เยเรมีย์ 29-4 สองคนที่ทำร้ายอิสราเอล

เยเรมีย์ 29:20-23

จงฟังคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าผู้ที่ถูกเนรเทศไปจากเยรูซาเล็มถึงบาบิโลน
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
ทรงกล่าวถึงอาหับบุตรโคลายาห์และเศเดคียาห์บุตรมาอาเสยาห์
ทั้งสองได้กล่าวคำเท็จให้เจ้าฟังในนามของเรา

tej
ดูเถิด เราจะส่งเขาไปให้ราชาเนบูคัดเนสซาร์
เและท่านจะสังหารทั้งสองต่อหน้าต่อตาท่าน
เพราะเขาทั้งสองเป็นอย่างนี้ เหล่าคนที่ถูกเนรเทศจากยูดาห์ไปบาบิโลน
ก็จะแช่งว่า
“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เจ้าเป็นเหมือนเศเดคียาห์และอาหับ
คนที่กษัตริย์แห่งบาบิโลนเผาเสียด้วยไฟ”
เพราะเขาทั้งสองทำสิ่งที่ร้ายกาจในหมู่คนอิสราเอล
ได้เป็นชู้กับภรรยาของเพื่อนบ้าน
ได้กล่าวคำมุสาในนามของเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด
เราเป็นผู้รู้เห็น และเป็นพยาน” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 29-3 มะเดื่อเน่า

เยเรมีย์ 29:15-19

“เพราะเจ้ากล่าวว่า .. พระเจ้าทรงแต่งตั้งผู้กล่าวคำแก่เราในบาบิโลน ..
ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า จึงตรัสเรื่องของกษัตริย์ที่ขึ้นมาบนบัลลังก์ของดาวิด
และเกี่ยวข้องกับคนที่มาอาสัยอยู่ในเมืองนี้
ญาติของเจ้าที่ไม่ได้ออกไปเป็นเชลยกับพวกเจ้า
..องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้
ดูเถิด เราได้ส่งดาบ ความอดอยากและโรคระบาดมา
และเราจะทำให้เขาเป็นเหมือนลูกมะเดื่อเน่า   เน่ามากจนกินไม่ได้

fignao
เราจะตามเขาไปด้วยดาบ ความอดอยากและโรคระบาด
ทำให้เขาเป็นที่สยองขวัญต่อเหล่าอาณาจักรต่าง ๆ ในโลกนี้
กลายเป็นที่แช่งสาป น่ากลัว เป็นที่ซุบซิบและเป็นที่ตำหนิ
ท่ามกลางประชาชาติที่เราได้ไล่พวกเขาเข้าไปอยู่
ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาไม่สนใจถ้อยคำที่เราเฝ้าส่งสื่อสารมาให้เจ้า
โดยเหล่าผู้กล่าวคำ ผู้รับใช้ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

เยเรมีย์ 29-2 แผนดี ๆ ของพระเจ้า

เยเรมีย์ 29:10-14

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เมื่อเวลาผ่านไป 70 ปี ครบกำหนดของบาบิโลนแล้ว
เราก็จะมาเยี่ยมเยียนเจ้า และเราจะให้คำสัญญาของเรานั้น สำเร็จ
เราจะนำเจ้ากลับมายังสถานที่นี้

Je29

เพราะเรารู้แผนการที่เรามีให้เจ้า  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกล่าว…
เป็นแผนการเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ใช่เพื่อสิ่งร้าย
เป็นแผนการที่จะให้อนาคตและความหวังใจ
แล้วเจ้าจะร้องทูลเรา เจ้าจะเข้ามาและอธิษฐานต่อเรา
และเราจะฟังเสียงของเจ้า
เจ้าจะแสวงหาเราและพบเรา เมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสุดใจของเจ้า
เจ้าจะพบเรา… องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
และเราจะทำให้เจ้ากลับสู่สภาพดี
จะรวบรวมพวกเจ้าจากประชาชาติต่าง ๆ จากสถานที่ซึ่งเราไล่ให้เจ้าไปอาศัยอยู่
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
และเราจะนำเจ้ากลับมาจากสถานที่ซึ่งเราเนรเทศเจ้าไป

เยเรมีย์ 29-1 จดหมายจากบ้าน

เยเรมีย์ 29:1-9

ต่อจากนี้ไป เป็นข้อความในจดหมายที่ท่านเยเรมีย์
ผู้กล่าวคำได้เขียนจากนครเยรูซาเล็มไปถึงผู้ใหญ่ที่ยังคงมีชีวิตอยู่
เหล่าปุโรหิต ผู้กล่าวคำ และประชาชน
ซึ่งราชาเนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดไปเป็นเชลยจากนครเยรูซาเล็มไปยังบาบิโลน

