อิสยาห์ 28-3

อิสยาห์ 28: 14

เจ้าผู้ครองประชาชนในนครเยรูซาเล็ม…เจ้าคนช่างเยาะเย้ย จงฟังสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เพราะเจ้ากล่าวว่า “เราได้ทำพันธสัญญาไว้กับความตาย  เราได้ตกลงไว้กับแดนผู้ตาย  ดังนั้นเมื่อการโบยตีโถมเข้ามาหา  พวกเราจะไม่โดนโบย … เพราะเราให้การมุสาเป็นที่ลี้ภัยของเรา  เราพึ่งร่มเงาของการหลอกลวง”

ดังนั้น พระเจ้าจึงตรัสว่า “ดูเถิด… เราเองเป็นผู้วางรากฐานของศิโยน เป็นศิลา ศิลาที่ถูกทดสอบแล้ว   เป็นศิลามุมเอกที่ทรงคุณค่า  เป็นรากฐานที่มั่นคง : ดังนั้นผู้ที่เชื่อวางใจจะไม่รีบร้อน

และเราจะให้ความยุติธรรมเป็นสายวัด  ให้ความชอบธรรมเป็นสายดิ่ง และลูกเห็บจะกวาดที่ลี้ภัยมุสา  และน้ำจะท่วมร่มเงาของการหลอกลวง “

“แล้วพันธสัญญาที่มีต่อความตายจะกลายเป็นโมฆะ  และข้อตกลงกับแดนคนตายก็จบลง  เมื่อการโบยตีที่ถาโถมเข้ามาผ่านไปแล้ว เจ้าก็จะถูกตีจนล้ม

sae2การโบยของพระเจ้าจะมาหาพวกเขาไม่หยุดหย่อน!

 

 

มันผ่านไปบ่อยเท่าไร มันก็จะจัดการกับเจ้า  เวลาเช้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่มันจะผ่านเข้ามา ทั้งกลางวันและกลางคน และเมื่อเจ้าเข้าใจข่าวสารนี้ ก็จะพบแต่ความสยดสยอง

เพราะว่า เตียงก็สั้นเกินคนที่นอน  และผ้าคลุมก็แคบเกินที่จะห่มตัว

เพราะว่า พระเจ้าจะทรงลุกขึ้นเหมือนอย่างที่ภูเขาเปริซิม  พระองค์จะทรงกริ้วเหมือนที่หุบเขากิเบโอน เพื่อว่าพระองค์จะทรงทำราชกิจของพระองค์  ราชกิจของพระองค์นั้นแปลกประหลาด  เพื่อว่า พระองค์จะทรงทำงานของพระองค์ และงานของพระองค์นั้นก็น่าฉงน!

ฉะนั้น เจ้าอย่าเป็นคนช่างเยาะเย้ย  มิฉะนั้น พันธะของเจ้าก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะข้าได้ยินคำบัญชาให้ทำลายทั้งแผ่นดินจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

คนช่างเยาะเย้ยนั้น ไม่ว่าตัวเองทำผิด หรือ ถูก ก็จะเยาะเย้ยคนอื่นเสมอ  เมื่อพระเจ้าเรียกใครเป็นคนช่างเยาะเย้ย คนนั้นคือคนชั่วร้าย   พวกเขาไปทำสัญญากับอียิปต์ กับอัสซีเรีย  เพราะคิดว่า จะช่วยพวกเขาได้  แต่อิสยาห์ได้บอกพวกเขาว่า เท่ากับเขากำลังไปตกลงกับความตาย ….

พวกเขาคิดว่าจะรอดพ้นภัยจากศัตรูได้   แต่เหล่าศัตรูนั่นแหละที่จะมาลากพวกเขาไปเป็นทาสในแดนของตน

ตรงข้ามกับสิ่งที่ผู้นำอิสราเอลไว้ใจ  นั่นก็คือ ศิลามุมเอก!

ถ้าจะพูดถึงศิลามุมเอกแล้ว ในสมัยโบราณ เป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของตัวอาคาร  พระเจ้าจะทรงวางศิลามุมเอกไว้   ตรงนี้เราทำเองไม่ได้เลย  ผู้ที่เป็นศิลามุมเอกคือ องค์พระเยซูคริสต์นั่นเอง  และคนที่วางใจในพระองค์ จะไม่ต้องรีบร้อนในเรื่องใด ๆ 

การงานของพระเจ้านั้นแปลก  คาดไม่ถึง และน่าฉงน ไม่มีใครจะเอาชนะพระองค์ได้เลย  จึงหยุดเยาะเย้ยได้แล้ว

อิสยาห์ 28-2

อิสยาห์  28:7-13

พวกเขาเหล่านี้ต่างเดินโซเซไปเพราะเหล้าองุ่น  เดินสะดุดเพราะดื่มจัด ทั้งปุโรหิตและผู้กล่าวคำก็เดินโซเซเพราะเหล้าแรง   พวกเขาเมาหยำเป โงนเงนไปเพราะเครื่องดื่มเข้มข้น

พวกเขามีวิสัยทัศน์รวนเร  ในการพิพากษาก็กลับไปมา  โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยอาเจียร ไม่มีที่สะอาดเลย

ไม่ว่าจะโบราณหรือวันนี้ พอเมาแล้วก็เหมือน ๆ กัน
ไม่ว่าจะโบราณหรือวันนี้ พอเมาแล้วก็เหมือน ๆ กัน

เพราะเขาจะสอนความรู้ให้แก่ใคร  และจะอธิบายข่าวสารให้ใครฟัง คนที่เพิ่งหย่านม  เหล่าคนที่ถูกจับมาจากอกแม่อย่างนั้นหรือ?

