เยเรมีย์ 10-2 ผู้ทรงเป็นจอมทัพ

เยเรมีย์ 10:8-16

พวกเขาทั้งโง่และเง่า  การตีสอนของรูปปั้นนั้นก็คือไม้เท่านั้นเอง
เครื่องเงินที่ตีแล้วถูกนำมาจากทารซิช
ทองถูกนำมาจากเมืองอุฟาส  มันเป็นผลงานจากน้ำมือของช่างฝีมือและช่างทอง
เสื้อผ้าของรูปปั้นนั้นเป็นสีครามและสีม่วง
เป็นผลงานของคนที่เชี่ยวชาญทั้งสิ้น

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และเป็นองค์ราชานิรันดร์
โลกสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นเมื่อพระองค์ทรงกริ้ว
และประชาชาติทั้งหลายก็ไม่อาจต้านทานพระพิโรธของพระองค์ได้

 

ดังนั้น เจ้าจงพูดกับพวกเขาว่า
“เหล่าพระที่มิได้เป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน
จะพินาศไปจากโลก จากใต้ฟ้าสวรรค์!”

 

Galax

ภาพถ่ายของคุณ Rogelio  Bernal Andreo  เป็นดาราจักรที่กำลังหมุน และทางช้างเผือกเหนือ อุทยานแห่งชาติโยซีไมท์  http://noticias.uol.com.br

พระองค์คือผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์

ทรงสถาปนาโลกนี้ด้วยพระปัญญา
ทรงขึงท้องฟ้าออกด้วยความเข้าใจ

เมื่อพระองค์เปล่งพระสุรเสียง  ก็มีเสียงน้ำพลุ่งพล่านบนท้องฟ้า
พระองค์ทรงทำให้ม่านหมอกเกิดขึ้นจากปลายแผ่นดินโลก
ทรงทำให้ฟ้าแลบแปลบปลาบเพื่อให้เกิดฝน
และทรงนำลมออกมาจากพระคลังของพระองค์

มนุษย์ทุกคนโง่เขลา ไร้ความรู้
ช่างทองทุกคนจะต้องละอายเพราะรูปเคารพของเขา
เพราะรูปเหล่านั้นเป็นสิ่งเท็จ ไม่มีความคิดในรูปนั้น
มันเป็นสิ่งไร้ค่า เป็นผลงานที่ให้ความเชื่อผิด
มันจะพินาศย่อยยับเมื่อถึงเวลาแห่งการลงโทษ

แต่พระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบไม่เป็นเช่นสิ่งเหล่านี้
พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งขึ้นมา
และอิสราเอลเป็นเผ่าพันธุ์ที่จะได้รับมรดกของพระองค์
พระนามของพระองค์คือ  องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เยเรมีย์ 10-1 พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่

เยเรมีย์ 10:1-7

จงฟังคำที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเกี่ยวกับเจ้า โอ … วงศ์วานอิสราเอล
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“อย่าทำตามอย่างชนชาติอื่น ๆ
อย่าสับสน หวาดกลัวหมายสำคัญจากท้องฟัา
เพราะว่าประชาชาติทั้งหลายกลัวสิ่งเหล่านี้
ประเพณีของพวกเขานั้นเป็นอนิจจัง

เขาตัดต้นไม้ต้นหนึ่งจากป่า และช่างก็ใช้ขวานอย่างเชี่ยวชาญ
จากนั้นก็ประดับมันด้วยเงินและทอง
ตอก รัดแน่นด้วยค้อนและตะปู  เพื่อว่ามันจะไม่เขยื้อนไปไหน
รูปของเขาเป็นเหมือนหุ่นไล่กาในทุ่งแตงกวา
มันพูดไม่ได้  และจะต้องขนมันไปมา
อย่าไปกลัวมันเลย…เพราะมันทำชั่วไม่ได้  และทำดีก็ไม่ได้…

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์ 
พระนามของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ 
พระนามของพระองค์ทรงพลานุภาพ

Je10-11

มีผู้ใดบ้างที่จะไม่ยำเกรงพระองค์  โอพระมหาราชาแห่งประชาชาติทั้งหลาย
เพราะนี่คือพระองค์
ท่ามกลางนักปราชญ์ของชนชาติทั้งหลาย
ในอาณาจักรทั้งปวง

ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์!

เยเรมีย์ 9-4 สิ่งที่น่าอวด

เยเรมีย์ 9:20-25

หญิงทั้งหลายเอ๋ย  จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ให้หูของเจ้าน้อมรับพระคำจากพระโอษฐ์ของพระองค์
สอนลูกสาวของเจ้าให้รู้จักคร่ำครวญ  และสอนเพลงศพให้กับเพื่อนบ้านด้วย

เพราะว่า ความตายคืบคลานมาที่หน้าต่าง
มันเข้ามาในวังของเรา ทำให้ไม่มีเด็กในถนนหนทาง
ไม่มีชายหนุ่มที่ลานเมือง!

