อิสยาห์ 43-4

อิสยาห์ 43: 22-28

แต่เจ้าก็ยังไม่เรียกร้องหาเรา โอ ยาโคบ
เจ้ากลับเบื่อหน่ายเรา โอ อิสราเอล
เจ้าไม่นำแกะมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชา หรือถวายเกียรติเราด้วยเครื่องบูชาของเจ้า
เราไม่ได้ทำให้เจ้าต้องเป็นภาระด้วยเครื่องบูชา  ไม่ได้ขอให้เจ้ามาเหนื่อยเพราะเครื่องหอมถวาย…

เจ้าไม่ได้นำอ้อยหวานมาพร้อมกับเงิน หรือทำให้เราพอใจกับไขมันจากเครื่องบูชาของเจ้า
แต่เจ้ากลับทำให้เราเหนื่อยใจเพราะบาปของเจ้า  ทำให้เราเหนื่อยหน่ายกับการล่วงละเมิดของเจ้า

“เรา เราเป็นพระเจ้าองค์นั้นที่นำเอาบาปของเจ้าออกไปเพื่อเห็นแก่เราเอง   และเราจะไม่จดจำบาปของเจ้าอีกต่อไป

ภาพพิมพ์จากศตวรรษที่ 17  การเป็นเชลยที่บาบิโลน  P. Van Somer british museum
ภาพพิมพ์จากศตวรรษที่ 17 การเป็นเชลยที่บาบิโลน
P. Van Somer british museum

จำไว้… ให้เรามาตอบโต้กัน  และให้การในคดีของเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะพิสูจน์ความถูกต้องของเจ้า
พ่อคนแรกของเจ้านั้นทำบาป  และตัวกลางของเจ้ากับเราก็ยังทรยศต่อเราอีก
ดังนั้น เราจะถอดผู้นำแห่งพระวิหารออกไป

และทำให้ยาโคบเจอกับการถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ยับเยินไม่เหลืออะไร  และอิสราเอลเองจะเจอกับการกล่าวร้ายไม่จบสิ้น

18 เมษายน 2013 โปรดส่งข้าไป

และข้าก็ได้ยินเสียงของพระเจ้าตรัสว่า

“เราจะส่งใครไป  และใครจะไปแทนเรา?”   

แล้วข้าตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่

โปรดส่งข้าพระองค์ไปเถิด พระเจ้าข้า”  

ถอดความจากอิสยาห์ 6:8
Daily2013_4_16_3

อิสยาห์พร้อมที่จะไปตามคำสั่งของพระเจ้า

แต่ที่สำคัญคือ พระเจ้าได้บอกเขาว่า คนที่เขาไปพูดด้วยนั้น จะไม่ฟังเขา

หรือพยายามฟังเท่าไร ก็จะไม่เข้าใจ

ดูแล้วดูอีก  ก็มองไม่เห็น

นานเท่าไรที่จะต้องกล่าวคำของพระเจ้าทั้ง ๆ ที่คนไม่เข้าใจ….

พระองค์ตรัสว่า “จนกว่าเมืองจะร้างเปล่า ไม่มีคนอาศัย และบ้านไม่มีคนอยู่ แผ่นดินกลายเป็นที่รกร้าง
และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่งทุกคนไปยังแดนไกล แผ่นดินถูกทิ้งร้างจนหมดสิ้น    

พระเจ้าทรงบอกอิสยาห์ว่า ยากที่จะมีคนเห็น ได้ยิน และเข้าใจสิ่งที่อิสยาห์เตือนสติ

จนกระทั่งพวกเขาต้องรับผลแห่งการกระทำของตนเอง 

เพื่อน ๆ ครับ พวกเราอย่าเป็นอย่างนั้นเลย  เมื่อพระเจ้าตรัสอะไรกับเราก็หูผึ่งฟัง  และเชื่อฟัง จะปลอดภัยที่สุด

อิสยาห์ 43-3

อิสยาห์ 43:14-21

พระเจ้าผู้ทรงไถ่เจ้า พระองค์ผู้ทรงบริสุทธิ์แห่งอิสราเอลตรัสว่า “เราได้ส่งเจ้าไปยังบาบิโลนเพื่อเห็นแก่เจ้าเอง และได้นำพวกเขามาเป็นผู้ลี้ภัย พวกนั้นก็คือชาวบาบิโลนเองที่เคยโห่ร้องยินดีอยู่ในกำปั่น”
เราคือพระเจ้า องค์บริสุทธิ์ของเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างอิสราเอล กษัตริย์ของเจ้า
ดังนั้น พระเจ้าตรัส พระเจ้าผู้ทรงสร้างทางในทะเล หนทางทะลุคลื่นทะเลที่พัดกล้า
พระเจ้าผู้ทรงนำรถรบและม้าศึก  กองทัพและนักรบ ต้องล้มลงนอนราบตายหมู่ และไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก  พวกเขาสูญสิ้นไป ดับไปง่าย ๆ เหมือนกับไฟจากเทียน

