อิสยาห์ 4:1-6
ในวันเวลานั้น ผู้หญิงถึง 7 คน จะยึดชายคนเดียวกันไว้ โดยขอร้องว่า “เราจะหาอาหารกินเอง หาเสื้อผ้าของเราเอง ขอเพียงให้คนเรียกเราตามนามสกุลของท่านนะ เราจะได้ไม่ต้องอายใคร” จะมีเวลาที่เหล่าผู้ชายถูกฆ่าตายอย่างมากมาย จนไม่มีผู้ชายเหลือพอเพียงกับจำนวนประชากรหญิง
การรื้อฟื้นของคนที่รอดตายในศิโยน…..
แล้วอิสยาห์ก็หันกลับมากล่าวถึงวันดี ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ในวันเวลานั้น กิ่งก้านของพระเจ้าจะงดงาม ตระการ ผลผลิตที่ได้จากแผ่นดินนั้นทั้งยอดเยี่ยมและน่าเป็นเจ้าของ สำหรับคนที่รอดตายในอิสราเอล… เคยได้ยินที่พระเยซูตรัสว่า เราเป็นเถาองุ่นแท้… ไหม? กิ่งก้านของพระเจ้า ในที่นี้ อิสยาห์กำลังบอกว่า ผู้ที่จะมาเป็นกิ่งก้านซึ่งนำศักดิ์ศรีคืนมาให้มนุษย์เราคือ องค์พระเยซูคริสต์นี่เอง
คนที่เหลืออยู่ในศิโยน และยังค้างอยู่ในเยรูซาเล็มนั้น ใคร ๆ จะเรียกพวกเขาว่า บริสุทธิ์… พวกเขาเป็นคนที่มีชีวิตในนครเยรูซาเล็มตามที่ได้บันทึกไว้ เมื่อพระเจ้าตรัสถึงคำว่าบริสุทธิ์จะมีความหมายว่าแยกออกเสมอ…. พวกเขาแยกออกจากความบาป จากชีวิตที่สกปรก และมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า
เมื่อองค์พระผู้เป็นนายสูงสุด ได้ทรงชำระล้างความสกปรกของบรรดาธิดาแห่งศิโยนให้หมดสิ้น และชำระรอยเลือดที่ตกค้างของเยรูซาเล็มท่ามกลางเมืองนั้น ด้วยพระวิญญาณแห่งการพิพากษาและการเผา
พระเจ้าจะทรงสร้างเมฆและควันในเวลากลางวัน และแสงของเปลวไฟในเวลากลางคืน ให้อยู่เหนือทุกแห่งบนภูเขาศิโยนและเหนือที่ประชุมของเมืองนั้น เพราะจะมีพลับพลาที่ปกคลุมเหนือพระสิริของพระองค์ เมื่อเราอ่านตรงนี้ อาจจะยากที่จะเข้าใจ อิสยาห์กำลังกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่คนในศิโยนจะได้รับการปกป้องจากพระเจ้า
และจะเป็นร่มบังแดดกลางวัน เป็นที่ลี้ภัยและเป็นที่กำบังจากฝนตกอันแรงกล้า
เรื่องดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นนี้ มีได้เพราะพระเยซูได้เสด็จลงมาในโลก และทรงเป็นกิ่งก้านของพระเจ้าที่จะปกป้องรักษา ดูแลคนที่เชื่อในพระองค์…..