เพราะว่า มันเป็นคำสอนซ้อนคำสอน  คำสอนซ้อนคำสอน บรรทัดซ้อนบรรทัด บรรทัดซ้อนบรรทัด  ที่นี่นิด  ที่นั่นหน่อย

เพราะพระเจ้าจะตรัสต่อคนเหล่านี้ ด้วยคนภาษาอื่น และด้วยลิ้นต่างถิ่น  พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่เป็นที่พักผ่อน   จงให้การพักผ่อนกับคนที่อ่อนแรง และนี่คือ ที่พักสงบ”  แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง

และคำของพระเจ้ามายังพวกเขา มันเป็นคำสอนซ้อนคำสอน  คำสอนซ้อนคำสอน บรรทัดซ้อนบรรทัด บรรทัดซ้อนบรรทัด  ที่นี่นิด  ที่นั่นหน่อย   เพื่อว่าพวกเขาจะไปและหงายล้มลง  จะแตกสลายและถูกบ่วงแร้ว และถูกจับไป

อิสยาห์ 28-1

อิสยาห์ 28:1-6    อิสยาห์กล่าวคำจากพระเจ้าตักเตือนเอฟราอิม   ในช่วงนี้ เป็นรัชสมัยของราชาเฮเซคียาห์  แม้คำกล่าวของท่านอิสยาห์จะคล้าย ๆ กับบทที่ 13 -27  แต่ก็เป็นคนละช่วงเวลา

อา.. มงกุฎอันยโสของเหล่าคนขี้เมาแห่งเอฟราอิมจะเกิดวิบัติ และดอกไม้บนยอดเขาเหนือที่ลุ่มอันอุดมของผู้ที่ดื่มเหล้าองุ่นจนล้น  ก็กำลังเหี่ยวเฉา หมดความงดงาม

ดูเถิด พระเจ้าทรงมีผู้หนึ่งที่มีอำนาจและเข้มเข็ง เป็นเหมือนพายุลูกเห็บ พายุกล้าที่โถมทำลาย  เป็นเหมือนพายุจากน้ำไหลเชี่ยวที่กล้าแกร่ง  พระเจ้าทรงเหวี่ยงเขาลงสู่แผ่นดินด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง

Is28broken-crown

มงกุฎอันยโสของคนขี้เมาแห่งเอฟราอิมก็จะถูกเหยียบย่ำใต้เท้า  และดอกไม้เหี่ยวเฉาบนยอดเขาเหนือที่ลุ่มอันอุดม ก็จะเป็นเหมือนลูกมะเดื่อที่สุกก่อนฤดูร้อน  เมื่อคนเห็นก็คว้ามากลืนกินทันที

ในวันนั้นพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทรงเป็นมงกุฎแห่งสง่าราศี  จะเป็นมงกุฎที่งดงามสำหรับประชากรที่เหลือของพระองค์

และจะทรงเป็นวิญญาณแห่งความเที่ยงธรรมแก่ผู้ที่นั่งพิพากษา  และจะเป็นกำลังแก่คนที่หันหลังให้กับการต่อสู้ที่ประตูเมือง

 

เพื่อน ๆ ครับ เอฟราอิมนั้น ก็มีความหมายถึงอิสราเอลทางเหนือ  พวกเขาเป็นผู้นำที่รักการดื่มจนเมา  เมื่อเมาก็สามารถทำบาปอะไรต่อก็ได้ เพราะสติไม่มีแล้ว …. แล้วเพื่อน ๆ ลองดูซิ คนเมาส่วนใหญ่จะโอ้อวด โม้ว่าตัวเก่งอย่างนั้น ดีอย่างนี้….  ภาพนี้ชัดเจน 

และพระเจ้าจะทรงส่งผู้ที่จะมาจัดการกับความชั่วร้ายของเขา …. มาแบบพายุเลยล่ะ…. ไม่ได้ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาให้หนีได้  แต่พวกเขาจะหนีไม่พ้นการลงโทษของพระเจ้าด้วยสงครามที่พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้   

 

อิสยาห์ 27-2

อิสยาห์ 27:7-12

พระเจ้าทรงลงโทษอิสราเอล เหมือนอย่างที่ทรงลงโทษคนที่เข้ามาทำลายพวกเขาหรือ?  อิสราเอลถูกสังหาร เหมือนอย่างพวกที่มาสังหารพวกเขาหรือ?

ทีละขั้น ทีละตอน… พระเจ้าทรงลงโทษเขาด้วยการเนรเทศ  พระองค์ทรงเอาเขาออกไปด้วยลมแรงกราดกร้าว ในวันที่ลมตะวันออกพัดมา

บาปของยาโคบจะได้รับการลบไปด้วยการนี้   และนี่เป็นผลเต็มขนาดในการกำจัดบาปของเขา

คือ เมื่อเขาทำลายหินบนแท่นบูชาจนแหลกละเอียดเหมือนหินปูน  จะไม่มีอาเชริม หรือ แท่นเผาเครื่องหอมหลงเหลืออยู่

เมืองที่มีป้อมแข็งแรงจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว และคนจะทิ้งที่อาศัยไป จนเมืองกลายเป็นเหมือนที่กันดาร    ลูกวัวกลับไปเล็มหญ้าที่นั่น  มันนอนลงแทะกิ่งไม้     เมื่อกิ่งไม้แห้ง มันก็หัก  เหล่าผู้หญิงก็มาเก็บมันไปก่อไฟ

นี่เป็นประชากรที่ไร้ความคิด  ดังนั้นพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขามาจึงจะไม่ทรงสงสารเขาอีกต่อไป  พระองค์ผู้ทรงปํ้นเขามา จะไม่เมตตาต่อเขาอีก

ในวันนั้น จาำกแม่น้ำยูเฟรติส ถึงสายธารแห่งอียิปต์  จะเป็นที่ ๆ ที่พระเจ้าทรงนวดข้าว  ชนอิสราเอลเอ๋ย พระเจ้าจะทรงเก็บเจ้าเข้ามาทีละคน

shofar2

ในวันนั้น จะมีการเป่าเขาสัตว์อันใหญ่  จากนั้นคนที่หลงหายไปในแผ่นดินอัสซีเรีย  คนที่ถูกขับไล่ออกมาจากแผ่นดินอีิยิปต์ จะกลับเข้ามานมัสการพระเจ้าบนภูเขาในนครเยรูซาเล็ม

 

เพื่อน ๆ สังเกตเห็นไหมครับ พระเจ้าทรงมีเมตตาพิเศษต่ออิสราเอลจริง ๆ 

อิสยาห์ 27-1

อิสยาห์ 27:1-6

ในวันนั้น พระเจ้าจะทรงลงโทษเลวีอาธาน
เจ้าพญานาคตัวบิด..ด้วยพระแสงที่ทรงอานุภาพเล่มใหญ่
และพระองค์จะทรงสังหารมังกรที่อยู่ในทะเล 

Is27

 

ในวันนั้น “จงร้องเพลงถึงสวนองุ่นแสนสุข  เราผู้เป็นพระเจ้าคือผู้ที่รักษาสวนนั้น

เราดูแล ทุกเวลาเรารดน้ำให้มัน  เกรงว่าจะมีใครมาทำอันตราย  เราดูแลมันทั้งวันทั้งคืน