ภาพวาดโดย Frederick Arthur Bridgman (November 10, 1847 – January 13, 1928)
ภาพวาดโดย Frederick Arthur Bridgman (November 10, 1847 – January 13, 1928)

“ไม่ต้องจำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ไม่ต้องพิจาราณาสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อันยาวนาน…  ดูเถิด เราจะทำสิ่งใหม่  มันกำลังจะเกิดขึ้นมา เจ้ามองไม่เห็นเลยหรือ? เราจะสร้างทางในถิ่นกันดาร และ แม่น้ำในทะเลทราย
สัตว์ป่าจะยกย่องเรา  ทั้งหมาไนและนกกระจอกเทศ เพราะเราให้น้ำกับถิ่นกันดารแห้งผาก  ให้แม่น้ำในทะเลทราย เพื่อให้คนที่เราเลือกไว้ได้ดื่ม…  คนที่เราได้สร้างขึ้นมาเพื่อเราเอง เพื่อเขาจะประกาศสรรเสริญนามของเรา…

17 เมษายน 2013 ถ่านจากเสราฟิม

“ข้าต้องวิบัติแน่  ข้าพินาศแน่  เพราะข้าเป็นคนปากไม่สะอาด!”

อิสยาห์ร้อง

ถอดความจาก อิสยาห์ 6:5

Daily2013_4_16_2

 

วันที่อิสยาห์เห็นพระเจ้าประทับบนบัลลังก์ในพระวิหารนั้น

ที่ ๆ นั่นก็สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว… ควันเต็มวิหารนั้น

เขาจึงรู้สึกท่วมท้น ร้องออกมาว่า “ข้าต้องวิบัติแน่  ข้าพินาศแน่  เพราะข้าเป็นคนปากไม่สะอาด!”

ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาได้เห็นพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์

และพระเจ้าทรงกรุณาต่อเขามากที่เขาไม่ตายไปตรงนั้น

เพราะคนบาปกับพระเจ้าจะอยู่กันอย่างนั้นไม่ได้เลย….

แต่…เสราฟิม*   ตนหนึ่ง ได้บินมา และเอาถ่านแตะปากของเขา

“ดูซิ  สิ่งนี้ แตะต้องปากของเจ้า   กรรมชั่วของเจ้าพระเจ้ายกโทษให้ และเจ้าได้รับการลบบาปแล้ว”

 

“ขอพระเจ้าทรงช่วยเราที่จะรักษาใจและปากให้สะอาด  ไม่พูดในสิ่งที่สกปรก ชั่วร้าย  

เมตตาด้วยพระเจ้าข้า…”

 

*เสราฟิม… คือสิ่งที่มีชีวิตซึ่งมีปีก 6 ปีก มีเสียงเป็นคน มือและเท้าเหมือนคน ตามที่อิสยาห์เห็นในวิหารนั้น  พวกเขาเป็นผู้ที่อยู่ใกล้พระเจ้าและนมัสการพระองค์ไม่หยุดหย่อน   ดังนั้น หลายคนจึงคิดว่า เขาเป็นทูตสวรรค์อีกแบบหนึ่ง  พระคัมภีร์กล่าวถึงเขาในหนังสืออิสยาห์ 

ชื่อของเขาบ่งบอกถึงไฟ และรูปร่างยาว และเขาจึงมีไฟที่จะชำระอิสยาห์ให้สะอาด

อิสยาห์ 43-2

อิสยาห์ 43:8-13
พระเจ้ายืนยันพระองค์เอง ผู้ซึ่งเป็นมาตั้งแต่อดีต และจะทรงดำรงต่อไปเป็นนิตย์

จงนำคนที่ยังมีตา แต่ตาบอดออกมา นำคนที่มีหู แต่หูหนวกออกมาจากประชาชาติทั้งหลาย
นำคนทั้งหลายทุกชาติออกมาอยู่รวมกัน ให้พวกเขาประชุมพร้อมกัน ใครบ้างในพวกเขาที่สามารถบอกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาให้คนอื่นรับรู้ได้?
ให้พวกเขาเอาพยานมาพิสูจน์ว่า เขาถูกต้อง และให้พวกเขาได้ยินและกล่าวว่า มันเป็นความจริง
“เจ้าเป็นพยานของเรา” พระเจ้าตรัส

