกระฉับกระเฉง
เราทุกคนต่างครางเหมือนหมี เราครวญคราง

คร่ำครวญเหมือนนกพิราบ เรามองหาความยุติธรรม แต่ก็ไม่มีเลย
เรามองหาความรอดพ้น  แต่มันก็อยู่ไกลจากเรา

เพราะว่า ความบาปผิดของเราสะสมทวีคูณต่อพระพักตร์ของพระองค์  และความบาปของเราก็เป็นหลักฐานปรักปรำเราอย่างโจ่งแจ้ง เพราะความบาปผิดของเราก็อยู่กับเรา และเรารู้ว่าเราผิดอะไร   มันก็คือ การล่วงละเมิด การปฏิเสธพระเจ้า การหันหลังไม่ติดตามพระองค์ การพูดจาบีบบังคับ  การดื้อดึง คิดและกล่าวคำมุสาจากใจ

อิสยาห์ 59-1 เหตุผลที่พระเจ้ามิทรงยิน

อิสยาห์ 59:1-7

ดูเถิด พระกรของพระเจ้ามิได้สั้น จนช่วยเจ้าไม่ได้
พระกรรณของพระองค์ก็ไม่ได้หนวกจนไม่ได้ยิน
แต่ที่เจ้าถูกแยกจากพระองค์ก็เพราะความบาปชั่วของเจ้า
และบาปได้บังพระพักตร์ของพระเจ้าจากเจ้า  พระองค์จึงยินเจ้าไม่ได้

มือของเจ้าเป็นมลทินเพราะบาป และนิ้วของเจ้าเปรอะเปื้อนด้วยความผิด
ปากของเจ้าพูดมุสา  ลิ้นของเจ้ากล่าวความโฉดชั่วออกมา
ไม่มีใครไปยังศาลด้วยความยุติธรรม ไม่มีใครใช้กฎหมายอย่างซื่อตรง
แต่กลับไปวางใจกับคำไร้แก่นสาร พวกเขามุสา และตั้งท้องเป็นความชั่วร้าย และคลอดความบาปออกมา

kaiNgu

 

ภาพจาก http://allofnature.blogspot.com

เขาฟักไข่ของงู  และทอใยแมงมุม  กินไข่ไปก็ตาย ส่วนไข่ที่แตกออกมาก็เกิดมาเป็นลูกงู

ใยแมงมุมนั้นไม่อาจนำมาใช้เป็นเสื้อผ้า และคนจะเอามันมาคลุมตัวก็ไม่ได้

งานของพวกเขาเป็นงานแห่งความชั่วร้าย และมือของเขาลงมือทำความรุนแรง

เท้าของเขาวิ่งไปหาความชั่วร้าย รวดเร็วในการทำให้คนไร้ผิดเลือดตกถึงตาย
หนทางความคิดรึ ก็เป็นความคิดเรื่องชั่ว ๆ การล้างผลาญ และการทำลาย
พวกเขาไม่รู้จักทางแห่งสันติสุข  ไม่มีความยุติธรรมตามทางของเขา
เขาทำให้ทางของตนเป็นทางเคี้ยวคดลดเลี้ยว
ใครที่ใช้ทางนั้นจะไม่เจอสันติสุข

อิสยาห์ 58-3 เคล็ดลับพระพร

อิสยาห์ 58: 9ข-14

หากเจ้าได้เอาแอกออกจากท่ามกลางพวกเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการชี้นิ้ว การพูดมุ่งร้าย
หากเจ้าได้ทุ่มเทชีวิตให้กับคนที่หิว และช่วยทำให้คนที่ถูกข่มเหงสมปรารถนา
แล้วความสว่างของเจ้าจะฉายแสงออกมาในความมืด และความมืดคลุ้มของเจ้าจะกลายเป็นเหมือนเที่ยงวัน
และพระเจ้าจะทรงนำเจ้าอย่างต่อเนื่อง และทรงให้เจ้าอิ่มในที่ ๆ ถูกแผดเผา
และทำให้กระดูกของเจ้าแข็งแรง  เจ้าจะเป็นเหมือนสวนที่ได้รับการรดน้ำ
เป็นเหมือนน้ำพุที่มีน้ำพลุ่งขึ้นมาตลอดเวลา
และบรรดาซากปรักหักพังจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่  เจ้าจะฟื้นฟูรากฐานของชนหลายรุ่น
เจ้าจะถูกเรียกขานว่า เป็นผู้ซ่อมรอยแตก และเป็นผู้รื้อฟื้นถนนหนทางขึ้นมาเพื่อให้มีบ้านเรือนได้ตั้งอยู่

lumm5

หากเจ้าได้หันเท้าของเจ้าไป ไม่เหยียบย่ำวันสะบาโต  ไม่ทำสิ่งที่พอใจของตัวเอง
และเรียกวันสะบาโตว่าเป็นวันที่น่าชื่นชม  เป็นวันที่มีเกียรติของพระเจ้า
หากเจ้าให้เกียรติแก่วันสะบาโต ไม่หันไปทำอะไรตามใจเจ้าเอง
ไม่เอาแต่หาความสุขส่วนตัว หรือพูดสิ่งที่ไร้สาระ

เมื่อนั้นแหละ เจ้าจะพบความยินดีในพระเจ้า และเราจะให้เจ้าบินขึ้นไปบนที่สูงของแผ่นดิน

เราจะเลี้ยงเจ้าด้วยมรดกของยาโคบบิดาของเจ้า  เพราะพระเจ้าได้ตรัสด้วยพระโอษฐ์ของพระองค์