นี่เป็นเวลาหลังจากราชาเยโคนิยาห์และพระมารดา
เหล่าขันที และข้าราชการแห่งยูดาห์และเยรูซาเล็ม
เหล่าช่างฝีมือ ช่างทำโลหะได้ออกไปจากนครเยรูซาเล็ม

babylonian-empire-606-536-bc

ผู้ส่งจดหมายคือ เอลาสาห์ลูกชายของชาฟาน และเกมาริยาห์ลูกชายของฮิลคียาห์
ผู้ซึ่งราชาเศเดคียาห์แห่งยูดาห์ได้ส่งไปถึงราชาเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน  ความว่า

องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสแก่เหล่าคนที่เราส่งให้ไปเป็นเชลย จากเยรูซาเล็มไปยังบาบิโลนว่า…
จงสร้างบ้านเรือนและอาศัยในบ้านนั้น  ให้ทำสวนพืชผัก และกินผลิตผลจากสวนนั้น..
และจงให้ลูกสาวของเจ้าได้มีครัวเรือน เพื่อว่าจะได้มีลูกชายลูกสาว 

จงเพิ่มทวีคูณอย่าให้จำนวนลดลง
แต่เจ้าจงแสวงหาสวัสดิภาพให้แก่เมืองที่เจ้าถูกเนรเทศไปอยู่นั้น
จงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเมืองนั้น
เพราะว่า หากเมิองมีสวัสดิภาพ เจ้าก็จะมีความสุข  

องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้
อย่ายอมให้ผู้กล่าวคำและผู้ทำนายซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเจ้านั้นหลอกลวงเจ้า
และอย่าไปฟังความฝันของพวกเขา
เพราะพวกเขาได้กล่าวคำมุสาในนามของเรา เราไม่ได้ส่งพวกเขาไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 28-2 แอกเหล็กแทนแอกไม้

เยเรมีย์ 28:10-17

แล้วฮานันยาห์ก็เอาแอกออกจากคอของเยเรมีย์  และหักมันเสีย
ฮานันยาห์ได้พูดต่อหน้าประชาชนทั้งปวงว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้…
เราจะหักแอกของราชาเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนภายในสองปี”
แต่เยเรมีย์ก็เดินออกไป…

Jer28yokebroken
ต่อมา ไม่นานหลังจากที่ฮานันยาห์ได้ทำลายแอกจากคอของเยเรมีห์ ผู้กล่าวคำ
ก็มีพระดำรัสมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงเขาว่า
“จงไปบอกฮานันยาห์ดังนี้ ..องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
เจ้าได้ทำลายแอกไม้ไป  แต่เจ้าได้สร้างแอกเหล็กขึ้นมาแทนที่
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า..
เราได้วางแอกเหล็กลงบนคอของประชาชาติทั้งหลาย
เพื่อให้พวกเขาได้รับใช้ราชาเนบูคัดเนสซาร์  กษัตริย์แห่งบาบิโลน
และพวกเขาจะรับใช้เป็นทาสเนบูคัดเนสซาร์
เพราะเราเองได้ให้เขาแม้กระทั่งสัตว์ในทุ่ง.. “

และเยเรมีย์ผู้กล่าวคำของพระเจ้า จึงกล่าวแก่ฮานันยาห์ว่า
“ฟังนะ  ฮานันยาห์  องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ส่งท่านมา
และท่านได้ทำให้ประชาชนเหล่านี้เชื่อคำมุสาของท่าน
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ..
ดูเถิด เราจะเอาเจ้าออกไปจากโลกนี้ ปีนี้เจ้าจะตาย
เพราะเจ้าได้กล่าวคำอันเป็นกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า”

ในปีนั้น เดือนที่เจ็ด ฮานันยาห์ก็สิ้นชีวิต

เยเรมีย์ 28-1 ฮานันยาห์เจ้าเล่ห์

เยเรมีย์ 28:1-9

ในปีนั้นเอง ต้นรัชสมัยของราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
ในเดือนที่ 5 ปีที่สี่ ฮานันยาห์บุตรชายของอัสซูร์ ซึ่งเป็นผู้กล่าวคำจากกิเบโอน
พูดกับข้าในพระวิหารของพระเจ้า ต่อหน้า ปุโรหิตและประชาชนทั้งหลายว่า

wearing-yoke
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ..
เราได้ทำลายแอกของราชาบาบิโลนแล้ว
ภายในสองปี เราจะนำภาชนะต่าง ๆ ของพระวิหารของพระเจ้า
ที่ราชาเนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้ยึดไปและนำไปยังบาบิโลนกลับมา
และเรายังจะนำเยโคนิยาห์ โอรสของราชาเยโฮยาคิม
กษัตริย์แห่งยูดาห์ รวมทั้งคนทั้งหลายที่ถูกกวาดไปบาบิโลนกลับมาด้วย..
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ … เพราะเราจะหักแอกของราชาแห่งบาบิโลน”
แล้วเยเรมีย์กล่าวแก่ฮานันยาห์ ผู้กล่าวคำ ต่อหน้าเหล่าปุโรหิต
และประชาชนที่ยืนอยู่ในพระวิหารของพระเจ้า ว่า..
“อาเมน .. ขอให้พระเจ้าทรงทำเช่นนั้น
ขอให้พระเจ้าทรงทำให้คำที่ท่านเพิ่งพยากรณ์ไปเกิดขึ้นจริง
และนำเอาภาชนะในพระวิหารของพระเจ้า รวมทั้งคนที่ถูกเนรเทศไปกลับมา
แต่ถึงกระนั้น ก็ขอให้ฟังคำที่ข้ากำลังจะกล่าวให้ท่านและประชาชนทั้งหลายฟัง
ผู้กล่าวคำทั้งหลายที่มาก่อนหน้าท่านและข้าเองในสมัยโบราณ
ได้พยากรณ์ถึงสงคราม ความอดอยากและโรคระบาดต่อหลาย ๆ ประเทศ หลายอาณาจักร
เมื่อคำที่พวกเขากล่าวเกิดขึ้นจริง ดังนั้นก็จะรู้ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งผู้กล่าวคำท่านนั้นมา

