ฮาบากุก 1:1-11
ภาระหนักที่ฮาบากุกได้เห็น….
ฮาบากุกร้องทูล
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องร้องขอความช่วยเหลือนานเท่าไร? ข้าพเจ้าจะกล่าวคำว่า “ความรุนแรง!”นานเท่าไร และพระองค์ก็ไม่ทรงช่วย.?
เหตุใดพระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าเห็นความอยุติธรรม และเหตุใดพระองค์ทรงมองความผิดเฉย ๆ?
สิ่งที่ฮาบากุกไม่เข้าใจเลยคือ ทำไมพระเจ้าไม่ทรงตอบคำอธิษฐาน เขาขอให้พระเจ้าทรงจัดการกับคนที่ผิด แต่ดูเหมือนพระองค์ทรงเฉยเมย ไม่น่าเชื่อ พระองค์ทรงทำอย่างนี้ได้อย่างไร… ตอบข้าพเจ้าหน่อย ฮาบากุกเรียกร้อง
ความพินาศและความรุนแรงอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า การต่อสู้ การแก่งแย่งก็เกิดขึ้นเต็มไปหมด
ดังนั้นกฏหมายจึงไร้อำนาจ และความยุติธรรมก็ไม่เกิดขึ้น
เพราะคนชั่วร้ายรุมล้อมคนชอบธรรม ดังนั้น ความยุติธรรมจึงถูกบิดเบือน ออกนอกลู่นอกทางไป เราคงเห็นแล้วว่า ในสังคมเมื่อความชั่วร้ายเกิดขึ้น ขาวกลายเป็นดำ คนถูกกลายเป็นคนผิด คนผิดกลายเป็นคนถูกต้อง ฮาบากุกทนไม่ได้แล้ว แต่ในที่สุด พระเจ้าทรงให้คำตอบที่ฮาบากุกไม่ชอบใจ
พระเจ้าทรงตอบ
ให้เจ้ามองไปตามประชาชาติต่าง ๆ และเห็นการอัศจรรย์ ให้เจ้าประหลาดใจได้เลย เพราะว่า เรากำลังทำราชกิจของเราในวันเวลาที่เจ้ามีชีวิตอยู่ หากเจ้าแค่ได้ยินเรื่องนี้เจ้าจะไม่เชื่อ
ในสมัยของฮาบากุกนั้น การเมืองต่างประเทศกำลังวุ่นวายไปหมด อัสซีเรีย (นีนะเวห์) กำลังจะหมดอำนาจ ผู้ที่เริ่มมีกำลังมากขึ้นคือเคลเดียซึ่งก็คือบาบิโลนนั่นเอง ผู้นำของบาบิโลนตอนนั้นคือ เนโบโพลัสซาร์ ปี 626 ก่อนคริสตศักราช บาบิโลนเป็นอิสระจากอัสซีเรีย และค่อย ๆ มีอำนาจมากขึ้นจนกระทั่งสามารถโจมตีอัสซีเรียจนพ่ายราบคาบในปี 605 ก่อนคริสตศักราช (ทั้งสองอาณาจักรนี้ อยู่ทางตะวันออกของอิสราเอล)
เพราะดูเถิด เราจะยกคนเคลเดียขึ้น พวกเขาเป็นชาติที่ขมขื่นและเดือดเลือดพล่าน ชาติที่เข้าประจัญบานทะลุผ่านแผ่นดินในโลกเพื่อจับกุมคนที่ไม่ใช่เป็นชนชาติของตน พวกเขาน่าสะพรึงกลัว และน่าหวาดหวั่น เขาถือว่า ตัวเขาเองนี่แหละเป็นผู้ให้ความยุติธรรม พวกเขาแสวงหาเกียรติให้ตนเอง
ภาพวาดโดย ชาร์ลส์ เฮนรี่ แกรงเกอร์ (1812-1893)
ม้าศึกของพวกเขานั้นวิ่งเร็วกว่าเสือดาว ดุร้ายกว่าสุนัขป่ายามค่ำ พลม้าก็ควบมันไปอย่างโอหัง พลม้านั้นมาจากที่ไกล ราวกับอินทรีบินมาโฉบเหยื่อ
พวกเขาตั้งหน้ามาเพื่อทำการรุนแรง และโกยกอบเชลยไปเหมือนกอบทราย พวกเขาเยาะกษัตริย์ทั้งหลาย และเย้ยเหล่าผู้นำ พวกเขาหัวเราะให้กับป้อมปราการ เพราะพวกเขาเพียงก่อดินทรายขึ้นมา แล้วก็ยึดป้อมเหล่านั้นได้ จากนั้นก็กวาดไปเหมือนลมกวาดแล้วก้าวต่อไป เหล่าคนผิด เขาถือว่า กำลังของเขาคือพระเจ้า
พระเจ้าทรงตอบว่า พระองค์จะทรงยกคนเคลเดียขึ้น! พวกเขาจะมาทำการรุนแรงกับพวกเรา . พระเจ้าทรงใช้คนที่น่ากลัว มีพลังมากอย่างเช่นราชาเนบูคัดเนสซาร์ซึ่งครองเมื่อปี 605 ปีก่อนคริสตศักราช อาณาจักรที่เนบูคัดเนสซาร์ครองนั้นรุ่งเรืองมาก จนกระทั่งปี 539 ก่อนคริสตศักราชจึงถูกอาณาจักรเปอร์เซียโจมตี
คนเคลเดียนี้ ไม่สนใจกฎหมายของใครทั้งสิ้น เขาถือว่า อำนาจสูงสุดอยู่ที่พวกเขาเอง เป็นพวกที่โจมตีอย่างรวดเร็วทันควัน ไม่รอช้า พวกเขารวดเร็วเหมือนเสือดาว ดุเหมือนสุนัขป่า และยังกระหายชัยชนะดั่งอินทรีอีกด้วย
พวกเขาใช้วิธีการโจมตีด้วยม้า และด้วยการสร้างหอคอยเคลื่อนที่ขึ้นมาเพื่อประชิดกำแพงเมืองที่พวกเขาจะเข้าไปโจมตี และพวกเขาก็ทำสำเร็จเสมอมา นี่เองทำให้พวกเขาคิดว่า กำลังของเขานี่แหละ คือพระเจ้าของเขา