จงพูดว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า
“ศพของคนตายจะถูกทิ้งไว้เหมือนมูลสัตว์ตามทุ่งโล่ง
เหมือนฟ่อนข้าวที่ล้มตามที่เก็บเกี่ยว
และจะไม่มีใครไปเก็บศพเหล่านั้น”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“อย่าให้คนฉลาด อวดสติปัญญาของตน
อย่าให้คนเข้มแข็งอวดพลังของตน
อย่าให้คนรวยอวดความมั่งคั่งของตน
แต่คนที่จะอวด  ให้เขาอวดว่า
เขาเข้าใจ และรู้จักเราว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ทรงรักอย่างมั่นคง  ทำการยุติธรรม และความชอบธรรมในโลก
เพราะว่า เราพอใจในสิ่งที่กล่าวมา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Is9-4

“ดูเถิด  วันนั้นจะมาถึง”  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
“คือเราจะลงโทษคนที่เข้าสุหนัตพอเป็นพิธี
อียิปต์ ยูดาห์ เอโดม  ลูกชายของอัมโมน โมอับและเหล่าคนที่อาศัยในทะเลทราย
ผู้ที่โกนจอนหู  เหล่าคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต
รวมไปถึงเหล่าอิสราเอลที่มิได้เข้าสุหนัตทางใจ!

 

 

เยเรมีย์ 9-3 เสียงคร่ำครวญจากศิโยน

เยเรมีย์ 9:13-19

และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ..
เพราะพวกเขาได้ละทิ้งธรรมบัญญัติที่เราได้วางไว้ต่อหน้าพวกเขา
และมิได้เชื่อฟังเสียงของเรา ไม่ได้เดินตามคำของเรา

แต่กลับดื้อดึง  เดินตามใจตนเอง  วิ่งไล่ตามบาอัลอย่างที่พ่อเขาสอน

ดังนั้น พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลจึงตรัสว่า
“ดูเถอะ เราจะเลี้ยงคนเหล่านี้ด้วยบอระเพ็ด และจะให้เขาดื่มน้ำพิษ!

เราจะส่งเขาให้กระจัดกระจายไปตามชาติต่าง ๆ ที่บรรพบุรุษของเขาไม่เคยรู้จัก
เราจะส่งดาบตามเข้าไปจนกระทั่งเราผลาญเขาเสียสิ้น”
พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัส

ดังนั้น  จงไตร่ตรอง และเรียกหญิงผู้ทำหน้าที่ไว้ทุกข์ ร้องไห้คร่ำครวญสำหรับงานศพมา
ไปตามหญิงที่เชียวชาญเหล่านั้นมา

mourner

ให้พวกเธอส่งเสียงร้องไห้ คร่ำครวญ โหยหวน
เพื่อว่าน้ำตาจะหลั่งออกมาจากตาของเรา และหนังตาของเราจะท่วมท้นด้วยน้ำตา

เพราะว่า คนได้ยินเสียงคร่ำครวญออกจากศิโยน
เราย่อยยับกันขนาดไหนนี่?  เราอับอายเป็นที่สุด
เพราะเราต้องทิ้งแผ่นดินของเรา
เพราะพวกเขาได้พังทำลายที่อาศัยของเรา

 

เยเรมีย์ 9-2 ที่อยู่ของหมาป่า

เยเรมีย์ 9:7-12

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจึงตรัสว่า
“เราจะถลุงและทดสอบพวกเขา  เพราะเราจะทำอะไรได้เล่า
ในเมื่อพวกเขาเป็นกันอย่างนี้?”

ลิ้นของพวกเขาเป็นลูกศรแห่งความตาย  มันเป็นคำเสแสร้ง
แต่ละคนพูดถึงสันติภาพกับเพื่อนบ้าน แต่ในใจกลับวางแผนสังหารเขา

แล้วจะไม่ให้เราลงโทษพวกเขาเพราะสิ่งเหล่านี้รึ?  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
และจะไม่ให้เราแก้แค้นชนชาติที่ทำตัวอย่างนี้หรือ?

จงร้องไห้เพื่อภูเขาทั้งหลาย
จงครวญครางเพราะทุ่งหญ้าแห่งถิ่นกันดาร
เพราะว่ามันถูกทิ้งร้างไป ไม่มีคนผ่านไปมา
และไม่มีฝูงสัตว์เข้ามาในทุ่งนี้
ทั้งนกในอากาศและสัตว์ป่าต่างหนีหายไปสิ้น

ภาพจากourenvironment.berkeley.edu
ภาพจากourenvironment.berkeley.edu

เราจะทำให้นครเยรูซาเล็มเป็นกองซากปรักหักพัง
กลายเป็นที่อยู่ของหมาป่า
และเราจะให้เมืองต่าง ๆ ของยูดาห์กลายเป็นที่ร้างไม่มีคนอาศัย

ใครนะ..เป็นคนฉลาดพอที่จะเข้าใจสิ่งนี้ ?
พระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับใคร เพื่อที่เขาจะได้ป่าวประกาศออกไป?
เหตุใดแผ่นดินจึงถูกทำลาย กลายเป็นที่ร้างจนไม่มีใครเดินผ่าน?

