3 เมษายน 2013 บันทึกจากทะเล

พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงโยนาห์  บุตรชายอามิททัยว่า

ให้ลุกขึ้น เดินทางไปเมืองนีนะเวห์…..

แต่โยนาห์กลับลุกขึ้น หนี!!

ถอดความจาก โยนาห์ 1:1-2,3

Daily2013_4_3

โยนาห์ เป็นหนึ่งในผู้รับใช้ของพระเจ้าที่พอใจจะทำตามใจตัวเอง

มากกว่าที่จะทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า

เรื่องราวของเขานั้น ทำให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงจัดการอย่างไร

กับคนที่พระองค์ต้องการจะใช้ก็ได้

เรื่องราวเต็มของโยนาห์ เริ่มอ่านได้ที่นี่

และโยนาห์เองได้บันทึกเรื่องราวนี้ ให้คนได้รับรู้

ราชกิจอันมหัศจรรย์ที่แปลกประหลาดในชีวิตของเขา

อิสยาห์ 40-4

อิสยาห์ 40:18-24

พระเจ้าเท่านั้น ทรงเป็นพระเจ้า

ดูเหมือนว่า คราวนี้อิสยาห์กำลังเยาะเย้ยคนที่สร้างรูปเคารพขึ้น  อ่านดูว่า ท่านกล่าวไว้อย่างไร

เจ้าจะเปรียบองค์พระผู้เป็นเจ้ากับอะไร  จะมีสิ่งใดมาเปรียบเทียบกับพระองค์ได้ ?

รูปเคารพหรือ ช่างปั้นก็หล่อมันขึ้นมา  และช่างทองก็เคลือบมันด้วยทอง  และยังหล่อโซ่เงินให้อีก
และสำหรับคนที่ยากจน ก็เลือกเอาไม้ที่ไม่ผุมาทำเป็นรูปเคารพ เขาหาช่างฝีมือให้ตกแต่งไม้เป็นรูปเคารพที่จะไม่เคลื่อนไหวไปไหน

เจ้าไม่รู้หรือ? เจ้าไม่ได้ยินหรือ? ไม่ได้มีการบอกมาตั้งแต่ต้นหรอกหรือ? เจ้าไม่เข้าใจมาตั้งแต่การเริ่มวางฐานแผ่นดินโลกหรือ?

พระองค์ผู้ประท้บเหนือวงอาณาเขตของโลก  (น่าสนใจจริง เอกภาพอันกว้างใหญ่ ทำให้เรารู้ว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก)
และเหล่าคนที่อยู่ในโลกก็เป็นเหมือนตั๊กแตน
พระองค์ทรงขึงฟ้าราวกับขึงม่าน
และกางมันออกเหมือนกับกระโจมที่อาศัย

meathook galaxy  ภาพถ่ายโดยWide Field Imager on the MPG/ESO 2.2-metre telescope at La Silla, Chile ใช้ภาพผ่าน creative commons
meathook galaxy ภาพถ่ายโดยWide Field Imager on the MPG/ESO 2.2-metre telescope at La Silla, Chile ใช้ภาพผ่าน creative commons

พระองค์ทรงทำให้เจ้าชายทั้งหลายกลายเป็นความว่าง
และทำให้ผู้ปกครองของแผ่นดินกลายเป็นความว่างเปล่า

พวกเขาถูกปลูกขึ้นไม่กี่คน  หว่านไม่กี่คน   รากก็ลงไปในดิน ยังไม่ทันไร เมื่อพระเจ้าทรงเป่าพวกเขา เขาก็เหี่ยวแห้งไป  พายุพัดเขาออกไปเหมือนตอข้าว

เพื่อน ๆ ครับ เมื่อเราสามารถมองลึกเข้าไปในจักรวาล  เห็นกาแล็กซี่อื่น ๆ  มันพอจะทำให้เราเห็นไหมว่า เราเหมือนความว่างเปล่าขนาดไหน

2 เมษายน 2013 อีกคนที่เขียนพระคัมภีร์

ก่อนที่เจ้าคลอดออกจากครรภ์มารดา

เราก็ได้กำหนดเจ้าไว้

เราแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้กล่าวคำของเราแก่ชนชาติทั้งหลาย

ถอดความจาก เยเรมีย์ 1:5
Daily2013_4_2ท่านเยเรมีห์  เป็นผู้กล่าวคำของพระเจ้าโดยตรงจากพระองค์

พระเจ้าทรงเลือกเขาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่

เมื่อเกิดมา แม้เขาจะอ้างว่า เขายังเป็นเด็ก

แต่พระเจ้าทรงใช้ให้เขาไปหาทุกคนที่พระองค์ทรงใช้ไป

พวกนั้นจะฟังเขาพูดหรือไม่ … เขาไม่ต้องกังวล

จะจับไปทรมาน หรือโยนลงบ่อ …. ไม่ต้องกังวล

พระเจ้าทรงมีวิธีการที่จะช่วยเขา

หน้าที่ของเขาคือ กล่าวคำของพระเจ้าให้ประชาชนได้กลับใจใหม่

และยิ่งกว่านั้น เยเรมีย์ก็ได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ  ไว้

