อิสยาห์ 23-1

อิสยาห์ 23:1-9

มีข่าวสารจากแดนไซปรัสมาถึงเขา

จงนิ่งเสีย คนที่อยู่ริมฝั่งทะเล  พ่อค้าจากเมืองไซดอนเดินทางข้ามทะเลมา เอาสินค้ามาเติมให้เจ้ามากมาย
เจ้าเป็นพ่อค้าของชาติทั้งหลาย  เจ้าเดินทางในทะเล  รายได้ของเจ้าคือข้าวแห่งชิโหร์  เป็นของที่เก็บเกี่ยวได้จากลุ่มน้ำไนล์

แผนที่จาก sigmabooks.gr

ไซดอนเอ๋ย เจ้าผู้เป็นป้อมอันมั่นคงของทะเล  จงละอายใจเถิด  เพราะทะเลได้กล่าวว่า  “ข้าไม่เคยเจ็บท้อง และไม่เคยคลอดลูก  ข้าไม่ได้เลี้ยงดูคนหนุ่มสาวของเจ้า”

ไซดอนเป็นเหมือนเมืองพี่น้องของไทระ…

เมื่อมีรายงานมาถึงอียิปต์  พวกเขาจะเจ็บปวดเพราะรายงานเกี่ยวกับเมืองไทระ

ไทระเป็นเมืองสำคัญของอาณาจักรฟินิเชีย  มีท่าเรือใหญ่  เป็นเมืองที่มั่งคั่งและทำบาปผิดมากมาย    และอิสยาห์กำลังจะบอกว่า ไทระจะล่มสลายไปอย่างไร   อียิปต์ไม่สบายใจมากที่ไทระต้องมีปัญหา เพราะอียิปต์พึ่งพาเรือสินค้าของไทระมาโดยตลอด  

ข้ามไปที่ทารชิช  คร่ำครวญเถิด บรรดาผู้ที่อาศัยริมฝั่งทะเล
นี่หรือ เมื่อที่สนุกสนานของเจ้า  นครโบราณที่มีเท้าพาไปตั้งรกรากยังที่ไกล

อิสยาห์ชวนให้ไปตั้งรกรากใหม่ที่ทารชิช  เพราะการล่มสลายของไทระนั้นจะส่งผลให้กับทุกชาติที่เขาทำการค้าด้วย

ใครล่ะ ที่ทำอย่างนี้ต่อสู้กับเมืองไทระ?  เมืองที่มีมงกุฎมอบให้แก่พ่อค้าให้กลายเป็นเจ้าชาย  คนค้าขายก็กลายเป็นคนที่ใหญ่โตน่านับถือในโลก

ไทระเป็นเมืองที่เต็มด้วยคนโอหัง เขาคิดว่า เขาจะเป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้  

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพนี่แหละ ทรงตั้งพระทัยไว้ เพื่อจะทำลายศักดิ์ศรีความเย่อหยิ่งพองตัว   พระองค์จะทรงดึงเกียรติของเหล่าคนที่โลกนับถือลง

อิสยาห์ 22-3

อิสยาห์ 22:20-25

ในวันนั้น เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรา คือเอลียาคิม ลูกชายของฮิลคียาห์ และเราจะเอาเสื้อคลุมของเจ้ามาสวมให้เขา  จะคาดเอวเขาด้วยผ้าคาดเอวของเจ้า  และจะมอบอำนาจของเจ้าไว้ในมือของเขา  และเขาจะเป็นบิดาของผู้อาศัยในนครเยรูซาเล็ม และวงศ์วานของยูดาห์

เมื่อวาน เราได้คุยกันเรื่องที่อิสยาห์เห็นเชบนา กรมวัง ถูกพระเจ้าทรงถอดและเขวี้ยงออกไปยังแดนไกล  บัดนี้ พระเจ้าจะให้เอลียาคิมมาแทนเขา   ทั้งสองเป็นข้าราชการที่อยู่ในสมัยราชาเฮเซคียาห์     

ดูซิ เมื่อพระเจ้าทรงเรียกใครว่า ผู้รับใช้ของเรา  พระองค์ทรงให้เกียรติเขามากเหลือเกิน   แต่เอลียาคิมผู้นี้ จะต้องสละชีวิตของเขาเพื่อคนมากมาย เพราะเขาจะได้เป็นบิดาของคนในเยรูซาเล็ม  เขาจะเป็นคนที่มีหน้าที่ในการดูแลราชวงศ์ของดาวิด เป็นผู้มีอำนาจถึงขนาดเป็นคนถือกุญแจ!

และเราจะวางกุญแจแห่งครอบครัวดาวิดไว้บนบ่าของเขา   เขาจะเปิดและไม่มีผู้ใดปิดได้  เขาจะปิด และไม่มีใครเปิดได้

is22kunjae

เราจะผูกเข้าไว้เหมือนกับตอกหมุดติดไว้ที่ ๆ ปลอดภัย และเขาจะมาเป็นบัลลังก์แห่งเกียรติยศให้กับครอบครัวของบิดาเขา   และเกียรติยศทั้งสิ้นของครอบครัวบิดาเขาจะแขวนไว้บนตัวเขา  ลูกหลานและเรื่องต่างๆ  ภาชนะเล็กๆ จากถ้วยไปจนถึงเหยือกทั้งหมด

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพประกาศว่า ในวันนั้น  หมุดที่ปักแน่นอยู่ในที่อันมั่นคงจะหลุดออก และมันจะถูกตัดและตกลงมา  และภาระทั้งสิ้นที่อยู่บนนั้นจะถูกตัดออก เพราะพระเจ้าได้ตรัสแล้ว

โอ…นึกว่าเอลียาคิมจะเป็นผู้ที่คนในเยรูซาเล็มไว้ใจได้   แต่ดูซิ ภาระที่อยู่บนตัวเขานั้นหนักเกินไป  เขาไม่ใช่เป็นผู้ที่ใคร ๆ จะมาหวังพึ่งวางใจได้ เพราะปรากฏว่า วันหนึ่งเขาล้มลง!!!

เราคงสรุปได้แล้วว่า  จะเป็นคนที่เห็นแก่ศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างเชบนา  หรือเป็นคนดีพร้อมอย่างเอลียาคิม  เราก็ไว้ใจไม่ได้  

ผู้ที่เราจะไว้ใจ วางใจเต็มที่คนเดียวเท่านั้นก็คือ  พระเจ้า…!!

