พระเยซู
10 ตุลาคม 2014 พระเจ้าแห่งสันติสุข
ทรงยืนอยู่ท่ามกลางเขา
ตรัสว่า “สันติสุขจงมีแก่พวกเจ้า!”
ถอดความจากลูกา 24:36
เมื่อพระเยซูทรงหายวับไปกับตาเช่นนั้น
พวกเขาก็หันมาพูดกันว่า
“ตอนที่พระองค์ตรัสกับเราตามถนน ใจของเรามันร้อนอย่างไรก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก
โดยเฉพาะตอนที่พระองค์อธิบายพระคัมภีร์ “
“นั่นซิ”
ดังนั้น พวกเขาทั้งหมดจึงเดินทางกลับไปยังเมืองเยรูซาเล็มทันที
ก็ไปเจอกับศิษย์อีก 11 คนรวมทั้งคนอื่น ๆ กำลังรวมตัวกันอยู่
เขาจึงบอกพวกเขาว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงคืนพระชนม์แล้วจริง ๆ นะขอรับ
พระองค์ทรงปรากฏแก่ซีโมนด้วย!”
จากนั้นก็เล่ารายละเอียดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบนถนนไปหมู่บ้านเอมมาอู
ไม่มีใครจำพระองค์ได้จนพระองค์แบ่งขนมปังให้พวกเขา
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันเรื่องพระองค์อยู่นั้น
อยู่ดี ๆ
“โอ๊ะ!” “ท่านอาจารย์!” “พระเยซู!”
พระเยซูทรงมาปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขา ทรงยืนอยู่ท่ามกลางเขา
ตรัสว่า “สันติสุขจงมีแก่พวกเจ้า!”
พระเยซูช่างดีเหลือเกิน ทรงให้สันติสุขกับพวกเขาในยามที่พวกเขากำลังงุนงง สับสนที่สุด
9 ตุลาคม 2014 จริง ๆ นะ… หายตัว
พระองค์ก็ทรงหายวับไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา!
ถอดความจาก ลูกา 24:31
เมื่อศิษย์ของพระเยซูกล่าวเช่นนั้น
พระเยซู ผู้เดินทางไปด้วย (ซึ่งเขาไม่รู้ว่า เป็นพระองค์)ก็กล่าวว่า
“เจ้าคนโง่เอ๋ย เจ้าช่างเชื่องช้า ไม่รู้ ไม่เชื่อในสิ่งที่ผู้กล่าวคำของพระเจ้าได้พูดเอาไว้เอาจริง ๆ นะ!
ก็มันเป็นเรื่องจำเป็นที่พระคริสต์จะต้องทนทุกข์ในเรื่องเหล่านี้
แล้วพระองค์จึงจะทรงเข้าไปสู่พระเกียรติสูงส่งมิใช่หรือ?
แล้วพระองค์ก็ทรงอธิบายเรื่องที่กล่าวถึงพระองค์จากพระคัมภีร์
เริ่มตั้งแต่สมัยของโมเสส ยาวลงมาถึงผู้กล่าวคำของพระเจ้าคนอื่น ๆ
พอเข้ามาใกล้หมู่บ้านที่เขาตั้งใจจะมา พระองค์ทรงทำท่าเหมือนจะเดินทางต่อไป
แต่เขาทั้งสองก็ชักชวนพระองค์ว่า
“ขอท่านอยู่กับเราก่อนเถอะขอรับ
ตอนนี้ก็เย็นย่ำค่ำมืดแล้ว”
พระองค์จึงทรงเข้าไปพร้อมกับพวกเขา เพื่อจะพักที่นั่น
และเมื่อพระองค์ทรงอยู่ที่โต๊ะอาหาร
ทรงหยิบขนมปังขึ้นมา อธิษฐานขอพร และฉีกขนมปังแบ่งให้ทุกคน
เวลานั้นเอง ตาของพวกเขาก็สว่างขึ้น!
“พระอาจารย์…!!”
ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรต่อ พระองค์ก็ทรงหายวับไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา!