ทำให้เรารู้ว่า พระเจ้าทรงห่วงใยคนของพระองค์มากเพียงใด

อิสยาห์ 40-3

อิสยาห์ 40:12-17

ใครเป็นผู้ที่วัดน้ำด้วยอุ้งมือ และวัดขนาดท้องฟ้าด้วยมือเพียงคืบเดียว

ภาพs]6,fe creative commons
ภาพs]6,fe creative commons

ยังบรรจุผงดินจากผืนโลกในถัง และชั่งน้ำหนักของภูเขาบนตาชั่ง ชั่งนำหนักของเนินเขาด้วยตราชั่งลูกตุ้ม ?
พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ และขณะที่พระองค์ทรงสร้างสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ พระเจ้าทรงทำอย่างมีระบบระเบียบ งดงาม

ผู้ใดได้วัดพระวิญญาณของพระเจ้า?
มนุษย์คนใดจะให้คำปรึกษาแก่พระองค์?
ใครจะทำให้พระองค์ทรงเข้าใจ?
ใครบอกหนทางของความเที่ยงตรงแก่พระองค์?
และบอกความรู้ต่าง ๆ แก่พระองค์?
พระเจ้าเท่านั้นทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาด้วยพระองค์เอง ไม่มีมนุษย์คนใดเกิดมาแล้วไปสั่งพระองค์ให้สร้างโลกและจักรวาลได้ แต่มนุษย์ในโลกก็ยังคิดว่า ตัวเองใหญ่โตเหนือกว่าพระองค์ สรรเสริญองค์พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งอย่างมหัศจรรย์

ดูเถอะ ประชาชาชาติต่าง ๆ ก็เป็นเหมือนน้ำหยดหนึ่งจากถัง และนับเหมือนผงเล็ก ๆ บนตาชั่ง
ดูเถิด พระองค์ทรงหยิบแผ่นดินชายทะเลขึ้นมาเหมือนกับฝุ่นเล็ก ๆ
เลบานอนทั้งหมดก็ไม่พอที่จะเป็นเชื้อเพลิง สัตว์ป่าทั้งสิ้นก็ไม่พอที่จะเผาเป็นเครื่องบูชา

ต่อพระพักตร์พระเจ้า ประชาชาติทั้งหลายก็ไม่เป็นอะไรเลย…
พวกเขาถูกพระองค์นับเป็นน้อยกว่าศูนย์ น้อยกว่าความว่างเปล่า!

แค่อ่านตอนนี้ ก็รู้สึกตะลึงลานกับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
และรู้สึกสมเพชกับมนุษย์ที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มีอำนาจ เขาหารู้ไม่ว่า เขาเล็กยิ่งกว่าฝุ่นในสายพระเนตรของพระเจ้า

1 เมษายน 2013 ผู้เลี้ยงที่ทรงรัก

พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแกะของพระองค์เหมือนกับผู้เลี้ยง

และจะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมกอดของพระองค์ 

พระองค์จะทรงอุ้มมันไว้ในทรวง และนำตัวที่มีลูกอ่อนไป    

ถอดความจาก อิสยาห์ 40:11

ฟังเพลงนี้ซิ ….ผู้เลี้ยงที่ทรงรัก

อิสยาห์ 40-2

อิสยาห์ 40:6-11

พระคำของพระเจ้าคงอยู่ตลอดไป

เสียงหนึ่งร้องว่า “ร้องซิ! “ และข้ากล่าวว่า “ข้าจะร้องอะไรเล่า?”   บรรดาสิ่งที่มีเนื้อหนังก็เหมือนหญ้า  ความงามของมันก็เหมือนกับดอกไม้ในทุ่ง

หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป  ดอกไม้ก็ร่วงไป  เมื่อพระเจ้าทรงเป่ามันด้วยลมปราณของพระองค์   ใช่แล้ว คนเป็นเหมือนหญ้า

หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป  ดอกไม้ก็ร่วงไป  แต่พระคำของพระเจ้านั้นดำรงอยู่เป็นนิตย์

ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

จงลุกขึ้นไปยังภูเขาสูง  โอ ศิโยน  ฟังข่าวดีเถอะ  เปล่งเสียงของเจ้าสุดกำลัง โอ เยรูซาเล็ม  ผู้ส่งข่าวดี  จงเปล่งเสียงของเจ้า ไม่ต้องกลัว  กล่าวแก่เมืองต่าง ๆ ของยูดาห์ว่า “ จงมองดูพระเจ้าของเจ้า”

ดูเถิด  องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาด้วยอานุภาพ  แขนของพระองค์ครอบครองเพื่อพระองค์
ดูเถิด รางวัลอยู่กับพระองค์ และค่าตอบแทนก็อยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์

is40-shepherd

พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแกะของพระองค์เหมือนกับผู้เลี้ยง และจะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมกอดของพระองค์  พระองค์จะทรงอุ้มมันไว้ในทรวง และนำตัวที่มีลูกอ่อนไป

