วันที่ปุโรหิตล้ม ๕-๒

2 พงศาวดาร 5:10-14

ทายซิว่า มีอะไรอยู่ในหีบพันธสัญญาของพระเจ้า   ทำไมจึงสำคัญมากยิ่งนัก  ….

เป็นอะไรนะ?  ทองคำบริสุทธิ์หรือ?

คงไม่ใช่ เพราะในพระวิหารมีทองคำประดับอยู่ล้นเหลือ

หรือว่าเป็นเพชรน้ำเอก  เพชรก้อนโตที่เจียระนัยมาอย่างสวยงาม….

แต่ในพระวิหารก็มีอัญมณีประดับอยู่มากมายเช่นกัน

ของสิ่งนี้  ใส่ในหีบมานานแล้ว  ตั้งแต่สมัยโมเสส… พอจะนึกออกแล้วหรือยัง

ก็ชื่อ หีบพันธสัญญา  ….ในนั้น ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพันธสัญญาของพระเจ้า

คิดออกแล้วใช่ไหม…

ในหีบนั้น มีแผ่นหินก้อนใหญ่สองก้อน   จารึกพระบัญญัติสิบประการไว้ ครั้งที่พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับคนอิสราเอลตอนที่พวกเขาออกมาจากอียิปต์ใหม่ ๆ    นี่เป็นเครื่องหมายที่บอกว่า พระเจ้าทรงอยู่กับเขา  เขาเป็นประชากรของพระองค์ และเขาจะดำเนินตามพระประสงค์ของพระองค์   มีบัญญัติบอกทางแล้วว่า พวกเขาจะดำเนินชีวิตอย่างไร

จินตนาการของผู้วาด .... ภาพจาก pitts.emory.edu

เมื่อได้อัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้าเข้าไปในอภิสุทธิสถานแล้ว เหล่าปุโรหิตก็เดินออกมาจากพระวิหาร ส่วนเลวีที่เป็นนักร้อง ยืนอยู่ทางตะวันออกของแท่นบูชา

ไม่เฉพาะนักร้องเท่านั้น ยังมีนักดนตรี ใส่เสื้อผ้าป่าน ถือ ฉาบ พิณใหญ่  พิณเขาคู่ และคนแตรอีก 120 คน

พวกเขาร้องเพลงเสียงสนั่นบริเวณพระวิหาร  ดังออกไปในเมืองเยรูซาเล็ม  ผู้คนได้ยินเสียงดนตรี และเสียงร้องเพลงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

“เพราะว่า พระเจ้าประเสริฐยิ่งนัก

ความรักมั่นคงดำรงเป็นนิตย์

เพราะว่าพระเจ้าประเสริฐยิ่งนัก

ความรักมั่นคงดำรงเป็นนิตย์”

พวกเขาร้องเพลงย้ำให้คนทั้งหลายรู้ว่า ความรักของพระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลงและยังดำรงอยู่เพื่อพวกเขาตลอดไป

ขณะที่กำลังร้องเพลงอยู่นั้น

มีเมฆแห่งพระสิริของพระเจ้าเต็มในพระวิหาร

จนปุโรหิตล้มลง ไม่อาจยืนต่อพระพักตร์ของพระเจ้าได้!

 

จากกระโจม สู่พระวิหาร ๕-๑

2 พงศาวดาร 5:1-9

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว  ราชาซาโลมอนก็ทรงเรียกประชุมบรรดาผู้ใหญ่ หัวหน้าเผ่าในอิสราเอล  หัวหน้าของตระกูลต่าง ๆ ในเยรูซาเล็ม   เพื่อจะเตรียมการอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้า ซึ่งขณะนั้น อยู่ในกระโจมซึ่งราชาดาวิดได้สร้างไว้

เหตุการณ์วันนี้ เป็นเรื่องสำคัญมาก  ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมาเป็นตัวแทนของคนอิสราเอลทั้งประเทศ   เพื่อให้เห็นสิ่งนี้ และจะกลับไปเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนในตระกูล  และเผ่าของพวกเขาได้รับรู้และสรรเสริญพระเจ้ากันต่อไป

วันนั้น ทั้งพระราชา และหมู่คนอิสราเอลถวายแกะและวัวมากมายจนนับไม่ไหว  สัตว์เหล่านี้จะกลายเป็นเครื่องบูชาต่อไป

ในที่สุดพวกเขาก็ทำการนำหีบพันธสัญญาและเครื่องใช้ต่าง ๆ มาจากกระโจม

โดยที่พวกเขาทำอย่างถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดพลาดเลย

เหล่าคนเลวีใช้คานหามหีบขึ้นมา  เป็นคานที่ยาวมาก  และนำไปไว้ที่ห้องอภิสุทธิสถาน…. มีปุโรหิตเป็นผู้ที่นำเข้าไป

ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท

 

ในภาพนั้น คานยังยาวไม่พอ  เพราะพระคัมภีร์บันทึกว่า คานยาวเลยห้องอภิสุทธิสถานออกมา แสดงว่า ยาวกว่า 20 ศอก

เมื่อวางหีบพันธสัญญาไว้ ก็เท่ากับเครูปทองคำที่สร้างรออยู่ มีท่าทางที่กางปีกออกปกคลุมหีบพันธสัญญาไว้ เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก

วันนั้นเป็นวันที่ทุกคนต่างปลาบปลื้มใจ   พระวิหารโอ่อ่าตระการ การถวายเครื่องบูชาก็ยิ่งใหญ่ …. และวันนั้นเอง พวกเขายังได้พบสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน!!!

 

เครื่องใช้ในพระวิหาร ๔

2 พงศาวดาร 4

พระวิหารของพระเจ้า เป็นที่ ๆ คนอิสราเอลจะเข้ามาถวายเครื่องบูชา และนมัสการพระเจ้า มีอะไรบ้างนะที่เป็นของจำเป็นที่จะใช้ซึ่งราชาซาโลมอนได้เตรียมไว้

ราชาซาโลมอนทรงมีหุรามที่เป็นช่างจากราชาฮีราม  ไม่ว่าทรงต้องการอะไร  หุรามก็ทำให้ได้ทั้งหมด  เขาเอาสิ่งที่เป็นทองเหลืองไปเข้าเบ้าดินเหนียว ในที่ราบแถบแม่น้ำจอร์แดน แล้วขนกันมาที่พระวิหารนั้น

แท่นบูชาทองเหลือง 20x20x10  ศอก   เป็นแท่นมโหฬารที่กว้างยาวเท่ากับห้องอภิสุทธิสถาน!

มีอ่างใหญ่หล่อจากทองเหลือง เรียกขันสาคร ใช้ใส่น้ำเพื่อให้ปุโรหิตชำระร่างกาย    ขันนี้ จุน้ำได้ 66 กิโลลิตร หนา 1 ฝ่ามือ เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ศอก สูง 5 ศอก  โดยใต้ขอบ นั้นมีลายวัวศอกละ 10 ตัว หล่อเป็นเนื้อเดียวกัน  ขันสาครนี้ ตั้งบนวัวทองเหลือง 12 ตัว หันไป 4 ทิศ

มีหม้อ ทัพพี  อ่างประพรมด้านนอกด้วย  และยังมีอ่างอีก 10 ใบเพื่อบรรจุน้ำล้างเครื่องเผาบูชา

ภาพนี้จาก  Solomon’s Temple:ESV Study Bible ผ่านทาง www.souljournaler.blogspot.com

ในพระวิหารมีโต๊ะ 10 ตัว ทางทิศเหนือและใต้
อ่างประพรมทองคำอีก 100 ใบ
แท่นบูชาทองคำ
โต๊ะสำหรับวางขนมปัง
คันประทีปทองคำ ให้จุดตะเกียงมีไฟตลอดเวลา
กรรไกรตัดใส้ตะเกียง อ่างประพรม จานชาม กระถางไฟซึ่งทำจากทองคำทั้งหมด

เมื่อทำเสร็จแล้ว ราชาซาโลมอนก็นำทุกอย่างมาเก็บไว้ในคลังพระวิหารของพระเจ้า

 

พระวิหารที่ซาโลมอนทรงสร้าง ๓

2  พงศาวดาร 3

ลานนวดข้าวของโอรนัน … บนภูเขาโมริยาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม  เป็นพื้นที่ซึ่งราชาซาโลมอนจะทรงสร้างพระวิหาร    พระองค์ครองราชย์มา 4 ปีแล้ว  และเวลานี้ เป็นเวลาที่พอเหมาะ การเตรียมไม้จากเลบานอนก็ครบถ้วนแล้ว

มีการขุดวางรากฐาน ยาว  60 ศอก กว้าง 20 ศอก (1 ศอกประมาณ 45 เซ็นติเมตร)   มุขด้านหน้ากว้าง 20 ศอก  สูง 20 ศอก