8 ตุลาคม 2014 บนถนนไปเอมมาอู
บางคนได้ไปที่ถ้ำ ก็เห็นเหมือนอย่างที่ผู้หญิงบอก พวกเขาไม่พบพระเยซู
ถอดความจากลูกา 24:24
ในวันนั้นเองศิษย์สองคนของพระเยซู
เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านเอมมาอู หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากเยรูซาเล็มประมาณ 7 ไมล์
ทั้งสองกำลังคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระเยซูอย่างเข้มข้น
ขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเอง …
พระเยซูทรงเดินมาใกล้ ๆ พวกเขา และเดินไปพร้อมกับเขา
ทั้งสองไม่ได้สนใจมองหน้าเพื่อนเดินทางคนใหม่เท่าไรนัก
จริง ๆ แล้วเขาจำพระองค์ไม่ได้เลย
พระองค์ตรัสว่า “ท่านทั้งสองกำลังคุยอะไรกันหรือ?”
ทั้งสองหยุดนิ่ง หน้าตาดูเศร้าหมอง
คนหนึ่งคือคลีโอพาสตอบว่า
“ท่านเป็นคนต่างถิ่นมาเยี่ยมเยรูซาเล็มหรือ ท่านจึงไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น?”
“เรื่องอะไรหรือ?” พระเยซูถาม
“ก็พระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธไง พระองค์เป็นผู้กล่าวคำของพระเจ้า
ที่ทำการอัศจรรย์ คำสอนของพระองค์ก็แน่มาก ๆ
พระองค์ยอดเยี่ยมต่อพระพักตร์พระเจ้าและในสายตาของคนทั่วไป
และพระองค์ถูกมหาปุโรหิต ผู้ปกครองใส่ร้ายจนต้องถูกตรึง ถึงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
เราหวังว่า พระองค์จะทรงเป็นผู้ไถ่อิสราเอลให้พ้นจากชนต่างชาติที่ปกครองเราอยู่
แต่…ที่น่าแปลกใจคือ นี่ก็สามวันไปแล้ว พวกผู้หญิงที่ไปกับเรานะซิ
พวกเธอไปที่ถ้ำเก็บศพเมื่อเช้านี้ พวกเธอไม่พบศพของพระองค์
พอกลับมา ก็บอกเราว่า เห็นทูตสวรรค์มาบอกว่า พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาแล้ว …..
ศิษย์ของพระเยซูบางคนได้ไปที่ถ้ำ ก็เห็นเหมือนอย่างที่ผู้หญิงบอก
พวกเขาไม่พบพระเยซู”…
ยิ่งเล่าเรื่องนี้ พวกเขาก็ยิ่งหม่นหมองขึ้นไปอีก…..
7 ตุลาคม 2014 คืนพระชนม์จริงๆ!
บุตรมนุษย์จะต้องถูกส่งไว้ในเงื้อมมือคนบาป
พระองค์จะถูกตรึงบนไม้กางเขน
วันที่สามพระองค์จะคืนพระชนม์..
ถอดความจากลูกา 24:7
ชายผู้นั้นกล่าวต่อไปว่า “พระเยซูไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว พระองค์คืนพระชนม์จากความตาย
จำที่พระองค์เคยบอกตอนที่อยู่กาลิลีได้ไหม?
ว่า บุตรมนุษย์จะต้องถูกส่งไว้ในเงื้อมมือคนบาป
พระองค์จะถูกตรึงบนไม้กางเขน
วันที่สามพระองค์จะคืนพระชนม์..”
พวกเธอคิดได้แล้ว
จริงซิ พระเยซูเคยตรัสอย่างนั้นจริง ๆ
พวกเธอกลับจากถ้ำเก็บศพและเล่าเรื่องที่เห็นมาให้กับสาวกทั้งสิบเอ็ด
รวมทั้งคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้วยกัน
พวกเธอนั้นคือ มารีย์ มักดาลา โยฮันนา และมารีย์ มารดาของยากอบ
รวมกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างพากันเล่าเรื่องนี้
แต่..คำของพวกเธอเป็นเหมือนเรื่องไร้สาระในสายตาของพวกเขา
ไม่มีใครเชื่อคำของพวกเธอ …
มีแต่เปโตรที่ลุกขึ้น .. ไม่ได้การ ข้าต้องไปให้เห็นกับตา.. เขาคิด
เขาจึงวิ่งไปที่ถ้ำ ก้มตัวลงมองหาพระศพข้างใจ
เขามองเห็นผ้าพันพระศพวางไว้
“ไม่มีพระเยซูจริง ๆ นั่นแหละ” เขากล่าวกับตัวเอง
เขาจึงเดินกลับไปด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง
6 ตุลาคม 2014 หาไม่เจอ!
“เหตุใดเจ้าจึงมาตามหาผู้มีชีวิตท่ามกลางคนตายเล่า…?”