ภาพถ่ายโดยคุณนีล เวทแมน ผ่าน creative commons
ภาพถ่ายโดยคุณนีล เวทแมน ผ่าน creative commons

เราไม่โกรธ แต่หากว่า มีหนามใหญ่น้อยเกิดขึ้นมา เราก็ต้องสู้ เราจะไปสู้กับมัน  เราจะเผามันทิ้งให้หมด
หรือ…ให้พวกมันมาอยู่ใต้การปกป้องของเรา

ให้มาสร้างสันติกับเรา  ให้มาสร้างสันติกับเรา”

ในวันข้างหน้า ยาโคบจะหยั่งรากลงไป  อิสราเอลจะผลิดอก และผลิหน่อ และให้ผลจนเต็มแผ่นดินทั้งพิภพ

เพื่อน ๆ ครับ เจ้าเลวีอาธานตัวนี้ มันมีรูปร่างดั่งพญานาค

ดูเหมือนว่า ในการเห็นนิมิตของท่านอิสยาห์ มันน่าจะเป็นเจ้าซาตานเอง

เป็นศัตรูของพระเจ้าที่พระองค์จะทรงปราบให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์ 

สวนองุ่นนี้หมายถึงอิสราเอล ประชากรของพระเจ้า 

แต่กระนั้น หากศัตรูของพระเจ้าคือหนามใหญ่น้อย

กลับมาหาพระองค์ และขอมีสันติกับพระองค์

พระองค์ก็จะทรงปกป้องเขาด้วย  มหัศจรรย์จริง!

อิสยาห์ 26-3

อิสยาห์ 26:12-21

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์จะประทานสันติสุขแก่เรา เพราะจริง ๆ แล้ว พระองค์ทรงเป็นผู้ทำกิจการงานต่าง ๆ ของเรา

ข้าแต่พระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระเจ้าของเรา  พระอื่นใดนอกเหนือไปจากพระองค์ไม่ได้ครองใจเรา  แต่เราระลึกถึงพระนามของพระองค์ผู้เดียวเท่านั้น

พระเหล่านั้นตายไปแล้ว และจะไม่มีชีวิตอยู่ เป็นเพียงเงา และจะไม่ลุกขึ้นมา พระองค์ทรงส่งความพินาศมาให้พระเหล่านั้น  และทำให้มนุษย์ลืมพวกมันไป

แต่พระองค์ทรงเพิ่มประชาชาติ  พระเจ้าข้า พระองค์ทรงเพิ่มประชาชาติ พระองค์ทรงได้รับเกียรติสูงสุด และพระองค์ทรงขยายอาณาเขตของแผ่นดิน

ข้าแต่พระเจ้า  เพราะพวกเขาต้องพบกับความทุกข์ยาก  พวกเขาจึงแสวงหาพระองค์ พวกเขากระซิบอธิษฐานยามที่พระองค์ทรงตีสอนเขา

Is26prayer

พวกเราเป็นเหมือนหญิงมีครรภ์ที่ร้องบิดตัวด้วยความเจ็บปวดยามที่กำลังจะคลอด   ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะพระองค์ พระเจ้าข้า
เราตั้งครรภ์  เราบิดตัวด้วยความเจ็บปวด  แต่เราก็ให้กำเนิดลม

เราไม่ได้ช่วยอะไรในโลกนี้  และคนที่อาศัยอยู่ในโลกก็ไม่ได้ล้มลง
คนตายของพระองค์จะมีชีวิต ร่างของเขาจะลุกขึ้นมา คนที่อยู่ในดิน จงลุกขึ้นและร้องเพลงด้วยความยินดี เพราะน้ำค้างของเจ้าเป็นน้ำค้างแห่งแสงสว่าง และโลกจะให้คนตายเป็นขึ้นมา

มา … ประชากรของเรา จงเข้ามาให้ห้องและปิดประตู  ซ่อนตัวเจ้าไว้สักพักจนกว่าความกริ้วจะผ่านพ้นไป

เพราะว่า พระเจ้าเสด็จออกมาจากที่ประทับของพระองค์  เพื่อลงโทษเพราะคนในโลกได้ล่วงละเมิด  แผ่นดินโลกจะเปิดเผยให้เห็นรอยเลือดที่ต้องหลั่งบนพื้นโลก และจะไม่ปิดบังเหล่าผู้ที่ถูกสังหารอีกเลย

อิสยาห์ 26-2

 

อิสยาห์ 26:7-12

ทางของคนชอบธรรมนั้นก็ได้ระดับ  พระองค์ทรงทำให้ทางของคนชอบธรรมราบเรียบ

ในหนทางของการพิพากษาของพระองค์นั้น  พวกเรารอคอยพระองค์อยู่

พระนามของพระองค์ และการระลึกถึงพระนามนั้น เป็นความปรารถนาแห่งใจเรา

atitannight
จิตของเราหิวหาพระองค์ในเวลากลางคืน   จิตวิญญาณข้างในก็เฝ้าใฝ่หาพระองค์
เพราะเมื่อการพิพากษาของพระองค์เกิดขึ้นในโลก  ผู้อาศัยในโลกก็เรียนรู้ว่า ความชอบธรรมคืออะไร

เวลาความเมตตาของพระองค์ปรากฏแก่คนชั่วร้าย  พวกเขากลับไม่เรียนรู้ความชอบธรรม

ในแผ่นดินของคนเที่ยงธรรม พวกเขากลับกระทำสิ่งที่คดโกง  และไม่เห็นพระสง่าราศีของพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า พระหัตถ์ของพระองค์นั้นยกขึ้น  แต่พวกเขาก็ไม่เห็น

ขอให้พวกเขาได้เห็นความร้อนพระทัยที่ทรงมีต่อคนของพระองค์  และให้พวกเขาได้ละอาย

ขอให้เพลิงสำหรับศัตรูของพระองค์  เผาผลาญเขาเสียสิ้น

อิสยาห์ 26-1

อิสยาห์ 26:1-6

ในวันนั้น  พวกเขาจะร้องเพลงบทนี้ในแผ่นดินยูดาห์

is26-1

เรามีเมืองที่เข้มแข็ง  พระองค์ทรงตั้งให้ความรอดเป็นทั้งกำแพงและเป็นผนัง

เปิดประตูเมืองสิ  เพื่อว่า ประเทศที่ชอบธรรมซึ่งรักษาความเชื่อจะได้เข้ามา

พระเจ้าทรงทำให้คนที่มีความคิดติดอยู่กับพระองค์ด้วยความวางใจนั้น  ได้มีสันติสุขที่ครบถ้วน