อิสยาห์ 22-2

อิสยาห์ 22;15-19

 

แล้วองค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า “มา  จงไปหาเชบนา เจ้ากรมวัง บอกเขาว่า  เจ้ามาทำอะไรที่นี้  ใครอนุญาตให้เจ้าทำถ้ำเก็บศพสำหรับตัวเองบนที่สูง และยังสกัดที่อยู่ให้ตัวเจ้าเองในศิลา  ?

เชบนา   แม้จะมีตำแหน่งสูง  แต่สิ่งที่เขาทำนั้น ไม่มีใครอนุญาต เขาทำโดยพลการ  สร้างบ้านที่ดูดีให้ตัวเองอยู่ สร้างที่ฝังศพให้ตัวเอง การมีที่เก็บศพแบบนี้ เป็นการแสดงว่า เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่   มันคล้ายกับการสร้างอนุสาวรีย์ให้ตัวเอง   และนักโบราณคดีก็ได้พบว่ามีที่เก็บศพซึ่งสร้างโดยเจ้ากรมวังผู้หนึ่ง อยู่บนเขามะกอกเทศด้วย    เหมือนกับว่าเขาจะตายอย่างมีศักดิ์ศรี  เขาสนใจเรื่องเหล่านี้ ในขณะที่คนเมืองเยรูซาเล็มยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองจะอยู่รอดหรือไม่ ….

ระวังตัวให้ดี  พระเจ้าจะทรงเหวี่ยงเจ้าออกไปอย่างรุนแรง  เจ้าคนที่เข้มแข็งเอ๋ย  พระเจ้าจะทรงจับเจ้าแน่น และเหวี่ยงเจ้าไปรอบ ๆ  เขวี้ยงเจ้าออกไปเหมือนลูกบอลยังแผ่นดินกว้างใหญ่     เจ้าจะตายที่นั่น   เหลือไว้แต่รถรบคันงามของเจ้า    เจ้าผู้สร้างความอับอายให้เจ้านายของเจ้า

ภาพจาก www.biblecartoons.co.uk
ภาพจาก www.biblecartoons.co.uk

 

เราจะถอดเจ้าออกจากหน้าที่ เจ้าจะถูกลากลงมาจากสำนักของเจ้า

แม้ว่าเชบนาผู้นี้เตรียมอะไรให้ตัวเองอย่างสูงสักดิ์  แต่พระเจ้าจะให้เขาตายในแผ่นดินอื่น  เขาจะถูกจับไป และตายอย่างไร้เกียรติ   ในสายตาของอิสยาห์แล้ว  คนที่พยายามสร้างเกียรติยศให้ตนเอง ไม่สมควรที่จะได้เกียรตินั้นเลย

อิสยาห์ 22-2

อิสยาห์ 22:9-14

พระเจ้าได้ทรงเอาสิ่งที่ปกป้องยูดาห์ออกไปแล้ว  ในวันนั้น เจ้าจะมองที่อาวุธแห่งบ้าน”ป่าไม้แห่งเลบานอน”  นี่เป็นราชวังที่ซาโลมอนสร้างไว้ …. ในสมัยของอิสยาห์ มันกลายเป็นคลังอาวุธ    

และเจ้าก็เห็นว่า มีช่องโหว่อยู่ในนครแห่งดาวิดอยู่หลายแห่ง  เจ้าทั้งหลายเก็บน้ำไว้ในบ่อด้านล่าง  และนับบ้านในเยรูซาเล็ม แล้วเจ้าก็พังบ้านเรือนเพื่อเอามาเสริมกำแพง  เจ้าทำที่เก็บน้ำระหว่างกำแพง  เพื่อรับน้ำมาจากสระเดิม

แต่เจ้าไม่ได้มองพระองค์ผู้ทรงทำทุกสิ่ง  ไม่ได้มองพระองค์ผู้ทรงวางแผนนั้นนานมาแล้ว   นี่หมายความว่าอย่างไรกัน ?   ชาวเมืองพยายามช่วยตัวเองให้รอด และเหตุการณ์เรื่องบ่อน้ำนี้ เกิดขึ้นในสมัยของราชา เฮเซคียาห์   การที่เขาเตรียมตัวรับมือ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างซ่อมกำแพง หรือการเก็บกักน้ำไว้ใช้ เป็นเรื่องดี 

แต่ที่พวกเขาพลาดคือ  เขาไม่ได้วางใจพระเจ้า  แต่วางใจในสิ่งที่ตนเองเตรียมไว้…  หันมามองตัวเรา เราต้องเตรียมพร้อม  แต่ในความพร้อมนั้น เราคงต้องวางใจ มองไปที่พระเจ้าผู้ทรงวางแผนทุกอย่างนานมาแล้ว!

อุโมงส่งน้ำของเฮเซคียาห์
อุโมงส่งน้ำของเฮเซคียาห์

ในวันนั้น พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงเรียกให้ประชาชนร้องไห้คร่ำครวญ
ให้เขาโกนศีรษะจนล้านและสวมเสื้อกระสอบ   แต่กลับกลายเป็นว่า พวกเขามีแต่ความสนุกสนานรื่นเริง  ฆ่าวัวและฆ่าแกะเป็นฝูง  กินเนื้อมันและดื่มเหล้าองุ่น  “มากิน มาดื่มกัน  เพราะยังไงๆ พรุ่งนี้เราจะตาย ”

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงเปิดเผยพระองค์ในหูของข้าว่า “แน่ใจได้เลยว่า การล่วงละเมิดของเจ้าจะไม่ได้รับการไถ่บาปจนกว่าเจ้าจะตายไป…” พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้

อิสยาห์ 22-1

อิสยาห์ 22:1-7

คำของพระเจ้าเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิต หุบเขาแห่งนิมิตนี้ก็คือเยรูซาเล็มนั่นเอง เมืองนี้มีหุบเขาคิดโรนกับฮินโนมล้อมรอบ 

ที่ว่าเจ้าทั้งหมดได้ขึ้นไปบนหลังคาบ้าน   เจ้าที่เป็นเมืองที่เต็มด้วยการตะโกน  ส่งเสียงครึกโครม  เป็นเมืองที่เต้นโลด เจ้าหมายความอย่างไร?  พวกเขาดีใจเรื่องอะไรหรือ? จึงออกไปกระโดดโลดเต้น เป็นไปได้ไหมที่เขมีความสุขที่ไม่มี อะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาเหมือนที่เกิดกับสะมาเรียทางเหนือ?