ภายในพระวิหารบุด้วยทองคำ

ห้องโถงทำจากไม้ที่บุด้วยทองคำเช่นกัน ตกแต่งเป็นลายต้นอินทผลัม  กับโซ่
รู้ไหมว่า ทั้ง คาน เพดาน วงกบประตู  ผนัง  ประตูพระวิหาร ล้วนบุทองคำทั้งหมด  นี่มันตระการตาจริง ๆ นะ

ภาพวาดโดย จอห์น มิลลาห์ วัตต์ ภาพจาก www.illustrationartgallery.com

ในห้องอภิสุทธิสถานบุด้วยทองคำ 21 ตัน  มีเครูปจำลองหุ้มทองคำ ช่วงกว้างของปีกรวม 20 ศอก  ทำให้ยาวติดผนังด้านหนึ่งไปยังผนังอีกด้าน   ยืนหันหน้าไปทางห้องโถง

ม่านทำด้วยผ้าลินินเนื้อดี ปักลวดลายเครูป ด้ายน้ำเงิน ม่วงแดง

หน้าหน้าพระวิหาร มีเสาหานสองต้น สูง 35 ศอก  หัวเสา 5 ศอก  ทำโซ่ระย้าติดไว้บนหัวเสา และทับทิม 100 ผลห้อยติดกับตาข่าย เสาด้านเนื้อเชื่อโบอาส  ด้านใต้ชื่อยาคีน

 

 

 

 

ของถวายล้นเหลือ ๒๙-๑

1 พงศาวดาร 29:1-9

ราชาดาวิดทรงหันมาตรัสกับประชาชน
“ท่านพี่น้องชาวอิสราเอลทั้งหลาย   ซาโลมอน ลูกชายของเราซึ่งพระเจ้าทรงเลือกไว้  ยังเป็นเด็กหนุ่ม ไม่มีความชำนาญ  การงานนี้ก็ใหญ่มาก  เพราะพระวิหารนี้ไม่ใช่สำหรับคน แต่สำหรับพระเจ้า

เราจึงได้เตรียมทุกอย่างสุดความสามารถของเรา   ทั้งทองคำ เงิน ทองเหลือง เหล็ก ไม้ อัญมณี  และหิน  เพื่อให้เขาได้ทำงานสะดวกขึ้น”

ประชาชนทั้งหลายต่างพยักหน้า  พวกเขาเห็นความตั้งใจจริงของพระราชา และพวกเขาเห็นเป็นพยานว่า พระราชาได้ทรงทำงานหนักเพียงใดเพื่อเตรียมวัสดุต่าง ๆ พร้อมสำหรับการสร้างพระวิหาร

แต่สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึง คือสิ่งที่พระราชาตรัสต่อไป

“และเราก็ขอถวายสิ่งที่เรามีส่วนตัวนั้น แด่พระเจ้าเพื่อร่วมในการสร้างพระวิหารนี้
เป็นทองคำจากเมืองโอฟีร์  100 ตัน ( 3,000 ตะลันท์)
เงินถลุงแล้ว 240 ตัน  (7,000 ตะลันท์)  เพื่อนำไปบุผนังอาคารพระวิหาร
ทองคำและเงินเหล่านี้ยังจะนำไปทำเครื่องใช้ในพระวิหารด้วย ”

This file is licensed under the Creative Commons Attribution-Share Alike 3.0 Unported license.

“โอ้โห!!” เสียงดังขึ้นมาจากประชาชน

“ขอพระราชาจงทรงพระเจริญ!” พวกเขาต่างปลื้มใจที่พระราชาไม่ได้หวงทรัพย์สมบัติมากมายนี้ไว้สำหรับพระองค์เองหรือราชวงศ์

“และตอนนี้มีใครบ้าง    ที่จะถวายของและถวายตัวแด่พระเจ้าในวันนี้?”  ราชาดาวิดทรงถามพวกเขา

การที่พระราชาทรงถวายของก่อน ทำให้ทุกคนก็เต็มใจถวายเช่นกัน
ทั้งหัวหน้าเผ่า เจ้านาย  ทหาร ข้าราชการทั้งปวง ได้ร่วมกันถวายเป็น

ทองคำ      170 ตัน (5,000 ตะลันท์)  และยังมีมารวมอีก 84 ตัน ( 10,000 ดาริค)
เงิน           345  ตัน (10,000 ตะลันท์)
ทองเหลือง  610 ตัน  (18,000 ตะลันท์)
เหล็ก      3,450 ตัน   (100,000 ตะลันท์)!!

