อิสยาห์ 34-1

อิสยาห์ 34:1-4

คำพิพากษาประชาชาติ

ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย จงเข้ามาใกล้ เพื่อฟัง  เพื่อเอาใจใส่
ประชากรทั้งหลาย…. ให้ทั้งแผ่นดิน และสรรพสิ่งในนั้นได้ยิน
ให้ทั้งโลกและสรรพสิ่งที่ออกมาจากโลกได้ยิน

เพราะว่า พระเจ้าทรงกริ้วบรรดาประชาชาติ ทรงโกรธกองทัพของเขาเป็นอย่างมาก พระองค์จะทรงให้เขาพินาศ  มอบพวกเขาให้ถูกสังหารis34filipino_skulls

ภาพจาก  www.cityofart.net

คนที่ถูกฆ่าแล้วจะถูกเหวี่ยงออกไป และกลิ่นเน่าเหม็นของศพจะคลุ้งไปทั่ว  บนภูเขานองไปด้วยเลือดของพวกเขา
เหล่าบริวารของฟ้าจะเน่าเสียไป ท้องฟ้าจะม้วนตัวเหมือนกับแผ่นหนัง และบริวารทั้งสิ้นจะร่วงลงมาเหมือนใบร่วงจากเถาองุ่น  เหมือนใบร่วงจากต้นมะเดื่อ
อ่านแค่นี้ก็ตกใจมาก เพราะเห็นแล้วว่า พระเจ้าทรงโกรธคนทั้งหลายในโลกที่หมิ่นพระองค์  พระคำตอนนี้กำลังบอกเราถึงการพิพากษาของพระเจ้า  ท่านอิสยาห์เรียกร้องให้ทุกคนในโลกฟังสิ่งที่ท่านกำลังจะกล่าว  เรื่องนี้ขอบเขตกว้างไกลทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ศพที่ไม่ได้ฝังทำให้เรารู้ถึงความน่าละอายเป็นที่สุด   เลือดนองแผ่นดินขนาดที่ท่านอิสยาห์กล่าวแสดงว่า มีความตายจากการถูกฆ่าฟันครั้งมโหฬาร

การที่บริวารของฟ้าร่วงหล่น มีความหมายถึงบรรดาพระทั้งหลายที่พวกเขานับถือนั้นจะถูกทำลายจนสิ้น  การนมัสการพระเหล่านั้นจะต้องจบลง

อิสยาห์ 33-3

อิสยาห์ 33:17-24
ตาของเจ้าจะเห็นความงามขององค์กษัตริย์ เขาจะเห็นแผ่นดินที่ขยายออกไปไกล ใจของเจ้าจะใคร่ครวญถึงความน่ากลัวในอดีต “เจ้านายคนที่นับอยู่ไหน? คนที่ชั่งน้ำหนักเก็บภาษีอยู่ที่ไหน? เหล่าคนที่ดูแลหอคอยล่ะ อยู่ที่ไหน?”
ต่อไปเจ้าจะไม่เห็นคนถือดีอีกต่อไป คนพูดกำกวมที่เราไม่อาจเข้าถึง คนพูดตะกุกตะกักที่เราเข้าใจไม่ได้

ดูเถอะ ศิโยน นครที่เราจัดไว้สำหรับการเลี้ยง ตาของเจ้าจะเห็นนครเยรูซาเล็ม คนอาศัยอยู่อย่างไม่เดือดร้อน มีกระโจมที่ไม่ต้องย้ายอีกต่อไป และเสาของมันจะไม่มีใครมาถอนออก จะไม่มีเชือกขาดหลุดอีกเลย
แต่ที่นั่น พระเจ้าผู้ทรงเกียรติจะทรงเป็นองค์ผู้ทรงฤทธิ์เพื่อเรา เป็นสถานที่มีแม่น้ำกว้างและธารน้ำ ไม่มีเรือกรรเชียงผ่านไป และแม้เรือใหญ่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้
Is333
เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาของเรา พระองค์ทรงเป็นผู้ประทานกฎเกณฑ์ต่าง ๆ พระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ของเรา และพระองค์จะทรงช่วยเราให้รอดพ้น
สายโยงเรือของเจ้านั้นหย่อนไป มันไม่อาจดึงเสาให้อยู่ในที่ได้ ไม่สามารถทำให้ใบเรือกางได้ ของที่ริบมาได้อย่างมากมายนั้นจะถูกแบ่ง แม้กระทั่งคนที่เป็นง่อยก็ยังได้รับส่วนแบ่งด้วย
ไม่มีใครที่อาศัยอยู่ในศิโยนจะกล่าวว่า “เราป่วย” ประชาชนที่อาศัยที่นั่นจะได้รับการอภัยบาป

อิสยาห์ 33-2

อิสยาห์ 33:7-16
ดูเถอะ วีรบุรุษที่ร้องอยู่บนถนน และทูตแห่งสันติที่ร้องคร่ำครวญอย่างขมขื่น ถนนหลวงก็ร้างเปล่า ไม่มีคนเดินทางผ่านมาอีกต่อไป ผู้คนักพันธสัญญา เมืองก็ถูกดูหมิ่น ไม่มีใครนับถือมนุษย์ แผ่นดินโศกเศร้า หมดแรง
ตอนนี้ คนอิสราเอลเริ่มเห็นแล้วว่า การไปขอความช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้ผล พวกเขาไม่กล้าออกเดินทาง เพราะรู้ว่า ศัตรูกำลังมาใกล้ ไม่มีใครรักษาสัญญาที่ให้กันไว้อีกต่อไป
Is33kandan

เลบานอนก็ตะลึง และแห้งเหี่ยวไป ซาโรนเป็นทะเลทรายและบาชานกับคารเมลก็สลัดใบออกจากต้น
ทุกทิศของอิสราเอลจะถูกโจมตี เลบานอนทางเหนือ ซาโรนตะวันตก บาชานตะวันออก และคารเมลทางใต้

“บัดนี้ เราจะลุกขึ้น” พระเจ้าตรัส “เราจะลุกขึ้นและได้รับการเชิดชู เจ้าตั้งท้องเป็นแค่เปลือกข้าว และให้กำเนิดตอ ลมหายใจของเจ้าเป็นไฟที่จะเผาผลาญเจ้า และผู้คนจะถูกเผาจนกลายเป็นเหมือนเสาปูน เหมือนกับต้นหนามที่ถูกตัดทิ้งและเผาในไฟ

จงฟัง เจ้าที่อยู่ไกล ฟังว่า เราทำอะไรบ้าง เจ้าที่อยู่ใกล้ จงรับรู้อำนาจของเรา

คนบาปในศิโยนกลัว คนที่ไร้พระเจ้าตัวสั่นสะท้าน ใครในพวกเราจะอยู่กับไฟที่เผาผลาญได้? ใครจะอยู่กับการเผาไหม้ที่ไม่จบสิ้นได้?