คนในเมืองที่ถูกฆ่านั้น ไม่ได้ถูกฆ่าด้วยดาบ หรือตายในสงคราม
ผู้นำทั้งหมดของเจ้าหนีไป  พวกเขาถูกจับเป็นเชลยโดยไม่ต้องใช้ธนู   แม้ว่าจะหนีไปไกลมากแล้ว แต่เจ้าทุกคนถูกจับเป็นเชลย

อิสยาห์เห็นล่วงหน้า วันยูดาห์ถูกกวาดไปบาบิโลน
อิสยาห์เห็นล่วงหน้า วันยูดาห์ถูกกวาดไปบาบิโลน

ดังนั้น ข้าจึงว่า “ให้หันไปจากข้า ขอให้ข้าร้องไห้อย่างขื่นขม   อย่าพยายามที่จะปลอบใจข้าเพราะลูกสาวประชากรของข้านั้นถูกทำลาย  นิมิตที่อิสยาห์เห็นเกี่ยวกับเยรูซาเล็มทำให้เขาเป็นทุกข์ยิ่งนัก  ครั้งที่บาบิโลนมาลากตัวคนยูดาห์ไปนั้น ไม่ต้องใช้ดาบหรือธนู  แต่ใช้การล้อมเมืองจนคนต้องอดตายเพราะออกมานอกเมืองไม่ได้  

สำหรับพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระองค์ทรงมีวันหนึ่ง วันแห่งการจลาจล วันที่มีแต่การเหยียบย่ำ วันที่สับสนในหุบเขาแห่งนิมิต  แนวกำแพงก็พังลงมา  เสียงร้องตะโกนไปถึงภูเขา

เอลามหยิบแล่งธนูพร้อมกับรถรบและพลม้า และคีร์ก็โผล่ออกมาจากโล่ห์
หุบเขาดีที่สุดของเจ้านั้นเต็มไปด้วยรถรบและพลม้า  เอลามคือพันธมิตรของบาบิโลนอยู่ทางตะวันออก ส่วนคีร์ เป็นเมืองที่อัสซีเรียพาเชลยไป…. 

อิสยาห์ 21-3

อิสยาห์  21:11-17

มีคำจากพระเจ้ามาถึงดูมาห์  (หมายถึงเอโดม  เอโดมเป็นศัตรูของอิสราเอลมาโดยตลอด โดยที่พวกเขาเป็นลูกหลานของเอซาว ซึ่งเป็นพี่ชายของยาโคบนั่นเอง  เอโดมอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิสราเอล  ) มีผู้หนึ่งเรียกข้าจากเสอีร์ (เสอีร์เป็นอีกชื่อของเอโดม ) “คนยามเอ๋ย  นี่มันกี่ยามแล้ว?

ภาพจาก newsyoucanbelieve.com
ภาพจาก newsyoucanbelieve.com

คนยามเอ๋ย  กี่ยามแล้ว?”   และคนยามตอบว่า “เวลาเช้ามาถึงแล้ว และกลางคืนก็จะมาด้วย  ถ้าท่านจะถาม ถาม  ก็กลับมาอีกทีแล้วกัน” อิสยาห์หนักใจมาก เพราะเขาเห็นว่า หลังจากอัสซีเรีย เอโดมจะถูกบาบิโลนโจมตีอีก 

มีคำจากพระเจ้ามาถึงอาระเบีย   เจ้าจะอาศัยอยู่ในดงหนามแห่งอาระเบีย โอ คาราวานจากเดดาน  (เป็นชนกลุ่มที่เดินทางค้าขายไปมาในแผ่นดินอาระเบีย)

เอาน้ำให้กับคนที่กระหาย  นำอาหารให้กับคนลี้ภัย โอ.. คนชาวเทมา   เพราะพวกเขาหนีดาบสังหารมา  หนีดาบที่ชักออกจากฝัก  หนีคันธนูซึ่งโก่งอยู่   หนีจากสงครามที่รุกเข้ามา   เพราะพระเจ้าองค์เจ้านายตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ภายในหนึ่งปีของการว่าจ้างแรงงาน  ศักดิ์ศรีของเคดาร์จะสิ้นสุด  และนักแม่นธนู นักรบจะเหลืออยู่ไม่กี่คน “ พระผู้ทรงเป็นเจ้านาย พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนั้น

อิสยาห์ 21-2

อิสยาห์ 21:6-10

ดังนั้น พระเจ้าตรัสแก่ข้าว่า “ไป  จงไปและตั้งยามเอาไว้ ให้เขาประกาศสิ่งที่เขาเห็น “  และเขาเห็นรถม้า พร้อมกับพลม้าเป็นคู่   เห็นเหล่าคนขี่ลา   เหล่าคนขี่อูฐ

ให้เขาฟังด้วยความตั้งใจ ฟังอย่างระมัดระวัง

แล้วเขาก็ร้องว่า “สิงโต…เจ้านายของข้า  ข้ายืนอยู่บนป้อมยามแห่งนี้ในเวลากลางวัน  และข้านั่งอยู่ที่นี่ในเวลากลางคืน  และดูซิ  มีรถรบคนหนึ่งขับมาพร้อมกับพลม้าเป็นคู่ !”   คนเฝ้ายามเห็นรถรบมากมาย นี่แสดงว่า กำลังจะมีสงคราม

ภาพจาก http://forums.civfanatics.com
ภาพจาก http://forums.civfanatics.com

เขาตอบและกล่าวว่า “บาบิโลนล่มแล้ว  มันล่มลงแล้ว และบรรดาเทวรูปทั้งหลายก็ล้มลงแตกกระจายบนพื้น”  บาบิโลนได้พ่ายแพ้อัสซีเรียเมื่อปี  689 ก่อนคริสตศักราช   และยังมาแพ้เปอร์เชียอีกในปี 539 ก่อนคริสตศักราช

“โอ… ท่านผู้ถูกนวด  และผู้ถูกฝัดร่อนบนลานนวดของข้า! ข้าประกาศให้พวกท่าน… นี่คือสิ่งที่ข้าได้ยินจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอล    การถูกนวด มันหมายถึงการที่บาบิโลนจะกดขี่ข่มเหงอิสราเอลอย่างโหดร้าย  แต่อิสราเอลจะหนีพ้นได้ด้วยการช่วยเหลือของพระเจ้า ทำให้อิสราเอลยังมีความหวัง

อิสยาห์ 21-1

อิสยาห์ 21:1-5

บาบิโลนล่มแล้ว!

