จะเห็นว่า ราชาเยโฮชาฟัททรงประสบความสำเร็จในการปกครองเป็นอย่างดี เมื่อสงบศึก พระองค์ก็ทรงสอนให้ประชาชนได้รู้จักพระเจ้าด้วยการส่งครูออกไปตามเมืองต่าง ๆ นัดกันเรียนรู้จักพระเจ้า ทำให้ประชาชนยำเกรงพระเจ้า ความชื่นชมยินดีก็มีมากในสมัยของพระองค์
ยามมีศึก ราชาเยโฮชาฟัทซึ่งไม่ทรงเก่งในการรบ แต่ออกจะทรงกลัวการรบเอามาก ๆ เพราะครั้งที่ไปกับราชาอาหับนั้น ทรงได้ประสบการณ์ที่น่ากลัวมาก ครั้งนั้นพระองค์ทรงหนีสุดชีวิตกลับมายังนครเยรูซาเล็มอย่างปลอดภัย
พระองค์ทรงเริ่มปกครองประเทศเมื่อทรงอายุ 35 พรรษา นับเป็นเวลาที่พอเหมาะ เพราะอายุขนาดนี้ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากราชบิดาคือ ราชาอาสา ทรงเห็นสิ่งดีและสิ่งร้ายที่เกิดขึ้น และส่วนใหญ่พระองค์ก็ทรงทำสิ่งดีตามราชบิดาของพระองค์ พระองค์ทรงปกครองอยู่ 25 ปี จนถึงอายุ 60พรรษา มีบันทึกไว้ว่า พระองค์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้า …. สมมติว่า เราต้องตาย และในงานศพของเรา ถ้ามีใครพูดถึงเราว่า เราเดินตามทางของพระเจ้า มันก็จะดีที่สุดเลยนะเนี่ย
น่าเสียดายอย่างหนึ่งก็คือ ราชาเยโฮชาฟัทไม่ได้ทำลายสถานบูชาในที่สูง ทำให้ยังมีประชาชนบางกลุ่ม ไม่ได้เดินตามทางของพระเจ้า ….
และก็มีอีกอย่างที่ทำให้เห็นว่า หากไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง พระเจ้าก็ไม่ได้ทรงอวยพร…. มีครั้งหนึ่งราชาเยโฮชาฟัทไปร่วมมือกับอาหัสยาห์ ซึ่งเป็นราชาทางเหนือ อาหัสยาห์เป็นราชาที่ชั่วร้าย แต่คนดี ๆ อย่างราชาเยโฮชาฟัทไม่ได้ทรงคิดอะไรมาก ทรงมองโลกในแง่ดี ทรงคิดว่า ไม่เป็นไร
สิ่งที่ทรงทำกับราชาอาหัสยาห์ก็คือ ไปสร้างเรือเพื่อจะล่องไปยังเมืองทารชิช โดยไปสร้างเรือที่เมืองริมทะเลคือเมืองเอซิโอน-เกเบอร์
เรือสวยมาก ประชาชนต่างชมกันใหญ่
แต่มีผู้กล่าวคำของพระเจ้าชื่อเอลีเยเซอร์มาขอเข้าเฝ้า
“ข้าแต่พระราชา เป็นเพราะพระองค์ทรงร่วมมือกับอาหัสยาห์ พระเจ้าจะทรงทำลายสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา”
และเรือก็แตก ไม่สามารถเดินทางไปยังเมืองทารซิชได้…. ดังคำกล่าวของเอลีเยเซอร์
ทั้งหมดนี้ เยฮู บุตรชายฮานานี เป็นผู้บันทึกสิ่งที่พระราชาทรงกระทำได้อย่างครบถ้วน