คนที่เดินอย่างถูกต้องและกล่าวคำเที่ยงธรรม คนที่เกลียดชังการได้สมบัติมาจากการกดขี่ผู้อื่น คนที่สลัดมือของเขา เพื่อไม่ให้มีสินบนมาติดมือ คนที่อุดหูไม่ฟังเรื่องการฆ่าล้าง คนที่ปิดตาไม่มองสิ่งชั่วร้าย เขาจะอาศัยอยู่ในที่สูง ที่กำบังของเขาเป็นป้อมหิน เขาจะได้รับอาหาร และเขาจะมีน้ำดื่มอย่างแน่นอน

พระเจ้าทรงลงโทษคนของพระองค์ โดยมีกำหนดเวลา พระเจ้าทรงเรียกให้คนทั้งโลกที่อยู่ใกล้และไกลหันมาฟังพระองค์ และรับรู้ฤทธิ์ของพระองค์ คนที่ทำบาปจะไม่สามารถอยู่ต่อพระเจ้าผู้ทรงเป็นไฟที่เผาผลาญได้
แต่คนของพระเจ้าจะได้อาศัยในที่สูง ซึ่งเป็นที่ของพระเจ้า

อิสยาห์ 33-1

อิสยาห์ 33:1-6

 

วิบัติแก่เจ้าผู้ทำลาย  เจ้ายังไม่เคยถูกทำลาย  เจ้าเป็นคนทรยศ แต่ยังไม่มีใครหักหลังเจ้า   เมื่อใดที่เจ้าหยุดทำลาย เจ้าก็จะถูกทำลาย   เมื่อเจ้าหยุดการทรยศ  ก็จะมีคนมาหักหลังเจ้า   ท่านอิสยาห์กำลังหมายถึงอัสซีเรียที่มีความโหดเหี้ยมมาก

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระคุณแก่เรา  เรารอคอยพระองค์ ขอทรงเป็นแขนให้เราทุกเช้า  ทรงเป็นความรอดพ้นในเวลายากลำบาก

holding hands

เมื่อได้ยินเสียงอึกทึกดังสนั่น  คนก็หนีไป  พระองค์ทรงลุกขึ้น เหล่าประชาชาติก็กระจัดกระจาย

ของที่ริบได้มานั้น ก็ถูกรวบรวมไว้เหมือนกับหนอนตั๊กแตนเก็บรวบรวม  คนก็กระโดดอย่างตั๊กแตนกระโดดตะครุบเอา

พระเจ้าทรงรับการยกย่อง พระองค์ประทับในที่สูง  พระองค์จะทรงเติมศิโยนด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม   เพราะพระองค์จะทรงเป็นความมั่นคงในยุคของเจ้า ทรงเป็นความรอด สติปัญญา และความรู้อย่างมากมายเหลือเฟือ

อิสยาห์ 32-2

อิสยาห์ 32:9-20

เตือนสติผู้หญิงในนครเยรูซาเล็ม…

ลุกขึ้นเถอะ  ผู้หญิงที่อยู่อย่างสบาย  จงฟังเสียงของข้า   ลูกสาวที่อยู่เฉย ๆ จงเงี่ยหูฟังเสียงของข้า

อีกไปถึงปี ผู้หญิงที่อยู่เฉย ๆ จะต้องตัวสั่น  เพราะจะไม่มีผลองุ่นในไร่  ผลไม้ตามฤดูก็ไม่ออกผล

Is_ComplacentWomen
ผู้หญิงที่อยู่อย่างสบายเอ๋ย จงตัวสั่นเถอะ   คนที่อยู่เฉย ๆ จงสะดุ้งเถอะ
จงแก้เสื้อผ้าของเจ้าออก เปลือยกาย และเอาผ้ากระสอบคาดเอวไว้
จงทุบอกของตัวเอง เพราะเรื่องท้องไร่ที่อุดมสมบูรณ์ และเพื่อองุ่นดก

เพราะผืนดินของประชาชนของเรานั้น มีแต่ต้นหนามใหญ่และเล็กขึ้นเต็ม  จงไว้ทุกข์ให้กับบ้านที่เคยเป็นบ้านแสนสุข นครที่เฮฮา
เพราะว่า วังจะถูกทิ้ง และนครที่มีคนหนาแน่นจะถูกทิ้งร้างเช่นกัน
เนินเขาและป้อมยามจะกลายเป็นถ้ำตลอดไป  กลายเป็นที่ของลาป่า และเป็นทุ่งหญ้าสำหรับฝูงสัตว์
จนกว่าจะเทพระวิญญาณมาจากเบื้องบน  มาเหนือเรา และถิ่นกันดารจะกลับกลายเป็นทุ่งที่อุดมสมบูรณ์ยิ่ง    และท้องทุ่งที่เคยสมบูรณ์จะเป็นเหมือนป่าไม้

ความเที่ยงธรรมจะอยู่ในถิ่นกันดาร   ความชอบธรรมจะอยู่ในทุ่งที่อุดม

และผลของความชอบธรรมคือสันติสุข  ผลของความชอบธรรมคือความสงบและการไว้วางใจตลอดไป

คนของเราจะอยู่ในที่ ๆ สงบสันติ  ในที่อาศัยอันมั่นคงและปลอดภัย  ในที่พักพิงอันเงียบสงบ

ถึงแม้ว่าลูกเห็บจะตกลงมาจนทำให้ป่าเตียนโล่ง  และเมืองใหญ่ก็ถูกทำลายสิ้น

แต่คนที่หว่านเมล็ดพืชริมน้ำ  และปล่อยให้วัวและลาเที่ยวอยู่อย่างอิสระก็จะมีความสุข

อิสยาห์ 32-1

อิสยาห์ 32:1-8

ดูเถอะ ราชาองค์หนึ่งจะทรงปกครองด้วยความชอบธรรม

และเจ้านายทั้งหลายจะปกครองด้วยความยุติธรรม

แต่ละคนจะเป็นดั่งที่หลบภัยจากลม

เป็นที่พักพิงให้พ้นจากพายุ

เป็นดั่งธารน้ำในที่แห้งแล้ง

เป็นร่มเงาจากหินก้อนมหึมาในที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

Is32nammjedean

แล้วตาของคนที่เห็นจะไม่ปิด  หูของคนที่ได้ยินก็จะตั้งใจฟัง
ใจของคนที่หุนหันพลันแล่นก็จะเริ่มเข้าใจและรับรู้
ลิ้นของคนที่พูดติดอ่างจะพูดได้อย่างคล่องแคล่วน่าฟัง

จะไม่มีใครเรียกคนโง่ว่า ผู้มีเกียรติอีกต่อไป
จะไม่เรียกคนถ่อยว่า เป็นคนน่านับถืออีกต่อไป