การบรรยายของอิสยาห์ตอนนี้ ทำให้เราคิดถึงใครไปไม่ได้  นอกจากพระเยซูผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงดีเลิศ

อิสยาห์ 40-1

จากบทที่ 40 ต่อไปนี้ เราจะได้เห็นพระคุณของพระเจ้าที่มีต่ออิสราเอลอย่างมาก   แม้ว่าเขาจะถูกจับไปเป็นเชลย ต้องทุกข์ยากลำบากในบาบิโลน แต่มีวันหนึ่งที่พระเจ้าจะทรงช่วยเขา  ตั้งแต่บทแรกจน 39 ที่ผ่านมา  มีข่าวสารเรื่องของการพิพากษาของพระเจ้าไม่ยั้งหยุด  แต่เราจะเห็นว่า พระเจ้าทรงเมตตาเพียงไร แผนการของพระองค์นั้น  เพื่อให้พวกเขาได้สิ่งดีกว่า ไม่ตกอยู่ในสภาพที่ทำลายตัวเองด้วยบาปของตน

“จงปลอบใจ จงปลอบใจคนของเรา”  พระเจ้าของเจ้าตรัส

“จงพูดอย่างอ่อนโยนต่อนครเยรูซาเล็ม และร้องว่า สงครามของเธอสิ้นสุดลงแล้ว และความบาปผิดของเธอได้รับการอภัยแล้ว   และเธอได้รับโทษจากพระหัตถ์ของพระเจ้าถึงสองเท่าของบาป”

ตรงนี้เราเห็นเลยว่า ไม่ว่าพวกเขาทำบาปเพียงไร พระเจ้าก็ทรงยกโทษให้เขาเมื่อเขากลับใจ และถ้าเราจะอ่านไป ๆ เราจะเห็นว่า พระเจ้าจะประทานพระพรเป็นสองเท่าของที่ได้รับโทษไปด้วย …

desert

มีเสียงหนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางของพระเจ้าในถิ่นกันดาร  จงทำทางหลวงเส้นตรงในทะเลทรายถวายองค์พระเจ้า   หุบเขาจะถูกถม  และภูเขา-เนินเขาจะถูกทำให้ราบลง  พื้นที่ซึ่งเป็นหลุมขรุขระจะทำให้ราบเรียบ

พระสิริอันตระการของพระเจ้าจะปรากฏ  และทุกชีวิตจะมองเห็นพร้อม ๆ กัน  พระโอษฐ์ของพระเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว”

 

ดูเหมือนท่านอิสยาห์จะเน้นพระบิดา พระเจ้าผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงยิ่งใหญ่จากบทนี้ไปจนถึง 48  จากนั้นกล่าวถึงพระบุตรจนถึงบทที่ 57  และองค์พระวิญญาณจาก 58-66 

ให้เพื่อน ๆ อ่านกันต่อไปนะครับ 

อิสยาห์ 39-2

อิสยาห์ 39:3-8

เมื่อได้ข่าวนั้น อิสยาห์จึงเข้ามาเฝ้าราชาเฮเซคียาห์ด้วยความหนักใจ ทูลว่า “คนเหล่านี้พูดอะไรบ้าง?  และพวกเขามาจากไหนกันพะยะค่ะ?”

Is39Hezekiah-Babylonians

พระราชาตรัสตอบว่า “โอ.. พวกเขามาเยี่ยมเราไง  มาจากเมืองบาบิโลนซึ่งอยู่ไกลมาก “

“แล้วพวกเขาเห็นอะไรในราชวังของพระองค์บ้าง?”

“โอย… พวกเขาเห็นทุกอย่างนั่นแหละ  ไม่มีอะไรสักอย่างที่ข้าไม่ได้ให้พวกเขาชม”  พระราชาทรงตอบอย่างภูมิใจ… พระองค์ทรงมีมากมายที่จะอวดได้นี่นา

แล้วอิสยาห์จึงทูลพระองค์ว่า “ขอพระราชาทรงฟังพระดำรัสของพระเจ้า  ดูเถอะ     วันหนึ่ง ทรัพย์สมบัติทุกอย่างในพระคลัง และทุกอย่างที่บรรพบุรุษได้เก็บสะสมไว้จะถูกกวาดไปบาบิโลนจนหมดสิ้น  ไม่มีอะไรเหลือเลย… พระเจ้าตรัสไว้ดังนี้

และโอรสในใส้ของพระองค์หลายคนจะถูกจับไป  และกลายเป็นขันทีในวังของกษัตริย์แห่งบาบิโลน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เฮเซคียาห์จึงตรัสแก่อิสยาห์ว่า  “พระดำรัสของพระเจ้าที่ท่านอิสยาห์ว่ามานั้น ก็ดีนะ”

เพราะพระราชาทรงคิดว่า…. อย่างน้อยก็มีสันติสุขและความปลอดภัยในรัชกาลของข้า!

ราชาเฮเซคียาห์ไม่ได้คิดถึงลูกหลานเลย… ขอให้ตัวเองสบายและปลอดภัยเป็นพอ…ยังไงกันนี่?