เยเรมีย์ 27-3 ประเด็นของใช้ในพระวิหาร

เยเรมีย์ 27:16-22

แล้วข้าก็กล่าวกับปุโรหิตและคนทั้งปวงว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ อย่าฟังคำของผู้กล่าวคำที่พยากรณ์ให้เจ้าว่า ..
ดูเถิด ภาชนะในพระวิหารของพระเจ้าจะถูกนำกลับมาจากบาบิโลนในไม่ช้านี้…
เพราะคำดังกล่าวเป็นคำมุสา
อย่าไปฟังพวกเขา  จงรับใช้ราชาแห่งบาบิโลนและมีชีวิตอยู่
เหตุใดเมืองนี้จึงจะต้องกลายเป็นเมืองร้างเล่า?

brazen-sea

หากพวกเขาเป็นผู้กล่าวคำและพระคำของพระเจ้าอยู่กับเข้า
ก็ให้พวกเขาอ้อนวอนต่อพระเจ้าว่า
ขออย่าให้ภาชนะต่างๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในพระวิหารของพระเจ้า
รวมทั้งในราชวัง ในเยรูซาเล็มจะไม่ต้องถูกกวาดไปบาบิโลน

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสถึงเสาหาร   ขันสาคร  ขาตั้งและเครื่องใช้อื่น ๆ
ที่ราชาเนบูคัดเนสซาร์ไม่ได้กวาดไป และยังเหลืออยู่ในเมืองนี้
ครั้งเมื่อพระองค์นำเยโคนิยาห์ โอรสของราชาเยโฮยาคิม ราชาแห่งยูดาห์
รวมทั้งชนชั้นสูงแห่งยูดาห์และเยรูซาเล็มไปยังบาบิโลน

สำหรับเรื่องของภาชนะที่ยังหลงเหลือในพระวิหารของพระเจ้า
ในราชวังและในเยรูซาเล็มนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า ..
มันจะถูกนำไปยังบาบิโลน และอยู่ที่นั่นจนถึงวันที่เราเยี่ยมเยียนมัน
..องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
แล้วเราจะนำมันกลับมา เก็บไว้ในที่นี้อีกครั้ง

11 ตุลาคม 2013 ถุงใหม่ ถุงเก่า

 ไม่มีใครเอาน้ำองุ่นหมักใหม่ ๆ มาใส่ถุงหนังเก่า
หากทำอย่างนั้น ถุงหนังเก่าจะขาดไป…

ถอดความจากลูกา 5:37

Daily2013_10_11-1

เผื่อว่าธรรมาจารย์จะยังไม่เข้าใจเรื่องการอดอาหารนี้
พระเยซูทรงเล่าคำอุปมาสั้น ๆ ให้เขาฟังว่า
“ไม่มีใครที่จะเอาผ้าใหม่จากเสื้อใหม่มาปะเสื้อผ้าเก่า..
ทำอย่างนั้น เสื้อเก่าจะยิ่งขาด ทำให้เสียเสื้อทั้งสองตัว
ผ้าชิ้นที่ใหม่กว่าก็ไม่เหมาะกับเสื้อเก่า”

ไม่มีใครเอาน้ำองุ่นหมักใหม่ ๆ มาใส่ถุงหนังเก่า
หากทำอย่างนั้น ถุงหนังเก่าจะขาดไป…
น้ำองุ่นจะรั่วออกมา เสียน้ำองุ่นไป
ส่วนถุงหนังก็พังไปด้วย
น้ำองุ่นใหม่ก็ต้องใส่ถุงหนังใหม่

Daily2013_10_11-2
ใครก็ตามที่ดื่มเหล้าเก่าก็ไม่อยากจะได้น้ำองุ่นหมักใหม่
เพราะว่า “ของเก่านั้นดีอยู่แล้ว”