ภาพจาก http://shortonwords.blogspot.com/โดยคุณ Susan Keller
ภาพจาก http://shortonwords.blogspot.com/โดยคุณ Susan Keller

“เจ้าเป็นคนรับใช้ที่เราได้เลือกไว้ เพื่อว่าเจ้าจะรู้จักและวางใจในเรา และเข้าใจว่า เราเป็นซึ่งเราเป็น
ก่อนเราไม่มีพระเจ้าอื่น และก็จะไม่มีพระอื่นใดตามเรามา เรา เราคือพระเจ้า
นอกเหนือจากเราไม่มีพระเจ้าผู้ช่วยให้รอด
เราพูดไว้ และช่วยให้รอดพ้น และเล่าให้เจ้าฟัง
ในขณะที่ไม่มีพระแปลกๆ ท่ามกลางเจ้า และเจ้าเองก็เป็นพยานฝ่ายเรา” พระเจ้าตรัสดังนี้
“และเราเองคือพระเจ้าแต่ไหนแต่ไรมา
และต่อไปเราก็ยังเป็นพระองค์นั้นอยู่
ไม่มีใครที่จะเอาใครไปจากมือของเราได้
เมื่อเราทำสิ่งใด ใครจะมาทำลายสิ่งนั้นได้?”

16 เมษายน 2013 อิสยาห์เห็นพระเจ้า

บริสุทธิ์  บริสุทธิ์   บริสุทธิ์  คือพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

ทั้งแผ่นดินเต็มด้วยพระสิริของพระองค์ 

ถอดความจาก อิสยาห์ 6:3

Daily2013_4_16_1
อิสยาห์ เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกให้มากล่าวคำของพระองค์ในหลายรัชกาล

ช่วงเวลานั้น ราชาอุสซิยาห์สิ้นพระชนม์

เขาได้เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า

น่าแปลกที่สุด สิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ที่รู้จักพระเจ้ามา ก็ปรากฏให้เขาเห็น

เขาเห็นพระเจ้าประทับบนพระที่นั่ง สูง และเทิดทูนและชายฉลองพระองค์ก็เต็มพระวิหาร

เสราฟิม ยืนอยู่ และร้องสรรเสริญว่า พระเจ้าทรงบริสุทธิ์

เขาคนนี้เป็นผู้เขียนหนังสืออิสยาห์ที่เรากำลังอ่านประจำวันอยู่

เพื่อน ๆ พอจะนึกออกไหมว่า

เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  เขารู้สึกอย่างไรกับตัวเอง?

อิสยาห์ 43-1

พระเจ้าองค์เดียวของอิสราเอล
อิสยาห์ 43:1-7
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างเจ้ามา โอยาโคบ พระองค์ผู้ทรงปั้นเจ้า พระองค์ตรัสว่า “อย่ากลัวไป เพราะว่า เราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา

เมื่อเจ้าต้องลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าข้ามแม่น้ำ มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ เปลวไฟจะไม่ลามเผาเจ้า
back

เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล เป็นพระผู้ช่วยเจ้าให้รอด เราให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า คูช และเศบา เพื่อแลกเปลี่ยนเอาเจ้ามา
เพราะว่าเจ้ามีค่าในสายตาของเรา และมีเกียรติด้วย และเรารักเจ้า เราได้ให้คนอื่นไปเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า
ดูซิ พระเจ้าทรงรักอิสราเอลมาก จนพระองค์ได้ยอมแลกคนอื่น ๆ เพื่อได้เข้ากลับคืนมา! อิสราเอลรู้ไหมนี่?

ดังนั้น อย่ากลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากตะวันออก และจากตะวันตก เราจะรวบรวมพวกเจ้ามา เราจะพูดกับทางเหนือว่า ปล่อยคนของเรา พูดกับทางใต้ว่า อย่ายึดเหนี่ยวพวกเขาไว้ จงนำลูกชายของเรากลับมาจากที่ไกล นำลูกสาวของเรามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก
ทุกคนที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา คนที่เราได้สร้างขึ้นเพื่อศักดิ์ศรีของเรา คนที่เราได้ปั้นและสร้างขึ้นมา

15 เมษายน 2013

แต่คนที่รอคอยพระเจ้าจะรับกำลังใหม่

พวกเขาจะก้าวขึ้นมาพร้อมกับปีกดั่งอินทรี

พวกเขาจะวิ่ง และไม่อ่อนแรง

พวกเขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

อิสยาห์ 40:31

อิสยาห์ 42-5

อิสราเอลไม่ได้ยินและไม่เห็น!