 

 

เยเรมีย์ 9-1 จากชั่วสู่ชั่ว

เยเรมีย์ 9:1-6

โอ… อยากให้หัวของข้าเป็นธารน้ำ  และตาของข้าเป็นน้ำพุน้ำตา

เพื่อข้าจะได้ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน เพราะลูกสาวประชากรของข้าถูกสังหาร

ภาพวาดโดยมาร์ค ชากัล
ภาพวาดโดยมาร์ค ชากัล

โอ… อยากจะให้มีที่พักสำหรับคนเดินทางสำหรับข้าในทะเลทราย
เพื่อข้าจะได้ไปจากชนชาติของข้า

ใช่!….. ไปให้พ้นพวกเข้า เพราะพวกเขาทั้งหมดเป็นคนมีชู้
เป็นกลุ่มคนที่ร่วมมือกันทรยศ

พวกเขางอลิ้นราวกับคันธนู
สิ่งที่เข้มแข็งในแผ่นดินมิใช่ความจริง
แต่กลับเป็นการโป้ปดมดเท็จ
พวกเขาเดินก้าวจากความชั่วช้าสู่ความชั่วช้า
พวกเขาไม่รู้จักเรา… องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

ให้ทุกคนระมัดระวังเพื่อนบ้านของตนเอง และ อย่าไว้วางใจพี่น้องคนใดเลย
เพราะพี่น้องทุกคนเป็นคนหลอกลวง
และเพื่อนบ้านทุกคนก็ไปทางโน้นที ทางนี้ทีใส่ร้ายป้ายสีไปทั่ว

ทุกคนต่างล่อลวงเพื่อนบ้านของตนเอง
ไม่มีใครที่พูดความจริง
พวกเขาเสี้ยมสอนลิ้นให้พูดแต่คำมุสาออกมา
พวกเขากระทำผิดจนเกือบหมดแรง

กดขี่กันแล้ว กดขี่กันเล่า…
ล่อลวงกันแล้ว ล่อลวงกันเล่า
พวกเขาปฏิเสธไม่ยอมรู้จักเรา … องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

 

 

เยเรมีย์ 8-4 ไม่มี ไม่มี ไม่มี

เยเรมีย์ 8:16-22
ได้ยินเสียงหายใจของม้าจากเมืองดาน
แผ่นดินก็สะเทือนสะท้าน เพราะเสียงร้องของม้าศึกเหล่านั้น
พวกมันมาและเขมือบดินแดนไป พร้อมกับทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น

“ดูเถิด เราส่งงูมาท่ามกลางเจ้า เป็นงูทับทางที่ไม่อาจใช้มนต์สะกด
พวกมันจะกัดเจ้าทั้งหลาย” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แหละ

nguadder4

ภาพจาก http://www2.le.ac.uk

โอ… ความยินดีของข้าหายไปหมด มีแต่ความโศกเศร้า
ใจของข้าก็ป่วยอยู่ข้างใน
ฟังเสียงร้องของลูกสาวประชากรของข้าซิ จากส่วนกว้างและส่วนยาวของแผ่นดิน
องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ประทับในศิโยนหรอกหรือ?
พระราชามิได้ประทับอยู่ในเมืองหรือ?
“เหตุใดพวกเขาจึงมายั่วให้เราโกรธด้วยรูปเคารพและด้วยพระต่างชาติของเขา?

เวลาเก็บเกี่ยวผ่านพ้นไปแล้ว ฤดูร้อนก็สิ้นสุดลง และพวกเราก็ไม่รอด!
เพราะแผลของลูกสาวประชากรของข้า ใจของข้าจึงมีแผล
ข้าโศกเศร้างยิ่ง และความสยดสยองนั้น ก็ยึดตัวข้าไว้แน่น

ไม่มีพิมเสนในกิเลอาด ไม่มีแพทย์ที่นั่นเลยหรือ?
ทำไมสุขภาพของลูกสาวประชากรของข้าจึงไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิม?

เยเรมีย์ 8-3 ไม่เหลืออะไรเลย

เยเรมีย์ 8:10-15

“ดังนั้น เราจะมอบภรรยาของเขาให้กับผู้อื่น
และมอบทุ่งนาของเขาให้กับผู้ชนะ
เพราะตั้งแต่คนเล็กน้อย ไปจนถึงคนใหญ่โต ต่างกระหาย ตะกละที่จะได้จากการโกง
ตั้งแต่ผู้กล่าวคำของพระเจ้า ไปจนถึงปุโรหิต ทุกคนต่างฉ้อโกงทั้งนั้น!