โห… หมายความว่าอย่างไรหรือ?…
พระเยซูมิได้ต้องการให้เขาเอาบัญญัติเดิม ที่เน้นการทำตามกฎของพวกเขามาเป็นแนวทาง
แต่พระเยซูจะประทานบัญญัติใหม่ เป็นเรื่องของความรัก
ถ้าธรรมาจารย์ถือกฎแห่งความรัก   พวกเขาจะไม่โวยวายว่าใครจะทำผิดบัญญัติข้อโน้นข้อนี้
ความคิดเก่าของธรรมาจารย์เอามาปรับใหม่ไม่ได้
ต้องใช้ของใหม่ของพระเยซูไปเลย!
เวลาเรามาพบพระเจ้าแล้ว เราต้องทิ้งสิ่งเก่า ๆ ในชีวิตไป
ให้กลายเป็นของใหม่ในพระเยซูคริสต์เท่านั้นจึงจะเดินไปได้อย่างสวยงาม

เยเรมีย์ 27-2 ยอมอย่างที่พระเจ้าตรัส

เยเรมีย์ 27:8-15

“แต่หากชาติใด อาณาจักรใด ไม่ยอมรับใช้เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
และไม่ยอมอยู่ใต้แอกแห่งกษัตริย์แห่งบาบิโลนแล้วละก็
เราจะลงโทษชาตินั้นด้วยดาบ ด้วยความอดอยาก และโรคระบาด …
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ… จนเราได้เผาผลาญเขาด้วยมือของเนบูคัดเนสซาร์

ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท
ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท

ดังนั้น เจ้าจะต้องไม่ฟังเสียงของผู้กล่าวคำ หรือผู้ทำนาย หรือนักฝัน หรือหมอดู หรือคนทำเวทมนต์ของพวกเจ้า
พวกเขาจะกล่าวแก่เจ้าว่า ..ท่านจะไม่ต้องไปรับใช้ราชาแห่งบาบิโลนหรอก..
เพราะคำทำนายเหล่านั้น เป็นคำมุสา  มันจะทำให้เจ้าต้องถูกย้ายไปจากแผ่นดินของเจ้าเอง
และเราจะไล่เจ้าออกไป เจ้าจะพินาศ
แต่ชาติใดที่ยอมอยู่ใต้ราชาแห่งบาบิโลนและรับใช้เขา ..
เราจะวางเขาไว้บนแผ่นดินของตน เพื่อให้ทำไร่ไถนา และอาศัยอยู่ที่นั่น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ”

ข้าได้ทูลราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ดังนี้..
”ขอให้ท่านยอมอยู่ใต้แอกของราชาบาบิโลน
รับใช้พระองค์ และประชาชนเมืองนั้น และท่านจะมีชีวิตอยู่…
เหตุใดท่านและประชาชนของท่านจะต้องมาตายด้วยดาบ ด้วยความอดอยากและโรคระบาด
ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่าจะเกิดกับประชาชาติที่ไม่ยอมรับใช้ราชาเนบูคัดเนสซาร์?
ขออย่าทรงไปฟังเสียงของ ผู้กล่าวคำที่กล่าวกับพระองค์ว่า …ท่านจะไม่ต้องรับใช้ราชาแห่งบาบิโลน..
เพราะคำพยากรณ์เหล่านั้นเป็นคำมุสา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ..เราไม่ได้ส่งพวกเขามา
แต่พวกเขากลับกล่าวคำที่มุสาในนามของเรา
ผลก็คือ เราจะไล่เจ้าออกไป และเจ้าจะพินาศ ทั้งตัวเจ้า และผู้กล่าวคำที่พยากรณ์ให้เจ้า..”

 

10 ตุลาคม 2013 ปัญหาอดอาหาร

จะให้เพื่อนของเจ้าบ่าวอดอาหาร ตอนที่เจ้าบ่าวยังอยู่ด้วยหรือ?

ถอดความจาก ลูกา 5:34

Daily2013_10_10-1

เรื่องของการไปกินเลี้ยงในบ้านเลวียังไม่ทันสร่างซา
พวกธรรมาจารย์ทั้งหลายก็มีเรื่องไม่พอใจพระเยซูอีก
พวกนี้ก็แปลก คอยจับผิดไม่เลิกรา
“ดูซิ  ศิษย์ของท่านยอห์นถืออดอาหารบ่อย ๆ
ศิษย์ของฟาริสี ก็ทำเหมือนกัน
แต่ทำไมศิษย์ของท่านนี่
กิน ดื่มตามสบาย ไม่มีการทำตัวให้เคร่งครัดเลย?”
พวกเขาถามพระเยซู

อืม… น่าคิดนะ …อย่างนี้แสดงว่า ศิษย์ของพระเยซูนะไม่ได้ความ
พวกเขาอยากจะบอกพระองค์ว่า ทำตัวให้ดูน่าเคารพกว่านี้หน่อย..
Daily2013_10_10-2