จงวางใจในพระเจ้าตลอดไป  เพราะว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นศิลานิรันดร์

เพราะพระองค์ทรงทำให้คนที่อยู่ในเมืองสูงตกต่ำลง

พระองค์ทรงวางไว้ที่ต่ำลงถึงดิน และลงไปถึงฝุ่นดิน

มีเท้าของหลายคนเหยียบย่ำมัน

คือเท้าของคนยากจน และเท้าของคนที่ขัดสน

อิสยาห์ 25-1

อิสยาห์ 25:1-5

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์
ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์  จะสรรเสริญพระนามของพระองค์
เพราะพระองค์ทรงทำสิ่งที่มหัศจรรย์  คำปรึกษาตั้งแต่โบราณนั้น คือความซื่อตรงและความจริง

อิสยาห์ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์ทรงทำสิ่งมหัศจรรย์  และในขณะเดียวกัน เขาก็มองเห็นอนาคตด้วย    อนาคตนี้ เป็นช่วงเวลาที่พระเจ้าจะทรงครองโลก 
พระองค์ทรงทำให้เมืองหนึ่งกลายเป็นกองปรักหักพัง  เมืองที่มีป้อมเข้มแข็งนั้นก็ทลายลงไป
ราชวังของคนต่างชาติจะไม่เป็นนครอีกต่อไป และจะไม่มีการสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกเลย

ดังนั้น ผู้ที่เข้มแข็งจะถวายพระสิริแด่พระองค์
เมืองของเหล่าคนที่โหดร้ายจะกลัวพระองค์
เพราะว่า พระองค์ทรงเป็นป้อมปราการให้กับคนที่ยากไร้
ทรงเป็นป้อมปราการให้กับคนขัดสนที่ทุกข์ใจ

จาก HDwallpaper
จาก HDwallpaper

ทรงเป็นที่ลี้ภัยจากพายุ  และทรงเป็นร่มเงาจากความร้อนแรง
เพราะลมหายใจของคนชั่วร้ายเหมือนพายุที่กระแทกกำแพง

เหมือนความร้อนในที่แห้งแล้ง
พระเจ้าจะทรงลดเสียงของคนต่างชาติ ดั่งลดความร้อนด้วยเงาเมฆ

แม้ว่าคนชั่วร้ายจะไม่มีโอกาสต่อต้านพระเจ้าอีก    พวกเขาจะถูกสยบ  พวกเขาจะเห็นความช่วยเหลือที่พระเจ้าทรงมีให้คนทุกข์ใจ  แต่เขาอาจไม่ได้เชื่อวางใจในพระองค์

เพลงของคนที่ชั่วร้ายจึงต้องจบลง

อิสยาห์ 24-3

ภาพจาก http://malcolmmejin.blogspot.com
ภาพจาก http://malcolmmejin.blogspot.com

อิสยาห์ 24:17-23

แต่ข้ากล่าวว่า “ข้าหมดแรงแล้ว  ข้าหมดแรงแล้ว วิบัติแก่ตัวข้า!  เพราะผู้ทรยศได้หักหลัง  เขาคิดร้าย เขาหักหลัง

ผู้ที่อาศัยในโลกเอ๋ย  ความน่ากลัว หลุมและกับดัก รอเจ้าอยู่  คนที่หนีไปเพราะได้ยินเสียงแห่งความน่ากลัวก็จะตกลงในหลุม  คนที่ปีนขึ้นมาจากหลุมก็จะติดกับดัก  เพราะว่าหน้าต่างของสวรรค์เปิดอยู่  และรากฐานของโลกก็สั่นสะเทือน    โลกนี้มันแตกออกจากกันเป็นเสี่ยง ๆ    แผ่นดินแยกออกจากกัน  และมันก็สั่นไหวอย่างรุนแรง
โลกก็โคจรซัดเซเหมือนคนเมา  มันแกว่งไปมาเหมือนกระท่อม การล่วงละเมิดของมันท่วมทับมัน และมันก็ล้มลงไม่มีวันจะลุกขึ้นได้อีก

นี่เป็นภาพของยุคสุดท้ายที่โลกกำลังจะสิ้นสุดลง….

ในวันนั้น พระเจ้าจะทรงลงโทษบรรดาอำนาจในฟ้าสวรรค์ เบื้องบนและบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลกเบื้องล่าง

พวกเขาจะเข้ามารวมกันเหมือนกับนักโทษในหลุม  พวกเขาจะถูกขังไว้ในคุก  และหลังจากนั้นหลายวันก็จะถูกลงทัณฑ์

แล้วดวงจันทร์จะไม่มีแสงอีก ดวงอาทิตย์ก็เช่นกัน สิ่งที่ยิ่งใหญ่ซึ่งครองคืน และวัน ยังรวนตามไปด้วย 

เพราะว่า พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงครอบครองบนภูเขาศิโยน และในเยรูซาเล็ม  และพระสิริของพระองค์จะอยู่ต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโส

อิสยาห์ 24-2

อิสยาห์ 24:7-13

เหล้าองุ่นก็โศกเศร้า  เถาองุ่นก็เหี่ยวเฉา  ส่วนคนที่รักสนุกใจร่าเริงก็กลับถอนหายใจ  ความร่าเริงของรำมะนา กลับเงียบสนิท  เสียงของการฉลองก็หยุดลง  เสียงพิณที่ร่าเริงก็นิ่งไปเสียแล้ว
การดื่มไปร้องเพลงไปอย่างเคยก็ไม่หลงเหลือ  เหล้าแรงๆ กลับกลายเป็นของขมสำหรับคนดื่ม   เมืองที่พังทลายก็กลายเป็นซากปรักหักพัง  บ้านทุกหลังปิดไว้  ใครก็เข้าไปไม่ได้

เมืองร้างเพราะสงคราม ... ที่นี่ซีเรีย
เมืองร้างเพราะสงคราม … ที่นี่ซีเรีย

มีเสียงร้องบนถนนเพราะไม่มีเหล้าให้ดื่ม   ความสนุกสนานกลายเป็นความมืดทึม  ความยินดีของโลกก็ถูกเนรเทศออกไป

