17 พฤษภาคม 2013 ข้าราชการนักเขียน 2

ให้พวกเรามาช่วยกันสร้างกำแพงเยรูซาเล็มใหม่เถอะ
เราจะไม่ต้องอับอายขายหน้าใคร ๆ อีกต่อไป

ถอดความจากเนหะมีย์ 2:17

Daily2013_5_17-1

เนหะมีห์เดินทางจากบาบิโลน กลับมาทางตะวันตกจนถึงนครเยรูซาเล็ม

มันไม่ได้เป็นนครที่มีคนมากมาย มีตลาดร้านค้า มีพระวิหาร มีราชวังอีกต่อไป

แต่กลายเป็นที่มีแต่ซากปรักหักพัง

ไม่มีกำแพงเมืองเหลืออยู่  ไม่มีความรุ่งเรืองให้เห็นสักนิด

เนหะมีห์เห็นเช่นนั้น  เขายิ่งเสียใจ  แต่เขาตั้งใจว่า จะไม่ให้เมืองเป็นที่ครหา น่าอับอายอีกต่อไป

เขาขอให้พระเจ้าทำงานสำเร็จ

Daily2013_5_17-2

แล้วเขาก็สำรวจทุกอย่างกลางคืน   เขารู้ว่า มีศัตรูไม่ต้องการให้เขาทำกำแพงสำเร็จ

คืนแรก ๆ ที่มาถึง อยู่กับการสำรวจและวางแผนว่าจะทำอย่างไร

ในที่สุดก็จัดคน  จัดหน้าที่อย่างเรียบร้อย

ทุกคนเริ่มต้นทำงาน  น้ำหนึ่งใจเดียวกัน

มุ่งมั่นให้งานสำเร็จ  มีคนทำงาน คนเฝ้ายาม คนทำอาหาร ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มใจ

เนหะมีห์ก็ได้บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เราได้อ่าน

เป็นตัวอย่างของเหล่าคนที่มุ่งมั่นไม่ปล่อย…วางใจพระเจ้าจนสุดใจ

 

อิสยาห์ 51-4

อิสยาห์ 51:12-16
เรา เราคือผู้ที่ปลอบใจเจ้า   เจ้าเป็นใคร ทำไมเจ้าจึงต้องกลัวมนุษย์ที่ตายได้ กลัวคนที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือน ๆ กับต้นหญ้า
เจ้าลืมพระเจ้าของเจ้า  ลืมพระองค์ผู้ทรงสร้างเจ้า

พระเจ้าทรงบอกว่า พระองค์คือผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่   พวกเขาจึงไม่ควรกลัว  อย่างไรเสีย มนุษย์เหล่านี้ก็จะตายจากไป
และพระองค์ยังทรงเป็นผู้ปลอบใจเขาด้วย  มันน่าแปลกที่พระเจ้าทรงสั่งให้เขาไม่กลัว
ทรราชย์อยู่ต่อหน้าพวกเขา ….
แต่เมื่อไรที่คนกลัวคน  ความเกรงกลัวพระเจ้าก็อาจหายไปได้เช่นกัน 

พระองค์ผู้ทรงกางท้องฟ้าออก และวางรากฐานแผ่นดินโลก

fahdin

 

และเจ้ากลัวความเกรี้ยวกราดของคนที่ข่มเหงเจ้าทุก ๆ วัน  เมื่อเขาตั้งต้นที่จะทำลาย

แล้วตอนนี้ ความโกรธของคนที่ข่มเหงเจ้าอยู่ที่ไหน?

คนที่เป็นเหยื่อจะได้รับการปล่อยอย่างรวดเร็ว เขาจะไม่ตาย

ไม่ต้องตกลงไปในบ่อลึก  เขาจะไม่ต้องหิวอีก เพราะว่า เราเป็นพระเจ้า   พระเจ้าของเจ้า
เราเป็นผู้กวนน้ำทะเลจนคลื่นใหญ่เกิดขึ้น

พระนามของพระองค์คือ พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

และเราได้ใส่คำของเราไว้ในปากของเจ้า เจ้าจะรู้ว่าควรจะพูดอย่างไร

เราได้ปกป้องเจ้าไว้ใต้เงามือของเรา
แม้กระทั่งตอนที่เรากางฟ้าสวรรค์ออก

ตอนที่เราวางรากฐานของแผ่นดิน และกล่าวกับศิโยนว่า “เจ้าเป็นคนของเรา”

16 พฤษภาคม 2013 ข้าราชการนักเขียน

 คนที่รอดจากการเป็นเชลยและกลับไปยังเยรูซาเล็มนั้น
พบความลำบากและต้องอับอายมาก
กำแพงนครเยรูซาเล็มปรักหักพัง
ประตูเมืองก็ถูกเผา…