คำของพระเจ้ามาถึงถิ่นกันดารของทะเล   ขณะที่ลมหมุนจากเนเกบพัดกวาดมา มันมาจากถิ่นกันดาร จากดินแดนสยอง

ถิ่นกันดารเนเกบ ภาพจาก kumah.org
ถิ่นกันดารเนเกบ ภาพจาก kumah.org

มีนิมิตอันเข้มงวดมาถึงข้า  ผู้ทรยศก็หักหลัง  ผู้ทำลายก็เข้าทำลาย
เอลามเอ๋ย จงลุกขึ้น  มีเดียเอ๋ย  เข้าล้อมเมืองเลย ทุกการถอนหายใจที่มันทำให้เกิดขึ้นนั้น เราจัดการให้หมดสิ้นไปแล้ว  เอลามกับมีเดีย เป็นอาณาจักรที่เข้ามาทำลายบาบิโลนในปี 539 ก่อนคริสตศักราช

ดังนั้น เอวของข้าจึงมีแต่ความระทมทุกข์  ความเจ็บปวดยึดข้าไว้  เหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก

ข้าก้มตัวลงเพื่อว่าข้าจะไม่ต้องได้ยิน ข้าท้อแท้มากจนข้าจะไม่ต้องได้เห็น
ใจข้าเต้นไม่เป็นส่ำ ความน่ากลัวทำให้ข้าตกใจมาก  ยามโพล้เพล้ที่ข้าปรารถนากลับทำให้ข้าตัวสั่น   สิ่งที่อิสยาห์เห็นในนิมิตมันน่ากลัวมาก

เขาเตรียมโต๊ะไว้  เขาปูผ้า เขากิน เขาดื่ม  เจ้านายทั้งหลายเอ๋ยลุกขึ้นเถิด
ทาโล่ด้วยน้ำมัน!

อิสยาห์ 20

อิสยาห์ 20

อิสยาห์เตือนให้อิสราเอลรู้ว่า อย่า อย่าได้พึ่งมนุษย์ แต่ต้องพึ่งพระเจ้าเท่านั้น

sargon-inscription1

ในปีที่ราชาซาร์กอนแห่งอัสซีเรียส่งผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุด  มาถึงเมืองอัชโดดและยึดเมืองนั้นได้… พระเจ้าตรัสแก่อิสยาห์บุตรชายอามอสว่า

“ไป… ไปแก้ผ้ากระสอบออกจากเอวของเจ้า  ถอดรองเท้าออกด้วย” เขาก็ทำอย่างที่พระเจ้าทรงสั่ง  

ตอนนี้อิสยาห์จึงถอดเสื้อนอกคือเสื้อกระสอบ   แต่เขาไม่ได้เดินเปลือยกายทั้งตัวนะ    เขาไม่ใส่เสื้อคลุมตัวนอก เท่านั้น เขาคงเดินไปตามถนนแบบเปลือยล่อนจ้อนไม่ได้   เพราะเพียงแค่ไม่มีเสื้อคลุมนอก ก็เหมือนไม่ได้ใส่อะไรในสายตาของผู้คน 

พระเจ้าตรัสอีกว่า

“อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราเดินเปลือย เท้าเปล่าถึงสามปี เป็นสัญญาณและลางบอกเหตุให้แก่อียิปต์และเอธิโอเปียอย่างไร  เช่นกัน ราชาแห่งอัสซีเรียจะนำเชลยจากอียิปต์และเอธิโอเปียออกไป ทั้งคนหนุ่มและคนแก่ เดินตัวเปลือย เท้าเปล่า  ก้นของเขาก็เปิดโล่ง นี่แหละความเปล่าเปลือยของอียิปต์

พระเจ้าทรงให้อิสยาห์ทำเช่นนั้น มีความหมายถึงสภาพที่ถูกดูหมิ่นอย่างรุนแรงและตกต่ำเป็นที่สุด     

เขาทั้งหลายจะท้อถอยและอับอาย เป็นเพราะเอธิโอเปียความหวังของเขา  และอียิปต์ความโอ้อวดของเขา… และผู้ที่อาศัยอยู่ตามเมืองชายทะเลจะกล่าวในวันนั้นว่า “ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่เราหวังว่าจะช่วยเรา  คนที่เราหนีไปหาเพื่อให้พ้นจากกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย และเราล่ะ เราจะหนีไปอย่างไร?”

อิสยาห์ 19-3

อิสยาห์ 19:18-25

ในวันนั้นจะมีเมือง 5 เมืองในอียิปต์ที่พูดภาษาของคนคานาอัน  และสาบานว่าจะเป็นพันธมิตรกับพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  หนึ่งในเมืองนี้ มีชื่อว่า เมืองแห่งการทำลายล้าง

ในวันนั้นจะมีแท่นบูชาสำหรับพระเจ้าในแผ่นดินอียิปต์ และเสาเพื่อพระเจ้าณ เขตแดน  มันจะเป็นสัญลักษณ์และพยานถึงพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพในแผ่นดินอียิปต์  เมื่อพวกเขาร้องต่อพระเจ้า เนื่องจากมีคนมาเคี่ยวเข็ญ พระเจ้าจะทรงส่งผู้ช่วยและผู้ปกป้องมา และช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้น

และพระเจ้าจะทรงให้ชาวอียิปต์ได้รู้จักพระองค์   และชาวอียิปต์จะรู้จักพระองค์ และนมัสการด้วยเครื่องบูชา และเครื่องถวายบูชา  และพวกเขาจะปฏิญาณตนต่อพระเจ้า และกระทำตามนั้น

และพระเจ้าจะทรงตีอียิปต์  ตีแล้วรักษาไป  และพวกเขาจะหันกลับมาหาพระเจ้า และพระองค์จะทรงฟังคำขอเมตตาจากพวกเขา และพระองค์จะทรงรักษาเขาให้หาย

ภาพจาก tikkunministries.org
ภาพจาก tikkunministries.org

ในวันนั้น จะมีถนนหลวงสายตรงจากอียิปต์สู่อัสซีเรีย  และอัสซีเรียจะเข้ามายังอียิปต์  อียิปต์ก็เดินทางไปอัสซีเรีย   ชาวอียิปต์และชาวอัสซีเรียจะนมัสการพระเจ้าด้วยกัน

ในวันนั้น อิสราเอลจะมาเป็นที่สามกับอียิปต์และอัสซีเรีย  เป็นพระพรท่ามกลางประชาชาติในโลกนี้   คนที่พระเจ้าทรงอวยพระพร กล่าวว่า ความสุขจงมีแก่ชาวอียิปต์ คนของเรา   ชาวอัสซีเรียกิจแห่งมือเรา และอิสราเอลมรดกของเรา

อิสยาห์ 19-2

อิสยาห์ 19:8-15

ชาวประมงจะร้องทุกข์  เหล่าคนที่ตกปลาในแม่น้ำไนล์จะโศกเศร้า   คนที่ทอดแหก็จะอ่อนระอาใจ   ยิ่งกว่านั้น คนที่ทำป่านที่หวีแล้ว และคนที่ทอผ้าสีขาวจะสับสนและสิ้นหวัง

เสาและรากฐานแห่งอียิปต์จะถูกบดขยี้  และคนรับจ้าง คนสร้างเขื่อนต่างพากันโศกเศร้า

maenamnileเจ้าชายแห่งเมืองโศอัน (เมืองหลวงโบราณของอียิปต์)   ต่างโง่เขลาเป็นที่สุด     ที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมของฟาโรห์กลับกลายเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่โง่เง่า   เจ้าจะกล่าวกับฟาโรห์ได้อย่างไรว่า เราเป็นบุตรของปราชญ์  เราป็นบุตรของกษัตริย์โบราณ?