เพราะคนโง่ก็กล่าวคำไร้ปัญญา  ใจของเขาหมกมุ่นกับความบาปชั่ว
เพื่อจะทำการอธรรม เพื่อจะกล่าวร้ายป้ายสีองค์พระผู้เป็นเจ้า
เพื่อทำให้คนหิว หิวโหยต่อไป   ทำให้คนกระหายไม่ได้ดื่มอะไร

วิธีการของคนถ่อยนั้น ชั่วร้าย เขาวางแผนโหด เพื่อทำลายคนขัดสนด้วยคำเท็จ
ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วคำร้องของคนยากจนเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

แต่คนที่มีเกียรติก็วางแผนดี ๆ ทั้งนั้น  เขายืนมั่นคงอยู่ได้ก็ด้วยการกระทำที่ถูกต้อง

 

สิ่งที่ท่านอิสยาห์เห็น  ทำให้เราคิดถึงการปกครองในบ้านเมืองเราตามไปด้วย…. ทำไมเหมือนกันจัง?   มนุษย์โบราณกับมนุษย์ไฮเทคไม่ได้แตกต่างกันในเรื่องความเห็นแก่ตัว และความชั่วร้ายเลยนะ

อิสยาห์ 31-2

อิสยาห์ 31:4-9

ดังนั้น พระเจ้าตรัสกับข้าว่า
“ดั่งสิงห์คำราม  ดั่งสิงห์หนุ่มขู่เหยื่อของมัน    มันไม่กลัวแม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงหลายคนตะโกนไล่มัน  มันไม่กลัวเสียงของพวกเขา และไม่ยี่หระต่อเสียงโวยวายของพวกเขา

เช่นกัน.. พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจะเสด็จลงมา  จะทรงต่อสู้เพื่อภูเขาศิโยนและเนินเขาที่ล้อมรอบ

ดั่งนกที่บินว่อนอยู่รอบ ๆ  เช่นกัน.. พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทรงปกป้องนครเยรูซาเล็ม

จะทรงปกป้องและทรงช่วยกู้    จะทรงเว้นโทษให้เขาและจะทรงรักษาชีวิต

 

ภาพจาก http://naldzgraphics.net
ภาพจาก http://naldzgraphics.net

โอ  ลูกหลานอิสราเอลเอ๋ย  จงกลับมาหาพระเจ้า   เจ้าคิดดื้อดึงกบฎต่อพระองค์ยิ่งนัก  เพราะในวันนั้น ทุกคนจะโยนรูปปั้นเงิน เทวรูปทองของตนเองทิ้ง  รูปเคารพซึ่งเป็นบาป  เป็นสิ่งที่มือของเจ้าสร้างขึ้นมาเอง

คนอัสซีเรียจะล้มลงด้วยดาบที่ไม่ได้มาจากมนุษย์   ดาบที่ไม่ได้มาจากมนุษย์จะเขมือบพวกเขา

และเขาจะหนีจากดาบนั้น และคนหนุ่ม ๆของพวกเขาจะถูกบังคับใช้แรงงาน

เขาจะหนีจากป้อมเข้มแข็งของเขาเพราะความกลัว

เหล่าเจ้าชายก็จะกลัวลานเมื่อเห็นธง”   พระเจ้า…. พระองค์ผู้ทรงมีไฟในศิโยน  ผู้ทรงมีเตาเผาในนครเยรูซาเล็มตรัสดังนั้น

อิสยาห์ 31-1

อิสยาห์ 31:1-3

วิบัติจะมีแก่คนที่ลงไปอียิปต์เพื่อขอความช่วยเหลือ และคิดว่าจะพึ่งม้าศึก  พวกเขาวางใจในรถรบมากมาย และวางใจในทหารม้า เพราะว่า พวกเขาดูแข็งแรงจริง ๆ

แต่กลับไม่หันมาหาองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล  ไม่กลับมาปรึกษาหารือกับพระองค์
ถึงกระนั้น  พระเจ้าทรงพระปัญญา  พระองค์นำภัยหายนะมาให้พวกเขา    พระองค์มิได้ทรงเอาพระดำรัสของพระองค์คืนมา

แต่พระองค์ทรงลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มคนที่กระทำผิด   และต่อสู้คนที่ช่วยเหลือให้เขากระทำผิด

ภาพจาก http://rehtwogunraconteur.com
ภาพจาก http://rehtwogunraconteur.com

คนอียิปต์เป็นเพียงมนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า   ม้าศึกของพวกเขาเป็นเพียงเลือดเนื้อ ไม่ใช่วิญญาณ

เมื่อพระเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์ออกมา

ทั้งคนที่ช่วยเหลือก็สะดุด  ทั้งคนที่รับความช่วยเหลือก็จะล้มลง

ทั้งสองฝ่ายจะพินาศไปพร้อม ๆ กัน

ท่านอิสยาห์ได้บอกชัดเจนว่า คนที่ไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ ไม่ขอจากพระเจ้าเอง จะพบกับอะไร  ….. นี่ไม่ได้หมายความถึงแค่การช่วยเหลือกันและกันที่มนุษย์พึงจะมีต่อกัน 

ท่านอิสยาห์กำลังกล่าวว่า เมื่อเราเลิกวางใจพระเจ้า หันไปวางใจมนุษย์เป็นที่หนึ่งเมื่อไร  เมื่อนั้นแหละที่เรากำลังบอกว่า พระองค์คงช่วยเราไม่ได้  มนุษย์เก่งกว่า ….. ตรงนี้ที่เราทุกคนต้องตระหนักว่า  การดำเนินชีวิตของเราทุกวัน เราต้องพึ่งพระองค์เป็นที่หนึ่ง และถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยได้ทุกอย่าง  ไม่ดูหมิ่นพระองค์ด้วยการคิดไปเอง  หาทางเอง…แต่ต้องวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจ  ไม่พึ่งในความเข้าใจของตนเอง ….

พระคำตอนนี้ เตือนเราตรง ๆ ง่าย ๆ ชัดเจน!