29 มีนาคม 13 ความเป็นมาพระคัมภีร์

สิ่งที่เจ้าได้เห็นนั้น  จงเขียนไว้ในหนังสือม้วน

และส่งไปให้คริสตจักรทั้งเจ็ด

ถอดความจาก วิวรณ์ 1:11

Daily2013_3_29

ยอห์น เป็นสาวกที่สนิทกับพระเยซูมาก  เมื่อพระองค์เสด็จสู่สวรรค์แล้ว

เขายังคงประกาศเรื่องของพระองค์ให้คนทั้งหลายได้กลับมาหาพระเจ้า

จึงถูกจับตัว เนรเทศไปอยู่เกาะปัทมอส

แต่ถึงจะเป็นที่นั่น  พระเจ้าก็ยังทรงใช้เขา

พระองค์ทรงให้เขาเห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

และทรงให้เขาบันทึกสิ่งที่เห็น ส่งไปให้เพื่อนคริสเตียนด้วยกันอ่าน

ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่

ไม่ว่ายอห์นจะไปอยู่ที่ไหน พระเจ้าก็ยังตรัสกับเขาได้ ใช้เขาได้

และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เราเห็นว่า พระเจ้าทรงใช้คนของพระองค์

บันทึกสิ่งที่พระองค์ปรารถนาจะตรัสกับเรา

อิสยาห์ 39-1

อิสยาห์ 39:1-2

ในเวลานั้น เมโรดัค-บาลาดัน โอรสของบาลาดันซึ่งเป็นราชาแห่งบาบิโนทรงส่งราชทูตมาพร้อมกับคำอวยพรและของขวัญมาถวายแด่ราชาเฮเซคียาห์

พระองค์ทรงได้ข่าวว่า ราชาเฮเซคียาห์ทรงล้มป่วยและบัดนี้หายดีแล้ว  การมาของราชทูตครั้งนี้ทำให้ราชาเฮเซคียาห์ทรงรู้สึกดีมาก ๆ

คงเป็นความรู้สึกแปลกมากทีเดียว  หัวหน้าของประเทศที่เป็นศัตรูกลับส่งสารมาอวยพร และยังมีของขวัญมาถวายอีก  ราชาเฮเซคียาห์ทรงรู้สึกอย่างไร  ลองคิดซิ….

ต่อมา พระองค์ได้ทรงนำราชทูตทั้งคณะไปชมท้องพระคลังในราชวัง และท้องพระคลังหลวง  ให้พวกเขาชมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเงิน ทอง เครื่องเทศ น้ำมันมีค่า และอาวุธ …

Is39hezekiah_babylon

และแน่นอนในเวลานั้น เพื่อน ๆ ลองคิดดูว่า ราชทูตจะต้องพูดคำที่ยกยอราชาเฮเซคียาห์อย่างล้น ๆ เกิน ๆ  พระราชาเองก็หลงคำเหล่านั้นไปด้วยปรากฏว่า ไม่มีของใดที่หลุดหูหลุดตาเหล่าราชทูตนี้ไปเลย พระองค์ไม่เก็บความลับไว้สักนิด

เหมาะหรือเปล่าที่พระราชาจะทำสิ่งนี้?

เหตุใดพระองค์จึงทรงให้พวกเขาดูท้องพระคลัง? ลองจินตนาการวันนั้นที่ทั้งสองฝ่ายพบกัน… แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี่?

เวลาที่มีคนชม เวลาที่ถูกชื่นชมมากเกินไป  จะเกิดอะไรในใจของเรา ??

28 มีนาคม 13 ความเป็นมาพระคัมภีร์

จงเขียนศุภนิมิตของเจ้า 

เขียนให้ชัดเจนบนแผ่นจารึก 

เพื่อว่าคนที่ได้อ่านนั้น จะเข้าใจทันที

ถอดความจาก ฮาบากุก 2:2

Daily2013_3_28

 

ฮาบากุก เป็นผู้กล่าวคำของพระเจ้า

เขาสงสัยจริงว่า

ทำไมพระเจ้าจึงทรงให้คนชั่วร้ายมาจัดการกับคนของพระองค์ที่ทำบาป

เขารอคอยพระองค์ เป็นนานสองนาน

แล้วเมื่อพระองค์ตรัสตอบเขา เขาก็สบายใจ

และพระองค์ยังทรงให้เขาบันทึกสิ่งที่เขาสนทนากับพระองค์

วันนี้เราจึงได้อ่านคำสนทนานั้นอย่างจุใจ

อ่านเรื่องของฮาบากุกได้ ที่นี่ครับ

 

 

อิสยาห์ 38-3

ข้อเขียนของพระราชา (ต่อ)

ตอนที่ราชาเฮเซคียาห์ทรงป่วยหนัก  ทรงทูลขอต่อพระเจ้าที่จะรักษาให้หาย

อิสยาห์ 38:16-21

ข้าแต่พระเจ้า มนุษย์มีชีวิตได้ด้วยสิ่งเหล่านี้  และชีวิตของจิตวิญญาณของข้าก็อยู่ในสิ่งเหล่านี้  ขอพระเจ้าทรงรื้อฟื้นข้าให้หายเป็นปกติ  ขอทรงให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อไป!