พวกเขาได้รักษาแผลของประชากรของเราอย่างผักชีโรยหน้า
กล่าวว่า ..สันติสุข สันติสุข.. ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสันติสุขเลย
พวกเขารู้สึกละอายบ้างไหม เมื่อได้ทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน
เปล่าเลย พวกเขาไม่มียางอายสักนิด
ไม่รู้จักว่า การขายหน้าคืออะไร
ดังนั้น พวกเขาจะล้มลงไปเหมือนคนอื่นที่ล้มลง
Jeremiah-Lamentations-churban-temple
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เมื่อเราจะรวบรวมพวกเขา
ตอนนั้น จะไม่มีลูกองุ่นหลงเหลืออยู่บนกิ่งก้าน
ไม่มีลูกมะเดื่ออยู่บนต้น
ใบก็แห้งเหี่ยวไป สิ่งที่เราเคยให้เขาก็สูญจากไปจากเขา

เหตุใดเราจึงนั่งนิ่ง ๆ รวมตัวกันเถอะ และไปยังเมืองที่มีป้อมกัน
และพากันพินาศที่นั่น!

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงกำหนดให้เราพินาศ
ทรงให้เราดื่มน้ำที่เป็นพิษ
เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
เรามองหาสันติภาพ แต่ก็ไม่มีอะไรดี ๆ เข้ามาเลย
เรามองหาเวลาแห่งการบำบัดรักษา
แต่กลับมีแต่ความน่ากลัว สยดสยอง!!!

เยเรมีย์ 8-2 ไม่รู้จักเอาเสียเลย

เยเรมีย์ 8:4-9
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เมื่อมนุษย์ล้มลง เขาจะไม่ลุกขึ้นอีกหรือ?
เมื่อเขาหันจากไปแล้ว เขาจะไม่กลับมาอีกหรือ?

แล้วเหตุใด คนเหล่านี้จึงหันไป เขาทรยศไม่สิ้นสุด
เขาหลอกลวงไม่หยุดหย่อน และปฏิเสธไม่ยอมกลับมา
เราตั้งใจและคอยฟังอยู่
แต่พวกเขาไม่พูดในสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่มีใครกลับใจจากความบาปของตนแล้วกล่าวว่า
‘ข้าได้ทำอะไรลงไปนี่?’
ทุกคนต่างหันไปตามทางของตน เหมือนกับม้าที่มุ่งหน้าไปยังสนามรบ
opayop2
แม้นกกระสาแห่งท้องฟ้า ยังรู้จักฤดูกาลของมัน
นกพิราบ นกนางแอ่น และนกกระเรียนยังรู้ว่า เวลาใดมันควรอพยพ
แต่คนของเรากลับไม่รู้จักกฎเกณฑ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เจ้าพูดได้อย่างไรว่า ‘เราเป็นคนฉลาด และกฎเกณฑ์ของพระเจ้าอยู่กับเรา?’
ดูเถิด ปากกาของพวกอาลักษณ์ ได้ทำให้พระธรรมกลายเป็นคำมุสา
คนที่ฉลาดจะต้องอับอาย พวกเขาจะสับสนและถูกนำออกไป
ในเมื่อเขาปฏิเสธพระคำของพระเจ้า
แล้วจะมีปัญญาอยู่ในตัวเขาได้อย่างไร

เยเรมีย์ 8-1 กระดูกที่ถูกทิ้ง

เยเรมีย์ 8:1-3
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ในเวลานั้น…..
กระดูกของพระราชาแห่งยูดาห์
กระดูกของเหล่าข้าราชบริพาร
กระดูกของเหล่าปุโรหิต
กระดูกของผู้กล่าวคำ
กระดูกของประชาชนผู้อาศัยในนครเยรูซาเล็ม
จะถูกนำไปยังที่เก็บศพ
กระดูกเหล่านั้น จะถูกวางตากแดดตากน้ำค้าง
ภายใต้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และบรรดาดาวบนท้องฟ้าที่พวกเขาถือเป็นพระ
เขารักและรับใช้เหล่าเทหวัตถุบนท้องฟ้าเหล่านี้
เขาไล่ตามดาวเหล่านี้ นมัสการ และบูชามัน
กระดูกเหล่านั้นจะไม่ถูกเก็บไปฝัง
แต่จะกลายเป็นเหมือนมูลสัตว์บนพื้นแผ่นดิน
640x360
เหล่าคนที่หลงเหลือจากครอบครัวที่ชั่วร้าย ซึ่งยังคงค้างอยู่ในที่เหล่านี้
ซึ่งเราได้ขับไล่เขาไป จะอยากตายมากกว่ามีชีวิตอยู่!”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

เยเรมีย์ 7-5 หุบเขาสังหาร

gehเยเรมีย์ 7:30-34
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เพราะลูกหลานของยูดาห์ได้ทำชั่วในสายตาของเรา
พวกเขาได้วางสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังไว้ในพระวิหารซึ่งเรียกตามชื่อของเรา
และทำให้วิหารนั้นเป็นมลทิน
พวกเขาได้สร้างที่สูงของโทเฟท สร้างในหุบเขาแห่งลูกชายของฮินโนม
ที่ทำอย่างนั้นก็เพื่อจะได้เผาลูกชายและลูกสาวเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ
เรื่องนี้ เราไม่ได้สั่งให้ทำ และเราไม่เคยคิดอะไรเช่นนี้เลย

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ดังนั้น ดูเถิด เวลาจะมาถึง เมื่อคนจะไม่เรียกที่นั่นว่า โทเฟท หรือหุบแห่งลูกชายฮินโนมอีกต่อไป
แต่มันจะถูกเรียกว่า หุบเขาสังหาร!