อิสยาห์ 30-4

อิสยาห์ 30:27-33
ดูเถิด พระนามของพระเจ้าจะมาจากที่ไกล พร้อมกับพระพิโรธในควันอันหนาทึบ พระโอษฐ์ของพระองค์นั้นเต็มด้วยความกริ้ว ลิ้นของพระองค์คือไฟที่เผาผลาญ ลมปราณของพระองค์เป็นเหมือนกับน้ำที่ท่วมขึ้นมาถึงคอ   ทรงฝัดร่อนประชาชาติด้วยตะแกรงแห่งการทำลายล้าง บังเหียนที่ทำให้เตลิดเปิดเปิงไปก็ติดอยู่ที่ปากของพวกเขา

ส่วนเจ้าจะร้องเพลงเหมือนคืนเทศกาล เจ้าจะดีใจเหมือนตอนที่เดินในขบวนพร้อมกับเสียงขลุ่ยขณะที่เดินมุ่งหน้าไปยังพระวิหารบนภูเขาของพระเจ้าเพื่อเฝ้าพระศิลาแห่งอิสราเอล

พระเจ้าจะทรงให้มนุษย์ได้ยินพระสุรเสียงอันทรงพระสิริ และพวกเขาจะเห็นพระกรที่หวดลงมาด้วยพระพิโรธ ด้วยไฟที่เผาผลาญ ด้วยเสียงสนั่นแห่งฟ้าพายุและลูกเห็บ

tocaaaa
เมื่อได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า อัสซีเรียจะตกใจสุดขีด ทรงฟาดพวกเขาด้วยคทาของพระองค์ การลงโทษได้ไม้พลองแต่ละครั้งจะหลายเป็นเสียงรำมะนาและพิณของอิสราเอล เมื่อพระองค์ทรงโจมตีอัสซีเรียด้วยพระกรของพระองค์

โทเฟทนั้นถูกเตรียมไว้นานแล้ว เตรียมไว้สำหรับอัสซีเรียและโมเลค หลุมที่ใช้เผาทั้งลึกและกว้างใหญ่ ลมปราณของพระเจ้าเป็นเหมือนธารไฟกำมะถันที่ลุกโชน ซึ่งจะจุดโทเฟทให้ลุกเป็นไฟ!

โทเฟท เป็นชื่อของสถานที่ซึ่งอยู่ในหุบเขาฮินนอม  นอกกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม เป็นที่ทิ้งขยะต่าง ๆ ของเมือง  เป็นที่ ๆ ครั้งหนึ่งคนอิสราเอลเคยนำลูกชายของตนไปเผาบูชาเทวรูปโมเลค

พระเจ้าจะทรงลงโทษกษัตริย์อัสซีเรีย คือเซนนาเคอริบ และ ประมาณปี 603 ก่อนคริสตศักราช กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ที่สอง ก็ได้มาโจมตีอัสซีเรีย ที่คาร์เคอมิชซึ่งอยู่ทางเหนือของซีเรียในปัจจุบัน   รวมทั้งได้จัดการกับอียิปต์ด้วยเช่นกัน 

อิสยาห์ 30-3

อิสยาห์  30:18-26

ดูซิ พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะอวยพระพรแก่มนุษย์…..  พระองค์ทรงทำอยู่ให้เราทุกวันนี้  แต่เราเองเป็นผู้ทำลายสิ่งที่พระองค์ประทานมา  

พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะเมตตาต่อเจ้า  พระองค์ทรงลุกขึ้น เพื่อจะทรงกรุณาต่อเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์ยุติธรรม ทุกคนที่รอคอยพระองค์ก็ได้รับพระพร

ประชาชนแห่งศิโยนเอ๋ย  ผู้ที่อาศัยในนครเยรูซาเล็ม เจ้าจะไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป  พระเจ้าทรงมีพระคุณมากเท่าไรยามที่เจ้าร้องขอความช่วยเหลือ  พระองค์จะทรงตอบเจ้าทันทีที่พระองค์ได้ยินเสียงร้องทูล

แม้ว่าพระองค์จะประทานอาหารแห่งความยากเข็ญและน้ำแห่งความทุกข์ทนแก่เจ้า   ท่านครูของเจ้าจะไม่ซ่อนตัวอีกต่อไป แต่ตาของเจ้าจะได้เห็นท่านครูของเจ้า   ไม่ว่าเจ้าจะหันไปทางขวา หรือหันไปทางซ้าย เจ้าจะได้ยินเสียงข้างหลังเจ้าว่า “นี่เป็นหนทาง จงเดินไปในทางนั้น!”  แล้วเจ้าจะได้ทิ้งรูปเคารพเคลือบเงิน รูปปั้นเคลือบทองของเจ้า   เจ้าจะโยนมันทิ้งไปเหมือนโยนสิ่งสกปรก และเจ้าจะกล่าวกับมันว่า “ไปให้พ้นหูพ้นตา!”  อยากเห็นวันแบบนี้  ทัศนคติเปลี่ยนไป  รู้แล้วว่า  พระเจ้าเที่ยงแท้เท่านั้นที่สมควรจะนมัสการ 

พระเจ้าจะทรงส่งฝนมาให้เมล็ดพันธุ์ที่เจ้าหว่านลงในดิน   ประทานอาหารซึ่งเป็นผลผลิตจากดินอย่างมากมายเหลือเฟือ  ฝูงสัตว์ของเจ้าจะกินหญ้าในทุ่งกว้างเขียวขจี   วัวผู้กับลาที่เจ้าใช้งานจะกินอาหารอย่างดีที่ฝัดด้วยพลั่วและเสียม

ox

บนภูเขาสูงทุกแห่ง รวมทั้งเนินเขาสูงจะมีธารน้ำไหลผ่าน  ในวันแห่งการสังหารใหญ่เมื่อหอคอยพังลง

ยิ่งกว่านั้นแสงของดวงจันทร์จะส่องแรงเหมือนแสงอาทิตย์ และแสงอาทิตย์จะส่องแรงอีก 7 เท่าราวกับแสง 7 วันรวมกัน เป็นวันที่พระเจ้าจะทรงพันบาดแผลให้กับคนของพระองค์ และรักษารอยแผลที่พระองค์ทรงโบยตีเขานั้น

อิสยาห์ 30-2

 อิสยาห์ 30:8-17

พระเจ้าทรงบอกว่า วิธีที่จะได้กำลัง ได้รอดพ้นทำอย่างไร    แต่ถึงรู้พวกเขาก็ไม่ฟัง  รั้นที่จะทำตรงกันข้าม!

คนที่ดื้อดึง

ตอนนี้ จงไปเถอะ  เขียนลงไปบนแผ่นจารึก และเขียนลงไปในหนังสือเพื่อว่าวันหนึ่งมันจะเป็นพยานตลอดไป

เพราะพวกเขาเป็นคนที่ดื้อดึง เป็นเด็กที่โกหกเป็นเด็กที่ไม่ยอมฟังคำสอนของพระเจ้า กล่าวกับคนที่เป็นผู้ทำนายว่า “อย่าเห็นอะไรในอนาคตเลย” บอกกับผู้กล่าวคำของพระเจ้าว่า  “อย่ากล่าวคำที่ถูกต้องกับเรา แต่ให้พูดสิ่งที่หวานรื่นหู  ให้กล่าวคำที่เป็นฝันลวง  ออกจากทางของพระเจ้า หันออกจากหนทางนี้ อย่าให้เราได้ยินอะไรที่เกี่ยวข้องกับองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลอีกต่อไป”