แล้วคนฉลาดในหมู่พวกเจ้าไปอยู่ไหนกันหมดนี่?   ให้เขาบอกเจ้าเดี๋ยวนี้  ให้เขาประกาศว่า พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ทรงมีพระประสงค์ใดจากอียิปต์

เจ้าชายแห่งโศอันกลายเป็นคนโง่    เจ้าชายแห่งเมืองเมมฟิสก็สับสน และถูกหลอก  เหล่าคนที่เป็นผู้ใหญ่ของเผ่าต่าง ๆ นำให้อียิปต์หลงทาง

พระเจ้าทรงปนวิญญาณแห่งความผิด ความสับสนไว้ในอียิปต์   ผู้นำทำให้อียิปต์เดินไม่ตรงทางเหมือนกับคนเมาเดินบนอาเจียนของตัวเอง

ไม่มีอะไรที่จะ่ช่วยอียิปต์ได้เลย   ไม่ว่าจะเป็นหัวหรือหาง ใบปาล์มหรือต้นอ้อเล็ก

ในวันนั้น อียิปต์จะเป็นเหมือนผู้หญิง  ทั้งขลาดกลัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้    เขาจะตัวสั่นด้วยความกลัวเพราะพระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพได้เขย่าเขา

แผ่นดินยูดาห์ จะกลายเป็นชื่อที่น่ากลัวสำหรับอียิปต์ ใครเอ่ยชื่อนั้นออกมาก็จะกลัว  เพราะว่า พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพมีพระประสงค์ที่จะต่อสู้กับอียิปต์

 

 

 

อิสยาห์ 19-1 เหตุเกิดในอียิปต์

อิสยาห์ 19:1-7

คำของพระเจ้าเกี่ยวข้องกับอียิปต์

ดูเถิด พระเจ้าทรงมาบนเมฆที่รวดเร็ว  และเสด็จมายังอียิปต์  เหล่ารูปเคารพของอียิปต์ก็ตัวสั่นต่อพระพักตร์พระองค์  หัวใจของชาวอียิปต์ก็ละลายไปภายใน

และเราจะกระตุ้นให้ชาวอียิปต์ลุกขึ้นสู้ชาวอียิปต์ด้วยกันเอง   พวกเขาจะสู้กันเอง สู้เพื่อนบ้าน เมืองสู้รบกับเมือง อาณาจักรสู้รบกับอาณาจักร

ภาพจาก earthsnapshot
ภาพจาก earthsnapshot

และวิญญาณข้างในของคนอียิปต์จะหายไป กลายเป็นว่างเปล่า และเราจะทำให้คำปรึกษาของพวกเขาสับสน  เขาจะถามจากรูปเคารพ และพ่อมด  รวมไปถึงคนทรงและหมอผี  และเราจะมอบคนอียิปต์ให้กับเจ้านายที่ดุดัน จะมีกษัตริย์ที่ดุร้ายปกครอง  พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนั้น

น้ำทะเลจะแห้งไป  แม่น้ำจะแห้งผาก ดินระแหง

และคลองทั้งหลายจะเน่าสกปรกน่าขยะแขยง  พืชพันธุ์ริมแม่น้ำจะแห้งเหี่ยว ต้นกกและกอปรือก็แห้งและผุพังไป

ริมน้ำไนล์จะมีแต่ความโล่งเตียน  เมล็ดที่เคยหว่านริมน้ำไนล์ก็แห้งเกรียม มันถูกไล่ออกไป และไม่มีอีก

คำของพระเจ้าเกี่ยวข้องกับอียิปต์

ดูเถิด พระเจ้าทรงมาบนเมฆที่รวดเร็ว  และเสด็จมายังอียิปต์  เหล่ารูปเคารพของอียิปต์ก็ตัวสั่นต่อพระพักตร์พระองค์  หัวใจของชาวอียิปต์ก็ละลายไปภายใน

และเราจะกระตุ้นให้ชาวอียิปต์ลุกขึ้นสู้ชาวอียิปต์ด้วยกันเอง   พวกเขาจะสู้กันเอง สู้เพื่อนบ้าน เมืองสู้รบกับเมือง อาณาจักรสู้รบกับอาณาจักร

และวิญญาณข้างในของคนอียิปต์จะหายไป กลายเป็นว่างเปล่า และเราจะทำให้คำปรึกษาของพวกเขาสับสน  เขาจะถามจากรูปเคารพ และพ่อมด  รวมไปถึงคนทรงและหมอผี  และเราจะมอบคนอียิปต์ให้กับเจ้านายที่ดุดัน จะมีกษัตริย์ที่ดุร้ายปกครอง  พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนั้น

น้ำทะเลจะแห้งไป  แม่น้ำจะแห้งผาก ดินระแหง

และคลองทั้งหลายจะเน่าสกปรกน่าขยะแขยง  พืชพันธุ์ริมแม่น้ำจะแห้งเหี่ยว ต้นกกและกอปรือก็แห้งและผุพังไป

ริมน้ำไนล์จะมีแต่ความโล่งเตียน  เมล็ดที่เคยหว่านริมน้ำไนล์ก็แห้งเกรียม มันถูกไล่ออกไป และไม่มีอีก

 

อิสยาห์ 18 พูดถึงเอธิโอเปีย

อิสยาห์ 18

อา  ดินแดนแห่งลมหมุน  แดนพ้นแม่น้ำแห่งแผ่นดินคูช

แผ่นดินที่กล่าวถึงนี้ คือ เอธิโอเปีย  พวกเขาส่งทูตออกไปทางทะเล  ในเรือที่ทำด้วยป่านปาปิรัส