ถอดความจากเนหะมีย์ 1:3

 

Daily2013_5_16-2

เนหะมีห์ รับราชการ เป็นผู้เชิญจอกเสวยของพระราชาอารทาเซอร์ซีส
เป็นชาวยิวที่ตกเป็นเชลยของบาบิโลน…

ก่อนหน้านี้ เศรุบบาเบลพาเชลยจากบาบิโลนกลับมาเมื่อปี  538 ก่อนคริสตศักราช

ท่านเอสรา ก็ได้นำพวกที่สองกลับมาสร้างพระวิหารในปี   458 ก่อนคริสตศักราช

แต่ข่าวที่เนหะมีห์ ข้าราชการคนสนิทของพระราชาได้รับคือ

คนที่ไปอยู่นั้นลำบากมาก กำแพงเมืองประตูเมืองเสียหาย

พวกเขาตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ  ….

เมื่อข่าวร้ายขนาดนี้ เนหะมีห์ไม่ได้อยู่เฉย  ท่านกลับที่พัก อธิษฐาน อดอาหาร ร้องไห้ต่อพระเจ้า

ไม่ได้อธิษฐานแค่ชั่วโมงเดียว  วันเดียว แต่.. เขาร้องไห้โศกเศร้าอยู่หลายวัน

Daily2013_5_16-1ลังจากนั้น ก็ไปทำงานตามปกติ   แต่หน้าตาของเนหะมีห์ดูเศร้าหมอง

ไม่เบิกบาน สุขุมเหมือนที่พระราชาเคยเห็น

จึงทรงถามสารทุกข์สุกดิบของเนหะมีห์

พระองค์ทรงหนักพระทัยมาก  เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“เจ้าต้องการจะทำอะไร เนหะมีห์  บอกข้ามาเถิด…”

นี่เป็นคำตรัสที่เปิดโอกาสให้เนหะมีห์ทูลขอกลับไปยังบ้านเมืองเพื่อสร้างกำแพง

และพระราชาก็ทรงอนุญาตเปิดโอกาส  เปิดทาง ให้ความสะดวกทุกอย่าง

เหตุใดพระราชาจึงเมตตาเชลยของพระองค์ขนาดนี้?

มหัศจรรย์  !

 

 

อิสยาห์ 51-3

อิสยาห์ 51:9-11

ข้อความตอนนี้  อิสราเอลเรียกร้องหาพระเจ้า พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์ให้กับเขาในอดีต  บัดนี้ เขาขอให้มีการอัศจรรย์แบบนั้นด้วย

ตื่นเถิด จงตืนขึ้นเถิด  รวบรวมกำลัง  โอ พระกรของพระเจ้า

โปรดตื่นขึ้นเมื่อวันในอดีต

เหมือนอย่างที่ทรงทำให้กับคนโบราณ

ไม่ใช่พระองค์หรือที่ทรงฟันราหับเป็นท่อน ๆ?
พระองค์ทรงแทงเจ้ามังกรมิใช่หรือ?

ราหับและมังกร เป็นคำอ้างถึงสิ่งที่ลี้ลับในโลกตะวันออกกลางโบราณ   อิสยาห์กำลังบอกว่า พระเจ้าทรงมีชัยเหนือพระ และเทวรูปต่าง ๆ ที่คนเชื่อถือกัน

ไม่ใช่พระองค์หรือที่ทรงทำให้ทะเลแห้งเหือด  น้ำทะเลในที่ลึกมาก?

ไม่ใช่พระองค์หรือที่ทรงทำทางในทะเลให้คนที่พระองค์ทรงไถ่นั้นได้เดินผ่านไป?

moses_parting_the_red_sea

อิสยาห์บอกเสมอถึงการที่พระเจ้าถางทาง ทำทางให้คนของพระองค์ เพื่อให้พวกเขาเดินไปรับพระพร

คนที่พระเจ้าทรงซื้อไถ่มาแล้วนั้นกลับคืนมา
และกลับมายังศิโยนพร้อมกับร้องเพลงมาด้วย
ความชื่นบานนิรันดร์จะเป็นดั่งมงกุฎสวมหัวของเขา
พวกเขาจะได้รับความยินดี และชื่นบาน
ความทุกข์และการถอนหายใจจะหนีไปจากเขา