ดังนั้น พระเจ้าองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลจึงตรัสว่า  “เพราะว่าเจ้าดูหมิ่นถ้อยคำนี้  เชื่อในการกดขี่  การวิปลาสคดโกง  และวางใจมัน ดังนั้น ความบาปเหล่านี้จะเป็นเหมือนกับกำแพงสูงสำหรับเจ้า  แตกออก และพร้อมที่จะล้มทลายลง  มันจะพังอย่างทันใด ในเวลาชั่วแวบเดียว   การพังทลายของมันนั้น เหมือนกับหม้อดินที่แตกละเอียดไม่มีชิ้นดี  ขนาดที่ใหญ่พอจะตักไฟออกจากเตา หรือตักน้ำออกจากบ่อยังไม่มีเลย”

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า  องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ตรัสว่า “เจ้าจะรอดพ้นได้ก็ด้วยการหันกลับมา และพัก  เจ้าจะมีกำลังได้ก็ด้วยการนิ่งสงบ และวางใจ” 

Eugene Delacroix 1849
Eugene Delacroix 1849

แต่เจ้ากลับไม่ยอมทำตามนั้น   เจ้ากล่าวว่า “ไม่! เราจะขี่ม้าหนีไปดังนั้น เจ้าจะหนีไป” และ ”เราจะควบสุดฝีเท้า”  ดังนั้นคนที่ไล่ล่าตามเจ้านั้นก็จะเร็วสุดขีด   คนเป็นพันจะหนีเพราะคน ๆ เดียวขู่ จนกระทั่งเหลือแต่เจ้าซึ่งเหมือนเสาธงอันเป็นสัญญาณอยู่บนเนิน

อิสยาห์ 30-1

2 มีนาคม 13   อิสยาห์ 30:1-7

อย่าลงไปอียิปต์

“ โอ..วิบัติแก่เจ้าลูกหลานที่ดื้อดึง”  พระเจ้าตรัส “เจ้าทำตามที่วางแผน แต่ไม่ใช่แผนของเรา  เจ้าไปสร้างพันธมิตร  แต่ไม่ใช่พันธมิตรกับวิญญาณของเรา  ทำให้เจ้าทำบาปซ้อนบาป เจ้ามุ่งหน้าไปยังอียิปต์ โดยไม่ขอคำปรึกษา ไม่หาแนวทางจากเรา  เจ้าไปขอลี้ภัยอยู่ใต้การอารักขาของฟาโรห์  เจ้าหาร่มเงาจากอียปต์!

ดังนั้น การคุ้มครองจากฟาโรห์จะกลายเป็นความขายหน้าของเจ้า ร่มเงาจากอียิปต์กลับทำให้เจ้าต้องเสียเกียรติ

เพราะถึงแม้ว่าข้าราชการของฟาโรห์จะอยู่ที่โศอัน และทูตของเขาไปถึงฮาเนส  ทุกคนก็กลับอับอายเพราะเหล่าคนที่ช่วยเขาไม่ได้เลย  ไม่สามารถช่วย ไม่สามารถให้ประโยชน์อันใด พวกเขาให้แต่ความอับอายและเสื่อมเกียรติ

คำกล่าวเรื่องสัตว์ป่าแห่งเนเกบ … พวกเขาได้ขนทรัพย์สมบัติบรรทุกหลังลา รวมทั้งทรัพย์สินต่าง ๆ บรรทุกหลังอูฐ ผ่านเข้าไปในดินแดนแห่งความลำบากลำเค็ญ  เป็นดินแดนของสิงโตและนางสิงห์  รวมทั้งงูกะปะและงูแมวเซา   เขามุ่งหน้าไปหาคนที่ช่วยเขาไม่ได้

is30kaba

ความช่วยเหลือของอียิปต์นั้นก็ไร้ค่า ว่างเปล่า ดังนั้น เราจึงเรียกเธอว่า …

“ราหับผู้นั่งนิ่ง ๆ “

อิสยาห์ 29-3

อิสยาห์ 29:17-24

ไม่ใช่อีกสักหน่อยหรือ ที่เลบานอนจะกลายเป็นสวนที่อุดมสมบูรณ์   และสวนที่อุดมจะกลายเป็นป่าไม้

วันนั้น คนที่หูหนวกจะได้ยินพระวจนะจากหนังสือ และคนตาบอดจะได้มองเห็น  ออกจากความมืดมัวและมืดมิด
คนที่ถ่อมตนจะได้รับความยินดีใหม่ในพระเจ้า   คนยากจนในหมู่มนุษย์จะได้กระโดดโลดเต้นในองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

daiyin

เพราะคนชั่วร้ายจะกลายเป็นศูนย์  คนที่ช่างเยาะเย้ยจะต้องจบลง คนที่รอทำความชั่วจะถูกตัดออกไป

คนเหล่านี้ ก็คือคนที่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น  และพยายามวางกับดักเพื่อดักล่อคนที่พยายามสร้างความยุติธรรมที่ประตูเมือง  คนที่ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องกลับกลายเป็นคนผิดด้วยการฟ้องร้องที่ไร้สาระ

ดังนั้น    พระเจ้าผู้ทรงไถ่อับราฮัม จึงตรัสถึงวงศ์วานของยาโคบว่า “ยาโคบจะไม่ต้องละอายอีกต่อไป   ใบหน้าของเขาจะไม่ซีดเผือดอีกต่อไป  เพราะเมื่อเขาเห็นลูกหลานของเขา เห็นราชกิจจากมือเราท่ามกลางพวกเขา  พวกเขาจะรักษานามของเราให้บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์  พวกเขาจะยอมรับความสูงส่งแห่งองค์บริสุทธิ์ของยาโคบ และจะยืนอยู่ต่อพระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยความยำเกรง

คนที่หลงทางไปจะกลับมาเข้าใจ และคนที่ช่างบ่นจะรับคำสอน

อิสยาห์ 29-2

อิสยาห์ 29:9-16

จงรู้สึกงง  จงให้สิ่งรอบตัวทำให้งง ทำตาให้บอด และเป็นคนตาบอด!

