อิสยาห์ 21-1

อิสยาห์ 21:1-5

บาบิโลนล่มแล้ว!

คำของพระเจ้ามาถึงถิ่นกันดารของทะเล   ขณะที่ลมหมุนจากเนเกบพัดกวาดมา มันมาจากถิ่นกันดาร จากดินแดนสยอง

ถิ่นกันดารเนเกบ ภาพจาก kumah.org
ถิ่นกันดารเนเกบ ภาพจาก kumah.org

มีนิมิตอันเข้มงวดมาถึงข้า  ผู้ทรยศก็หักหลัง  ผู้ทำลายก็เข้าทำลาย
เอลามเอ๋ย จงลุกขึ้น  มีเดียเอ๋ย  เข้าล้อมเมืองเลย ทุกการถอนหายใจที่มันทำให้เกิดขึ้นนั้น เราจัดการให้หมดสิ้นไปแล้ว  เอลามกับมีเดีย เป็นอาณาจักรที่เข้ามาทำลายบาบิโลนในปี 539 ก่อนคริสตศักราช

ดังนั้น เอวของข้าจึงมีแต่ความระทมทุกข์  ความเจ็บปวดยึดข้าไว้  เหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก

ข้าก้มตัวลงเพื่อว่าข้าจะไม่ต้องได้ยิน ข้าท้อแท้มากจนข้าจะไม่ต้องได้เห็น
ใจข้าเต้นไม่เป็นส่ำ ความน่ากลัวทำให้ข้าตกใจมาก  ยามโพล้เพล้ที่ข้าปรารถนากลับทำให้ข้าตัวสั่น   สิ่งที่อิสยาห์เห็นในนิมิตมันน่ากลัวมาก

เขาเตรียมโต๊ะไว้  เขาปูผ้า เขากิน เขาดื่ม  เจ้านายทั้งหลายเอ๋ยลุกขึ้นเถิด
ทาโล่ด้วยน้ำมัน!

อิสยาห์ 20

อิสยาห์ 20

อิสยาห์เตือนให้อิสราเอลรู้ว่า อย่า อย่าได้พึ่งมนุษย์ แต่ต้องพึ่งพระเจ้าเท่านั้น

sargon-inscription1

ในปีที่ราชาซาร์กอนแห่งอัสซีเรียส่งผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุด  มาถึงเมืองอัชโดดและยึดเมืองนั้นได้… พระเจ้าตรัสแก่อิสยาห์บุตรชายอามอสว่า

“ไป… ไปแก้ผ้ากระสอบออกจากเอวของเจ้า  ถอดรองเท้าออกด้วย” เขาก็ทำอย่างที่พระเจ้าทรงสั่ง  

ตอนนี้อิสยาห์จึงถอดเสื้อนอกคือเสื้อกระสอบ   แต่เขาไม่ได้เดินเปลือยกายทั้งตัวนะ    เขาไม่ใส่เสื้อคลุมตัวนอก เท่านั้น เขาคงเดินไปตามถนนแบบเปลือยล่อนจ้อนไม่ได้   เพราะเพียงแค่ไม่มีเสื้อคลุมนอก ก็เหมือนไม่ได้ใส่อะไรในสายตาของผู้คน 

พระเจ้าตรัสอีกว่า

“อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราเดินเปลือย เท้าเปล่าถึงสามปี เป็นสัญญาณและลางบอกเหตุให้แก่อียิปต์และเอธิโอเปียอย่างไร  เช่นกัน ราชาแห่งอัสซีเรียจะนำเชลยจากอียิปต์และเอธิโอเปียออกไป ทั้งคนหนุ่มและคนแก่ เดินตัวเปลือย เท้าเปล่า  ก้นของเขาก็เปิดโล่ง นี่แหละความเปล่าเปลือยของอียิปต์

พระเจ้าทรงให้อิสยาห์ทำเช่นนั้น มีความหมายถึงสภาพที่ถูกดูหมิ่นอย่างรุนแรงและตกต่ำเป็นที่สุด     

เขาทั้งหลายจะท้อถอยและอับอาย เป็นเพราะเอธิโอเปียความหวังของเขา  และอียิปต์ความโอ้อวดของเขา… และผู้ที่อาศัยอยู่ตามเมืองชายทะเลจะกล่าวในวันนั้นว่า “ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่เราหวังว่าจะช่วยเรา  คนที่เราหนีไปหาเพื่อให้พ้นจากกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย และเราล่ะ เราจะหนีไปอย่างไร?”