เพราะพวกเขาจะถูกฝังที่โทเฟท ไม่มีที่อื่นให้ฝังศพอีกแล้ว
และซากศพของผู้คนจะกลายเป็นอาหารของนกในอากาศ และสัตว์ร้ายของแผ่นดิน
โดยไม่มีใครจะขับไล่มันออกไป
เราจะทำให้เสียงเบิกบาน ร่าเริง บันเทิง เสียงเจ้าบ่าว เจ้าสาวหายไปจากเมืองต่างๆ ของยูดาห์
และหายไปจากถนนในนครเยรูซาเล็ม
เพราะว่า แผ่นดินนั้นจะกลายเป็นที่ร้างเปล่า

เยเรมีย์ 7-4 พระเจ้าทรงโยนทิ้งไป

เยเรมีย์ 7:21-29

ดังนั้น องค์ผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระผู้เป็นเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า

“จงเพิ่มเครื่องเผาบูชาเข้าไปกับของถวายของเจ้า และจงกินเนื้อ

เพราะในวันที่เรานำพวกเขาออกจากอียิปต์  เราไม่ได้พูดกับบรรพบุรุษของเจ้า

ไม่ได้สั่งเขาเรื่องเครื่องเผาบูชาและของถวาย

แต่เราสั่งพวกเขาดังนี้

‘จงเชื่อฟังเสียงของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า

และเจ้าจะเป็นประชากรของเรา  และจงเดินในทางที่เราสั่งเจ้า

เพื่อว่า ชีวิตของเจ้าจะเป็นไปด้วยดี’

แต่พวกเขากลับไม่เชื่อฟัง  แต่กลับเดินตามความคิดของตนเอง
และกลายเป็นเดินถอยหลัง ไม่ใช่เดินหน้า
Ph

ตั้งแต่วันที่บรรพบุรุษของเจ้าออกจากดินแดนอียิปต์จนถึงวันนี้

เราได้ส่งผู้รับใช้ของเราคนแล้วคนเล่าไปหาเขา

ส่งไปอย่างไม่ขาดสาย

แต่พวกเขาไม่ฟังเรา ไม่เอียงหูฟังเลย

แต่กลับทำคอแข็ง  พวกเขาทำตัวเลวร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเสียอีก

ดังนั้น เจ้าจงพูดคำเหล่านี้กับพวกเขา

แต่พวกเขาจะไม่ฟังเจ้า

เจ้าเรียกพวกเขา  แต่ไม่มีเสียงตอบ

และเจ้าจะกล่าวว่า  ‘นี่เป็นชนชาติที่ไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า

พระเจ้าของพวกเจ้า    เจ้าไม่ยอมรับวินัย ความจริงก็วินาศไปเสียแล้ว
มันถูกตัดออกจากปากของพวกเขา

จงตัดผมของเจ้าแล้วโยนทิ้งไป
จงส่งเสียงคร่ำครวญจากที่สูงโล่ง

เพราะว่า พระเจ้าทรงปฏิเสธ และละทิ้งชนชาติแห่งความกริ้วของพระองค์แล้ว

เยเรมีย์ 7-3 ไม่ต้องอธิษฐาน!

เยเรมีย์ 7:8-16

“แต่ส่วนเจ้า… เยเรมีย์  อย่าอธิษฐานเผื่อคนเหล่านี้ ไม่ต้องร้องขอ ร้องทูลเราเพื่อพวกเขา

ไม่ต้องอธิษฐานอ้อนวอนเผื่อ  พวกเราจะไม่ฟังเจ้า

เจ้าไม่เห็นหรือว่า พวกเขาทำอะไรในเมืองต่าง ๆ ในแคว้นยูดาห์

ไม่เห็นหรือว่า พวกเขาทำอะไรตามถนน ในนครเยรูซาเล็ม!

Is7-5

เด็ก ๆ ไปเก็บฟืน  พ่อก็จุดไฟ  ผู้หญิงนวดแป้ง และทำขนมให้ราชินีแห่งสวรรค์

พวกเขาเทเครื่องดื่มถวายบูชาพระอื่น ๆ เพื่อทำให้เราโกรธ

 

ไม่ใช่เราหรอกหรือ ที่เขายั่วยุให้โกรธ ?”   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

“เขาไม่ได้ทำอย่างนั้นเพื่อให้ตัวเองขายหน้าหรือ?”