จงเมา แต่ไม่ได้เมาด้วยเหล้าองุ่น  เดินโซเซ แต่ไม่ใช้ด้วยเหล้าแรง ๆ

เพราะว่า พระเจ้าทรงเทวิญญาณแห่งการหลับลึกให้กับเจ้า   และปิดตาเจ้าผู้เป็นคนกล่าวคำของพระเจ้า  และปิดหัวของคนที่ทำนาย

นิมิตที่มาถึงเจ้า เป็นเหมือนคำในหนังสือที่ปิดประทับตราเอาไว้   เมื่อส่งให้กับคนที่อ่านออก และบอกว่า “อ่านนี่ซิ”  เขากล่าวตอบว่า “อ่านไม่ได้ เพราะมันปิด ประทับตราเอาไว้”  และเมื่อส่งหนังสือให้กับคนที่อ่านไม่ออก และบอกว่า “อ่านนี่ซิ”  เขาจะตอบว่า “ข้าอ่านไม่เป็น”

และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เพราะคนเหล่านี้เข้ามาใกล้เราแค่ด้วยปาก ด้วยคำพูดเท่านั้น  แต่ใจของพวกเขาห่างจากเรา  เขายำเกรงเราก็ด้วยการถือรักษากฎที่มนุษย์ตั้งขึ้นมา ดังนั้น ดูเถิด เราจะทำสิ่งที่มหัศจรรย์กับเขาเหล่านี้

เป็นความอัศจรรย์ซ้อนความอัศจรรย์  ปัญญาของปราชญ์ท่ามกลางเขาจะพินาศไป    คนช่างสังเกตก็จะกลายเป็นมองอะไรไม่เข้าใจ สิ่งต่าง ๆ ถูกปิดบังเอาไว้ “

อา.. วิบัติจะมีแก่เจ้าที่พยายามซ่อนแผนของเขาไว้จากพระเจ้า คนที่ทำการในความมืด และกล่าวว่า “ใครจะมาเห็นเรา? ใครจะมารู้จักเรา?”

Is29-16

เจ้าได้พลิกคว่ำสิ่งต่าง ๆ ให้กลับหัวกลับหางไปหมด !   ถามหน่อย ช่างปั้นจะถูกมองเป็นดินหรือ และสิ่งที่ถูกปั้นขึ้นมา พูดอย่างนี้กับผู้ปั้นได้หรือว่า “ท่านไม่ได้สร้างข้า” ? หรือสิ่งที่ถูกขึ้นรูปกล่าวกับผู้ที่ทำให้รูปนั้นขึ้นมาว่า “ท่านไม่มีความเข้าใจ”?

อิสยาห์ 29-1

อิสยาห์ 29:1-8

โอ อารีเอล อารีเอล.. นครที่ราชาดาวิดได้ตั้งค่าย เพิ่มปีเข้าไปให้ปี ให้เทศกาลทั้งหลายเกิดขึ้นตามกำหนดรอบของมัน

แต่เรายังจะทำให้อารีเอลไร้ความสุข  จะมีการโอดครวญร่ำไห้ และนครนั้นจะเป็นเหมือนอารีเอลแก่เรา

และเราจะตั้งค่ายต่อสู้กับเจ้ารอบข้าง จะรุมเจ้าด้วยหอรบ และเราจะตั้งป้อมเพื่อจัดการกับเจ้า  เจ้าจะถูกนำลงมาจนถึงที่ต่ำ  เจ้าจะพูดมาจากผืนดิน  จากฝุ่นผง คำของเจ้าจะต้องถูกกดลง   เสียงของเจ้าจะมาจากดินราวกับเสียงของวิญญาณ เจ้าจะกระซิบมาจากผงคลี

แต่ศัตรูต่างชาติของเจ้าจำนวนมากมายนั้น ก็จะเป็นเหมือนฝุ่น และเหล่าคนที่โหดร้ายจะเป็นเหมือนแกลบที่ลอยหายไป

จาก http://mikemesserli.blogspot.com/2010_12_01_archive.html
จาก http://mikemesserli.blogspot.com/2010_12_01_archive.html

เพียงชั่วครู่ ในทันใด พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทรงเยี่ยมเยียนเจ้า  ด้วยฟ้าร้องลั่น ด้วยแผ่นดินไหวและเสียงสนั่นหวั่นไหว  ด้วยลมหมุนและพายุกล้า  ด้วยเพลิงไฟที่เผาผลาญ

และคนจำนวนมากจากประเทศต่าง ๆ ที่ต่อสู้กับอารีเอล ทุกชาติที่ต่อสู้กับเธอ ต่อสู้กับป้อมปราการของเธอ ทำให้เธอเป็นทุกข์ จะกลายเป็นเหมือนฝัน  เป็นฝันกลางคืน  เหมือนกับคนที่หิวโหยฝัน  และดูเถอะ เขากินจนอิ่ม  เมื่อตื่นขึ้นมา ก็ยังหิวอยู่   หรือเหมือนตอนที่คนกระหายฝัน ดูเถอะ เขากำลังดื่ม  แต่เมื่อตื่นขึ้นมาก็สลบไปอีก   ความกระหายก็ยังอยู่ เหล่าประชาชาติที่ต่อสู้กับภูเขาศิโยนก็จะเป็นอย่างนั้น

 

อารีเอล เป็นชื่อเรียกนครเยรูซาเล็มอีกชื่อ  มีความหมายว่า สิงโตของพระเจ้า   พระเจ้าจะทรงทำให้นครเยรูซาเล็มตกต่ำไป เพราะว่าพวกเขาได้ทำผิดต่อพระองค์ แล้วยังไม่รู้สำนึก

แต่จะมีวันที่พระเจ้ากลับมาหาเขาเยี่ยมเยียนเขา และปกป้องเขาไว้จากชาติต่าง ๆ ที่พยายามจะมาโจมตี

อิสยาห์ 28-4

อิสยาห์28:23-29
จงเงี่ยหูฟัง ฟังเสียงของเรา ตั้งใจ และฟังคำของเรา
คนที่ไถเพื่อจะหว่านนั้น เขาไถเรื่อยไปหรือ?
เขาจะเปิดดิน และทำร่องไปเรื่อย ๆ หรือ?
เมื่อเขาทำระดับให้กับหน้าดินแล้ว เขาไม่ได้ หว่านเมล็ดผักหอม  หว่านยี่หร่า(เทียนขาว) และ เรียงเมล็ดข้าวสาลีเป็นแถว เรียงข้าวบาร์เลย์ให้เป็นระเบียบ และปลูกข้าวไรอยู่ริมนาเพื่อกั้นเขตหรือ ?
เพราะว่าพระเจ้าทรงสอนเขา เขาได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้อง
ผักหอมไม่ได้ถูกนวดด้วยเลื่อนนวดข้าว
ไม่ได้เอาล้อเกวียนกลิ้งไปบนต้นยี่หร่า
แต่จะใช้ไม้ตีต้นผักหอม และเอาะบองตีต้นยี่หร่า

kaoใครคนหนึ่งจะขยี้ข้าวเพื่อได้ขนมปังมาหรือ? ไม่เลย เขาจะไม่นวดมันตลอดไป เมื่อเขาขี่เกวียนเทียมม้าทับมัน
เรื่องนี้มาจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระองค์ทรงให้คำปรึกษามหัศจรรย์ ทรงยอดเยี่ยมในพระปัญญา

 