อิสยาห์ 19-3

อิสยาห์ 19:18-25

ในวันนั้นจะมีเมือง 5 เมืองในอียิปต์ที่พูดภาษาของคนคานาอัน  และสาบานว่าจะเป็นพันธมิตรกับพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  หนึ่งในเมืองนี้ มีชื่อว่า เมืองแห่งการทำลายล้าง

ในวันนั้นจะมีแท่นบูชาสำหรับพระเจ้าในแผ่นดินอียิปต์ และเสาเพื่อพระเจ้าณ เขตแดน  มันจะเป็นสัญลักษณ์และพยานถึงพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพในแผ่นดินอียิปต์  เมื่อพวกเขาร้องต่อพระเจ้า เนื่องจากมีคนมาเคี่ยวเข็ญ พระเจ้าจะทรงส่งผู้ช่วยและผู้ปกป้องมา และช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้น

และพระเจ้าจะทรงให้ชาวอียิปต์ได้รู้จักพระองค์   และชาวอียิปต์จะรู้จักพระองค์ และนมัสการด้วยเครื่องบูชา และเครื่องถวายบูชา  และพวกเขาจะปฏิญาณตนต่อพระเจ้า และกระทำตามนั้น

และพระเจ้าจะทรงตีอียิปต์  ตีแล้วรักษาไป  และพวกเขาจะหันกลับมาหาพระเจ้า และพระองค์จะทรงฟังคำขอเมตตาจากพวกเขา และพระองค์จะทรงรักษาเขาให้หาย

ภาพจาก tikkunministries.org
ภาพจาก tikkunministries.org

ในวันนั้น จะมีถนนหลวงสายตรงจากอียิปต์สู่อัสซีเรีย  และอัสซีเรียจะเข้ามายังอียิปต์  อียิปต์ก็เดินทางไปอัสซีเรีย   ชาวอียิปต์และชาวอัสซีเรียจะนมัสการพระเจ้าด้วยกัน

ในวันนั้น อิสราเอลจะมาเป็นที่สามกับอียิปต์และอัสซีเรีย  เป็นพระพรท่ามกลางประชาชาติในโลกนี้   คนที่พระเจ้าทรงอวยพระพร กล่าวว่า ความสุขจงมีแก่ชาวอียิปต์ คนของเรา   ชาวอัสซีเรียกิจแห่งมือเรา และอิสราเอลมรดกของเรา

อิสยาห์ 19-2

อิสยาห์ 19:8-15

ชาวประมงจะร้องทุกข์  เหล่าคนที่ตกปลาในแม่น้ำไนล์จะโศกเศร้า   คนที่ทอดแหก็จะอ่อนระอาใจ   ยิ่งกว่านั้น คนที่ทำป่านที่หวีแล้ว และคนที่ทอผ้าสีขาวจะสับสนและสิ้นหวัง

เสาและรากฐานแห่งอียิปต์จะถูกบดขยี้  และคนรับจ้าง คนสร้างเขื่อนต่างพากันโศกเศร้า

maenamnileเจ้าชายแห่งเมืองโศอัน (เมืองหลวงโบราณของอียิปต์)   ต่างโง่เขลาเป็นที่สุด     ที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมของฟาโรห์กลับกลายเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่โง่เง่า   เจ้าจะกล่าวกับฟาโรห์ได้อย่างไรว่า เราเป็นบุตรของปราชญ์  เราป็นบุตรของกษัตริย์โบราณ?

แล้วคนฉลาดในหมู่พวกเจ้าไปอยู่ไหนกันหมดนี่?   ให้เขาบอกเจ้าเดี๋ยวนี้  ให้เขาประกาศว่า พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ทรงมีพระประสงค์ใดจากอียิปต์

เจ้าชายแห่งโศอันกลายเป็นคนโง่    เจ้าชายแห่งเมืองเมมฟิสก็สับสน และถูกหลอก  เหล่าคนที่เป็นผู้ใหญ่ของเผ่าต่าง ๆ นำให้อียิปต์หลงทาง

พระเจ้าทรงปนวิญญาณแห่งความผิด ความสับสนไว้ในอียิปต์   ผู้นำทำให้อียิปต์เดินไม่ตรงทางเหมือนกับคนเมาเดินบนอาเจียนของตัวเอง

ไม่มีอะไรที่จะ่ช่วยอียิปต์ได้เลย   ไม่ว่าจะเป็นหัวหรือหาง ใบปาล์มหรือต้นอ้อเล็ก

ในวันนั้น อียิปต์จะเป็นเหมือนผู้หญิง  ทั้งขลาดกลัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้    เขาจะตัวสั่นด้วยความกลัวเพราะพระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพได้เขย่าเขา

แผ่นดินยูดาห์ จะกลายเป็นชื่อที่น่ากลัวสำหรับอียิปต์ ใครเอ่ยชื่อนั้นออกมาก็จะกลัว  เพราะว่า พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพมีพระประสงค์ที่จะต่อสู้กับอียิปต์

 

 

 