พระพรของพระเจ้าคือ พวกเขาจะได้กลับมายังศิโยนด้วยความเบิกบาน

15 พฤษภาคม 2013 ปุโรหิตนักเขียน2

เจ้าจงพูดกับเขาว่า .. พระเจ้าตรัสดังนี้.. เขาจะฟังหรือไม่ฟังก็ตาม

เขาจะได้รับรู้ว่า มีผู้กล่าวคำของพระเจ้าในหมู่พวกเขาแล้ว 

ถอดความจาก เอเสเคียล 2:5

Daily2013_5_15-1

พระเจ้าทรงตักเตือนคนอิสราเอลผ่านปากของเอเสเคียล

เขาต้องพูดกับคนที่พระเจ้าตรัสว่า เป็นคนมักกบฏ และดื้อด้าน

การไปพูดให้คนที่ไม่อยากเชื่อฟังนั้น มันเหมือนเป็นการกระทำที่แพ้กับแพ้

แต่เมื่อพระเจ้าบัญชา  เอเสเคียลก็ไม่ขัดขืน
Daily2013_5_15-2

พระเจ้าตรัสกับเราผ่านพระคัมภีร์   ผ่านคนที่พระองค์ทรงใช้

บางครั้งผ่านคุณพ่อ คุณแม่ หรือพี่น้อง

เราฟังเสียงของพระองค์   หรือว่าดื้อดึงต่อคำของพระองค์

ลองสังเกตตัวเองดู

อิสยาห์ 51-2

ภาพถ่ายโดย John Watson โดย Creative Commons
ภาพถ่ายโดย John Watson โดย Creative Commons

อิสยาห์ 51:6-8

พระเ้จ้าทรงบอกเราล่วงหน้าว่า วันหนึ่งฟ้าสวรรค์ จะไม่มีอีกต่อไป  …  เปโตรเองได้เขียนไว้ด้วยว่า
เมื่อวันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึง  วันนั้น ท้องฟ้าจะหมดไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง

และโลกนี้จะสลายไปด้วยไฟ
แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในโลกจะไหม้ทั้งหมด

จงเงยหน้ามองที่สวรรค์ และมองที่แผ่นดินเบื้องล่างเพราะว่าฟ้าสวรรค์จะเลือนหายไปเหมือนกับควัน

และแผ่นดินจะเก่าไปเหมือนกับเสื้อผ้า

คนที่อยู่ในนั้นจะตายไปเหมือนแมลง
แต่ความรอดจากเรานั้นจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
ความชอบธรรมของเราจะไม่มีวันหายไป

“จงฟังเรา คนที่รู้จักความดี ความชั่ว
คนที่หัวใจเต็มด้วยบทบัญญัติของเรา
อย่ากลัวการที่มนุษย์เข้ามาดูหมิ่น
อย่ารู้สึกละอายกับคำพูดให้ร้ายของพวกเขา
เพราะว่า มอดจะกินพวกเขาเหมือนกินเสื้อ
และหนอนจะกินเขาเหมือนกับผ้าขนสัตว์
แต่ความชอบธรรมของเราจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
และความรอดของเรามีสำหรับคนทุกรุ่น

แต่คนที่วางใจในพระเจ้าจะมีความหวังที่จะได้รอดพ้น และอยู่กับพระเจ้าตลอดไป!

14 พฤษภาคม 2013 ปุโรหิตนักเขียน

พระดำรัสของพระเจ้ามายังเอเสเคียล ปุโรหิต
บุตรบุซี ในแผ่นดินเคลเดีย  ริมแม่น้ำเคบาร์
ณ ที่นั่น พระหัตถ์ของพระเจ้ามาอยู่เหนือท่าน

ถอดความจากเอเสเคียล 1:3

 

Daily2013_5_14-1
เมื่อชาวยูดาห์ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในบาบิโลน
เอเสเคียลก็อยู่ในคนกลุ่มนั้นด้วย  ดานิเอล และเพื่อน ๆ ก็เช่นกัน
เอเสเคียลเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้ารุ่นเดียวกับเยเรมีห์ และดาเนียล

ถึงแม้พวกเขาไปอยู่ต่างแดน แต่พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งคนของพระองค์เลย
พระองค์ยังทรงใช้บางคนให้กล่าวคำของพระองค์เพื่อให้กำลังใจเชลยเหล่านั้น

 

Daily2013_5_14-2

 

วันที่พระเจ้าทรงเรียกเอเสเคียลให้รับใช้พระองค์นั้น  เขาอยู่ริมแม่น้ำ

มีพายุมาจากทางเหนือ  มีเมฆก้อนใหญ่ที่สว่าง มีไฟลุกวาบขึ้นมาด้วย  ….