นอกจากนั้นยังมีคนถวายอัญมณีต่าง  ๆ ไว้ในคลังพระวิหาร

ประชาชนทุกคนต่างมีความสุขในการถวายครั้งนี้   เขาถวายด้วยความเต็มใจ และจริงใจ

คนที่มีความสุขปลาบปลื้มที่สุดเห็นจะเป็นราชาดาวิดนี่เอง

 

ข่าวจากพระราชา (ต่อ)๒๘-๓

1 พงศาวดาร 28:9-21

ต่อหน้าประชาชน ราชาดาวิดได้ตรัสแก่ซาโลมอนว่า
“ซาโลมอน ลูกชายของเรา   จงรู้จักพระเจ้า และปรนนิบัติพระองค์อย่างเต็มใจจากใจจริงของเจ้า   เพราะว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้พิจารณาจิตใจของมนุษย์ทั้งหลาย  พระองค์ทรงเข้าใจในแผนงาน และความคิดทั้งสิ้น

ถ้าเจ้าแสวงหาพระเจ้า  เจ้าจะพบพระเจ้า

แต่ถ้าเจ้าทอดทิ้งพระองค์  พระองค์จะทรงเหวี่ยงเจ้าออกไป

จงฟังเราให้ดี  … พระเจ้าทรงเลือกให้เจ้าเป็นผู้สร้างพระวิหาร เพื่อจะเป็นที่นมัสการพระองค์

จงเข้มแข็งนะลูกรัก    และทำทุกอย่างให้สำเร็จ”

 

ต่อหน้าประชาชนพระองค์ทรงมอบแผนผังการสร้างพระวิหารให้กับซาโลมอน  เป็นรายละเอียดที่ชัดเจน ทั้งตัวพระวิหาร ลานข้างนอก  ห้องที่เป็นระเบียงรอบนอก  คลังเก็บของต่าง ๆ

ยังมีผังเวรของปุโรหิต คนเลวี และงานหน้าที่ต่าง ๆ   ผังสิ่งของเครื่องใช้ในพระวิหาร

รายละเอียดน้ำหนักของทองคำ น้ำหนักเงินสำหรับการทำเครื่องใช้ต่าง ๆ ทั้งสิ้น

ยังมีแผนผังรถรบทองคำของเครูปที่กางปีกออกเหนือหีบพันธสัญญา

 

ที่น่าสนใจคือ ราชาดาวิดได้ทรงทำงานนี้ด้วยฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า

พระเจ้าทรงเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบพระวิหาร  !!

งานทุกอย่างต้องทำตามแผนดังกล่าว

 

ราชาดาวิดยังทรงให้กำลังใจกับโอรสซาโลมอนอีก

“จงเข้มแข็ง  กล้าหาญ และทำให้สำเร็จนะลูกรัก   อย่ากลัว  อย่าขยาดไปเสียก่อน  เพราะว่า พระเจ้าของพ่อจะทรงอยู่กับเจ้า  จะไม่ทรงยอมให้เจ้าล้มเหลว   พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งเจ้าจนกว่างานจะสำเร็จ

ลูกดูซิ  มีเวรคนทำงานตั้งแต่ปุโรหิตจนคนที่ทำงานเล็กน้อย  ทุกคนเต็มใจทำงานกับเจ้า  พวกเขามีฝีมือชั้นเยี่ยม พวกเขาจะอยู่ภายใต้การบัญชาของเจ้าทั้งสิ้น”

 

ข่าวจากพระราชา (ต่อ) ๒๘-๒

1 พงศาวดาร 28:5-8, สดุดี 62:6-7

พระราชาทรงหันมาทางซาโลมอน ราชโอรส  ตรัสต่อไปว่า

“พระเจ้าประทานบุตรชายให้เราหลายคน  และพระองค์ทรงเลือกซาโลมอนให้เป็นราชาเหนืออิสราเอล  พระเจ้าได้ตรัสกับเราว่า … ซาโลมอน ลูกชายของเจ้า จะสร้างพระวิหารและลานพระวิหารของเรา

เราได้เลือกเขาเป็นลูกของเรา

และเราจะเป็นพ่อของเขา

เราจะตั้งอาณาจักรของเขาให้อยู่ตลอดไป

ถ้าเขาจะมั่นคง แน่วแน่ในการรักษาชีวิตตามบัญญัติของเรา

ตามกฎหมายของเราอย่างที่เขาทำอยู่……”

แล้วราชาดาวิดหันมาหาประชาชน

“ดังนั้น  วันนี้ ต่อหน้าประชาชนอิสราเอล ชุมชนของพระเจ้า  ต่อพระกรรณพระเจ้าของเรา

ขอให้ท่านทุกคนได้ประพฤติตาม และแสวงพระบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เพื่อท่านทั้งหลายจะได้มีกรรมสิทธิ์ในแผ่นดินนี้ สืบต่อไปยังลูกหลานด้วย”