ไป… ผู้ส่งข่าวที่รวดเร็ว  ไปยังประชาชาติที่ตัวสูง หน้าตาเกลี้ยงเกลา ไปยังชนชาติที่เขากลัว ทั้งใกล้และไกล  ไปยังชาติที่เข้มแข็งและเป็นผู้ชนะเสมอ  คนที่ดินแดนของเขามีน้ำแบ่งแผ่นดิน

EthiopiaPainting

ภาพวาดชาวเอธิโอเปีย

คนที่อาศัยอยู่ในโลก… เมื่อมีสัญญาณยกขึ้นบนภูเขา ก็จงมอง  เมื่อมีเสียงเขาสัตว์ ก็จงฟัง

เพราะพระเจ้าตรัสกับข้าว่า “เราจะมองมาเงียบ ๆ จากที่พักของเรา  เหมือนกับความร้อนกลางแดด  เหมือนอย่างเมฆแห่งน้ำค้างในฤดูเก็บเกี่ยว

ก่อนการเก็บเกี่ยว เมื่อดอกหมดไปแล้ว  เมื่อดอกลายเป็นผลองุ่นสุก  พระองค์จะทรงตัดกิ่งด้วยขอลิด   และกิ่งต่าง ๆ ที่ยื่นออกมานั้น พระองค์จะลิดและเอามันออกไป

พวกเขาจะถูกทิ้งไว้ให้กับเหยี่ยวบนภูเขา ทิ้งไว้ให้สัตว์ป่าบนแผ่นดิน

นกกินเหยื่อจะกินมันเสียในฤดูร้อน  สัตว์ป่าจะกินมันในฤดูหนาว

ในเวลานั้น เขาจะนำของบรรณาการมาถวายพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  จากประชาชนที่ตัวสูงและหน้าตาเกลี้ยงเกลา  จากประชาชนที่กลัว ทั้งใกล้และไกล

จากประชาชนที่เข้มแข็งและเป็นผู้ชนะเสมอ   แผ่นดินของพวกเขามีน้ำแบ่ง

พวกเขามายังภูเขาศิโยน  สถานที่แห่งพระนามของพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

Ethiopia

อิสยาห์ 17-3

อิสยาห์ 17:10-14

เพราะว่าเจ้าได้ลืมพระเจ้าแห่งความรอดของเจ้า  และไม่จดจำพระศิลาที่หลบภัยของเจ้า

ดังนั้น แม้ว่าเจ้าจะปลูกต้นพืชที่พึงใจ  และหว่านกิ่งองุ่นของคนแปลกหน้า

แม้เจ้าจะทำให้มันเติบโตในวันที่เจ้าปลูกมัน และทำให้มันออกดอกในเช้าวันที่เจ้าหว่าน แต่พืชพันธุ์เหล่านั้นจะหนีออกไป    ในวันแห่งความโศกเศร้าและเจ็บปวดสุดแสนจะทน

อา…เสียงของคนจำนวนมากมาย  เสียงดังราวกับเสียงคำรามของทะเล  อา… เสียงคำรามก้องของประชาชาติทั้งหลาย   พวกเขาส่งเสียงสนั่นราวกับน้ำ

 

ภาพจากhttp://biblicasimagens.blogspot.com
ภาพจากhttp://biblicasimagens.blogspot.com

เสียงครืนเหมือนกับก้อนน้ำใหญ่โต   แต่พระเจ้าจะทรงขนาบมัน  มันจะหนีเตลิดไปไกล   ถูกไล่ออกไปเหมือนกับเปลือกข้าวต้องลมบนภูเขา     เหมือนหญ้าปลิวฟุ้งต่อหน้าพายุ

ในเวลาเย็น  ดูเถอะ  ความน่ากลัว   ก่อนเวลาเช้า ก็จะไม่มีใครเหลือ  นี่เป็นส่วนของคนที่มาปล้นเรา  เป็นส่วนของคนที่แย่งชิงของเราไป

Is17_EveningTerror

หลายประเทศที่เข้ามาโจมตีอิสราเอล  แต่พวกเขาก็จะถูกพิพากษาลงโทษเช่นกัน  แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้มาจัดการกับคนของพระองค์   แต่พวกเขาก็ยังมีความผิดของตัวเองอยู่  มิใช่ว่า พระเจ้าใช้ใครแล้ว คนนั้นจะเป็นคนที่รอดพ้น  เราจะรอดพ้นได้เมื่อเรายอมต่อพระเจ้าในทุกกรณี  

อิสยาห์ 17-2

อิสยาห์ 17:4-9

ในวันนั้น ศักดิ์ศรีของยาโคบจะถูกเหยียดลง และไขมันของร่างเขาจะลีบลง  มันจะเป็นเหมือนตอนที่คนเกี่ยวต้นข้าวที่ออกรวง  แขนของเขาก็โอบรวงข้าวไว้   และเป็นเหมือนตอนที่เขาเก็บเศษข้าวในหุบเขาแห่งเรฟาอิม

สิ่งที่เหลืออยู่ในนั้น ก็เหมือนตอนฟาดต้นมะกอกเพื่อให้ลูกหล่น  จะมีเหลือสองสามลูกบนกิ่งที่สูงสุด   สี่ห้าลูกบนกิ่ง  องค์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้แหละ

ลูกมะกอก ภาพจาก en.wikipedia.org
ลูกมะกอก ภาพจาก en.wikipedia.org

เมื่อพระเจ้าทรงลงโทษอิสราเอลนั้น  พระองค์ทรงเอาจริง ไม่ใช่เล่น ๆ   ดังนั้น จะเหลืออยู่ไม่กี่คน….  เมื่ออัสซีเรียมาตีอิสราเอลทางเหนือ พวกเขาก็เห็นแล้วว่า แทบไม่เหลือคนบนแผ่นดินเลย 

ในวันนั้น  มนุษย์จะมององค์พระผู้สร้างของตน   เขาจะดูองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล   จะไม่มองไปที่แท่นบูชา  และผลงานฝีมือตัวเอง  เขาไม่มองสิ่งที่นิ้วของเขาสร้างมันขึ้นมา  ไม่ว่าจะเป็นอาเชริม หรือแท่นเผาเครื่องหอมที่ตนเองสร้าง

จะมีวันที่มนุษย์ ไม่มองรูปปั้น  รูปที่ตนเองทำขึ้นมาอีกต่อไป  แต่จะหันกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขา   เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า รูปเคารพไม่ใช่ผู้สร้างเขาขึ้นมา 

ในวันนั้น เมืองที่เข้มแข็งจะถูกทิ้งเป็นที่รกร้าง  เหมือนกับ  ที่เขาทิ้งมันให้ร้างก็เพราะคนอิสราเอล  มีพุ่มไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกรุงรัง   มันจะเป็นที่ร้างเปล่า….