เรื่องของวันนี้ จะแปลความหมาย รู้สึกว่ายาก แต่ที่เราพอจะเข้าใจได้ก็คือ ท่านอิสยาห์กำลังบอกว่า สิ่งที่พระเจ้าทรงทำ ก็คล้าย ๆ กับคนที่เป็นเกษตรกร  พวกเขาจะทำการเกษตรเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ใช่ว่าแค่พรวนดินอย่างเดียว  แต่เมื่อเขาเตรียมดินแล้ว เขาก็จะหว่านพืชให้เหมาะกับการเติบโตของมัน 

มีข้าวที่เป็นหลัก  และเขาก็จะหว่านเมล็ดเครื่องเทศลงไป  และยังมีพืชที่จะอยู่ในแนวกั้นเขตของเขาด้วย 

พระเจ้าทรงสอนเกษตรกรจนพวกเขามีปัญญาจะรู้ว่า ควรทำ และไม่ควรทำอะไร   แต่ละพื้นที่ในโลกก็จะมีภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเอง

และเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว ก็จะใช้วิธีที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้เมล็ดพืชนั้นมาบริโภค

พระเจ้าผู้ทรงปัญญาล้ำเลิศ จะทรงจัดการกับคนของพระองค์  ตามแบบที่เหมาะกับพวกเขาด้วยเช่นกัน …… หากเราสังเกตให้ดี จะเห็นว่า พระเจ้าทรงมีบทเรียนให้กับเราแต่ละคน เหมือนกันบ้าง แตกต่างกันบ้าง แต่ละคนมีไม่เหมือนกันเสียทีเดียว … 

 

อิสยาห์ 28-3

อิสยาห์ 28: 14

เจ้าผู้ครองประชาชนในนครเยรูซาเล็ม…เจ้าคนช่างเยาะเย้ย จงฟังสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เพราะเจ้ากล่าวว่า “เราได้ทำพันธสัญญาไว้กับความตาย  เราได้ตกลงไว้กับแดนผู้ตาย  ดังนั้นเมื่อการโบยตีโถมเข้ามาหา  พวกเราจะไม่โดนโบย … เพราะเราให้การมุสาเป็นที่ลี้ภัยของเรา  เราพึ่งร่มเงาของการหลอกลวง”

ดังนั้น พระเจ้าจึงตรัสว่า “ดูเถิด… เราเองเป็นผู้วางรากฐานของศิโยน เป็นศิลา ศิลาที่ถูกทดสอบแล้ว   เป็นศิลามุมเอกที่ทรงคุณค่า  เป็นรากฐานที่มั่นคง : ดังนั้นผู้ที่เชื่อวางใจจะไม่รีบร้อน

และเราจะให้ความยุติธรรมเป็นสายวัด  ให้ความชอบธรรมเป็นสายดิ่ง และลูกเห็บจะกวาดที่ลี้ภัยมุสา  และน้ำจะท่วมร่มเงาของการหลอกลวง “

“แล้วพันธสัญญาที่มีต่อความตายจะกลายเป็นโมฆะ  และข้อตกลงกับแดนคนตายก็จบลง  เมื่อการโบยตีที่ถาโถมเข้ามาผ่านไปแล้ว เจ้าก็จะถูกตีจนล้ม

sae2การโบยของพระเจ้าจะมาหาพวกเขาไม่หยุดหย่อน!

 

 

มันผ่านไปบ่อยเท่าไร มันก็จะจัดการกับเจ้า  เวลาเช้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่มันจะผ่านเข้ามา ทั้งกลางวันและกลางคน และเมื่อเจ้าเข้าใจข่าวสารนี้ ก็จะพบแต่ความสยดสยอง

เพราะว่า เตียงก็สั้นเกินคนที่นอน  และผ้าคลุมก็แคบเกินที่จะห่มตัว

เพราะว่า พระเจ้าจะทรงลุกขึ้นเหมือนอย่างที่ภูเขาเปริซิม  พระองค์จะทรงกริ้วเหมือนที่หุบเขากิเบโอน เพื่อว่าพระองค์จะทรงทำราชกิจของพระองค์  ราชกิจของพระองค์นั้นแปลกประหลาด  เพื่อว่า พระองค์จะทรงทำงานของพระองค์ และงานของพระองค์นั้นก็น่าฉงน!

ฉะนั้น เจ้าอย่าเป็นคนช่างเยาะเย้ย  มิฉะนั้น พันธะของเจ้าก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะข้าได้ยินคำบัญชาให้ทำลายทั้งแผ่นดินจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

คนช่างเยาะเย้ยนั้น ไม่ว่าตัวเองทำผิด หรือ ถูก ก็จะเยาะเย้ยคนอื่นเสมอ  เมื่อพระเจ้าเรียกใครเป็นคนช่างเยาะเย้ย คนนั้นคือคนชั่วร้าย   พวกเขาไปทำสัญญากับอียิปต์ กับอัสซีเรีย  เพราะคิดว่า จะช่วยพวกเขาได้  แต่อิสยาห์ได้บอกพวกเขาว่า เท่ากับเขากำลังไปตกลงกับความตาย ….

พวกเขาคิดว่าจะรอดพ้นภัยจากศัตรูได้   แต่เหล่าศัตรูนั่นแหละที่จะมาลากพวกเขาไปเป็นทาสในแดนของตน

ตรงข้ามกับสิ่งที่ผู้นำอิสราเอลไว้ใจ  นั่นก็คือ ศิลามุมเอก!

ถ้าจะพูดถึงศิลามุมเอกแล้ว ในสมัยโบราณ เป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของตัวอาคาร  พระเจ้าจะทรงวางศิลามุมเอกไว้   ตรงนี้เราทำเองไม่ได้เลย  ผู้ที่เป็นศิลามุมเอกคือ องค์พระเยซูคริสต์นั่นเอง  และคนที่วางใจในพระองค์ จะไม่ต้องรีบร้อนในเรื่องใด ๆ 

การงานของพระเจ้านั้นแปลก  คาดไม่ถึง และน่าฉงน ไม่มีใครจะเอาชนะพระองค์ได้เลย  จึงหยุดเยาะเย้ยได้แล้ว

อิสยาห์ 28-2

อิสยาห์  28:7-13

พวกเขาเหล่านี้ต่างเดินโซเซไปเพราะเหล้าองุ่น  เดินสะดุดเพราะดื่มจัด ทั้งปุโรหิตและผู้กล่าวคำก็เดินโซเซเพราะเหล้าแรง   พวกเขาเมาหยำเป โงนเงนไปเพราะเครื่องดื่มเข้มข้น

พวกเขามีวิสัยทัศน์รวนเร  ในการพิพากษาก็กลับไปมา  โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยอาเจียร ไม่มีที่สะอาดเลย

ไม่ว่าจะโบราณหรือวันนี้ พอเมาแล้วก็เหมือน ๆ กัน
ไม่ว่าจะโบราณหรือวันนี้ พอเมาแล้วก็เหมือน ๆ กัน

เพราะเขาจะสอนความรู้ให้แก่ใคร  และจะอธิบายข่าวสารให้ใครฟัง คนที่เพิ่งหย่านม  เหล่าคนที่ถูกจับมาจากอกแม่อย่างนั้นหรือ?