ดูเถอะ ที่ข้าต้องขมขื่นมากเช่นนี้ก็เพื่อสวัสดิภาพของข้าเอง  ด้วยความรัก พระองค์ได้ทรงช่วยชีวิตของข้าให้รอดพ้นจากหายนะในหลุมลึก เพราะพระองค์ทรงเขวี้ยงบาปทั้งสิ้นของข้าไว้เบื้องหลังพระองค์

เพราะแดนคนตายไม่ขอบคุณพระองค์ และความตายก็ไม่สรรเสริญพระองค์  และคนที่ตายไปอยู่ที่นั่นก็ไม่อาจจะหวังใจในความซื่อตรงของพระองค์

Is38hezekiah-sick

คนเป็น คนเป็นเท่านั้นที่ขอบคุณพระองค์  เหมือนอย่างที่ข้าทำในวันนี้  พ่อได้ทำให้ลูกได้รู้จักความซื่อตรงของพระองค์

พระเจ้าจะทรงช่วยข้าให้รอดพ้น และเราจะเล่นเครื่องสายทุกวันตลอดชีวิตของเราในพระวิหารของพระองค์

บัดนี้อิสยาห์กล่าวว่า “ให้เอาขนมมะเดื่อมาปะไว้ที่ฝีของพระราชา แล้วพระองค์จะทรงหายดี”  เอเซคียาห์จึงตรัสว่า “อะไรเป็นหมายสำคัญว่า ข้าจะได้ไปยังพระวิหารของพระเจ้า”

27 มีนาคม 13 ความเป็นมาพระคัมภีร์

โมเสสจึงจารึกพระดำรัสของพระเจ้าไว้ทุกคำ

ถอดความจากอพยพ 24:4

 Daily2013_3_27

พระคัมภีร์ … เป็นคำของพระเจ้าที่ทรงให้คนของพระองค์บันทึกไว้

เพื่อเราจะได้รู้ว่า พระองค์ตรัสอะไรกับเราบ้าง  ทรงทำอะไรบ้าง

เริ่มจากท่านโมเสส  พระเจ้าทรงสั่งให้ท่านเขียนบันทึกไว้

และเรื่องราวที่ท่านเขียนไว้เมื่อหลายพันปีมาก่อน

ก็ยังส่งต่อเข้ามาถึงเราจนทุกวันนี้

ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงทำให้เราได้อ่านเรื่องราวแห่งความมหัศจรรย์

ที่พระองค์ทรงทำเพื่อเรา

อ่านเรื่องของท่านโมเสส เริ่มที่นี่

 

 

อิสยาห์ 38-2

อิสยาห์ 38:9-15

คำเขียนของราชาเฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ หลังจากที่พระองค์ทรงป่วย และฟื้นองค์ขึ้นจากอาการป่วย

ข้ากล่าวว่า … ในชีวิตวัยกลางคน ข้าจะต้องจากไป ข้าถูกพาไปที่ประตูเมืองคนตายตลอดชีวิตของข้าที่เหลืออยู่  ข้ากล่าวว่า ข้าจะไม่ได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าในแผ่นดินของคนที่มีชีวิตอยู่

ข้าจะไม่ได้มองเห็นมนุษย์ท่ามกลางผู้ที่อาศัยในโลกอีกต่อไป
ที่อาศัยของข้าถูกถอน และเคลื่อนย้ายออกไปจากข้าราวกับกระโจมของคนเลี้ยงแกะ

ข้าได้ม้วนชีวิตของข้าเหมือนกับคนทอผ้า  เขาตัดข้าออกจากหูกทอ  ตั้งแต่เช้าจนค่ำพระเจ้าทรงนำข้ามาถึงอวสาน

ข้าทำตัวให้สงบจนกระทั่งเช้า  พระองค์ทรงหักกระดูกของข้าเหมือนอย่างสิงโต  ตั้งแต่เช้าจนค่ำพระเจ้าทรงนำข้ามาถึงอวสาน

ข้าร้องอย่างนกนางแอ่น หรือนกกระเรียน ข้าร้องครางเหมือนอย่างนกพิราบ

is38king_hezekiah

ดวงตาของข้าอ่อนระโหยเพราะมองขึ้นไป  ข้าแต่พระเจ้า ข้าถูกบีบคั้น ขอทรงเป็นผู้ประกันความปลอดภัยให้ข้าด้วย!

ข้าจะพูดอย่างไร เพราะพระองค์ตรัสกับข้า พระองค์ทรงกระทำสิ่งเหล่านั้น  ข้าเดินไปช้า ๆ ตลอดปีเดือนของชีวิตข้าเพราะจิตวิญญาณของข้าขมขื่นนัก….