ราชาดาวิดทรงห่วงใยที่ประชาชนและซาโลมอนจะตามติดพระเจ้าไม่หยุดยั้ง

พระองค์ทรงตระหนักดีว่า ความสำเร็จ ความรุ่งเรือง  ความปลอดภัยของประชาชนนั้น ขึ้นอยู่กับการที่คนของพระองค์ติดตามพระเจ้าแค่ไหน   ยิ่งติดตามพระเจ้า  พระเจ้าทรงพอพระทัย  พระองค์ก็จะอวยพระพรพวกเขา  พระองค์จะทรงฟังเสียงร้องทูลของพวกเขา

ราชาดาวิดเอง ทรงเป็นผู้ที่รักพระเจ้า และแสวงหาพระเจ้าเสมอ

พระองค์เคยตรัสว่า

พระเจ้าเท่านั้น ทรงเป็นศิลาและความรอดของข้าพเจ้า

เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าจึงไม่หวั่นไหว

การช่วยกู้  เกียรติยศของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้า

ศิลาอันทรงฤทธิ์ และที่ลี้ภัยของข้าพเจ้าคือพระเจ้า

 

 

ข่าวจากพระราชา ๒๘-๑

1    พงศาวดาร 28:1-4

การจัดการปกครองของราชาดาวิดนั้น  ละเอียด รอบคอบ  และรอบด้าน   ข้าราชการทั้งหลายต่างมีหน้าที่เฉพาะตน ไม่ซ้ำซ้อนกัน  ส่วนผู้ที่ดูแลฝ่ายจิตวิญญาณในพระวิหารก็มีหน้าที่แตกต่างกันไปเช่นกัน

แต่เรื่องพระวิหารนั้น

สำหรับราชาดาวิดนั้น  สำคัญยิ่งนัก  ดูเหมือนจะสำคัญมากที่สุดในสายพระเนตรของพระองค์
ราชาดาวิดทรงมองเห็นว่า ประชาชนจะมีความเป็นอยู่ที่ดี ก็เมื่อพวกเขาทำสิ่งที่ถูกต้องต่อพระเจ้า สัตย์ซื่อ และปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดใจ

ราชาดาวิดทรงเอาใจใส่ประชาชนก็จริง  แต่พระเจ้าทรงใหญ่ยิ่งสูงสุดสำหรับพระองค์

ดังนั้น ราชาดาวิดจึงทรงเรียกประชุมข้าราชการทั้งสิ้น  ผู้นำเผ่า และผู้บังคับบัญชากองทหาร  นายพัน  นายร้อย ผู้ดูแลการคลัง และผู้ดูแลฝูงสัตว์ของพระราชาและราชวงศ์

ทรงเรียกผู้ที่ทำงานในราชสำนัก วีรบุรุษ ทหารกล้าให้มาพร้อมหน้ากัน

 

เมื่อถึงเวลา ประชาชนพากันร้องกราบทูลว่า

“ขอพระราชาจงทรงพระเจริญ”

ราชาดาวิดได้ตรัสกับพวกเขาว่า

“พี่น้องของเรา  ประชาชนของเรา   ขอฟังราชาของท่าน

เรามีใจปรารถนาอย่างยิ่งที่จะสร้างพระวิหารให้เป็นที่สถิตของหีบพันธสัญญาของพระเจ้า

ให้เป็นที่รองพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า   และบัดนี้ เราได้เตรียมการก่อสร้างไว้เสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง ตามที่ท่านทั้งหลายเห็น”

ประชาชนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

“แต่พระเจ้าตรัสกับเราว่า … เจ้าอย่าสร้างพระวิหารเพื่อนามของเราเลย  เพราะเจ้าเป็นนักรบ  เข้าไปในการสงคราม การนองเลือดมากมาย  และเจ้าได้ทำให้คนต้องหลั่งเลือด…”

น่าแปลกจริง ๆ ที่ราชาดาวิดทรงกล้าหาญที่จะพูดสิ่งนี้กับประชาชน  ทำไมถึงทรงป่าวประกาศให้ทุกคนรู้  เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องบอกใครก็ได้นี่นา   ถ้าพระองค์จะประทานอำนาจให้ซาโลมอนไปสร้างพระวิหาร ก็ไม่มีสิ่งใดผิด