เพราะว่า มันเป็นคำสอนซ้อนคำสอน  คำสอนซ้อนคำสอน บรรทัดซ้อนบรรทัด บรรทัดซ้อนบรรทัด  ที่นี่นิด  ที่นั่นหน่อย

เพราะพระเจ้าจะตรัสต่อคนเหล่านี้ ด้วยคนภาษาอื่น และด้วยลิ้นต่างถิ่น  พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่เป็นที่พักผ่อน   จงให้การพักผ่อนกับคนที่อ่อนแรง และนี่คือ ที่พักสงบ”  แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง

และคำของพระเจ้ามายังพวกเขา มันเป็นคำสอนซ้อนคำสอน  คำสอนซ้อนคำสอน บรรทัดซ้อนบรรทัด บรรทัดซ้อนบรรทัด  ที่นี่นิด  ที่นั่นหน่อย   เพื่อว่าพวกเขาจะไปและหงายล้มลง  จะแตกสลายและถูกบ่วงแร้ว และถูกจับไป

อิสยาห์ 28-1

อิสยาห์ 28:1-6    อิสยาห์กล่าวคำจากพระเจ้าตักเตือนเอฟราอิม   ในช่วงนี้ เป็นรัชสมัยของราชาเฮเซคียาห์  แม้คำกล่าวของท่านอิสยาห์จะคล้าย ๆ กับบทที่ 13 -27  แต่ก็เป็นคนละช่วงเวลา

อา.. มงกุฎอันยโสของเหล่าคนขี้เมาแห่งเอฟราอิมจะเกิดวิบัติ และดอกไม้บนยอดเขาเหนือที่ลุ่มอันอุดมของผู้ที่ดื่มเหล้าองุ่นจนล้น  ก็กำลังเหี่ยวเฉา หมดความงดงาม

ดูเถิด พระเจ้าทรงมีผู้หนึ่งที่มีอำนาจและเข้มเข็ง เป็นเหมือนพายุลูกเห็บ พายุกล้าที่โถมทำลาย  เป็นเหมือนพายุจากน้ำไหลเชี่ยวที่กล้าแกร่ง  พระเจ้าทรงเหวี่ยงเขาลงสู่แผ่นดินด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง

Is28broken-crown

มงกุฎอันยโสของคนขี้เมาแห่งเอฟราอิมก็จะถูกเหยียบย่ำใต้เท้า  และดอกไม้เหี่ยวเฉาบนยอดเขาเหนือที่ลุ่มอันอุดม ก็จะเป็นเหมือนลูกมะเดื่อที่สุกก่อนฤดูร้อน  เมื่อคนเห็นก็คว้ามากลืนกินทันที

ในวันนั้นพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทรงเป็นมงกุฎแห่งสง่าราศี  จะเป็นมงกุฎที่งดงามสำหรับประชากรที่เหลือของพระองค์

และจะทรงเป็นวิญญาณแห่งความเที่ยงธรรมแก่ผู้ที่นั่งพิพากษา  และจะเป็นกำลังแก่คนที่หันหลังให้กับการต่อสู้ที่ประตูเมือง

 

เพื่อน ๆ ครับ เอฟราอิมนั้น ก็มีความหมายถึงอิสราเอลทางเหนือ  พวกเขาเป็นผู้นำที่รักการดื่มจนเมา  เมื่อเมาก็สามารถทำบาปอะไรต่อก็ได้ เพราะสติไม่มีแล้ว …. แล้วเพื่อน ๆ ลองดูซิ คนเมาส่วนใหญ่จะโอ้อวด โม้ว่าตัวเก่งอย่างนั้น ดีอย่างนี้….  ภาพนี้ชัดเจน 

และพระเจ้าจะทรงส่งผู้ที่จะมาจัดการกับความชั่วร้ายของเขา …. มาแบบพายุเลยล่ะ…. ไม่ได้ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาให้หนีได้  แต่พวกเขาจะหนีไม่พ้นการลงโทษของพระเจ้าด้วยสงครามที่พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้   

 

อิสยาห์ 27-2

อิสยาห์ 27:7-12

พระเจ้าทรงลงโทษอิสราเอล เหมือนอย่างที่ทรงลงโทษคนที่เข้ามาทำลายพวกเขาหรือ?  อิสราเอลถูกสังหาร เหมือนอย่างพวกที่มาสังหารพวกเขาหรือ?

ทีละขั้น ทีละตอน… พระเจ้าทรงลงโทษเขาด้วยการเนรเทศ  พระองค์ทรงเอาเขาออกไปด้วยลมแรงกราดกร้าว ในวันที่ลมตะวันออกพัดมา

บาปของยาโคบจะได้รับการลบไปด้วยการนี้   และนี่เป็นผลเต็มขนาดในการกำจัดบาปของเขา

คือ เมื่อเขาทำลายหินบนแท่นบูชาจนแหลกละเอียดเหมือนหินปูน  จะไม่มีอาเชริม หรือ แท่นเผาเครื่องหอมหลงเหลืออยู่

เมืองที่มีป้อมแข็งแรงจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว และคนจะทิ้งที่อาศัยไป จนเมืองกลายเป็นเหมือนที่กันดาร    ลูกวัวกลับไปเล็มหญ้าที่นั่น  มันนอนลงแทะกิ่งไม้     เมื่อกิ่งไม้แห้ง มันก็หัก  เหล่าผู้หญิงก็มาเก็บมันไปก่อไฟ

นี่เป็นประชากรที่ไร้ความคิด  ดังนั้นพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขามาจึงจะไม่ทรงสงสารเขาอีกต่อไป  พระองค์ผู้ทรงปํ้นเขามา จะไม่เมตตาต่อเขาอีก

ในวันนั้น จาำกแม่น้ำยูเฟรติส ถึงสายธารแห่งอียิปต์  จะเป็นที่ ๆ ที่พระเจ้าทรงนวดข้าว  ชนอิสราเอลเอ๋ย พระเจ้าจะทรงเก็บเจ้าเข้ามาทีละคน

shofar2

ในวันนั้น จะมีการเป่าเขาสัตว์อันใหญ่  จากนั้นคนที่หลงหายไปในแผ่นดินอัสซีเรีย  คนที่ถูกขับไล่ออกมาจากแผ่นดินอีิยิปต์ จะกลับเข้ามานมัสการพระเจ้าบนภูเขาในนครเยรูซาเล็ม

 

เพื่อน ๆ สังเกตเห็นไหมครับ พระเจ้าทรงมีเมตตาพิเศษต่ออิสราเอลจริง ๆ