เอเสเคียลได้เห็นสัตว์ประหลาดที่น่าตาแปลกมาก

มันเหาะได้  และ… วันนั้นเขาก็เห็นพระสิริของพระเจ้า

พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย  จงยืนขึ้น เราจะพูดกับเจ้า”

และวันนั้นเองพระองค์ก็ทรงส่งให้เขาไปตักเตือนพวกเขา

ไม่ว่าจะฟังหรือไม่  เอเสเคียลก็ต้องพูดเตือนสติไม่หยุด

อิสยาห์ 51-1

อิสยาห์ 51:1-5
จงฟังเรา เจ้าผู้ติดตามความชอบธรรม เจ้าผู้แสวงหาพระเจ้า
จงมองดูศิลาที่พระเจ้าทรงสกัดเจ้าออกมา จงมองดูบ่อหินที่เจ้าถูกขุดขึ้นมา
จงมองดูอับราฮัมบรรพบุรุษของเจ้า และมองดูซาราห์ที่ได้ให้กำเนิดเจ้ามา
เมื่อเราได้ร้องเรียกเขาเมื่อมีเขาเพียงคนเดียวเพื่อว่าเราจะได้อวยพรและทวีเขาขึ้น

absah

ให้คนของพระเจ้าหันกลับไปดูพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่ออับราฮัมว่า  มันเป็นความจริงเพียงไร

เพราะว่าพระเจ้าทรงปลอบใจศิโยน พระองค์ทรงปลอบใจที่ร้างทั้งหมดของเธอ
และทำให้ถิ่นกันดารกลายเป็นเหมือนสวนเอเดน
ทะเลทรายกลายเป็นเหมือนพระอุทยานของพระเจ้า
จะได้พบความยินดี ความชื่นชมในตัวของเธอ
รวมไปถึงคำโมทนาพระคุณและเสียงร้องเพลง

พระเจ้าทรงสัญญาจะเปลี่ยนแปลงสิ่งร้ายกลายเป็นดี จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องเพลงแห่งความชื่นบาน 

 

“ประชาชนของเราเอ๋ย จงสนใจคำของเรา
ชาติของเราเอ๋ย จงฟังคำของเรา 

เพราะว่า พระบัญญัติจะออกมาจากเรา
และเราจะวางความยุติธรรมของเราให้เป็นแสงสว่างแก่คนของคนทั้งหลาย
ความชอบธรรมของเรามาใกล้แล้ว
ความรอดของเราออกมาแล้ว และเราจะปกครองคนของเราด้วยแขนของเรา
เหล่าดินแดนชายทะเลจงหวังใจในเรา พวกเขาจงรอคอยพลังจากแขนของเรา….

13 พฤษภาคม 2013 ไม่มีใครนอกจากพระเยซู

 พระเยซูผู้ทรงเป็นพยานที่สัตย์ซื่อ
ทรงเป็นผู้แรกที่ฟื้นจากตาย
และผู้ทรงครอบครองกษัตริย์ทั้งปวงในโลก

ถอดความจาก วิวรณ์ 1:5

 

 

 

 

เพลงชุดนี้ คำไม่ยาก ยากที่จังหวะ และทำนองครับ

Who’s the one who is here today
Leadin’ everybody to the heavenly way?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
Now who’s the one really knows my mind?
Knows the many complicated problems I find?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody,
No one but
Chorus:
Jesus
Jesus, Jesus, Jesus, Jesus
Jesus
Who’s the one is who is on the throne
Every living creature will His glory be shown?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody
No one but
Jesus
Jesus, Jesus, Jesus, Jesus
Jesus
No, no, no, no nobody
No, no, no, nobody like Him
No, no, no, no nobody
No, no, no, no nobody
No, no, no, no nobody
No, no, no, nobody like Him
No one like Jesus
Who’s the one who has walked the earth
Showing everybody what the spirit is worth?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
Though He lived in the distant past
Everything He taught us through the Bible will last
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody
No one but
Chorus
Bridge:
Who’s the one who’s here today
Leadin’ everybody to the heavenly way?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
No one, none else, nobody
No, no, no, no
Jesus

อิสยาห์ 50-3

อิสยาห์ 50:8-11
พระคัมภีร์ตอนนี้ ท่านอิสยาห์พูดหลายร้อยปีก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นจริงกับพระเยซู

พระองค์ผู้ทรงแก้ต่างให้ข้าทรงอยู่ใกล้ ๆ  แล้วใครล่ะ จะมาต่อสู้กับข้า? ให้เรายืนขึ้นมาด้วยกัน

ใครล่ะ เป็นศัตรูของข้า? ให้เขาเข้ามาใกล้ข้าซิ

ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าทรงช่วยข้า และใครจะมาบอกว่าข้าเป็นคนผิด?
ดูเถิด เขาทั้งหมดนั้นก็จะเก่าไปเหมือนเสื้อผ้า  ตัวมอดจะกัดกินเขาจนหมด

พยานปรักปรำพระเยซูในศาล
พยานปรักปรำพระเยซูในศาล

ใครในท่ามกลางพวกเจ้าที่เกรงกลัวพระเจ้า และเชื่อฟังเสียงของผู้รับใช้ของพระองค์?
ให้คนที่เดินในความมืด และไม่มีแสงสว่าง วางใจในพระนามของพระเจ้า และวางใจในพระเจ้าของเขา

ดูเถิด เจ้าคนที่จุดไฟขึ้นมา  คนที่พยายามจุดคบไฟของตนเอง !
และเดินไปด้วยแสงของตนเอง  เดินไปด้วยคบไฟที่จุดขึ้นมาเอง!