ถอดความจากลูกา 24:5
วันแรกของสัปดาห์ แต่เช้าตรู่
พวกผู้หญิงที่ตามพระเยซูมานั้น ก็พากันเอาสมุนไพรเครื่องหอมที่เตรียมไว้
ไปเพื่อชโลมที่พระศพอีก
แต่… เมื่อไปถึง
“เอ๊ะ อะไรกัน ทหารเอาหินนี้มาปิดปากถ้ำไว้แล้วนี่นา
ใครนะที่มากลิ้งหินออกจากปากถ้ำได้ ต้องใช้หลายคนเลยนะนี่” เธอหันมาพูดกัน
เมื่อเข้าไปก็ยิ่งแปลกใจ
“ไม่มีพระศพที่นี่” …. “หากี ๆ ซิ” พวกเธอมองไปรอบ ๆ
พอหันไปจริง ๆ กลับเจอชายสองคนยืนอยู่ เสื้อที่สวมนั้นเป็นประกายเจิดจ้า
ทุกคนใจเต้นแรงเพราะกลัวมาก เธอทุกคนก้มลงถึงดิน..
ชายนั้นพูดว่า “เหตุใดเจ้าจึงมาตามหาผู้มีชีวิตท่ามกลางคนตายเล่า…?”
ผู้มีชีวิตท่ามกลางคนตาย!!
หมายความว่าอย่างไรกัน?
ไม่เข้าใจ!!
4 ตุลาคม 2014 ผู้รับบาปของเรา
พระเจ้าทรงรักเรา
และทรงใช้พระบุตรมาให้เป็นผู้ที่
ลบล้างโทษบาปที่ตกอยู่กับเราเพราะบาปของเรา
ถอดความจาก 1 ยอห์น 4:10
เพื่อน ๆ ครับ เราเพิ่งอ่านเรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูมา
ที่พระองค์ทรงตายบนไม้กางเขน
เป็นแผนของพระเจ้า แม้หลายคนที่รักพระเยซูไม่เห็นด้วย
และเป็นทุกข์ยิ่งนัก
ไม่มีใครจะรับโทษแทนเราได้ นอกจากพระเยซูผู้ไม่บาป
และไม่เคยทำบาปใด ๆ
พระเยซูทรงยอมทำตามที่พระบิดาทรงบัญชาทุกอย่าง
ขอบคุณพระองค์ยิ่งนัก….
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดินโลกนี้
3 ตุลาคม 2014 เก็บพระศพ…
โยเซฟ จากเมืองอาริมาเธีย
เข้าไปหาปีลาตเพื่อขอพระศพของพระเยซู
ถอดความจากลูกา 23:52
มีชายคนหนึ่งชื่อโยเซฟ จากเมืองอาริมาเธีย เขาเป็นชาวยิว
และยังเป็นสมาชิกสภาด้วย
เขาเป็นคนดี ชอบธรรม และไม่เห็นด้วยกับการตัดสิน การกระทำต่อพระเยซูเช่นนั้น
เขาเป็นคนที่รอคอยแผ่นดินของพระเจ้า
หมายความว่า ทุกวันเขาคิดถึงพระเจ้า และมีชีวิตที่ใกล้ชิดพระองค์
เขาตัดสินใจเข้าไปหาปีลาต และขอพระศพพระเยซู เพื่อมาเก็บในถ้ำ
ปีลาตก็อนุญาตตามนั้น
เขาจึงนำพระศพลงมาจากไม้กางเขน และใช้ผ้าลินินผืนยาว
พันห่อพระศพของพระองคือย่างเรียบร้อย ตามธรรมเนียม
จากนั้นนำพระศพไปเก็บไว้ในถ้ำเก็บศพที่เพิ่งเจาะใหม่
ไม่เคยมีใครวางศพอื่นมาก่อน
วันนั้นเป็นวันเตรียมสำหรับสะบาโตซึ่งก็ใกล้จะถึงแล้ว
ส่วนเหล่าสตรีที่ตามพระองค์มาจากกาลิลี ก็ตามมา
ดูว่า เขาวางพระศพอย่างไร
เมื่อพวกเธอเห็นแล้ว ก็กลับไปเพื่อเตรียมเครื่องเทศ และน้ำมันหอมสำหรับพระศพ
วันต่อมาเป็นวันสะบาโต พวกเขาก็หยุด ไม่ทำอะไรเลย ตามที่พระบัญญัติบัญชาไว้