อิสยาห์ 17-1

อิสยาห์ 17:1-3

คำของพระเจ้ามาถึงเมืองดามัสกัส

ดูเถิด  ต่อไปดามัสกัสจะไม่เป็นเมืองหลวง   จะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง

หัวเมืองของดามัสกัสเองก็จะไม่มีเหลือต่อไป  จะเป็นที่สำหรับฝูงแพะแกะ

เหล่าสัตว์ทั้งหลายจะนอนลง  และไม่ต้องกลัวใครอีกต่อไป

หลังจากนั้นมาไม่นาน  ดามัสกัสก็ถูกอัสซีเรียตี   แต่เขาก็สร้างเมืองขึ้นมาใหม่  แม้ในปี 1860 ที่ถูกทำลายอีกครั้ง เขาก็ยังสร้างเมืองขึ้นมาได้ใหม่อีก  …. เอ… คำพยากรณ์ของท่านอิสยาห์ยังไม่ถึงที่สุดใช่ไหม ?  วันนี้ ดามัสกัสเองก็เจอกับสงครามกลางเมืองอีก….

ดามัสกัสเมื่อ 1860
ดามัสกัสเมื่อ 1860 

 ภาพจาก lebanontimes.com

อะไรจะเกิดขึ้นกับดามัสกัสต่อไป  

ป้อมปราการทั้งหลาย จะหายไปจากเอฟราอิม  และอาณาจักรจะหายไปจากดามัสกัส

คนที่เหลืออยู่ของซีเรีย จะเป็นเหมือนศักดิ์ศรีของคนอิสราเอล

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ตรัสดังนี้

อิสยาห์ 16-2

อิสยาห์ 16:6-13

เราได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่งของโมอับ… เขาช่างหยิ่งเสียจริง ๆ  ไม่ว่าจะเป็นความยะโสของเขา  ความอวดตัว  ความทรนงของเขา  เขาโอ้อวดอย่างไร้ค่า สูญเปล่า

ดังนั้น ปล่อยให้ชนโมอับร่ำไห้เพื่อแผ่นดินโมอับ  ให้ทุกคนร้องไห้คร่ำครวญ   เจ็บปวดเป็นที่สุด  เพื่อเค้กลูกเกตของคีร์หะเรเสท(นั่นก็คือ ผู้คนในแผ่นดินนั้น)

ท้องทุ่งแห่งเฮชโบนก็แห้งเหี่ยวไป และเถาองุ่นของสิบมาห์ก็ถูกขุนศึกจากประเทศต่าง ๆ เข้ามาเหยียบย่ำ  ทำลายกิ่งที่เคยแผ่ขยายไปจนถึงยาเซอร์  และแผ่เข้าไปในถิ่นกันดาร  หน่อของมันขยายออกไปผลิผลถึงทะเล

ดังนั้นข้าจึงร้องไห้เหมือนที่ยาเซอร์ร่ำไห้ถึงเถาองุ่นแห่งสิบมาห์

โลงหินโบราณของชาวโมอับภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Moab
โลงหินโบราณของชาวโมอับ
ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Moab

ข้าหลั่งน้ำตาให้เจ้าจนชุ่ม… เจ้าเฮชโบนและเอเลอาเลห์   เพราะว่าเสียงโห่ร้องของเจ้ายามที่ผลไม้ฤดูร้อนออกผล และยามที่เก็บเกี่ยวข้าวนั้นเงียบลงไปเสียแล้ว

ความยินดีและความชื่นชมหายไปจากแผ่นดินที่อุดม  ไม่มีเสียงร้องเพลงในสวนองุ่นอีก  ไม่มีเสียงโห่ร้องอย่างมีความสุข   ไม่มีใครย่ำองุ่นในบ่อองุ่นเลย  เราเป็นผู้หยุดเสียงร้องเหล่านั้น

ดังนั้น ส่วนภายในใจของเราจึงคร่ำครวญราวกับเสียงพิณเพื่อโมอับ ส่วนลึกที่สุดของเรานั้นเสียใจแทนคีร์-หะเรเสท โมอับเหนื่อยเปล่าเมื่อเขาไปยังที่สูง  เมื่อเขาไปยังที่เทวสถานเพื่ออธิษฐานบนบาน เพราะเขาจะไม่ได้รับคำตอบ

นี่เป็นคำของพระเจ้าซึ่งตรัสถึงโมอับในอดีต   แต่บัดนี้ พระเจ้าตรัสว่า “ภายในสามปีที่เหมือนกับช่วงปีของการจ้างแรงงาน   ศักดิ์ศรีอันตระการของโมอับจะถูกเหยียดหยาม  แม้ว่าเขาจะมีประชากรมากมาย  แต่คน เหลือจะมีอยู่น้อยมากและยังอ่อนล้าโรยแรงอีกด้วย ..”

อิสยาห์ 16-1

อิสยาห์ 16:1-5

ส่งลูกแกะไปให้ผู้ปกครองแผ่นดิน จากเศ-ลา ผ่านถิ่นกันดาร ไปยังภูเขาของธิดาแห่งศิโยน
ธิดาแห่งโมอับ ที่ท่าอาร์โนน เป็นเหมือนนกที่กำลังหนี  เป็นเหมือนรังนกที่กระจัดกระจาย

อิสยาห์ชวนให้โมอับส่งบรรณาการไปยังราชาแ่ห่งยูดาห์   เพื่อว่าพวกเขาจะได้ปลอดภัย  โมอับนั้น ตอนนี้ กำลังกระเจิดกระเจิงเพราะการลงโทษของพระเจ้า  แต่… ความผู้พันของโมอับกับยูดาห์นั้นก็มีไม่น้อย  เพราะราชาดาวิดทรงเป็นหลานย่าของย่าชาวโมอับ….  อย่างน้อยในราชวงศ์ของดาวิดยังมีเชื้อสายของชาวโมอับอยู่ด้วย   ดูเหมือนว่าท่านอิสยาห์กำลังเสียใจที่โมอับจะถูกทำลาย

จงให้คำปรึกษา  จงให้ความยุติธรรม   จงทำให้เพิงของเจ้าเป็นเหมือนกลางคืนในยามเที่ยง    ช่วยปกป้องคนไร้ถิ่น  อย่าแจ้งความคนที่พลัดบ้านเมืองมา