เมืองนั้นเหลือแต่ซาก… ประตูเมืองถูกทุบทิ้งเป็นเศษอิฐ
นี่แหละ มันจะเป็นอย่างนั้นไปทั่วทุกชาติ  เหมือนกับตอนที่ต้นมะกอกเทศถูกฟาด เหมือนตอนเก็บองุ่นเสร็จแล้วมีเศษเหลือบนดิน

อิสยาห์ 24-1

อิสยาห์ 24:1-6

ดูเถิด.. พระเจ้าจะทรงกำจัดทุกอย่างจากโลกนี้ ทำให้มันร้างสิ้น
และพระองค์จะบิดแผ่นหน้าของโลก  จะทำให้ผู้คนกระจัดกระจายออกไป

pandinwai

ไม่ว่าจะเป็นคนไหน ปุโรหิต ทาส นาย สาวใช้ นายผู้หญิง คนซื้อ คนขาย  คนให้ยืม คนยืม  เจ้าหนี้และลูกหนี้
โลกจะว่างเปล่า และถูกปล้นเรียบ ไม่มีอะไรเหลือ  เพราะว่า พระเจ้าได้ตรัสคำนี้ไว้แล้ว

แผ่นดินโลกโศกเศร้า และเหี่ยวแห้งไป  คนชั้นสูงของโลกก็อ่อนแรง   แผ่นดินโลกเป็นมลทินเพราะคนที่อยู่ในนั้น  เพราะว่า พวกเขาล่วงละเมิดกฎของพระเจ้า ละเมิดบทบัญญัติ และทำลายพันธสัญญานิรันดร์เสีย
ดังนั้น คำสาปแช่งจึงเขมือบแผ่นดินโลกและคนที่อาศัยอยู่ในนั้นก็ต้องทนทุกข์เพราะความผิดของเขา  ดังนั้น คนที่อยู่บนพื้นโลกจึงถูกเผาจนดำเกรียมเหลืออยู่เพียงสองสามคน

อิสยาห์ 23-2

อิสยาห์ 23:10-17

ลูกสาวแห่งทารชิชเอ๋ย จงไปให้ทั่วแผ่นดินเหมือนอย่างแม่น้ำไนล์  เพราะตอนนี้ ไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ แล้ว
พระเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์เหนือทะเล  บรรดาอาณาจักรทั้งหลายสั่นคลอนเพราะพระเจ้า

พระเจ้าทรงบัญชาเรื่องคานาอัน คือให้ทำลายป้อมปราการของมัน
และพระองค์ตรัสว่า  “เจ้าจะไม่ได้สนุกสนานต่อไปแล้ว โอธิดาแห่งไซดอน เจ้าผู้ถูกกดขี่ ลุกขึ้นเถอะ จงลุกขึ้นข้ามไปยังไซปรัส ถึงไปที่นั่นแล้ว เจ้าก็ยังจะไม่ได้พัก “

ดูเถิด  ดินแดนของคนเคลเดีย   ตอนนี้เป็นประชากรที่ไม่มีใครสนใจ  อัสซีเรียได้ทำให้มันกลายเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า  พวกเขาก่อหอของเขาขึ้น และทำลายราชวังทั้งหลาย   มันกลายเป็นซากปรักหักพัง

จงคร่ำครวญ  เรือสินค้าแห่งทารชิช  ป้อมปราการของเจ้าถูกทำลายสิ้น

ในวันนั้น ไทระจะถูกลืม 70 ปี  เป็นช่วงการปกครองของกษัตริย์องค์หนึ่ง และเมื่อจบเจ็ดสิบปีนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับไทระ ก็เหมือนบทเพลงของหญิงโสเภณีIs23sopaeni

บรรยากาศของไทระ ไซดอน

หยิบพิณขึ้นมา และเดินไปตามถนนในเมือง… หญิงโสเภณีที่ถูกลืม

ให้เจ้าเล่นเพลงหวาน  ร้องเพลงหลายเพลง  เพื่อว่า เขาจะได้จำเจ้าได้

ปลายเจ็ดสิบปี พระเจ้าจะทรงเยี่ยมไทระ  และเมืองนั้นจะกลับไปรับจ้างอีกครั้ง และจะขายตัวให้กับบรรดาอาณาจักรบนผืนพิภพ

แต่สินค้าและค่าจ้างของไทระ จะกลายเป็นของบริสุทธิ์ต่อพระเจ้า  จะไม่มีการเก็บหรือสะสมไว้   แต่สินค้าของมันจะทำให้มีอาหารและเสื้อผ้าเหลือเฟือสำหรับคนที่อยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า

อ่านเรื่องตั้งแต่ต้น  ทำให้เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยจริง ๆ   ทุก ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติ หรือคนของพระเจ้า ต่างได้ทำผิดต่อพระองค์   และพระเจ้าทรงลงโทษพวกเขา  โดยที่ทรงบอกพวกเขาล่วงหน้า 

แสดงว่า พระเจ้ายังทรงเมตตา  พอพระทัยที่จะเห็นพวกเขากลับใจ   แต่เท่าที่เราอ่านมาก็ไม่มีใครกลับใจ

ในช่วงเวลาของท่านอิสยาห์  เมืองไทระถูกโจมตีจากอัสซีเรีย(ปี 705,679 กคศ.)  บาบิโลน(ปี  585 กคศ. )และในเวลาต่อมาปี 332 กคศ.  อเล็กซานเดอร์มหาราชก็มาตีไทระแตกแบบไม่เหลือ เหมือนกับกวาดเมืองลงไปในทะเล  ไม่มีใครอาศัยในนั้นได้

ที่แปลกในบทความนี้คือ  ตอนท้าย ๆ  …. ที่ว่าไทระเป็นโสเภณีนั้น หมายความว่า ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้เงินมา  แต่แล้วพวกเขาก็กลับกันเงินนั้นไว้เพื่อให้กับคนของพระเจ้า  ซึ่ง….ในสมัยโมเสส ห้ามเด็ดขาด  

ดังนั้นความเห็นของหลายท่านคือ   ข้อนี้คำว่า ไทระ มีความหมายเหนือไปจากไทระเอง  แต่หมายถึงคนทั้งโลกที่ไม่รู้จักพระองค์พระเจ้าจะทรงให้พวกเขากลับใจ  ให้คนทั้งโลกที่ได้ทำผิดต่อพระเจ้ามีโอกาสกลับมาหาพระองค์  และทุกวันนี้ ก็มีคนมากมายที่ไม่ใช่อิสราเอล หันกลับมานมัสการองค์พระเจ้าจริง ๆ 