ยังมีต่อ

อิสยาห์ 38-1

 

อิสยาห์ 38:1-8

ในช่วงเวลานั้นเอง ราชาเฮเซคียาห์ทรงป่วยจนเกือบจะสิ้นพระชนม์   และอิสยาห์ผู้กล่าวคำของพระเจ้าบุตรของอามอสเข้ามาเฝ้า  ทูลขอให้พระราชาทรงจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะว่า พระองค์จะสิ้นพระชนม์แน่  จะไม่มีพระชนม์อยู่ต่อไป

hezekiahs-illness2

เมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น ….

ราชาเฮเซคียาห์หันพระพักตร์เข้าผนัง และอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า   ตรัสว่า

ขอพระเจ้าทรงโปรดระลึกถึง  ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทูลขอพระกรุณา  ขอทรงระลึกว่า ข้าพระองค์ได้ดำเนินชีวิตอย่างไรต่อพระพักตร์ของพระองค์  ข้าพระองค์เดินอย่างสัตย์ซื่อ ในควาจริง ด้วยสุดใจของข้าพระองค์  และได้ทำสิ่งที่ชอบต่อพระเนตรของพระองค์… แล้วพระราชาก็ทรงร้องไห้ด้วยความขมขื่นพระทัย….

ใช่แล้ว พระองค์ไม่อยากที่จะสิ้นใจไปในเวลานี้!

จากนั้น พระเจ้าตรัสกับอิสยาห์ว่า  “ไป  เจ้าจงไปบอกเฮเซคียาห์ว่า  พระเจ้าของดาวิด บรรพบุรุษของเจ้าตรัสว่า เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว  เราได้เห็นน้ำตาของเจ้า ดูเถอะ เราจะต่อชีวิตให้อีก 15  ปี”

“และเราจะช่วยเจ้าและนครแห่งนี้ให้พ้นจากน้ำมือของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย  เราจะปกป้องนครเยรูซาเล็มไว้”

เพือเจ้าจะได้รู้ว่านี้เป็นคำของเรา เราจะให้หมายสำคัญแก่เจ้า

นั่นคือ เราจะให้เงาของแสงอาทิตย์บนนาฬิกาแดดของอาหัสนั้น  ย้อนกลับมาสิบขั้น…”

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง    แสงอาทิตย์ได้ย้อนกลับบนนาฬิกาแดดสิบขั้น…….

อิสยาห์ 37-5

อิสยาห์ 37:30-38

และนี่จะเป็นเครื่องหมายสำหรับเจ้า… เฮเซคียาห์ ปีนี้เจ้าจะได้กินสิ่งที่มันเกิดขึ้นมาเอง ในปีถัดไปเจ้าจะได้กินสิ่งที่งอกออกมาจากจากนั้น แล้วในปีที่สามจงหว่านและเก็บเกี่ยว ปลูกสวนองุ่นและกินจากผลนั้น

และคนที่เหลืออยู่ในครอบครัวของยูดาห์จะหยั่งรากลึกลงไป และเกิดผลขึ้นมา เพราะจากนครเยรูซาเล็ม คนที่หลงเหลืออยู่จะออกมา จากภูเขาศิโยนจะมีกลุ่มคนที่รอดชีวิตออกมา พระเจ้าจะทรงทำสิ่งนี้ด้วยความกระตือรือร้น

พระเจ้าตรัสถึงกษัตริย์แห่งอัสซีเรียว่า ดังนั้น เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้ หรือยิงธนู ณ ที่นี้ หรือจะมาอยู่ต่อหน้าเมืองนี้ด้วยโล่ห์ หรือจะมาสร้างป้อมเพื่อสู้กับเมืองนี้ก็ไม่ได้ เขามาทางใด เขาต้องกลับไปทางนั้น เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้ พระเจ้าตรัส
เพราะเราจะป้องกันเมืองนี้ เพื่อจะช่วยให้รอดปลอดภัย เพื่อเห็นแก่เราเอง และเห็นแก่ดาวิดซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรา

ภาพจากmagnoliabox.com
ภาพจากmagnoliabox.com

แล้วทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ออกไป และสังหารทหารอัสซีเรีย 185,000 นาย และเมื่อลุกขึ้นในเวลาเช้าวันต่อมา ก็พบแต่ศพมากมายเหล่านี้
จากนั้น เซนนาเคอริบ กษัตริย์แห่งอัสซีเรียจึงยกทัพกลับไป ประทับในนีนะเวห์

อยู่มา ขณะที่พระองค์กำลังนมัสการในวิหารเจ้านิสโรก โอรสสองคนก็สังหารพระองค์ด้วยดาบ จากนั้นก็หนีไป โอรสที่ชื่อเอสารฮัดโดนจึงครองแทน

อิสยาห์ 37-4

อิสยาห์ 37:21-29

ถึงทีของเซนนาเคอริบ

แล้วอิสยาห์ลูกชายของอาโมสจึงส่งคนไปหาราชาเฮเซคียาห์   ทูลว่า  “พระเจ้า องค์พระเจ้าแห่งอิสราเอล  ตรัสดังนี้  เพราะเจ้าได้อธิษฐานต่อเราในเรื่องของเซนนาเคอริบ ราชาแห่งอิสซีเรีย