พระเยซูทรงตอบเขาว่า
“ท่านจะให้เพื่อน ๆของเจ้าบ่าวอดอาหารตอนที่เจ้าบ่าวยังอยู่กับเขาหรือ?”
แล้วใครเป็นเจ้าบ่าวล่ะนี่ ทำไมพระเยซูตรัสเช่นนี้??
“แต่วันหนึ่งในอนาคต  เจ้าบ่าวก็จะต้องจากเพื่อน ๆ ไป
วันเหล่านั้นแหละพวกเขาจะถืออดอาหาร”
พระเยซูทรงบอกเขาว่า
พระองค์เปรียบเหมือนเจ้าบ่าว ที่ยังอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน
ถ้าเพื่อน ๆ ไปอดอาหารในเวลานั้น มันไม่เหมาะสมแน่
แต่วันหนึ่ง พระองค์จะไม่อยู่ …
วันนั้นเพื่อน ๆ ของพระองค์จะอดอาหารอย่างแน่นอน
อย่า… อย่ามาบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องทำ…
ถึงเวลาทุกอย่างจะมาอย่างเหมาะสมนะ ท่านธรรมาจารย์

เยเรมีย์ 27-1 แอกแห่งบาบิโลน

เยเรมีย์ 27:1-7

ต้นรัชกาลราชาเศเดคียาห์ โอรสราชาโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ ..
มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าว่า
“จงไปทำสายรัดและแอกให้ตัวเอง และสวมมันไว้ที่คอของเจ้า
จากนั้นก็สื่อสารไปยังราชาแห่งเอโดม   ราชาแห่งโมอับ
ราชาทั้งหลายที่เป็นโอรสของอัมโมนกษัตริย์แห่งเมืองไทระ  และราชาแห่งไซดอน
โดยส่งผ่านมือของทูตที่มาเข้าเฝ้าราชาเศเดคียาห์
ฝากคำเหล่านี้ไปยังเจ้านายของพวกเขา

 

ภาพเอื้อเฟื้อจากhttp://www.visualbiblealive.com/image_download.php?image_id=79435&type=mm
ภาพเอื้อเฟื้อจากhttp://www.visualbiblealive.com/image_download.php?image_id=79435&type=mm

“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ..
เจ้าจงกล่าวคำต่อไปนี้ให้เจ้านายของพวกเจ้าฟังว่า
“เราเอง.. ผู้ได้สร้างโลก ทั้งมนุษย์และสัตว์ที่อยู่ในโลกด้วยอำนาจยิ่งใหญ่
ด้วยแขนที่ยื่นออกไป  เราจะให้แก่ใครก็แล้วแต่ที่เราเห็นชอบ
บัดนี้ เราจะมอบดินแดนเหล่านี้ทั้งสิ้นให้กับราชาเนบูคัดเนสซาร์
กษัตริย์แห่งบาบิโลนซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรา
และเราได้ให้สัตว์ป่าเพื่อปรนนิบัติเขาด้วย
ประชาชาติทั้งหลายจะรับใช้เขาและลูกชาย รวมไปถึงหลานของเขาด้วย
จนกว่าเวลากำหนดแห่งแผ่นดินของเขาจะมาถึง
แล้วต่อมาหลายประเทศและกษัตริย์ทั้งหลายจะทำให้เขาเป็นทาส”

 

9 ตุลาคม 2013 งานเลี้ยงของเลวี

เราไม่ได้มาเรียกคนที่เห็นว่าตัวเองดี
แต่มาเรียกคนที่ท่านคิดว่านอกลู่นอกทางให้กลับใจใหม่

ถอดความจาก ลูกา 5:32

Daily2013_10_9-1

ความที่เลวีดีใจมาก เขาจึงจัดงานเลี้ยง
เลี้ยงที่บ้านอันหรูหราของเขา
แหม.. เป็นคนเก็บภาษี ก็ต้องมีเพื่อนเป็นคนเก็บภาษี
มีเพื่อนเป็นชนชั้นสูง  มีพ่อค้า  และคนรวย ๆ มากมาย
แต่คนเหล่านั้น เป็นคนที่รวยจริงแต่ไม่มีใครรัก
เป็นคนรวยที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้
อาชีพคนเก็บภาษีเป็นอาชีพที่สังคมรังเกียจ
ถือว่าเป็นคนทรยศ เพราะมาเก็บภาษีส่งโรมซึ่งครองแผ่นดินอยู่

ดังนั้น ฟาริสีและธรรมาจารย์จึงกระแนะกระแหนพระเยซูกับผู้ที่ติดตามพระองค์
“โห… ทำไมอาจารย์ของพวกเจ้าจึงมากินดื่มกับคนเก็บภาษีที่น่าชัง ทั้งกับคนบาปอย่างนี้?”

Daily2013_10_9-2

แต่พวกเขาไม่ได้พูดกระซิบ… เขาพูดดัง ๆ เพื่อหลายคนจะได้ยิน และเห็นด้วยกับพวกเขา

พระเยซูทรงได้ยิน
หันมา ตรัสกับพวกเขาว่า
“ท่านก็รู้ว่า คนเจ็บเท่านั้นต้องการหมอ  แต่คนที่ปกติ สุขภาพดีก็ไม่ต้องการหมอ”
พวกเขาสงสัย…. นี่ท่านเยซูจะบอกอะไรอีก?
“เราไม่ได้มาเรียกคนที่เห็นว่าตัวเองดี
แต่มาเรียกคนที่ท่านคิดว่านอกลู่นอกทางให้กลับใจใหม่”

รู้ไว้ซะ…ท่านธรรมาจารย์!