สิ่งที่เจ้าจะได้จากมือของเราก็คือ เจ้าจะต้องนอนลงไปอย่างทรมาน

12 พฤษภาคม 2013 แสงสว่างเล็ก ๆ

เมื่อจุดไฟแล้ว จะไม่มีการเอาถังมาครอบไว้

แต่จะตั้งเทียนนั้นไว้บนเชิงเทียน

และมันจะส่องแสงให้กับทุกคนในบ้านนั้น

ถอดความจาก มัทธิว 5:15

ไม่มีแสง ก็อยู่ไม่ได้ จะเป็นแสง ก็ต้องให้ประโยชน์
ไม่มีแสง ก็อยู่ไม่ได้ จะเป็นแสง ก็ต้องให้ประโยชน์

ภาพจาก washingtonpost.com

การเป็นแสงสว่าของดวงอาทิตย์ มีประโยชน์กับคน สัตว์ พืช และทั้งโลกและจักรวาล

การเป็นแสงสว่างของตะเกียง มีประโยชน์ครอบคลุมน้อยยิ่งกว่านัก

พระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลกที่ยิ่งใหญ่กว่าดวงอาทิตย์

คนที่เชื่อฟังพระองค์ ก็เป็นความสว่างของโลกเช่นกัน

จะส่องได้นาน เข้ม มีประโยชน์มากหรือน้อย

ขึ้นอยู่กับว่า เขามีความสว่างของพระเจ้ามากแค่ไหน

อยู่ใกล้ชิดพระเจ้าก็จะมีเชื้อแห่งแสงสว่างมาก ส่องได้นานนะครับ

 

อิสยาห์ 50-2

อิสยาห์ 50:5-7

พระเจ้าได้ประทานลิ้นให้ข้า ดั่งลิ้นของคนที่พระองค์ทรงสอน
เพื่อข้าจะรู้วิธีที่จะใช้คำหนุนใจคนที่กำลังอ่อนแรง
ทุก ๆ เช้า พระองค์ทรงปลุก  พระองค์ทรงปลุกหูของข้า
เพื่อให้ฟังอย่างคนที่พระองค์ทรงสอน

องค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าทรงเปิดหูของข้า

และข้าก็ไม่ดื้อดึงต่อพระองค์  ข้าไม่หันกลับ

ข้าหันหลังให้กับคนที่ตีข้า  และหันแก้มให้กับคนที่ดึงหนวดเคราของข้า

ข้าไม่หลบหน้าจากความละอาย และการถูกคนถ่มน้ำลายรดใส่

ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท
ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท

หลัง  แก้ม  หน้า  ทุกอย่างที่อิสยาห์กล่าวไว้นั้น พระเยซูทรงเผชิญจากความโหดร้ายทั้งหมด   แต่ถึงกระนั้น พระองค์ก็ไม่ทรงหลบเลี่ยงสิ่งร้าย ๆ นี้ พระองค์ทรงเพียบพร้อมได้ด้วยการเชื่อฟังพระเจ้าอย่างไม่มีบกพร่อง    จะพบ จะเจออะไร พระองค์ทรงยอมเพื่อให้สำเร็จตามพระทัยพระบิดา

แต่พระเจ้าทรงช่วยข้า ดังนั้น ข้าจึงไม่ต้องละอาย
ข้าตั้งหน้าของข้าราวกับหินเหล็กไฟ       และข้ารู้ว่า ข้าจะไม่ต้องอับอาย

พระเยซูไม่ยอมที่จะหันเหไป  แต่ทรงตั้งพระพักตร์อย่างหินเหล็กไฟ  ตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะเดินทางไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อเผชิญกับไม้กางเขน  

11 พฤษภาคม 2013 ธรรมชาติความสว่าง..

ท่านเป็นแสงสว่างของโลก  

เป็นเมืองที่อยู่บนภูเขา ซึ่งซ่อนไว้ไม่ได้

ถอดความจาก มัทธิว 5:14

images

แสงสว่าง อย่างไรก็เห็น
แสงสว่าง อย่างไรก็เห็น

 

 

พระเยซูทรงบอกว่า เราเป็นแสงสว่างของโลก

เป็นเมืองที่อยู่บนภูเขา ซึ่งซ่อนไว้ไม่ได้

เพื่อน ๆ  คิดอย่างไรครับ?

เป็นแสงได้ ก็ต้องมีพลัง มีต้นตอของแสงนั้น

แต่หากว่าจะเป็นแสงด้วยตัวเอง มันจะริบหรี่ เดี๋ยวก็ดับ

จะเป็นแสงได้  ต้องมีพลัง  มีพระวิญญาณของพระเจ้าในชีวิต

จริงไม๊?