ขอให้ฟังคำของพระเจ้าเกี่ยวกับราชาอัสซีเรีย  เธอดูหมิ่นเจ้า เธอเยาะหยันเจ้า ลูกสาวพรหมจารีแห่งศิโยน… เธอส่ายหน้าตามหลังเจ้า ลูกสาวแห่งเยรูซาเล็ม

เซนนาเคอริบ...
เซนนาเคอริบ…

เจ้าเยาะเย้ย เหยียดหยามใคร? เจ้าขึ้นเสียงต่อต้านใคร?  เจ้าทำตายะโสใส่ใคร?  ก็ต่อองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลไงเล่า !  เจ้าใช้บ่าวของเจ้ามาเยาะหยันองค์พระเจ้า   และเจ้ากล่าวว่า  ข้าได้ขึ้นไปยังภูเขาสูงพร้อมกับรถรบจำนวนมาก  ไปยังยอดเลบานอนเพื่อตัดต้นสีดาร์ต้นที่สูงสุดลงมา  ข้าโค่นต้นสนที่ดีเยี่ยม ข้าได้ขึ้นไปถึงที่สูงสุด ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด

ข้าขุดบ่อ และดื่มน้ำ  ธารน้ำแห่งอียิปต์แห้งไปหมดเพราะส้นเท้าของข้า”

“เจ้าไม่ได้ยินหรือว่า เราตั้งใจมานานแล้ว?  และบัดนี้ เราจะทำให้มันสำเร็จอย่างที่เราคิดไว้  นั่นก็คือ ให้เจ้าทำลายเมืองป้อมจนกลายเป็นซากปรักหักพัง  ในขณะที่คนเมืองนั้น หมดอำนาจไป ต้องสับสนและอับอาย  กลายเป็นเหมือนต้นพืชในทุ่ง และเหมือนหญ้าอ่อน เหมือนหญ้าที่อยู่บนหลังคาบ้านซึ่งถูกแดดเผาก่อนที่จะเติบโตขึ้นมาได้”

“เรารู้จักเจ้าดี ไม่ว่าจะนั่งลง ออกไป หรือเข้ามา รวมไปถึงที่เจ้าฉุนเฉียวใส่เรา.. เพราะว่าเจ้าได้ทำตัวฉุนเฉียวใส่เรานี่แหละ วาจาอันโอ้อวด โอหังเข้ามาถึงหูเรา  เราจะเอาขอเกี่ยวใส่จมูกของเจ้า และใส่บังเหียนในปากของเจ้า  และเราจะทำให้เจ้ากลับไปตามเส้นทางที่เจ้ามา”

เซนนาเคอริบโอหังกับพระเจ้ามาโดยตลอด  แต่หารู้ไม่ว่า ชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับพระเจ้า  พระองค์ทรงใช้ให้เขาทำทุกอย่างตามน้ำพระทัยของพระองค์เอง ไม่ว่าจะเป็นการทำสงคราม หรือการโจมตีเมืองต่าง ๆ   

เขาไม่มีสิทธิที่จะโอ้อวดอย่างที่เราได้อ่านในวันนี้เลย 

อิสยาห์ 37-3

 

อิสยาห์ 37:14-20

คำอธิษฐานของราชาเฮเซคียาห์

ราชาเฮเซคียาห์ทรงรับจดหมายมาจากมือของผู้สื่อข่าว  ทรงอ่าน และพระองค์ก็เสด็จขึ้นไปยังพระวิหารของพระเจ้าทันที…

คิดว่า พระองค์จะทรงทำอย่างไร?

พระองค์ทรงวางจดหมายนั้นต่อพระพักตร์พระเจ้า และทูลอธิษฐานด้วยพระทัยที่ปวดร้าว
“ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอล  พระองค์ประทับอยู่เหนือเชรูบิม  พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า  จากประชาชาติ อาณาจักรทั้งหลายในแผ่นดิน  พระองค์เท่านั้น ทรงเป็นผู้สร้างสวรรค์และโลก hezekiahs_prayer

 

ขอพระเจ้าทรงเงี่ยพระกรรณ  พระเจ้าข้า  และขอพระองค์ทรงฟัง  โปรดทอดพระเนตร

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเห็นและได้ยินคำที่เซนนาเคอริบส่งมาเพื่อเหยียดหยามพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์   จริง ๆ แล้ว พระเจ้าข้า..กษัตริย์แห่งอัสซีเรียได้ทำลายแผ่นดินของหลาย ๆ ประเทศ  ได้โยนพระของเขาเหล่านั้นลงในกองไฟ  เพราะเหล่านั้นไม่ใช่พระ เป็นเพียงสิ่งที่มือมนุษย์ทำขึ้นมา  เป็นไม้และหิน  ดังนั้นมันจึงถูกทำลาย

บัดนี้ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเราทั้งหลาย ขอพระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากมือของราชาอัสซีเรีย  เพื่อว่า อาณาจักรทั้งหลายในแผ่นดินจะได้รู้ว่า พระองค์เท่านั้นทรงเป็นพระเจ้า