เยเรมีย์ 26-3 คำทำนายถึงเยรูซาเล็ม

เยเรมีย์ 26:16-24

ผู้ใหญ่บางคนในเมืองได้ลุกขึ้นพูดกับประชาชนที่ชุมนุมอยู่นั้นว่า
“ท่านมีคาห์แห่งโมเรเชท ได้ทำนายในสมัยราชาเฮเซคียาห์
กษัตริย์แห่งยูดาห์ และกล่าวแก่ประชาชนว่า… องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า

“ศิโยนจะถูกไถกลบเหมือนกับทุ่งนา
เยรูซาเล็มจะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
และเป็นกองภูเขาบ้านไม้ทับถมกันสูง”

Jeremiah26
เยรูซาเล็มเปลี่ยนไปเป็นป่า


แล้วราชาเฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ และคนยูดาห์ได้ประหารเขาหรือ?
ไม่ใช่เขาหรือที่เกรงกลับพระเจ้า
และได้ทูลอ้อนวอนพระองค์ จนพระองค์ทรงกลับพระทัยไม่นำความวิบัติมาถึงพวกเขา..?
แต่ตอนนี้ พวกเรากำลังจะนำหายนะยิ่งใหญ่มาสู่ตัวเราเอง”

ยังมีชายอีกคนที่กล่าวคำทำนายในพระนามของพระเจ้า
นั่นคือท่านอุรีอาห์บุตรชายเชไมอาห์ จากคิริยาทเยอาริม

เขาได้ทำนายต่อต้านเมืองนี้ และแผ่นดินนี้เหมือน ๆ กับท่านเยเรมีย์
และเมื่อราชาเยโฮยาคิมพร้อมกับนักรบ และข้าราชการได้ยินคำทำนายของท่าน
ราชาเยโฮยาคิมก็ต้องการประหารท่าน
เมื่ออุรียาห์รู้ข่าว  เขาก็หนีไปอียิปต์
เมื่อราชาเยโฮยาคิมส่งเอลนาธัน บุตรชายอัคโบร์และคนอื่น ๆ ไปกับเขา
ก็ได้นำอุริยาห์กลับมาส่งให้ราชาเยโฮยาคิม  พระราชาก็แทงเขาจนตาย และนำศพของเขาไปรวมไว้กับหมู่คนธรรมดา

แต่อาหิคัมบุตรของชาฟาน ได้ช่วยเยเรมีย์ไว้ไม่ให้ประชาชนสังหารเขา

8 ตุลาคม 2013 ตามเรามาเถิด

“เจ้าจงตามเรามาเถิด”

ถอดความจาก ลูกา 5:27

Daily2013_10_8-1

 

หลังจากการรักษาชายอัมพาตไม่นาน
พระเยซูเสด็จออกไปในเมือง
มีคนเก็บภาษีคนหนึ่งกำลังง่วนทำงานของเขา
คอยเก็บภาษีจากประชาชนที่ยืนเข้าแถวรออยู่
พระเยซูเห็นเขา
ทรงรู้ว่า เขาคนนี้แหละที่จะทรงเลือกให้เป็นผู้ติดตามใกล้ชิด
ดังนั้น พระองค์ทรงเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขาตรัสว่า
“เจ้าจงตามเรามาเถิด”

 Daily2013_10_8-2

เลวีได้ยินดังนั้น ก็แปลกใจไม่ใช่น้อย
อะไรกัน เขาก็เป็นคนเก็บภาษี มีหน้าที่การงานดี ๆ อยู่แล้ว
ทำไม ท่านเยซูผู้นี้ จึงมาชวนเราให้ติดตามพระองค์ไป?
แต่ก็ดีเหมือนกันนะ..
พระองค์ทรงเป็นผู้ทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่
เราเองก็เคยเห็นพระองค์รักษาโรค
เราเองก็เคยได้ยินพระองค์สอน
แต่เราไม่คิดจะตามพระองค์
วันนี้ พระองค์กลับทรงชวนเรา
ไปดีกว่า … ไปกับพระองค์ น่าจะดีกว่าอาชีพนี้
แล้วเลวีก็ตัดสินใจทันทีว่า เขาจะตามพระองค์ไป

เยเรมีย์ 26-2 เอาโทษประหารไป

เยเรมีย์ 26:10-15

เมื่อเหล่าข้าราชการของยูดาห์ได้ข่าว..
พวกเขาก็เดินทางมาจากราชวังถึงพระวิหารของพระเจ้าและนั่งตรงที่ประตูใหม่ของพระวิหาร…
จากนั้นเหล่าปุโรหิตและผู้ทำนายก็กล่าวต่อข้าราชการและประชาชนว่า
“คนนี้ควรได้รับโทษประหาร เพราะเขาได้ทำนายต่อต้านเมืองนี้อย่างที่พวกท่านได้ยินด้วยหูของท่านเอง”