อิสยาห์ 23-1

อิสยาห์ 23:1-9

มีข่าวสารจากแดนไซปรัสมาถึงเขา

จงนิ่งเสีย คนที่อยู่ริมฝั่งทะเล  พ่อค้าจากเมืองไซดอนเดินทางข้ามทะเลมา เอาสินค้ามาเติมให้เจ้ามากมาย
เจ้าเป็นพ่อค้าของชาติทั้งหลาย  เจ้าเดินทางในทะเล  รายได้ของเจ้าคือข้าวแห่งชิโหร์  เป็นของที่เก็บเกี่ยวได้จากลุ่มน้ำไนล์

แผนที่จาก sigmabooks.gr

ไซดอนเอ๋ย เจ้าผู้เป็นป้อมอันมั่นคงของทะเล  จงละอายใจเถิด  เพราะทะเลได้กล่าวว่า  “ข้าไม่เคยเจ็บท้อง และไม่เคยคลอดลูก  ข้าไม่ได้เลี้ยงดูคนหนุ่มสาวของเจ้า”

ไซดอนเป็นเหมือนเมืองพี่น้องของไทระ…

เมื่อมีรายงานมาถึงอียิปต์  พวกเขาจะเจ็บปวดเพราะรายงานเกี่ยวกับเมืองไทระ

ไทระเป็นเมืองสำคัญของอาณาจักรฟินิเชีย  มีท่าเรือใหญ่  เป็นเมืองที่มั่งคั่งและทำบาปผิดมากมาย    และอิสยาห์กำลังจะบอกว่า ไทระจะล่มสลายไปอย่างไร   อียิปต์ไม่สบายใจมากที่ไทระต้องมีปัญหา เพราะอียิปต์พึ่งพาเรือสินค้าของไทระมาโดยตลอด  

ข้ามไปที่ทารชิช  คร่ำครวญเถิด บรรดาผู้ที่อาศัยริมฝั่งทะเล
นี่หรือ เมื่อที่สนุกสนานของเจ้า  นครโบราณที่มีเท้าพาไปตั้งรกรากยังที่ไกล

อิสยาห์ชวนให้ไปตั้งรกรากใหม่ที่ทารชิช  เพราะการล่มสลายของไทระนั้นจะส่งผลให้กับทุกชาติที่เขาทำการค้าด้วย

ใครล่ะ ที่ทำอย่างนี้ต่อสู้กับเมืองไทระ?  เมืองที่มีมงกุฎมอบให้แก่พ่อค้าให้กลายเป็นเจ้าชาย  คนค้าขายก็กลายเป็นคนที่ใหญ่โตน่านับถือในโลก

ไทระเป็นเมืองที่เต็มด้วยคนโอหัง เขาคิดว่า เขาจะเป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้  

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพนี่แหละ ทรงตั้งพระทัยไว้ เพื่อจะทำลายศักดิ์ศรีความเย่อหยิ่งพองตัว   พระองค์จะทรงดึงเกียรติของเหล่าคนที่โลกนับถือลง

อิสยาห์ 22-3

อิสยาห์ 22:20-25

ในวันนั้น เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรา คือเอลียาคิม ลูกชายของฮิลคียาห์ และเราจะเอาเสื้อคลุมของเจ้ามาสวมให้เขา  จะคาดเอวเขาด้วยผ้าคาดเอวของเจ้า  และจะมอบอำนาจของเจ้าไว้ในมือของเขา  และเขาจะเป็นบิดาของผู้อาศัยในนครเยรูซาเล็ม และวงศ์วานของยูดาห์

เมื่อวาน เราได้คุยกันเรื่องที่อิสยาห์เห็นเชบนา กรมวัง ถูกพระเจ้าทรงถอดและเขวี้ยงออกไปยังแดนไกล  บัดนี้ พระเจ้าจะให้เอลียาคิมมาแทนเขา   ทั้งสองเป็นข้าราชการที่อยู่ในสมัยราชาเฮเซคียาห์     

ดูซิ เมื่อพระเจ้าทรงเรียกใครว่า ผู้รับใช้ของเรา  พระองค์ทรงให้เกียรติเขามากเหลือเกิน   แต่เอลียาคิมผู้นี้ จะต้องสละชีวิตของเขาเพื่อคนมากมาย เพราะเขาจะได้เป็นบิดาของคนในเยรูซาเล็ม  เขาจะเป็นคนที่มีหน้าที่ในการดูแลราชวงศ์ของดาวิด เป็นผู้มีอำนาจถึงขนาดเป็นคนถือกุญแจ!

และเราจะวางกุญแจแห่งครอบครัวดาวิดไว้บนบ่าของเขา   เขาจะเปิดและไม่มีผู้ใดปิดได้  เขาจะปิด และไม่มีใครเปิดได้

is22kunjae

เราจะผูกเข้าไว้เหมือนกับตอกหมุดติดไว้ที่ ๆ ปลอดภัย และเขาจะมาเป็นบัลลังก์แห่งเกียรติยศให้กับครอบครัวของบิดาเขา   และเกียรติยศทั้งสิ้นของครอบครัวบิดาเขาจะแขวนไว้บนตัวเขา  ลูกหลานและเรื่องต่างๆ  ภาชนะเล็กๆ จากถ้วยไปจนถึงเหยือกทั้งหมด

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพประกาศว่า ในวันนั้น  หมุดที่ปักแน่นอยู่ในที่อันมั่นคงจะหลุดออก และมันจะถูกตัดและตกลงมา  และภาระทั้งสิ้นที่อยู่บนนั้นจะถูกตัดออก เพราะพระเจ้าได้ตรัสแล้ว

โอ…นึกว่าเอลียาคิมจะเป็นผู้ที่คนในเยรูซาเล็มไว้ใจได้   แต่ดูซิ ภาระที่อยู่บนตัวเขานั้นหนักเกินไป  เขาไม่ใช่เป็นผู้ที่ใคร ๆ จะมาหวังพึ่งวางใจได้ เพราะปรากฏว่า วันหนึ่งเขาล้มลง!!!

เราคงสรุปได้แล้วว่า  จะเป็นคนที่เห็นแก่ศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างเชบนา  หรือเป็นคนดีพร้อมอย่างเอลียาคิม  เราก็ไว้ใจไม่ได้  

ผู้ที่เราจะไว้ใจ วางใจเต็มที่คนเดียวเท่านั้นก็คือ  พระเจ้า…!!