“แต่ถึงเป็นเช่นนั้น”   ราชาดาวิดตรัสต่อไป  “องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งอิสราเอล ได้ทรงเรียกเรา จากครอบครัวของเราให้เป็นราชาเหนืออิสราเอลตลอดไป   พระเจ้าทรงเลือกเผ่ายูดาห์ให้ปกครอง  และจากเผ่านั้น คือครอบครัวของเราเอง  จากพี่น้องทั้งหมด  พระเจ้าทรงเลือกให้เรามาเป็นราชาเหนืออิสราเอลทั้งหลาย “

ราชาดาวิดทรงเล่าย้อนกลับไป   ถึงการทรงเลือกของพระเจ้า   พระองค์ทรงทำให้ประชาชนทั้งอายุมาก และน้อย ได้เข้าใจถึงการที่พระเจ้าทรงเลือกพระองค์มา

พระองค์จะทรงบอกอะไรพวกเขาต่อไป??

 

 

 

หน้าที่ต่าง ๆ ๒๖-๒๗

1 พงศาวดาร 26-27

เจ้าหน้าที่ยามประตู

นอกเหนือไปจากผู้ที่ทำหน้าที่ปุโรหิต  เลวี  นักร้องนักดนตรี  และดูแลงานพระวิหารทั่วไป    ก็ยังมีการแต่งตั้งผู้ที่ทำหน้าที่ยามเฝ้าประตูพระวิหาร  พวกเขามีพ่อ กับลูก ๆ  เข้ามาทำงานด้วยกัน  พวกเขาเป็นคนมีความสามารถ และให้มีการจับฉลากหน้าที่ซึ่งตัวเองต้องรับผิดชอบ เป็นผู้เฝ้าประตูทิศต่าง ๆ

คลังพระวิหาร

ยังมีท่านเอเบดเอโดมดูแลการคลังอีกด้วย

การคลังนี้ยังแบ่งเป็นคลังพระวิหาร และคลังของถวายต่าง ๆ

ของเหล่านี้ ทั้งราชาดาวิด  ผู้นำครอบครัว นายทหารได้นำมาถวายพระเจ้า   บางทีก็มีของที่ริบจากการรบนำมาใช้ในการซ่อมบำรุงพระวิหาร   ยังมีคนอื่น ๆ ที่ถวายของอีกมากมาย ทำให้ต้องมีผู้ดูแลที่ทั้งเก่งในการจัดการและสัตย์ซื่อ

ของใช้ในพระวิหารส่วนหนึ่ง  จาก jewishencyclopedia.com

ฝ่ายตุลาการ

ไม่แต่เพียงเท่านั้น   ยังมีผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตุลาการ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง   คนอยู่มาก ก็มีเรื่องราวต่อกัน ต้องขึ้นศาลให้ตัดสิน  เหล่านี้ ราชาดาวิดได้ทรงจัดเตรียมคนไว้อย่างพร้อมเพรียง

การปกครอง

คนที่ทำหน้าที่ดูแลเผ่าต่าง ๆ ก็ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ด้วย   มีเจ้าหน้าที่ดูแลเผ่าต่าง ๆ   ทำให้เราเห็นระบบการปกครองที่ชัดเจนมาก

การทหาร

ส่วนการป้องกันประเทศ  ราชาดาวิดได้ทรงดูแล บัญชาให้มีการแบ่งกำลังพลเพื่อประจำหน้าที่กันแต่ละเดือนตลอดปี  โดยทั้ง 12เดือนนี้ ผู้หัญชาการกองพลจะแตกต่างกันไป  แต่ละเดือนมีทหารเข้าประจำการ 24,000 คน  และผู้ที่เป็นผู้บังคับบัญชาการสูงสุดคือท่านโยอับ

 

คลังหลวง

มีผู้รับผิดชอบงานของพระราชาด้วย ในเรื่องคลังหลวง  คลังตามหมู่บ้าน หัวเมือง ผู้ดูแลการเกษตรของหลวง  ไม่ว่าจะเป็นสวนองุ่น สวนมะกอก มะเดื่อ ปศุสัตว์ทั้งฝูงอูฐ  ลา  แพะแกะ  และทรัพย์สินส่วนพระองค์

การถวายรับใช้ใกล้ชิด

ส่วนผู้รับใช้ใกล้ชิดก็คือเป็นที่ปรึกษาทั่วไปของพระราชา  อาลักษณ์ผู้จดบันทึกสิ่งต่าง ๆ  ท่านอาหิโทเฟลเป็นที่ปรึกษาประจำพระองค์  หุชัยแห่งอารคีเป็นพระสหาย

 