อิสยาห์ 42:18-25

จงฟัง เจ้าคนหูหนวก  จงดู เจ้าคนตาบอด เพื่อเจ้าจะได้เห็น!
ใครละที่ตาบอด …ก็เจ้าคนรับใช้ของเรานะซิ?
ใครล่ะที่หูหนวกเหมือนกับผู้สื่อสารที่เราส่งไป?
ใครที่ตาบอดหมือนกับคนที่เราอุตส่าห์ไว้ใจส่งไป?
ใครที่มองไม่เห็นอะไรเหมือนอย่างคนของเรา?

เขาเห็นอะไรตั้งหลายอย่าง แต่ไม่เคยสังเกตอะไร
หูของเขาก็เหมือนฟังอยู่  แต่เขากลับไม่ได้ยิน
พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะให้ความสำคัญแก่พระธรรมของพระองค์  และทำให้มันยิ่งใหญ่ มีเกียรติ เพราะเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์
แต่นี่กลับกลายเป็นชนชาติที่ถูกปล้น ถูกขโมยไป  พวกเขาต่างติดกับอยู่ในรูและซ่อนอยู่ในที่จองจำ  พวกเขากลายเป็นเหยื่อซึ่งไม่มีใครช่วยได้  เป็นของริบมาที่ไม่มีใครกล่าวว่า “เอากลับคืน!”

เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์
เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์

จะมีใครในพวกเจ้าที่ฟังเรื่องนี้  และจะตั้งใจฟังเรื่องราวของอนาคตที่จะมาถึง?
ใครยกยาโคบให้แก่คนที่มาปล้น ใครยกอิสราเอลให้กับโจร?
ไม่ใช่องค์พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือที่ทรงทำเช่นนั้น?  เราทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์  เราไม่ยอมเดินในหนทางของพระองค์  และไม่ยอมเชื่อฟังบัญญัติของพระองค์ด้วย
ดังนั้น พระองค์จึงเทความโกรธกริ้วของพระองค์มาบนเขาและทรงเทอานุภาพในการสงคราม  มันทำให้เขามีไฟติดลุกรอบด้าน แต่เขาก็ไม่เข้าใจ มันใหม้ลามเลียเขา  แต่เขาก็ยังไม่เอาใจใส่เลย

 

ทั้ง ๆ ที่เป็นคนของพระเจ้า  แต่พวกเขาตั้งใจจะมองไม่เห็น จะไม่ฟังเสียงของพระเจ้าใช่ไหม?    มีคนในโลกนี้ ทั้งที่เป็นคนของพระเจ้าแต่พวกเขาก็ยังไม่ใส่ใจคำของพระองค์  นี่มันน่ากลัวมากเลย 

พระเจ้าทรงเตือนแล้วเตือนเล่า ที่พวกเขาควรจะทำสิ่งที่ถูกต้อง

พระเจ้าทรงเตือนดี ๆ  และทรงเตือนด้วยไม้เรียวที่รุนแรง  ถึงอย่างนั้นพวกเขายังไม่ใส่ใจ   ลูกหลานของพวกเขาต้องรับสิ่งที่น่ากลัวเพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้ามาตั้งแต่ต้น ….

ไม่ว่าพระเจ้าจะทรงเตือนเราอย่างไร  อย่าลืม…. เอาใจใส่คำเตือนของพระองค์   

ลองดูเหตุการณ์ที่น่ากลัวอันนี้ ….. แม้ถึงกระนั้นจนพวกเขาได้ประเทศอิสราเอลมา  คนอิสราเอลส่วนใหญ่ก็ยังไม่ฟังเสียงของพระเจ้าเลย

14 เมษายน 2013 คนหิวได้อิ่ม

ความสุขเป็นของคนที่หิวกระหายความชอบธรรม

เพราะว่า พระเจ้าจะทรงให้เขาอิ่มเต็มที่

ถอดความจาก มัทธิว 5:6

REUTERS/Parth Sanyal ภาพจาก http://odomspeak.wordpress.com/
REUTERS/Parth Sanyal ภาพจาก http://odomspeak.wordpress.com/