 

อิสยาห์ 50-1

อิสยาห์ 50:1-3

ดังนั้น องค์พระผู้เป้นเจ้าตรัสว่า ใบหย่าของแม่เจ้าอยู่ที่ไหน?
หลักฐานที่ทำให้รู้ว่า เราได้ให้เธอไปจากเรา
เราขายตัวเจ้าไปให้กับเจ้าหนี้คนไหน?
เจ้าถูกขายไปเพราะบาปของเจ้า  เป็นเพราะการล่วงละเมิดของเจ้า แม่ของเจ้าจึงถูกส่งไป

ที่ยูดาห์ต้องถูกส่งไปยังบาบิโลนนั้น  … เป็นเพียงชั่วคราว  ไม่ได้ตลอดไป ไม่มีใบหย่าหรือเอกสารใด ๆ ที่พระเจ้าทรงทำไว้เพื่อจะให้พวกเขาแยกจากพระองค์ตลอดไป…
พระเจ้าทรงบอกพวกเขาชัดเจนว่า ที่พวกเขาต้องกลายไปเป็นเชลย ก็เพราะบาปของพวกเขา 

แต่…สำหรับอิสราเอลทางเหนือแล้ว กลับแตกต่าง  การที่พวกเขากราบไหว้รูปเคารพ และพยายามเอาใจเทวรูปเหล่านั้นไม่หยุดหย่อน กลับเป็นการที่ทำให้พระเจ้าทรงเลิกจากเขาแบบสามีเลิกภรรยา ให้ใบหย่าไปเลย  *

ทำไม  เมื่อเรามา จึงไม่มีใคร?
ทำไม เมื่อเราร้องเรียก จึงไม่มีใครตอบ?

แขนของเราสั้นไปจนไม่สามารถไถ่ได้อย่างนั้นหรือ?
หรือว่า เราไม่มีอำนาจที่จะช่วยให้รอดพ้น?

ดูเถิด  ด้วยคำบัญชาของเรา ทะเลก็แห้ง  เราทำให้แม่น้ำกลายเป็นทะเลทราย

talaedang

เหล่าปลาก็เหม็นคละคลุ้งเพราะไม่มีน้ำ มันตายไปเพราะความกระหาย
เราห่มฟ้าสวรรค์ด้วยความมืด และห่มมันด้วยผ้ากระสอบ”

พระเจ้าทรงถามว่า ทำไมจึงไม่มีใครที่เต็มใจจะเชื่อและเชื่อฟังพระองค์     ทั้ง ๆ ที่พระองค์เคยพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์  

*เยเรมีห์ 3:8

10 พฤษภาคม 2013 ธรรมาจารย์นักเขียน

เอสราผู้นี้มาจากบาบิโลน  เป็นธรรมาจารย์เชี่ยวชาญธรรมบัญญัติของโมเสส
…. พระราชาประทานทุกอย่างที่ท่านทูลขอ 

เพราะว่า พระหัตถ์ของพระเจ้าของท่านอยู่กับท่าน

ถอดความจาก เอสรา 7:6

Daily2013_5_10-1

อีกท่านหนึ่งที่เขียนพระธรรมเอสรา คือ ท่านเอสรา

เป็นธรรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญพิเศษ   พระสติปัญญาของพระเจ้าอยู่กับท่าน

และคอยสอนให้ประชาชนรู้จักพระวจนะของพระเจ้า

Daily2013_5_10-2

ยิ่งกว่านั้นท่านเอสรายังเตรียมของสำหรับการสร้างพระวิหาร

และช่วยดูแลการสร้างพระวิหารหลังจากที่อิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลนด้วย

พระราชาอารทาเซอร์ซีสทรงหนุนหลังเขาอย่างเต็มที่

พระองค์ตรัสว่า “สิ่งใดที่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ทรงบัญชา

ก็ให้ทำอย่างเต็มขนาดสำหรับพระวิหารของพระองค์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ….

อิสยาห์ 49-5

อิสยาห์ 49:22-26

และพระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราจะยกมือของเราขึ้นให้กับประชาชาติทั้งหลาย
และทำสัญญาณให้คนทั้งหลายเข้ามา พวกเขาจะอุ้มเหล่าลูกชายของเจ้ามา  จะอุ้มเหล่าเด็กหญิงใส่บ่ามาด้วย
กษัตริย์ทั้งหลายจะเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้า  ราชินีจะกลายเป็นแม่นม
พวกเขาจะก้มลงกราบเจ้า และเลียผลดินจากเท้าของเจ้า
แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระเจ้า และคนที่รอคอยเราจะไม่ต้องอับอาย”

รอคอยพระเจ้า... ได้เปรียบนะ
รอคอยพระเจ้า… ได้เปรียบนะ

ศิโยนคิดว่า จะมีลูกหลานมาจากไหน ในเมื่อพวกเขามีคนเหลืออยู่น้อยมาก  แต่ลูกหลานดังกล่าวไม่ได้เกิดมาตามธรรมดามนุษย์  แต่เป็นการเกิดอย่างเหนือธรรมชาติ  คนที่มาเชื่อในพระเจ้า  พวกเขาจะเป็นลูกหลานอิสราเอลด้วย!