ปุโรหิตและนักร้อง ๒๔-๒๕

1  พงศาวดาร 24-25

ราชาดาวิดได้ทรงจัดกลุ่มคนเลวีให้ทำงานปรนนิบัติในพระวิหารทั่ว ๆ ไป  ยังไม่พอ  มีปุโรหิตที่ทำงานสำคัญในพระวิหาร พวกเขาเหมือนเป็นตัวกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์   มีหน้าที่รับผิดชอบสูง และถ้าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็ตายได้ง่าย ๆ เหมือนกัน  เสื้อผ้าของท่านปุโรหิตจึงมีกระดิ่งห้อยอยู่ หากว่าไม่ได้ยินเสียงกระดิ่งนานพอควร  ขณะที่ปฏิบัติงานในห้องบริสุทธิ์ที่สุด   คนข้างนอกจะรู้ว่า เขาตายแล้ว  เพราะเป็นการปฏิบัติต่อพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ยิ่งนัก  และไม่มีสิ่งใดที่สกปรกจะอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ได้

ปุโรหิต

หน้าที่ของปุโรหิตเป็นของตระกูลอาโรน  ราชาดาวิดได้แบ่งพวกเขาเป็นกลุ่ม ๆ โดยใช้วิธีจับฉลากกันเพื่อไม่ให้เป็นการลำเอียง  มีผู้ทำงานในสถานนมัสการ และเจ้าหน้าที่ของพระเจ้า

ภาพจาก eborg3.com

มีทั้งหมด 24 กลุ่ม ต่างแยกกันไปปรนนิบัติในพระวิหารตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้แก่โมเสส

นักร้อง นักดนตรี

ยังมีคนที่ถูกแยกออกไปต่างหาก  เป็นบุตรหลานของอาสาฟ  เฮมาน และเยดูธูน  คนเหล่านี้จะกล่าวคำของพระเจ้าประกอบพิณเขาคู่   พิณใหญ่ และฉาบ  โดยพวกเขาจะทำการนี้ใต้การดูแลของพระราชาและท่านอาสาฟ

ลูกหลานเยดูธูนจะกล่าวพระคำของพระเจ้าด้วย เขาจะขอบคุณสรรเสริญพระเจ้าพิณเขาคู่
ลูกหลานของเฮมาน ซึ่งเป็นผู้ทำนายของพระราชานั้น   จะทำหน้าที่เป่าแตร
ทำหน้าที่เล่นเพลงประกอบในพระวิหารของพระเจ้า  เขาตีฉาบ  เล่นพิณใหญ่ และพิณเขาคู่

อาสาฟ  เฮมาน และเยดูธูนนี้  ต่างอยู่ใต้ราชาดาวิด และพวกเขาให้ลูกหลาน 288  คน ได้ฝึกร้องเพลงถวายพระเจ้าจนชำนาญ  โดยมีการจับฉลากแบ่งหน้าที่กันไป โดยไม่ว่าจะเป็นคนอาวุโส อายุน้อย อาจารย์ หรือศิษย์ก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน

ไม่ใช่คนทุกคนที่ร้องเพลงจะกล่าวคำของพระเจ้าอย่างคนเหล่านี้  พวกเขาได้รับของประทานพิเศษจากพระเจ้า กล่าวคำประหนึ่งคำพยากรณ์ …. พวกเขาจะตั้งใจ ฝึกซ้อม และเล่นถวายพระเจ้าสุดหัวใจของพวกเขา     งานของเขาเป็นงานที่มีเกียรติยิ่งนัก  …

 

หน้าที่ของเลวี ๒๓

1 พงศาวดาร 23

เมื่อราชาดาวิดทรงพระชรามาก ก็ได้ทรงตั้งซาโลมอนเป็นพระราชาปกครองเหนืออิสราเอล

และพระองค์ยังทรงห่วงใยในเรื่องของพระวิหาร

จึงเรียกประชุมปุโรหิต และเลวีทั้งหลาย เพื่อให้พวกเขาได้ปรนนิบัติในพระวิหาร

เลวี 38,000 คนที่อายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ถูกเรียกมาประจำการโดยให้

24,000   คน ดูแลงานในพระวิหาร
6,000     คน เป็นเจ้าหน้าที่คอยตัดสินความ
4,000     คน เป็นนายประตูเฝ้าพระวิหาร
4,000     คน เป็นนักร้องนักดนตรี ถวายสรรเสริญพระเจ้า

ภาพจาก http://ancientlyre.com

ราชาดาวิดทรงตั้งแบ่งคนเลวีเป็นสามกลุ่มตามตระกูลคือ เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี

ราชาดาวิดยังได้ตั้งคนจากเชื้อสายอาโรน ที่จะทำพิธีชำระของที่บริสุทธิ์ที่สุด

ผู้ที่เผาเครื่องหอมถวาย ปรนนิบัติพระเจ้า และอวยพระพรในพระนามพระเจ้าตลอดไป

ส่วนคนที่เป็นเลวีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปนั้น จะต้องคอยช่วยบุตรของอาโรนในการดูแลลาน ห้อง และการชำระทุกอย่างที่บริสุทธิ์

ช่วยเรื่องขนมปังตั้งถวาย  ยอดแป้ง ขนมปังไร้เชื้อ ของบูชาเคล้าน้ำมัน  เครื่องตวง เครื่องวัดทั้งหลาย

ทุกเช้า  ทุกเย็น  พวกเขามีหน้าที่ยืนโมทนาและสรรเสริญพระเจ้า

เขาต้องทำงานด้วยกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการปรนนิบัติพระเจ้า

คำอธิษฐานของพ่อ ๒๒-๒

1 พงศาวดาร 22:9-12

ราชาดาวิดทรงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้โอรสคือซาโลมอนฟัง   พระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้ราชาดาวิดเองสร้างพระวิหาร เพราะมือเปื้อนเลือดมามาก   สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดเพื่อให้ซาโลมอนสืบต่อเจตนารมน์นี้ คือ  การเตรียมวัสดุก่อสร้างพระวิหาร  รวมไปถึงเตรียมผืนดินซึ่งพระเจ้าเองทรงเป็นผู้กำหนด

“พระเจ้าตรัสว่า พ่อจะมีลูกชาย และลูกชายคนนี้ เป็นคนที่จะอยู่อย่างสงบ  ไม่ได้ทำสงครามเหมือนพ่อ  ลูกจะได้รับความสงบรอบด้านเพราะพระเจ้าประทานให้   ลูกจะไม่มีศัตรูใด ๆ มาวุ่นวาย    ในสมัยที่ลูกปกครองนั้น พระเจ้าจะประทานความสงบให้แก่อิสราเอล”

ซาโลมอนทรงนิ่งฟังราชบิดาอย่างตั้งพระทัย  ทรงรับทุกคำที่ราชาดาวิดตรัส

“และลูก จะเป็นผู้ที่สร้างพระวิหารเพื่อพระนามของพระเจ้า    ลูกจะเป็นลูกชายของพระเจ้า  และพระเจ้าจะทรงเป็นพระบิดาของลูก  พระเจ้าจะทรงสถาปนาบัลลังก์ของลูกเหนืออิสราเอลตลอดไป”

สิ่งนี้สูงส่งเกินที่จะคิดได้… พระเจ้าทรงเลือกให้ซาโลมอนเป็นผู้สร้างพระวิหาร เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์

พระเจ้าทรงมีพันธกิจที่จะให้ซาโลมอนได้ทำในชีวิต

และซาโลมอนก็ไม่ได้คัดค้าน

ทรงเต็มพระทัยที่จะทำทุกอย่างที่ราชาดาวิดทรงบัญชา

ภาพเขียนบนผนัง ที่ Mansfield Place Church, Edinburgh

“ลูกรัก   ขอพระเจ้าสถิตอยู่กับเจ้านะ  และขอให้เจ้าประสบความสำเร็จ  สร้างพระวิหารของพระเจ้าอย่างที่พระองค์ทรงพอพระทัย พระเจ้าทรงเลือกเจ้าให้ทำสิ่งนี้”

“ขอบคุณพระเจ้ายิ่งนัก  ขอโมทนาพระคุณพระเจ้า  ลูกจะทำอย่างที่ท่านพ่อบัญชาพะยะค่ะ”

“พ่ออธิษฐานขอให้พระเจ้าประทานสติปัญญาให้เจ้า….   ขอให้เจ้ามีความเข้าใจในการปกครองอิสราเอล  และขอพระเจ้าให้เจ้าได้เดินในทางของพระองค์….”

ราชาดาวิดไม่ได้ทิ้งโอรสไว้ตามลำพัง

แต่พระองค์ทรงฝากซาโลมอนไว้กับพระเจ้า

พ่อ อธิษฐานให้ลูกประสบความสำเร็จในหน้าที่ซึ่งพระเจ้าได้ประทานให้เขา

พ่อ  เป็นผู้สนับสนุนลูกทุก ๆ อย่าง

ซาโลมอนช่างเป็นลูกที่ได้รับพรมากมายจริง ๆ