เมื่อคนที่อยู่ในพระเจ้าได้สัมผัสชีวิตอ่อนโยน ที่ทำให้เขายินดีเสมอนั้น

สิ่งต่อไปที่จะพบคือ เขาหิว   หิวหาพระเจ้า อยากพบพระองค์

การหิวความชอบธรรม เป็นเหมือนหิวความรอดพ้น

หิวความจริง ความถูกต้องของพระเจ้า

อยากอ่านพระคำของพระองค์  และพระคำของพระองค์เป็นเหมือนอาหารที่ทำให้อิ่ม

ยิ่งหิว ยิ่งหา ยิ่งดื่มด่ำกับพระวจนะของพระเจ้า

เขาก็จะอิ่มบริบูรณ์

อิสยาห์ 42-4

อิสยาห์ 42: 14-17

นานมาแล้วที่เรานิ่งอยู่ เรานิ่งเงียบและสะกดใจเอาไว้

แต่ตอนนี้เราจะร้องออกมาเหมือนกับหญิงที่กำลังคลอดบุตร

เราจะหายใจถี่ ๆ เราจะหอบ

เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาทั้งหลาย และจะทำให้พืชที่ขึ้นนั้นเหี่ยวเฉาไป
เราจะทำให้แม่น้ำกลายเป็นเกาะ และทำให้สระทั้งหลายแห้งไป

เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก  พาไปตามทางที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
เราจะนำพวกเขา และจะทำให้ความมืดต่อหน้าเขากลายเป็นสว่าง

darktolight
ทางที่ขรุขระจะกลายเป็นทางเรียบ
นี่เป็นสิ่งที่เราทำ และเราไม่ทอดทิ้งพวกเขา

 คนที่วางใจในรูปสลัก  คนที่กล่าวกับรูปโลหะว่า “ท่านเป็นพระของเรา”  จะต้องหันกลับและละอายเป็นที่สุด

พระเจ้าตรัสเองว่าพระองค์ทรงนิ่งเงียบอยู่  แต่วันหนึ่งพระองค์จะทรงร้องเสียงดัง คนทั้งโลกจะได้ยินว่า พระองค์ตรัสอะไรบ้าง
ไม่มีอะไรในโลกจะขวางพระองค์ได้   แต่พระองค์จะทรงนำคนของพระองค์ไป  

และเวลานั้นเราจะเห็นความแตกต่างของคนที่วางใจพระเจ้า กับคนที่พึ่งพารูปปั้น

13 เมษายน 2013 คนสุภาพได้มรดก

ความสุขเป็นของคนที่ใจอ่อนโยน

เพราะว่า เขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

ถอดความจาก มัทธิว 5:5

singtoภาพจาก http://www.cherylricker.com

คำสอนบนภูเขาของพระเยซู  มิใช่เป็นบทบัญญัติเป็นข้อ ๆ ที่เราต้องปฏิบัติตาม

แต่หากคนใดได้อยู่ในพระเยซูคริสต์ เขาจะมีชีวิตเช่นนี้

อย่างแรก เขาจะรู้สึกบกพร่องในตัวของเขา

เขาจะรู้สึกเศร้าใจกับชีวิตที่ไม่ได้เป็นอย่างที่พระเจ้าต้องการ

อย่างที่สาม ตามมาก็คือ

เขาจะสุภาพ อ่อนโยน ถ่อมตน ไม่ดึงดัน ไม่คิดว่า ตัวเองเก่งยอดกว่าใคร

เขาจะรู้จักตัวเองว่าอยู่ประมาณไหน

ความสุภาพอ่อนโยนเป็นสิ่งตรงข้ามกับ ความดื้อดึง ความเย่อหยิ่ง เจ้าคิดเจ้าแค้น  ความโหดร้าย

คนที่มีใจอ่อนโยน จึงมีความยินดีในทุกสถานการณ์ได้

เขาจึงไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ขี้อิจฉา  แต่เป็นจิตใจที่มีสันติสุข

และนี่เป็นความหมายหนึ่งของการรับแผ่นดินเป็นมรดก

อิสยาห์ 42-3

อิสยาห์ 42:10-13

ร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า

จงร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า
สรรเสริญแด่พระองค์จากที่สุดปลายแผ่นดินโลก
เจ้าคนที่ลงไปยังทะเล และบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น แผ่นดินชายทะเล และคนที่อยู่ในนั้น
จงให้ทะเลทรายและเมืองต่าง ๆ ในนั้นส่งเสียงขึ้นมา ให้หมู่บ้านที่ชายเคดาร์อาศัยอยู่
จงให้คนที่อยู่ในเส-ลาร้องเพลงด้วยความยินดี ให้เขาตะโกนก้องมาจากยอดเขา
ให้เขาถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า และประกาศสรรเสริญพระองค์ตามแผ่นดินชายทะเล
พระเจ้าเสด็จออกมาดั่งชายที่มีกำลัง

is42

พระองค์ทรงกระตุ้นความกระตือรือร้นขึ้นมาดั่งนักรบ
พระองค์ทรงร้อง ทรงตะโกนเสียงดัง
พระองค์ทรงทำให้เห็นว่า พระองค์ทรงฤทธิ์ต่อหน้าศัตรูของพระองค์