แล้วเยเรมีย์จึงกล่าวแก่ข้าราชการและประชาชนว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งข้ามากล่าวคำต่อต้านวงศ์วานนี้ รวมทั้งเมืองนี้ ท่านก็ได้ยินหมดแล้ว
ดังนั้น  ท่านก็ควรจะแก้ไขทางและการกระทำของพวกท่าน
และเชื่อฟังคำแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน
และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ให้เกิดภัยพิบัติที่ข้าได้กล่าวแก่ท่าน..

jere-weep
แต่สำหรับข้าแล้ว
ข้าอยู่ในมือของพวกท่าน  ก็ให้ท่านทำสิ่งที่เห็นว่าดีและถูกต้องแล้วกัน
เพียงแต่ขอให้รู้ว่า  หากท่านประหารข้า
ก็เท่ากับท่านได้ให้เลือดของคนบริสุทธิ์ตกอยู่กับท่านและเมืองนี้
รวมถึงผู้อาศัยในเมืองนี้
เพราะความจริงก็คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งข้ามาเพื่อพูดกับท่านทุกอย่างที่พูดไปแล้ว

 

7 ตุลาคม 2013 อำนาจของพระเยซู

เราสั่งเจ้าว่า จงลุกขึ้น
แบกที่นอนของเจ้าไป และกลับบ้านเถิด

ถอดความจากลูกา 5:24

Daily2013_10_7-1

พระเยซูทรงหันมาหาฟาริสีและธรรมาจารย์
ทรงมองหน้าเขาตรัสว่า
“เหตุใดท่านจึงคิดในใจอย่างนั้น?”
พวกเขาตกใจ… ท่านเยซูรู้หรือว่าเราคิดอะไรอยู่?
พระองค์ตรัสต่อไปว่า
“ที่จะบอกว่า เราอภัยบาปให้ กับจะบอกว่า ให้ลุกขึ้นเดินไป
พวกท่านคิดว่า อย่างไหนจะง่ายกว่ากัน?…”
พวกเขามองพระเยซู งุนงง ไม่รู้จะตอบอย่างไร

Daily2013_10_7-2

“แต่..” พระเยซูตรัสต่อไป
“เพื่อให้พวกท่านรู้ว่า เรา..มีสิทธิอำนาจที่จะอภัยบาปได้”
พระเยซูทรงหันไปหาชายอัมพาต
“เราสั่งเจ้าว่า จงลุกขึ้น แบกที่นอนของเจ้าไป และกลับบ้านเถิด”
พอเขาได้ยินดังนั้น เขาก็ลุกขึ้นทันที
“อู.. ขอบคุณพระเจ้า” เขามองขาตัวเอง
ไม่มีร่องรอยของการโขยกเขยกขา … แถมยังยกที่นอน
เขาขอทาง…”ขอทางหน่อยขอรับ ข้าจะกลับบ้านแล้ว”
“ฮาเลลูยา ข้าหายโรคแล้ว พระเจ้าทรงดีกับข้าเหลือเกิน”
เขาพูดเสียงดัง

ทุกคนในบ้าน หันมองหน้ากัน…
“วันนี้ พวกเราได้เห็นการอัศจรรย์ที่เหลือเชื่อ”

เยเรมีย์ 26-1 พูดอย่างนี้..ข้าไม่ชอบ!

เยเรมีย์ 26:1-9
ต้นรัชกาลราชาเยโฮยาคิม โอรสของราชาโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
มีพระดำรัสมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าดังนี้
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงยืนขึ้นในลานแห่งพระวิหารของพระเจ้า
และกล่าวแก่เมืองทั้งหลายแห่งยูดาห์ที่ได้เข้ามานมัสการในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ทุกคำที่เราได้บัญชาให้เจ้าพูดกับเขา และอย่าเก็บไว้สักคำเดียว
พวกเขาอาจจะฟัง และทุกคนหันกลับจากทางชั่วของตน
เพื่อว่า เราจะได้เปลี่ยนใจไม่นำวิบัติมาสู่พวกเขาเนื่องจากความบาปชั่วทั้งหลาย
Jer_BreakingYoke
เจ้าจะพูดกับพวกเขาว่า
‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ … หากเจ้ายังไม่ฟังเสียงของเรา
เพื่อที่จะดำเนินตามกฎเกณฑ์ที่เราวางไว้ต่อหน้าพวกเจ้า
หากเจ้าไม่ฟังเสียงของผู้รับใช้ที่เราส่งมากล่าวคำของเราอย่างเร่งด่วน
… เราจะทำให้วงศ์วานนี้เป็นเหมือนชิโลห์
และเราจะทำให้เมืองนี้เป็นที่สาปแช่งสำหรับทุกประเทศในโลก”
เหล่าปุโรหิต ผู้ทำนาย และคนทั้งหลายที่ได้ยินเยเรมีห์กล่าวคำข้างต้นในพระวิหารของพระเจ้า
… และเมื่อเยเรมีย์พูดสิ่งที่พระเจ้าทรงสั่งให้เขาพูดทั้งสิ้น
เหล่าปุโรหิต ผู้ทำนายและประชาชนก็จับเขาไว้ กล่าวว่า
“เจ้าจะต้องตาย! เหตุใดเจ้าจึงทำนายในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
วงศ์วานนี้จะเป็นเหมือนชิโลห์และเมืองนี้จะกลายเป็นเมืองร้างเปล่า
ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่?”
พวกเขาทุกคนล้อมเยเรมีย์เอาไว้ ในพระวิหารของพระเจ้า