อิสยาห์ 22-2

อิสยาห์ 22;15-19

 

แล้วองค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า “มา  จงไปหาเชบนา เจ้ากรมวัง บอกเขาว่า  เจ้ามาทำอะไรที่นี้  ใครอนุญาตให้เจ้าทำถ้ำเก็บศพสำหรับตัวเองบนที่สูง และยังสกัดที่อยู่ให้ตัวเจ้าเองในศิลา  ?

เชบนา   แม้จะมีตำแหน่งสูง  แต่สิ่งที่เขาทำนั้น ไม่มีใครอนุญาต เขาทำโดยพลการ  สร้างบ้านที่ดูดีให้ตัวเองอยู่ สร้างที่ฝังศพให้ตัวเอง การมีที่เก็บศพแบบนี้ เป็นการแสดงว่า เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่   มันคล้ายกับการสร้างอนุสาวรีย์ให้ตัวเอง   และนักโบราณคดีก็ได้พบว่ามีที่เก็บศพซึ่งสร้างโดยเจ้ากรมวังผู้หนึ่ง อยู่บนเขามะกอกเทศด้วย    เหมือนกับว่าเขาจะตายอย่างมีศักดิ์ศรี  เขาสนใจเรื่องเหล่านี้ ในขณะที่คนเมืองเยรูซาเล็มยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองจะอยู่รอดหรือไม่ ….

ระวังตัวให้ดี  พระเจ้าจะทรงเหวี่ยงเจ้าออกไปอย่างรุนแรง  เจ้าคนที่เข้มแข็งเอ๋ย  พระเจ้าจะทรงจับเจ้าแน่น และเหวี่ยงเจ้าไปรอบ ๆ  เขวี้ยงเจ้าออกไปเหมือนลูกบอลยังแผ่นดินกว้างใหญ่     เจ้าจะตายที่นั่น   เหลือไว้แต่รถรบคันงามของเจ้า    เจ้าผู้สร้างความอับอายให้เจ้านายของเจ้า

ภาพจาก www.biblecartoons.co.uk
ภาพจาก www.biblecartoons.co.uk

 

เราจะถอดเจ้าออกจากหน้าที่ เจ้าจะถูกลากลงมาจากสำนักของเจ้า

แม้ว่าเชบนาผู้นี้เตรียมอะไรให้ตัวเองอย่างสูงสักดิ์  แต่พระเจ้าจะให้เขาตายในแผ่นดินอื่น  เขาจะถูกจับไป และตายอย่างไร้เกียรติ   ในสายตาของอิสยาห์แล้ว  คนที่พยายามสร้างเกียรติยศให้ตนเอง ไม่สมควรที่จะได้เกียรตินั้นเลย

อิสยาห์ 22-2

อิสยาห์ 22:9-14

พระเจ้าได้ทรงเอาสิ่งที่ปกป้องยูดาห์ออกไปแล้ว  ในวันนั้น เจ้าจะมองที่อาวุธแห่งบ้าน”ป่าไม้แห่งเลบานอน”  นี่เป็นราชวังที่ซาโลมอนสร้างไว้ …. ในสมัยของอิสยาห์ มันกลายเป็นคลังอาวุธ    

และเจ้าก็เห็นว่า มีช่องโหว่อยู่ในนครแห่งดาวิดอยู่หลายแห่ง  เจ้าทั้งหลายเก็บน้ำไว้ในบ่อด้านล่าง  และนับบ้านในเยรูซาเล็ม แล้วเจ้าก็พังบ้านเรือนเพื่อเอามาเสริมกำแพง  เจ้าทำที่เก็บน้ำระหว่างกำแพง  เพื่อรับน้ำมาจากสระเดิม

แต่เจ้าไม่ได้มองพระองค์ผู้ทรงทำทุกสิ่ง  ไม่ได้มองพระองค์ผู้ทรงวางแผนนั้นนานมาแล้ว   นี่หมายความว่าอย่างไรกัน ?   ชาวเมืองพยายามช่วยตัวเองให้รอด และเหตุการณ์เรื่องบ่อน้ำนี้ เกิดขึ้นในสมัยของราชา เฮเซคียาห์   การที่เขาเตรียมตัวรับมือ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างซ่อมกำแพง หรือการเก็บกักน้ำไว้ใช้ เป็นเรื่องดี 

แต่ที่พวกเขาพลาดคือ  เขาไม่ได้วางใจพระเจ้า  แต่วางใจในสิ่งที่ตนเองเตรียมไว้…  หันมามองตัวเรา เราต้องเตรียมพร้อม  แต่ในความพร้อมนั้น เราคงต้องวางใจ มองไปที่พระเจ้าผู้ทรงวางแผนทุกอย่างนานมาแล้ว!

อุโมงส่งน้ำของเฮเซคียาห์
อุโมงส่งน้ำของเฮเซคียาห์

ในวันนั้น พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงเรียกให้ประชาชนร้องไห้คร่ำครวญ
ให้เขาโกนศีรษะจนล้านและสวมเสื้อกระสอบ   แต่กลับกลายเป็นว่า พวกเขามีแต่ความสนุกสนานรื่นเริง  ฆ่าวัวและฆ่าแกะเป็นฝูง  กินเนื้อมันและดื่มเหล้าองุ่น  “มากิน มาดื่มกัน  เพราะยังไงๆ พรุ่งนี้เราจะตาย ”

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงเปิดเผยพระองค์ในหูของข้าว่า “แน่ใจได้เลยว่า การล่วงละเมิดของเจ้าจะไม่ได้รับการไถ่บาปจนกว่าเจ้าจะตายไป…” พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้

อิสยาห์ 22-1

อิสยาห์ 22:1-7

คำของพระเจ้าเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิต หุบเขาแห่งนิมิตนี้ก็คือเยรูซาเล็มนั่นเอง เมืองนี้มีหุบเขาคิดโรนกับฮินโนมล้อมรอบ 

ที่ว่าเจ้าทั้งหมดได้ขึ้นไปบนหลังคาบ้าน   เจ้าที่เป็นเมืองที่เต็มด้วยการตะโกน  ส่งเสียงครึกโครม  เป็นเมืองที่เต้นโลด เจ้าหมายความอย่างไร?  พวกเขาดีใจเรื่องอะไรหรือ? จึงออกไปกระโดดโลดเต้น เป็นไปได้ไหมที่เขมีความสุขที่ไม่มี อะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาเหมือนที่เกิดกับสะมาเรียทางเหนือ?