12 เมษายน 2013 นักเขียนหนุ่มน้อย

ไปตามมาระโกมา  และพาเขามาด้วย

เพราะเขาช่วยปรนนิบัติข้าพเจ้าเป็นอย่างดี 

ถอดความจาก  2 ทิโมธี 4:11

Daily2013_4_12

 

ยอห์นมาร์ก  หรือที่เราเรียกภาษาไทยว่า มาระโก    เป็นชายหนุ่มที่รู้อย่างน้อยสองภาษา

คือภาษากรีก และ ภาษาที่ใช้กันทั่วไปในปาเลสไตน์

มาระโกได้บันทึกเรื่องราวของพระเยซูตั้งแต่ที่พระองค์ทรงเริ่มราชกิจ

จนกระทั่งพระองค์สิ้นพระชนม์และเสด็จสู่สวรรค์

เขาไปไหนมาไหนกับเปโตรบ่อย ๆ  ได้เห็นการทำงานของพระเจ้าผ่านคนของพระองค์

เคยไปกับท่านเปาโล และก็ทำให้ท่านไม่พอใจ

แต่ในที่สุดท่านเปาโลก็เปลี่ยนใจ ยอมรับมาระโกเป็นอย่างดี

มาระโกผู้นี้ ก็ได้รับการบันดาลใจจากพระเจ้าให้เขียนบันทึกเรื่องราวของชีวิตพระเยซู

งานเขียนของมาระโกรวดเร็ว ทันใจ ไม่เยิ่นเย้อเลย

คนที่เริ่มสนใจพระเจ้าใหม่ ๆ มักเริ่มต้นอ่านพระธรรมมาระโกก่อนเล่มอื่น ๆ

เพราะเข้าใจง่าย และเห็นภาพที่รวดเร็วเหมือนกับภาพยนต์…..

อิสยาห์ 42-2

อิสยาห์ 42:5-9

องค์พระเจ้าผู้ทรงสร้างสวรรค์ และขึงมันออกมา ผู้ที่ขยายโลกออกไป และสิ่งที่ออกมาจากโลกนั้นด้วย

พระเจ้าผู้ทรงประทานลมหายใจแก่เหล่ามนุษย์ที่อยู่ในโลกนั้น และประทานจิตวิญญาณแก่ผู้ที่เดินในโลก

พระเจ้าองค์นี้ตรัสว่า

“เราเป็นพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาในความชอบธรรม
เราจะจูงมือเจ้า และรักษาเจ้าไว้

is42blind ภาพจาก http://christianradiokids.blogspot.com

เราจะให้เจ้าเป็นพันธสัญญาสำหรับประชาชนทั้งหลาย
เจ้าจะเป็นแสงสว่างสำหรับประชาชาติ  เพื่อเปิดตาที่บอด  เพื่อนำนักโทษออกมาจากคุกมืด   พาคนที่นั่งอยู่ในความมืดของที่คุมขัง
เราคือพระเจ้า นี่เป็นนามของเรา
เราจะไม่มอบศักดิ์ศรีของเราให้กับใคร ไม่ให้คำสรรเสริญแก่รูปที่ถูกสลักขึ้นมาก

ดูเถิด สิ่งเก่า ๆ ได้ผ่านไปแล้ว  และเรากำลังประกาศสิ่งใหม่  เราได้บอกเรื่องเหล่านี้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”

11 เมษายน 2013 นักเขียนนักวิชาการ

ที่เรากำลังประกาศอยู่ ก็เรื่องพระองค์นั่นแหละ…
เราเตือนสติและสอนทุกคนให้มีสติปัญญา
เพื่อจะได้ถวายทุกคนให้เป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์

ถอดความจาก โคโลสี 1:28

Daily2013_4_11

 

เซาโล  ฟาริสีผู้ปราชญ์เปรื่อง… มั่นใจว่า พระเยซูไม่ใช่พระผู้ช่วยให้รอด

ดังนั้น หากใครเชื่อพระเยซู เขาก็จะพร้อมที่จะจัดการลงโทษคนเหล่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่ง เขาพบพระเยซูกลางทางที่จะเดินไปข่มเหงคริสเตียน