6 ตุลาคม 2013 รักกันและกัน

ขอให้เรารักกันและกัน…

เพราะว่า ความรักมาจากพระเจ้า 
และทุกคนที่รักก็เกิดมาจากพระเจ้า

ถอดความจาก 1 ยอห์น 4:7

เยเรมีย์ 25-4 พิโรธแรงกล้า!

เยเรมีย์ 25:30-38

“ดังนั้น  เจ้า…จะต้องกล่าวคำทำนายต่อต้านพวกเขาดังนี้ …

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งสุรเสียงสนั่นมาจากเบื้องบน
พระองค์ทรงเปล่งสุรเสียงของพระองค์จากที่ประทับอันบริสุทธิ์ของพระองค์
พระองค์จะทรงคำรามด้วยพลังยิ่งใหญ่ต่อสู้คนของพระองค์
และจะทรงตะโกนเหมือนกับคนที่กำลังย่ำองุ่น
ต่อต้านคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินโลก
ความโกลาหลจะส่งเสียงดังไปสู่ที่สุดปลายแผ่นดิน…
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีคดีกับประชาชาติทั้งหลาย
พระองค์จะทรงพิพากษามนุษย์ทั้งปวง และจะทรงประหารคนชั่วร้ายด้วยดาบ  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ”

“ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า
ดูเถิด หายนะกำลังแพร่ออกไปจากชาติหนึ่งสู่อีกชาติหนึ่ง
และพายุใหญ่กำลังเกิดขึ้นจากที่ไกลสุดแห่งแผ่นดินโลก
!

และคนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประหารจะมีมากมายจากสุดปลายข้างหนึ่ง ไปยังสุดปลายอีกข้างหนึ่งของแผ่นดิน   ไม่มีใครร้องไห้คร่ำครวญเพื่อเขา ไม่มีใครรวบรวมศพของพวกเขา เพราะศพจะกลายเป็นเหมือนมูลสัตว์ที่กระจายอยู่บนพื้นดิน

จงร้องไห้คร่ำครวญเถอะเหล่าผู้เลี้ยงแกะ และร้องออกมา
กลิ้งเกลือกอยู่บนเถ้า เหล่าเจ้าของฝูงสัตว์
เพราะวันแห่งการสังหาร และการกระจัดกระจายมาถึงแล้ว
และเจ้าจะล้มลงเหมือนกับภาชนะที่เลือกแล้ว
ไม่มีที่ลี้ภัยเหลือให้เหล่าผู้เลี้ยงแกะ
ไม่มีทางหนีสำหรับเหล่าเจ้าของฝูงสัตว์
เสียงหนึ่ง… เสียงของเหล่าผู้เลี้ยง
และเสียงคร่ำครวญโหยไห้ของเหล่าเจ้าของฝูงสัตว์
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา
เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิโรธยิ่งนัก

singtokrot
เหมือนกับสิงโตหนุ่มที่ออกมาจากที่ซ่อน
เพราะแผ่นดินของเขากลายเป็นที่ร้างเปล่าประโยชน์
ด้วยดาบสังหารของผู้กดขี่ และด้วยพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์

 

5 ตุลาคม 2013 แบกภาระด้วยกัน

 จงช่วยกันแบกภาระของกันและกัน

การทำเช่นนี้  เท่ากับเธอทำตามกฎของพระคริสต์สำเร็จ

ถอดความจาก กาลาเทีย 6:2

parashareภาพอันงดงามนี้ เอามาจาก http://revth.wordpress.com

ดูซิ  ตัวเล็กก็จริง แต่สามารถขนของที่ต้องการไปถึงที่หมายได้

ถ้าตัวเล็กบอกว่า เราจะไม่ทำ

เพื่อนตัวใหญ่ก็จะลำบากมากขึ้น

อาจจะต้องลาก ถูลู่ถูกังไปเรื่อย ๆ

 ตัวเล็ก…ก็อย่าคิดว่าทำอะไรไม่ได้นะ

ตัวเล็ก  หรือตัวโต  ถ้าช่วยกัน  มันสำเร็จเสมอ

และความสำเร็จที่ยอดกว่านั้นคือ

เราทำตามกกฎแห่งความรักของพระเยซูคริสต์!