คนในเมืองที่ถูกฆ่านั้น ไม่ได้ถูกฆ่าด้วยดาบ หรือตายในสงคราม
ผู้นำทั้งหมดของเจ้าหนีไป  พวกเขาถูกจับเป็นเชลยโดยไม่ต้องใช้ธนู   แม้ว่าจะหนีไปไกลมากแล้ว แต่เจ้าทุกคนถูกจับเป็นเชลย

อิสยาห์เห็นล่วงหน้า วันยูดาห์ถูกกวาดไปบาบิโลน
อิสยาห์เห็นล่วงหน้า วันยูดาห์ถูกกวาดไปบาบิโลน

ดังนั้น ข้าจึงว่า “ให้หันไปจากข้า ขอให้ข้าร้องไห้อย่างขื่นขม   อย่าพยายามที่จะปลอบใจข้าเพราะลูกสาวประชากรของข้านั้นถูกทำลาย  นิมิตที่อิสยาห์เห็นเกี่ยวกับเยรูซาเล็มทำให้เขาเป็นทุกข์ยิ่งนัก  ครั้งที่บาบิโลนมาลากตัวคนยูดาห์ไปนั้น ไม่ต้องใช้ดาบหรือธนู  แต่ใช้การล้อมเมืองจนคนต้องอดตายเพราะออกมานอกเมืองไม่ได้  

สำหรับพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระองค์ทรงมีวันหนึ่ง วันแห่งการจลาจล วันที่มีแต่การเหยียบย่ำ วันที่สับสนในหุบเขาแห่งนิมิต  แนวกำแพงก็พังลงมา  เสียงร้องตะโกนไปถึงภูเขา

เอลามหยิบแล่งธนูพร้อมกับรถรบและพลม้า และคีร์ก็โผล่ออกมาจากโล่ห์
หุบเขาดีที่สุดของเจ้านั้นเต็มไปด้วยรถรบและพลม้า  เอลามคือพันธมิตรของบาบิโลนอยู่ทางตะวันออก ส่วนคีร์ เป็นเมืองที่อัสซีเรียพาเชลยไป…. 

อิสยาห์ 21-3

อิสยาห์  21:11-17

มีคำจากพระเจ้ามาถึงดูมาห์  (หมายถึงเอโดม  เอโดมเป็นศัตรูของอิสราเอลมาโดยตลอด โดยที่พวกเขาเป็นลูกหลานของเอซาว ซึ่งเป็นพี่ชายของยาโคบนั่นเอง  เอโดมอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิสราเอล  ) มีผู้หนึ่งเรียกข้าจากเสอีร์ (เสอีร์เป็นอีกชื่อของเอโดม ) “คนยามเอ๋ย  นี่มันกี่ยามแล้ว?

ภาพจาก newsyoucanbelieve.com
ภาพจาก newsyoucanbelieve.com

คนยามเอ๋ย  กี่ยามแล้ว?”   และคนยามตอบว่า “เวลาเช้ามาถึงแล้ว และกลางคืนก็จะมาด้วย  ถ้าท่านจะถาม ถาม  ก็กลับมาอีกทีแล้วกัน” อิสยาห์หนักใจมาก เพราะเขาเห็นว่า หลังจากอัสซีเรีย เอโดมจะถูกบาบิโลนโจมตีอีก 

มีคำจากพระเจ้ามาถึงอาระเบีย   เจ้าจะอาศัยอยู่ในดงหนามแห่งอาระเบีย โอ คาราวานจากเดดาน  (เป็นชนกลุ่มที่เดินทางค้าขายไปมาในแผ่นดินอาระเบีย)

เอาน้ำให้กับคนที่กระหาย  นำอาหารให้กับคนลี้ภัย โอ.. คนชาวเทมา   เพราะพวกเขาหนีดาบสังหารมา  หนีดาบที่ชักออกจากฝัก  หนีคันธนูซึ่งโก่งอยู่   หนีจากสงครามที่รุกเข้ามา   เพราะพระเจ้าองค์เจ้านายตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ภายในหนึ่งปีของการว่าจ้างแรงงาน  ศักดิ์ศรีของเคดาร์จะสิ้นสุด  และนักแม่นธนู นักรบจะเหลืออยู่ไม่กี่คน “ พระผู้ทรงเป็นเจ้านาย พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนั้น

อิสยาห์ 21-2

อิสยาห์ 21:6-10

ดังนั้น พระเจ้าตรัสแก่ข้าว่า “ไป  จงไปและตั้งยามเอาไว้ ให้เขาประกาศสิ่งที่เขาเห็น “  และเขาเห็นรถม้า พร้อมกับพลม้าเป็นคู่   เห็นเหล่าคนขี่ลา   เหล่าคนขี่อูฐ

ให้เขาฟังด้วยความตั้งใจ ฟังอย่างระมัดระวัง

แล้วเขาก็ร้องว่า “สิงโต…เจ้านายของข้า  ข้ายืนอยู่บนป้อมยามแห่งนี้ในเวลากลางวัน  และข้านั่งอยู่ที่นี่ในเวลากลางคืน  และดูซิ  มีรถรบคนหนึ่งขับมาพร้อมกับพลม้าเป็นคู่ !”   คนเฝ้ายามเห็นรถรบมากมาย นี่แสดงว่า กำลังจะมีสงคราม

ภาพจาก http://forums.civfanatics.com
ภาพจาก http://forums.civfanatics.com

เขาตอบและกล่าวว่า “บาบิโลนล่มแล้ว  มันล่มลงแล้ว และบรรดาเทวรูปทั้งหลายก็ล้มลงแตกกระจายบนพื้น”  บาบิโลนได้พ่ายแพ้อัสซีเรียเมื่อปี  689 ก่อนคริสตศักราช   และยังมาแพ้เปอร์เชียอีกในปี 539 ก่อนคริสตศักราช

“โอ… ท่านผู้ถูกนวด  และผู้ถูกฝัดร่อนบนลานนวดของข้า! ข้าประกาศให้พวกท่าน… นี่คือสิ่งที่ข้าได้ยินจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอล    การถูกนวด มันหมายถึงการที่บาบิโลนจะกดขี่ข่มเหงอิสราเอลอย่างโหดร้าย  แต่อิสราเอลจะหนีพ้นได้ด้วยการช่วยเหลือของพระเจ้า ทำให้อิสราเอลยังมีความหวัง