การพบกับพระเยซูอย่างมหัศจรรย์ในวันนั้น ทำให้เขารู้ว่า พระเยซูผู้ที่เขาข่มเหงคือพระเจ้าเที่ยงแท้

จากนั้นมา พระเจ้าทรงใช้เขาออกไปประกาศเรื่องของพระองค์

ตามที่ต่าง ๆ  นอกดินแดนอิสราเอล  ทำให้เขาต้องทนทุกข์เป็นอย่างมาก

เพราะถูกจับ จำคุก ถูกเฆี่ยน ถูกโบย… สารพัด

แต่เขาก็ยังมีความสุขที่ได้รับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้

บั้นปลายของเขานั้น…  แม้ถูกเฝ้าไม่ให้คลาดสายตา

ยังคงเขียนจดหมายฝากเตือนคริสตจักรต่าง ๆ ให้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าอย่างไม่ท้อแท้

อิสยาห์ 42-1

อิสยาห์ 42:1-4

ผู้รับใช้ที่พระเจ้าทรงเลือก

พระคำตอนนี้ ทำให้เราสงสัยไหมว่า ผู้รับใช้ของพระองค์ผู้นี้ คือใครกัน?….

ดูเถิด ผู้รับใช้ของเรา ผู้ที่เรายกขึ้นให้สูง  เขาเป็นผู้ที่เราเลือก จิตใจของเราก็ยินดีเพราะเขา  เราได้ให้วิญญาณของเราเหนือเขา  และเขาจะนำพาให้เกิดความยุติธรรมท่ามกลางประชาชาติ

พระเจ้าทรงเรียกให้ทุกคนได้สนใจบุคคลผู้หนึ่งที่พระเจ้าทรงยกให้สูง  แต่… ทำไมพระเจ้าจึงทรงบอกทั้ง ๆ ที่คนรุ่นอิสยาห์ยังไม่เห็นเลยว่า เขาคือใคร  

อีก กว่าหกร้อยกว่าปีต่อมา พวกเขาจึงรู้ว่า …. บุคคลผู้นั้นคือ พระเยซูคริสต์   พระเยซูเองเปิดอิสยาห์บทนี้   และได้ตรัสถึงพระองค์เองให้ทุกคนได้รู้  แปลกไหม?

IsaiahJesus

เขาจะไม่ร้องเสียงดัง จะไม่เค้นเสียงขึ้นมา หรือทำให้คนตามถนนได้ยิน

พระเยซูจะไม่ทรงส่งเสียงดังเพื่อทำให้คนรู้จักพระองค์  แต่ทรงดำรงพระองค์เองอย่างถ่อมตน อย่างเหลือเชื่อ 

เขาจะไม่หักไม้อ้อที่ช้ำชอก   และเขาจะไม่ดับใส้ตะเกียงที่ริบหรี่

เขาจะนำความยุติธรรมออกไปด้วยความซื่อตรง
เขาจะไม่เหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้ จนกว่าเขาจะได้สถาปนาความเที่ยงตรงบนแผ่นดินโลก  และบรรดาแผ่นดินชายทะเลก็รอคอยบัญญัติของเขา

พระองค์จะทรงนำความเที่ยงตรงออกไปทั่วโลก ไม่เฉพาะกับคนอิสราเอลเท่านั้น

10 เมษายน 2013 นักเขียนชาวประมง

จำเป็นที่เพื่อน ๆ ต้องทุกข์ทนชั่วระยะหนึ่ง ….

เพื่อเป็นการทดสอบความเชื่อที่ดียิ่งกว่าทองคำ

ถอดความจาก 1 เปโตร 1:6-7

Daily2013_4_10

เปโตร เป็นชาวประมงที่พระเยซูทรงเรียกให้เป็นสาวก

เขาตามพระองค์ตั้งแต่วันแรกที่พระองค์ทรงชักชวนเขา  และหลังจากนั้น

เขาก็ได้ประสบกับความมหัศจรรย์มากมายในชีวิต

พระเยซูทรงรักเขา และทรงรู้จักเขายิ่งกว่าที่เขารู้จักตัวเองเสียอีก

เขารักพระเยซูมาก ถวายชีวิตให้พระองค์ได้ เคยปกป้องพระองค์จนไปฟันหูทาสคนหนึ่งขาด

 แต่แล้ว… ไม่นานนักจากการปกป้องพระองค์   เขากลับกล่าวว่า

“ผมไม่รู้จักพระเยซูคนนั้น”   เพียงเขากลัวว่าจะถูกจับไปลงโทษ …..