ใครจะมากระชากเหยื่อไปจากผู้มีกำลังได้  และใครจะมาช่วยเชลยจากทรราชย์ได้
เพราะพระเจ้าตรัสว่า

“แม้ว่าเชลยของคนที่เข้มแข็ง ก็จะถูกเอาไป  และคนที่เป็นเหยื่อของทรราชย์ก็จะได้รับการช่วยเหลือ
เพราะว่าเราจะสู้คนที่สู้เจ้า และเราจะช่วยลูกหลานของเจ้าให้รอด
เราจะทำให้คนที่ข่มเหงเจ้าต้องกินเลือดเนื้อของตัวเอง และจะเมาเลือดของตัวเองเหมือนเมาเหล้าองุ่น

เรื่องราวตรงนี้ พระเจ้ากำลังบอกเราล่วงหน้าว่า คนอิสราเอลก็จะถูกทำร้าย แต่พระเจ้าจะพลิกให้คนที่เข้ามาทำลายอิสราเอลนั้น กินเลือดเนื้อของตัวเอง และต่อสู้กันเอง  ไม่ว่าเขาจะเก่งเพียงใด  แต่พวกเขาสู้พระเจ้าไม่ได้แน่นอน

แล้วมนุษย์ทั้งปวงจะรู้ว่า เราเป็นพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เป็นพระผู้ไถ่ องค์ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบ

9 พฤษภาคม 2013 อย่าซ้ำเติม

เออ เจ้าไม่ควรยิ้มเมื่อเขาพบกับภัยพิบัติ
ในวันที่เขาถูกทำลาย 

เจ้าไม่ควรเข้าริบทรัพย์สินของเขา
ในวันที่เขาถูกทำลาย

ถอดความจาก โอบาดีห์ 13

Daily2013_5_9-1

 

 

อิสอัคกับราเชล มีลูกชายแฝดสองคน พ่อรักพี่เอซาว  แม่รักน้องยาโคบ

ชาวเอโดม เป็นลูกหลานของเอซาว  ขณะที่อิสราเอลเป็นลูกหลานของยาโคบ

ในวันที่อิสราเอลแสนลำบาก  ขอเพียงเดินผ่านทาง

เอโดม ไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น

ไม่ช่วย ไม่สนใจ แถมเยาะหยัน
Daily2013_5_9-3

ท่านโอบาดีห์ ได้รับคำของพระเจ้ามา เพื่อเตือนเอโดมว่า

เขาอาจคิดว่า ไม่มีใครทำให้เขาล้มลงได้ เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในถ้ำสูง ๆ

แต่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย

พระองค์ให้ท่านโอบาดีห์มาเตือนพวกเขา

อ่านเรื่องของพวกเขาได้ที่นี่

อิสยาห์ 49-4

อิสยาห์ 49:14-18

แม้ดูเหมือนว่า พระเจ้าทรงทอดทิ้งคนของพระองค์  เพราะพวกเขาต้องตกไปเป็นเชลย 

แต่ความจริงแล้ว พระองค์ไม่เคยลืมเขา ไม่เคยทอดทิ้ง ไม่หยุดที่จะสงสารพวกเขา 

แต่ศิโยนกล่าวว่า “ พระเจ้าทรงทอดทิ้งข้าแล้ว  พระเจ้าของข้า ทรงลืมข้าเสียแล้ว…”

“แม่คนหนึ่งจะลืมลูกที่เธอให้นมได้หรือ แล้วเธอจะไม่มีความสงสารลูกที่ออกมาจากครรภ์ของเธอหรือ?  แม้ว่าแม่บางคนอาจลืมได้  แต่เราจะไม่ลืมเจ้าเลย

mue2

ดูเถิด  เราได้จารึกชื่อของเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา  กำแพงเมืองของเจ้าก็อยู่ต่อหน้าเราเสมอ

พระคำตอนนี้ เป็นพลังของพวกเรา  พระเจ้า ทรงจารึกชื่อของคนที่รักพระองค์ไว้ในฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์
ปกติในสมัยก่อน ทาสจะมีชื่อของเจ้านายติดไว้ที่มือ  แต่นี่กลับกัน เจ้านายกลับติดชื่อของผู้รับใช้ไว้บนพระหัตถ์!