อิสยาห์ 37-2

อิสยาห์ 37:5-12 

ดังนั้นเมื่อข้าราชการของราชาเฮเซคียาห์ไปหาอิสยาห์   อิสยาห์จึงกล่าวกับเขาว่า “ไปบอกเจ้านายของเจ้า … พระเจ้าตรัสดังนี้  อย่ากลัวคำที่เจ้าได้ยิน

กษัตริย์อัสซีเรียส่งคนหนุ่ม ๆ มาเพื่อกล่าวคำดูหมิ่นเรา  ดูเถิด เราจะใส่วิญญาณหนึ่งเข้าไปในเขา เพื่อว่าเขาจะได้ยินข่าวลือและกลับไปแผ่นดินของเขาเอง  และเราจะให้เขาต้องตายด้วยดาบในแผ่นดินของเขา”

กษัตริย์อัสซีเรียองค์นี้คือ เซนนาเคอริบ   สิ่งที่ร้ายกับตัวเซนนาเคอริบเองคือ การที่ดูหมิ่นองค์พระผู้เป็นเจ้าเที่ยงแท้  และพระองค์ทรงคาดโทษเขาไว้ให้เห็นชัดเจน  

กษัตริย์อัสซีเรียตีเมืองต่าง ๆ พ่ายไปทั่วดินแดน
กษัตริย์อัสซีเรียตีเมืองต่าง ๆ พ่ายไปทั่วดินแดน

เพราะเขาได้ยินว่า พระองค์ออกจากเมืองลาคิชไปแล้ว รับชาเคห์จึงกลับไปเฝ้ากษัตริย์อัสซีเรีย และพบว่ากษัตริย์กำลังต้องสู้กับเมืองลิบนาห์  …
แต่กษัตริย์อัสซีเรียเองได้ยินว่า ทีรหะคาห์ กษัตริย์แห่งคูช … กำลังออกมาสู้กับพระองค์

เมื่อได้ยินดังนั้นจึงส่งสารมาหาราชาเฮเซคียาห์ว่า

อย่าให้พระเจ้าที่ท่านวางใจหลอกท่านว่า  นครเยรูซาเล็มจะไม่ตกอยู่ในมือของกษัตริย์อัสซีเรียอย่างข้า …
ดูซิ  ท่านก็ได้ยินข่าวมาแล้วว่า กษัตริย์อัสซีเรียได้ทำอะไรกับแผ่นดินรอบข้างบ้าง  ทำลายจนหมด  แล้วท่านจะได้รอดไปอย่างนั้นหรือ?
พระเจ้าของชาติต่าง ๆ  ช่วยอะไรได้บ้าง  ประเทศที่พ่อของข้าทำลาย ไม่ว่าจะเป็นโกเซน  ฮาราน  เรเซฟ และชนเอเดนที่อยู่ในเทอัสสาร์
แล้วกษัตริย์เหล่านี้ไปอยู่กันที่ไหนแล้ว?  ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ฮามัท กษัตริย์แห่งอารปัด  กษัตริย์แห่งเมืองเสฟารวาอิม  กษัตริย์แห่งเฮนา และกษัตริย์แห่งอิฟวาห์

อิสยาห์ 37-1

อิสยาห์ 37:1-4

ตอนที่รับชาเคห์เข้ามาพูดท้าทายอยู่นั้น พระราชามิได้ทรงได้ยินว่าเขาพูดอะไร…แต่

ทันทีที่ราชาเฮเซคียาห์ทรงรับทราบว่า เกิดอะไรขึ้นจากข้าราชการทั้งสาม พระองค์ทรงรู้สึกแย่เป็นที่สุด จนกระทั่งทรงฉีกฉลองพระองค์ออก  และทรงสวมผ้ากระสอบ   พระองค์เสด็จเข้าไปในพระวิหารของพระเจ้าด้วยความทุกข์ท่วมท้น

is37sackclth

ไม่แต่เท่านั้น พระองค์ยังทรงส่งข้าราชการสองคนที่ได้ยินคำของรับชาเคห์ สวมเสื้อผ้ากระสอบ  ไปหาท่านอิสยาห์โดยด่วน  บอกท่านอิสยาห์ว่า

“พระราชาเฮเซคียาห์ตรัสว่า … วันนี้เป็นวันแห่งความทุกข์ยาก ถูกตำหนิด่าทอ และเป็นวันแห่งความละอาย… ดูซิ แม่ก็ท้องแก่ใกล้คลอด  แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่มีแรงที่จะเบ่งลูกออกมา   เป็นไปได้ที่พระเจ้าของท่านจะทรงฟังคำของรับชาเคห์ซึ่งกษัตริย์อัสซีเรียได้ส่งมาเพื่อเยาะเย้ยองค์พระผู้เป็นเจ้า และจะทรงขนาบถ้อยคำซึ่งพระเจ้าทรงได้ยิน   ดังนั้นขอท่านอธิษฐานเพื่อคนที่เหลืออยู่ตรงนี้ด้วย”

เมื่อเรามีความทุกข์มากที่สุด  หาทางออกไม่ได้  มีทางใดจะดีไปกว่าเข้ามาเฝ้าพระเจ้าก่อนอื่นใด!1