ดังนั้น พระเจ้าตรัสว่า

“ดูเถิด ความโกรธและความกริ้วของเราจะต้องถูกเทลง ณ ที่นี้  ลงบนมนุษย์และสัตว์

บนต้นไม้ในทุ่ง และบนพืชผลจากแผ่นดิน  มันจะถูกเผาผลาญ  ไม่อาจดับได้”

เยเรมีย์ 7-2 กลับไปดูที่ชิโลห์

เยเรมีย์ 7:8-15

“ดูเถอะ เจ้าได้เชื่อคำที่หลอกลวง  และก็ไม่ได้ประโยชน์อันใดเลย

เจ้าจะยังคงเข่นฆ่า  เป็นชู้ สาบานเท็จ  บูชาบาอัล  และติดตามพระอื่นที่เจ้าไม่รู้จัก

แล้วกลับมายังพระวิหาร ยืนอยู่ต่อหน้าเรา ทูลว่า
‘เราได้รับการช่วยกู้แล้ว!  ‘

เพียงเพื่อนเจ้าจะได้กลับไปทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อไปอย่างนั้นหรือ?

วิหารที่เราเรียกตามชื่อของเราหลังนี้ กลายเป็นถ้ำโจรในสายตาของเจ้าไปแล้วใช่ไหม?

ดูเถอะ เราเองก็เห็นเช่นนั้น ” พระเจ้าตรัส

The-death-of-Eli-550x462

 เหตุเกิดที่ชิโลห์

กลับไปดูซิ  ไปดูที่ของเราในชิโลห์  ที่นั่นเราให้นามของเราดำรงอยู่มาตั้งแต่แรก

ไปดูซิว่า เราทำอะไรกับที่นั่น เมื่อคนอิสราเอลทำชั่ว

พระเจ้าทรงประกาศ  “บัดนี้   เพราะเจ้าได้ทำสิ่งเหล่านี้…

ที่เราพูดกับเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่เจ้าก็ไม่ฟัง  เมื่อเราเรียก เจ้าก็ไม่ตอบ

ดังนั้น เราจะทำกับวิหารที่เราเรียกตามชื่อของเรา

วิหารที่เจ้าวางใจ

และจะทำต่อแผ่นดินที่เรามอบให้บรรพบุรุษของเจ้า เหมือนที่เราทำกับชิโลห์

เราจะเหวี่ยงเจ้าออกจากสายตาของเรา

เหมือนกับที่ได้เหวี่ยงลูกหลานเอฟราอิม  ญาติ ๆของเจ้าออกไป

 

เยเรมีย์ 7-1 ซ่อมทางและพฤติกรรม

เยเรมีย์ 7:1-7

พระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ว่า

“จงยืนอยู่ที่ประตูพระวิหาร และประกาศดังนี้ …

บรรดาชาวยูดาห์ที่เดินผ่านประตูพระวิหารเพื่อนมัสการพระเจ้า ขอจงฟังพระดำรัสของพระองค์

jer7-1

องค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า

‘ ขอให้เจ้าซ่อมทางและพฤติกรรมของเจ้า
และเราจะอนุญาตให้เจ้าอยู่ในที่แห่งนี้

อย่าเชื่อคำหลอกลวงที่ว่า ..นี่เป็นพระวิหารของพระเจ้า พระวิหารของพระเจ้า  พระวิหารของพระเจ้า..

หากว่าเจ้าได้แก้ไขทางและพฤติกรรมของเจ้าจริง ๆ

หากเจ้าได้ประพฤติต่อกันและกันอย่างยุติธรรมจริง ๆ

หากเจ้าไม่กดขี่คนพเนจร คนไร้พ่อ  หญิงม่าย หรือไม่ได้ปล่อยให้คนไร้ผิดต้องหลั่งเลือดในที่นี้

และหากเจ้าไม่ได้เดินตามพระอื่น ๆ ให้ตัวเองต้องตกอยู่ในอันตราย

แล้วเราจะให้เจ้าอยู่ในสถานที่นี้

อยู่ในแผ่นดินที่เรามอบให้บรรพบุรุษของเจ้าเพื่อให้เขาได้อยู่ตลอดไปมาตั้งแต่สมัยโบราณ

 

เยเรมีย์ 6-4 คนที่พระเจ้าปฏิเสธ

เยเรมีย์ 6:22-30
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“ดูเถอะ จะมีชนชาติหนึ่งลงมาจากแผ่นดินทางเหนือ
ชาติที่ยิ่งใหญ่ชาติหนึ่ง ถูกเร่งเร้าให้มาจากส่วนไกลที่สุดของโลก

พวกเขาสะพายธนู มือถือหอก โหดร้าย ไร้เมตตา
เสียงของเขาเหมือนเสียงทะเลคำราม
พวกเขาขี่ม้า เตรียมกระบวนทัพมาเพื่อต่อต้านลูกสาวแห่งศิโยน”

พอเราได้ยินข่าวเรื่องพวกเขานั้น มือของเราก็อ่อนแรงลงไป
ความท้อแท้สาหัสยึดเราไว้ เหมือนความเจ็บปวดของหญิงที่กำลังคลอดบุตร

อย่าออกไปในทุ่ง อย่าเดินไปตามถนน
เพระาศัตรูนั้นถือดาบ ความสยดสยองระบาดไปทุ่งหย่อมหญ้า