มองจากโมอับไปทางทะเลตาย
มองจากโมอับไปทางทะเลตาย

อิสยาห์ขอให้คนของพระเจ้าเมตตาต่อชาวโมอับ 

จงให้คนไร้บ้านจากโมอับอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า  จงปกป้องเขาจากผู้ที่จะมาทำลาย   เมื่อไม่มีผู้กดขี่ และความหายนะหมดสิ้นลง  และคนที่เหยียบย่ำประชาชนหายไปจากแผ่นดิน

แล้วจะมีบัลลังก์หนึ่งถูกสถาปนาขึ้น ด้วยความรักมั่นคง  และทรงปกครองจากบัลลังก์ด้วยความซื่อตรง ในเต้นท์แห่งดาวิด  ท่านผู้นี้ ทรงพิพากษาและแสวงหาความยุติธรรม ทรงทำการเที่ยงธรรมอย่างรวดเร็ว

อิสยาห์กำลังทำนายว่า วันหนึ่งพระเมสสิยาห์จะมา  พระองค์เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมเพื่อช่วยให้มนุษย์รอดได้

อิสยาห์ 15

อิสยาห์ 15

คำกล่าวถึงอนาคตของโมอับ …เพราะว่าเมืองอาร์ในโมอับนั้นถูกทำลายในเวลากลางคืน โมอับหายนะ!
เพราะว่าเมืองคีร์ในโมอับถูกทำลายในเวลากลางคืน  โมอับหายนะ!

เขาขึ้นไปยังวิหาร ไปยังดีโบน ไปยังที่สูงเพื่อร่ำไห้เพราะเมืองเนโบ และเมืองเมเดบา  

แผ่นดินโมอับอยู่ทางตะวันออกของยูดาห์   ชนชาวโมอับเป็นลูกหลานของโลทซึ่งเป็นหลานของอับราฮัม    แม้ว่าจะมีเชื้อสายต้นตระกูลมาใกล้ ๆ กัน แต่ทั้งโมอับ กับอิสราเอลก็ต่อสู้กันมาตลอด   โดยที่ช่วงอิสยาห์นั้น โมอับก็เป็นเมืองขึ้นของยูดาห์ด้วย  

โมอับคร่ำครวญ  ศีรษะของทุกคนต่างล้านเลี่ยน  และเคราก็ถูกโกนกันไปหมด 

พวกเขาสวมเสื้อกระสอบเดินไปตามถนน  บนหลังคน และที่สี่แยก  ทุกคนร่ำไห้เต็มด้วยน้ำตา

คนเมืองเฮชโบน และเมืองเอเลอาเลห์ร้องเสียงดังไปถึงเมืองยาฮาส   และนักรบของโมอับก็ร้องเสียงดังด้วยจิตใจที่สั่นระรัว

ใจของข้าร้องไห้เพื่อโมอับ ผู้ลี้ภัยของเขาก็หนีไปยังเมืองโศอาร์ ไปยังเอกลัท-เชลีชิยาห์   พวกเขาร้องไห้ขึ้นไปทางลูฮีท  ทางถนนสู่เมืองโฮโรนาอิมพวกเขาก็ร้องเสียงดังถึงความหายนะ

พระเจ้าเองทรงเสียพระทัยกับการที่พวกเขาจะต้องถูกลงโทษนี้ด้วย   พระเจ้าทรงลงโทษพวกเขาด้วยพระทัยสลาย….
ธารน้ำนิมริมก็แห้ง  หญ้าเหี่ยวเฉา   ผักหญ้าก็ไม่ขึ้น  ไม่มีสีเขียวขจีอีกต่อไป

ดังนั้น เขาจึงแบกความอุดมสมบูรณ์ที่ได้มา และสิ่งที่พวกเขาสะสมไว้ ข้ามลำธารต้นหลิว

เสียงร้องของผู้คนดังไปทั่วดินแดนโมอับ  เสียงคร่ำครวญดังไปถึงเอกลาอิม  เสียงร่ำไห้ดังถึงเบเออร์เอลิม

ภาพโดย Franz Hanfstaengl (1804-1877)
ภาพโดย Franz Hanfstaengl (1804-1877)

 

น้ำในห้วยดิโบนเต็มไปด้วยเลือด  เพราะเราจะจัดการกับดิโบนต่อ

สิงโตตัวหนึ่งจะตามล่าชาวโมอับที่หนีไป  และล่าคนที่ยังหลงเหลืออยู่ในแผ่นดิน

อิสยาห์ 14-6

อิสยาห์ 14:

คำกล่าวเกี่ยวข้องกับฟิลิสเตีย

ในปีที่ราชาอาหัสสิ้นพระชนม์  คำกล่าวนี้ก็เข้ามา… ชนฟิลิสเตียเอ๋ย  เจ้าทั้งหมดนั่นแหละ  อย่าดีใจไปนักที่ไม้พลองซึ่งเคยตีเจ้าตอนนี้แตกหักไปแล้ว

พระเจ้าตรัสว่า ฟิลิสเตียอย่าดีใจที่กษัตริย์อัสซีเรียถูกทำลายไป  เพราะจะมีกษัตริย์ที่ร้ายกว่านั้นขึ้นมา
เพราะว่าจะรากของงูร้ายนั้นจะมีงูพิษอีกตัวเข้ามา  ผลของมันคืออสรพิษไฟที่บินได้

ภาพโดย Kainchaos  จินตนาการ อสรพิษที่บินได้
ภาพโดย Kainchaos จินตนาการ อสรพิษที่บินได้

ลูกหัวปีของคนยากจนจะหากินตามหญ้า  และคนที่ขัดสนจะนอนลงอย่างปลอดภัย   แต่เราจะสังหารรากเง่าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร  และคนที่หลงเหลืออยู่จะถูกฆ่า

ร้องคร่ำครวญซิ  ประตูเมืองเอ๋ย ร้องออกมา เมืองเอ๋ย จงละลายไปด้วยความกลัว  โอฟิลิสเตีย  เจ้าทั้งหมดนั่นแหละ  เพราะว่า ควันนั้นออกมาจากทางเหนือ  และไม่มีคนที่พลัดหลงอยู่ในหมู่พวกเขา
แล้วเราจะตอบผู้สื่อสารของประเทศนั้นว่าอย่างไร
ก็ตอบว่าพระเจ้าได้ทรงสร้างศิโยน และคนที่ยากเข็ญในชนชาติของพระองค์จะได้ลี้หลบภัย

ถ้าใคร ๆ ถามว่า ทำไมพระเจ้าทรงพิพากษาผู้คน   คำตอบก็ง่าย ๆ  พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างเมืองศิโยน และพระเจ้าทรงห่วงคนยากจนเสมอ