เปโตรได้เขียนจดหมายฝากไปยังเพื่อน ๆ ที่เชื่อพระเยซู ซึ่งกระจัดกระจายกันอยู่ตามที่ต่าง  ๆ

และจดหมายที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้านั้น

ยังคงอยู่ให้เราอ่านในทุกวันนี้  แม้เวลาจะผ่านมากว่า 2000 ปี!

อิสยาห์ 41-6

อิสยาห์ 41: 25-29

เราได้เร้าให้ผู้หนึ่งมาจากทางเหนือ และเขาก็มาแล้วด้วย จากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาจะเรียกชื่อของเรา เขาจะเหยียบย่ำผู้ปกครองเหมือนกับเหยียบลงบนปูนสอ เหมือนกับที่ช่างปั้นนวดดิน


ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ตรงนี้ พระเจ้าได้ทรงบอกให้คนอิสราเอลรู้ล่วงหน้าว่า กษัตริย์ไซรัสจะมาจากทางเหนืออย่างแน่นอน พิสูจน์ ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ที่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงบอกชัดว่า ทรงเป็นผู้เร้าให้ไซรัสเดินทางมาโจมตีอิสราเอล! และเมื่อตอนที่ไซรัสมา พระองค์ก็อ้างพระนามของพระเจ้าแห่งอิสราเอลเสียด้วยว่า ทรงใช้พระองค์มา ทั้ง ๆ ที่พระองค์ไม่ได้เชื่อวางใจในพระเจ้าเที่ยงแท้องค์นี้
นโยบายในการทำการศึกของไซรัส เป็นส่วนที่พระเจ้าทรงใช้เปิดเผยพระองค์เองให้คนโลกโบราณได้รู้จักพระองค์

มีใครที่ได้แจ้งเรื่องราว(ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์)มาตั้งแต่เวลาเบื้องต้น เพื่อจะให้เรารู้ และแจ้งเรื่องมาตั้งแต่ก่อนมันเกิดขึ้น เพื่อเราจะได้พูดว่า “เออ เขาพูดถูกต้องนะ” ? ไม่มีใครเลยที่เคยบอกอะไรมาล่วงหน้า ไม่มีใครเคยประกาศ ไม่มีใครได้ยินคำของเจ้า

แต่เราเอง เป็นผู้แรกที่กล่าวกับศิโยนว่า “ดูเถิด มันเป็นอย่างนี้นะ” และเราเป็นผู้แจ้งข่าวดีแก่เยรูซาเล็ม
แต่เมื่อเรามองมา ก็ไม่มีใครเลย ไม่มีผู้ให้คำปรึกษาท่ามกลางคนเหล่านี้ คนที่จะให้คำตอบได้เมื่อเราถาม
ดูเถิด ทุกอย่างเป็นแต่เรื่องหลอก งานของพวกเขาเป็นสิ่งไร้ความหมาย รูปปั้นโลหะของพวกเขาก็เป็นเพียงลมพัดไปเปล่า ๆ

เป็นอันว่า ชัดเจน… ไม่มีใครบอกอนาคตอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาได้นอกจากพระเจ้าเที่ยงแท้

9 เมษายน 2013 ผู้เลี้ยงแกะ..นักเขียน

ฉันจะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระเจ้าเป็นนิตย์

และด้วยปากของฉัน

ฉันจะประกาศความซื่อตรงสุจริตของพระเจ้าตลอดทุกชาติพันธุ์ 

 

ถอดความจาก สดุดี 89:1

Daily2013_4_9

คนที่กล่าวคำข้างบนนี้ คือราชาดาวิด กษัตริย์องค์ที่สองของอิสราเอล

เป็นกษัตริย์ที่เขียนคำสดุดีพระเจ้าไว้มากมาย

สามพันกว่าปีมาแล้ว เรื่องราวที่ทรงเขียนไว้ ยังเป็นกำลังใจของเราทุกคน

แต่ราชาดาวิดไม่ได้เขียนจากความรู้สึกของตนเองเท่านั้น

แต่เป็นความรู้สึก พร้อมแรงบันดาลใจ  พร้อมคำอันงามยิ่ง ที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

จากเด็กเลี้ยงแกะ กลายเป็นนักรบ  และเป็นกษัตริย์ที่กล้าหาญ

พร้อมกับความกล้าหาญ ยังเป็นผู้เดียวที่พระเจ้าตรัสว่า

ชายผู้ซึ่งติดตามหัวใจของเรา…..