โอลูกสาวของคนของเราเอ๋ย จงสวมเสื้อผ้ากระสอบ จงกลิ้งเกลือกในกองเถ้าธุลี
จงคร่ำครวญไว้ทุกข์เหมือนกำลังสูญเสียลูกชายคนเดียวที่เจ้ามีอยู่
มันเป็นการคร่ำครวญที่ขมยิ่งนัก
เพราะผู้ที่มาปล้นนั้น โจมตีทันควันไม่ทันตั้งตัว

“เราทำให้เจ้าเป็นผู้ทดสอบแร่ท่ามกลางคนของเรา
เพื่อว่าเจ้าจะได้รู้และทดสอบหนทางของพวกเขา

Nguentalung

พวกเขาดื้อดึงอย่างร้ายกาจ! เที่ยวให้ร้ายป้ายสีไปทั่ว
พวกเขาเป็นเหมือนทองเหลืองและเหล็ก ต่างคดโกงทั้งสิ้น

เครื่องสูบลมของเขานั้นสูบอย่างรุนแรง เพื่อเผาตะกั่วให้หมดไป
การถลุงโลหะกลับไร้ประโยชน์ เพราะคนชั่วไม่ได้ถูกชำระให้บริสุทธิ์

ใคร ๆ ก็เรียกเขาว่า “แร่เงินที่ไม่มีใครเอง”
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิเสธพวกเขาแล้ว!

เยเรมีย์ 6-3 เส้นทางเก่าแก่

เยเรมีย์ 6:16-21
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า
“จงยืนอยู่บนถนนและมองดู
ให้ถามหาเส้นทางเก่าแก่ ค้นหาทางที่ดีว่ามันอยู่ที่ไหน
แล้วเดินไปตามทางนั้น เพื่อว่าใจเจ้าจะได้พัก”

ancway

แต่พวกเขากลับว่า “เราจะไม่เดินไปทางนั้น!”

ยิ่งกว่านั้น เราได้ตั้งยามไว้ให้พวกเจ้า กล่าวว่า
“จงสนใจเสียงแตร” แต่พวกเขากลับว่า “เราจะไม่สนใจ!”

ดังนั้น ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย จงฟัง
เหล่าพยานทั้งหลายเอ๋ย จงสังเกตสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา

แผ่นดินโลกเอ๋ย จงฟังเถิด มองดูซิ เพราะเราจะนำภัยพิบัติมาเหนือชนชาตินี้
เป็นผลมาจากแผนร้ายของพวกเขาเอง
เพราะพวกเขาไม่ใส่ใจต่อดำรัสของเรา ละทิ้งบัญญัติของเรา

มีประโยชน์อะไรในการที่เจ้านำกำยานมาจากเมืองเชบา
หรือนำเครื่องเทศหอมหวานมาจากเมืองไกล
เราไม่รับเครื่องเผาบูชาเหล่านั้น
เราไม่ได้พอใจกับเครื่องบูชาทั้งหลายของเจ้า

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เราจะตั้งเครื่องกีดขวางไว้ต่อหน้าคนเหล่านี้ เพื่อพวกเขาจะได้สะดุดล้มลง
ทั้งพ่อและลูกชายจะล้มลงไปพร้อม ๆ กัน
เพื่อนบ้านและเพื่อน ๆ ก็จะพินาศไปด้วยกัน

เยเรมีย์ 6-2 ไม่รู้จักอาย

เยเรมีย์ 6:8-15

ขอเตือนเจ้านะ เยรูซาเล็ม
มิฉะนั้น เราจะหันไปจากเจ้าด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียน
มิฉะนั้น เราจะทำให้เจ้ากลายเป็นเมืองร้าง หาคนอาศัยไม่ได่้

ดังนั้น พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า
“พวกเขาจะเก็บรวบรวมคนเมืองเยรูซาเล็มอย่างละเอียดเหมือนกับคนที่เก็บองุ่น
เหมือนกับที่คนเก็บองุ่นที่ย้อนกลับไปดูกิ่งก้านที่เก็บไปแล้วอีกครั้ง

ภาพจาก www.timesofisrael.com
ภาพจาก www.timesofisrael.com

แล้วเราจะพูดเตือนใครเพื่อเขาจะได้ฟังเล่า?
ดูเถิด หูของพวกเขาไม่ได้เข้าสุหนัต พวกเขาไม่ฟัง
ดูเถอะ เขากลับดูหมิ่นดูแคลนคำตรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า หาได้ชื่นชมกับพระดำรัสไม่

ดังนั้น ใจของข้าจึงเต็มด้วยพระพิโรธของพระเจ้า
ข้าเหน็ดเหนื่อยที่จะเก็บมันไว้ข้างใน
“จงเทมันออกมาเหนือเด็ก ๆ ตามถนน
เทลงบนคนหนุ่มที่เข้ามาชุมนุมกัน
ทั้งสามีและภรรยา จะถูกนำออกไปพร้อมกัน
คนชรา คนเฒ่าที่ใช้ชีวิตมาแสนนาน