แสดงว่า คนอิสราเอล และพวกเราที่รักวางใจในพระเจ้า จะอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์  จะอยู่ในความคิดของพระองค์เสมอ

คนที่สร้างเจ้าขึ้นมาก็สร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว  นครเยรูซาเล็มจะร้างอยู่ไม่นาน 

ส่วนคนทำลาย และพยายามให้เจ้าร้างเปล่านั้น ก็ต้องหนีไป
เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ  ดูให้ดี เห็นเขารวมตัวกันและมาหาเจ้า
เรามีชีวิตอยู่  พระเจ้าทรงประกาศ
เจ้าจะได้เอาพวกเขามาเป็นเครื่องประดับ  ติดเอาไว้เหมือนอย่างที่เจ้าสาวประดับตัวของเธอ

การสร้างเมืองนั้น จะประกอบด้วยคนมากมายที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล …
มันเป็นเมื่อ 60 ปีก่อนหรือเปล่านะ ที่ลูกหลานอิสราเอลจากแผ่นดินไกลโพ้น
กลับมายังดินแดนอิสราเอลอีกครั้งเพื่อสร้างเป็นประเทศขึ้นใหม่ในปี 1948?

8 พฤษภาคม 2013 ยูดาน้องชาย…

ยูดา ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ และเป็นน้องชายของยากอบ
เรียน… คนทั้งหลายที่พระเจ้าได้ทรงเรียกไว้ …

ถอดความจาก ยูดา 1

Daily2013_5_8-1เมื่อพระเยซูทรงเริ่มราชกิจของพระองค์แรก ๆ นั้น

น้อง ๆ ของพระองค์ก็แปลกใจ  และไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นกับตา

พวกเขาเติบโตมากับพระองค์  เรียกพี่เยซูมาโดยตลอด

คนที่ตระหนักในใจ และรู้ชัดว่า พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าคือ มารีย์

แต่น้อง ๆ  หาได้รู้เรื่องนี้อย่างชัดเจนเหมือนมารีย์ไม่ ….

ในเวลาต่อมา พวกเขาจึงได้รับพระองค์

และพระเยซูเองก็ทรงปรากฏกับพวกเขาหลังจากที่พระองค์คืนพระชนม์แล้ว

Daily2013_5_8-2

 

ยากอบได้เขียนหนังสือยากอบ  และยูดาน้องชายอีกคนได้เขียนหนังสือยูดา

เขาบอกชัดว่า ตนเองเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์

คำอวยพรตอนจบจดหมาย ทำให้เรารู้ว่า เขาคิดอย่างไรกับพระเยซู

 พระผู้ช่วยให้รอดของเรา…พระเยซูคริสต์  องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

ทั้งในอดีต  ปัจจุบัน และในอนาคตต่อไปเป็นนิตย์

 

 

อิสยาห์ 49-3

อิสยาห์ 49:8-13

การคืนกลับมาของอิสราเอล

ดังนั้น พระเจ้าตรัสด้วยว่า “ในเวลาที่เราพอใจ เราตอบเจ้า ในเวลาแห่งความรอด เราได้ช่วยเจ้า

เราจะรักษาเจ้า และมอบเจ้าให้เป็นพันธสัญญาแก่คนทั้งหลาย เพื่อสถาปนาแผ่นดิน เพื่อที่จะแบ่งสันปันส่วนแผ่นดินที่ร้างเปล่า

เรากล่าวกับนักโทษว่า “จงออกมา”  กล่าวกับคนที่อยู่ในความมืดว่า “ออกมาให้เห็นได้แล้ว”

ethiopiansprisoners
พวกเขาจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดทาง  ทุ่งหญ้าของเขาจะอยู่บนที่สูง

เขาจะไม่หิวหรือกระหาย  แดดอันร้อนระอุไม่สามารถทำอะไรเขาได้

เพราะพระองค์ผู้มีพระทัยสงสารจะเป็นผู้นำพาพวกเขาไป

พระองค์จะทรงนำเขาไปตามทางที่มีสายน้ำอยู่

และเราจะทำให้ภูเขานั้นกลายเป็นถนน  หนทางทั้งหลายจะถูกยกขึ้น
ดูเถิด เหล่านี้จะมาจากที่ไกล  และดูเถิด จากทางเหนือและตะวันตก และนี่จะมาจากแผ่นดินสเวเน

โอ้ ฟ้าสวรรค์ จงร้องเพลงด้วยความยินดี  และแผ่นดินโลก   จงชื่นบานหรรษาเถิด    ภูเขาเอ๋ย จงร้องเพลงออกมา

เพราะว่า พระเจ้าทรงปลอบใจคนของพระองค์ และจะทรงเมตตาคนที่ถูกข่มเหงน้ำใจ