บ้านของพวกเขาจะถูกยกให้คนอื่น
รวมทั้งที่นา และภรรยาของพวกเขาด้วย
เพราะเราจะยื่นมือออกมา ต่อต้านผู้ที่อาศัยในแผ่นดิน”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

จากคนที่เล็กน้อยสุด จนถึงคนที่ใหญ่โตที่สุด
ต่างมีใจโลภโมโทสัน ล้วนอยากได้แต่กำไร
ผู้กล่าวคำของพระเจ้า จนถึงเหล่าปุโรหิต
ต่างก็คดโกงทั้งสิ้น

พวกเขารักษาแผลของประชากรของเราแบบผักชีโรยหน้า
กล่าวว่า ‘สันติสุข สันติสุข’ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสันติสุขสักนิด

พวกเขาละอายกันบ้างไหมกับการที่ทำสิ่งน่าเกลียดน่าชังเหล่านี้?
เปล่าเลย พวกเขาไม่มียางอายสักนิด
ไม่รู้จักเลยว่า หน้าแดงเพราะความอายเป็นอย่างไร
ดังนั้น พวกเขาจะลงลงไปพร้อม ๆ กับคนอื่นที่ล้มลง
ในเวลาที่เราลงโทษเขา เขาจะถูกเหวี่ยงออกไป

เยเรมีย์ 6-1 ถูกทำลาย!

เยเรมีย์ 6:1-7

ชนชาวเบนยามินเอ๋ย   จงหนีไปหาที่ปลอดภัย  หนีจากกลางเมืองเยรูซาเล็ม
เป่าแตรเขาสัตว์ที่เมือเทโคอา  และยกสัญญาณขึ้นเหนือบ้านเบธฮัคเคเรม
เพราะความหายนะและการทำลายกำลังมุ่งลงมาจากทางเหนือ

เราจะทำลายสาวสวยหน้าอ่อนหวาน ลูกสาวของศิโยนเสีย!

บรรดาคนเลี้ยงแกะและฝูงแกะของเขาจะมาต่อสู้กับเธอ

จะตั้งกระโจมล้อมรอบเธอ และต่างหากินอยู่ในที่ของแต่ละคน
จงเตรียมทำสงครามต่อสู้เธอ

hole-destruction-of-jerusalem1วิลเลียม บราสลีย์ โฮล  เยรูซาเล็มถูกทำลาย

 

 

ลุกขึ้น!  เราจะโจมตีเวลาเที่ยง
วิบัติแล้วเรา  เพราะกลางวันล่วงไป เงายามค่ำทอดยาวออกไป

ลุกขึ้น!  เข้าไปโจมตีตอนกลางคืน  ทำลายราชวังให้สิ้นซาก!

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า
“ตัดต้นไม้ของเธอเสีย  และตั้งเนินต่อต้านนครเยรูซาเล็ม

มันเป็นเมืองที่ต้องถูกลงโทษ เพราะในเมืองนี้มีแต่การกดขี่บีบคั้น

เหมือนกับบ่อน้ำที่ยังเก็บน้ำเย็น ๆ ไว้เสมอ เมืองนี้ก็รักษาความชั่วของตัวเองให้สดใหม่ไม่หยุดหย่อน

ภายในเมืองจะได้ยินเรื่องความรุนแรงและการทำลาย
ความเจ็บป่วยและบาดแผลก็อยู่ต่อหน้าเราเสมอ

เยเรมีย์ 5-5 ไร้ความยุติธรรม!

เยเรมีย์ 5:26-32

“เพราะ… ท่ามกลางคนของเรา ก็พบคนชั่วร้ายที่ซุ่มอยู่เหมือนคนดักนก
เขาวางกับดัก และจับคนไป

บ้านของเขาเต็มด้วยการหลอกลวง  เหมือนกรงที่ขังนกไว้แน่น

ดังนั้นพวกเขาจึงยิ่งใหญ่ มั่งคั่ง

พวกเขากลายเป็นคนอ้วนพีนุ่มนิ่ง
ความชั่วร้ายของเขาไร้เขตจำกัด
เขาไม่พิพากษาคดีความของลูกกำพร้าอย่างยุติธรรม  ไม่ปกป้องสิทธิของคนขัดสน
เพื่อว่าเขาจะได้ร่ำรวยขึ้นจากการบิดเบือนการพิพากษา

sudan

แล้วจะไม่ให้เราลงโทษพวกเขาเพราะสิ่งเหล่านี้หรือ?” องค์พระเป็นเจ้าตรัส

“จะไม่ให้เราแก้แค้นชนชาติที่ชั่วร้ายขนาดนี้หรือ?”

มีนิ่งที่น่าสยดสยองและน่าสะพึงกลัวเกิดขึ้นในแผ่นดิน

ผู้มีหน้าที่กล่าวคำของพระเจ้า กลับมุสา
และเหล่าปุโรหิตก็ปกครองตามคำของเหล่าคนมุสา
คนของเราก็ช่างชอบวิธีการแบบนั้น

แต่พวกเจ้าจะทำอย่างไรล่ะ เมื่ออวสานมาถึง?