อิสยาห์ 19-1 เหตุเกิดในอียิปต์

อิสยาห์ 19:1-7

คำของพระเจ้าเกี่ยวข้องกับอียิปต์

ดูเถิด พระเจ้าทรงมาบนเมฆที่รวดเร็ว  และเสด็จมายังอียิปต์  เหล่ารูปเคารพของอียิปต์ก็ตัวสั่นต่อพระพักตร์พระองค์  หัวใจของชาวอียิปต์ก็ละลายไปภายใน

และเราจะกระตุ้นให้ชาวอียิปต์ลุกขึ้นสู้ชาวอียิปต์ด้วยกันเอง   พวกเขาจะสู้กันเอง สู้เพื่อนบ้าน เมืองสู้รบกับเมือง อาณาจักรสู้รบกับอาณาจักร

ภาพจาก earthsnapshot
ภาพจาก earthsnapshot

และวิญญาณข้างในของคนอียิปต์จะหายไป กลายเป็นว่างเปล่า และเราจะทำให้คำปรึกษาของพวกเขาสับสน  เขาจะถามจากรูปเคารพ และพ่อมด  รวมไปถึงคนทรงและหมอผี  และเราจะมอบคนอียิปต์ให้กับเจ้านายที่ดุดัน จะมีกษัตริย์ที่ดุร้ายปกครอง  พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนั้น

น้ำทะเลจะแห้งไป  แม่น้ำจะแห้งผาก ดินระแหง

และคลองทั้งหลายจะเน่าสกปรกน่าขยะแขยง  พืชพันธุ์ริมแม่น้ำจะแห้งเหี่ยว ต้นกกและกอปรือก็แห้งและผุพังไป

ริมน้ำไนล์จะมีแต่ความโล่งเตียน  เมล็ดที่เคยหว่านริมน้ำไนล์ก็แห้งเกรียม มันถูกไล่ออกไป และไม่มีอีก

คำของพระเจ้าเกี่ยวข้องกับอียิปต์

ดูเถิด พระเจ้าทรงมาบนเมฆที่รวดเร็ว  และเสด็จมายังอียิปต์  เหล่ารูปเคารพของอียิปต์ก็ตัวสั่นต่อพระพักตร์พระองค์  หัวใจของชาวอียิปต์ก็ละลายไปภายใน

และเราจะกระตุ้นให้ชาวอียิปต์ลุกขึ้นสู้ชาวอียิปต์ด้วยกันเอง   พวกเขาจะสู้กันเอง สู้เพื่อนบ้าน เมืองสู้รบกับเมือง อาณาจักรสู้รบกับอาณาจักร

และวิญญาณข้างในของคนอียิปต์จะหายไป กลายเป็นว่างเปล่า และเราจะทำให้คำปรึกษาของพวกเขาสับสน  เขาจะถามจากรูปเคารพ และพ่อมด  รวมไปถึงคนทรงและหมอผี  และเราจะมอบคนอียิปต์ให้กับเจ้านายที่ดุดัน จะมีกษัตริย์ที่ดุร้ายปกครอง  พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนั้น

น้ำทะเลจะแห้งไป  แม่น้ำจะแห้งผาก ดินระแหง

และคลองทั้งหลายจะเน่าสกปรกน่าขยะแขยง  พืชพันธุ์ริมแม่น้ำจะแห้งเหี่ยว ต้นกกและกอปรือก็แห้งและผุพังไป

ริมน้ำไนล์จะมีแต่ความโล่งเตียน  เมล็ดที่เคยหว่านริมน้ำไนล์ก็แห้งเกรียม มันถูกไล่ออกไป และไม่มีอีก

 

อิสยาห์ 18 พูดถึงเอธิโอเปีย

อิสยาห์ 18

อา  ดินแดนแห่งลมหมุน  แดนพ้นแม่น้ำแห่งแผ่นดินคูช

แผ่นดินที่กล่าวถึงนี้ คือ เอธิโอเปีย  พวกเขาส่งทูตออกไปทางทะเล  ในเรือที่ทำด้วยป่านปาปิรัส

ไป… ผู้ส่งข่าวที่รวดเร็ว  ไปยังประชาชาติที่ตัวสูง หน้าตาเกลี้ยงเกลา ไปยังชนชาติที่เขากลัว ทั้งใกล้และไกล  ไปยังชาติที่เข้มแข็งและเป็นผู้ชนะเสมอ  คนที่ดินแดนของเขามีน้ำแบ่งแผ่นดิน

EthiopiaPainting

ภาพวาดชาวเอธิโอเปีย

คนที่อาศัยอยู่ในโลก… เมื่อมีสัญญาณยกขึ้นบนภูเขา ก็จงมอง  เมื่อมีเสียงเขาสัตว์ ก็จงฟัง

เพราะพระเจ้าตรัสกับข้าว่า “เราจะมองมาเงียบ ๆ จากที่พักของเรา  เหมือนกับความร้อนกลางแดด  เหมือนอย่างเมฆแห่งน้ำค้างในฤดูเก็บเกี่ยว

ก่อนการเก็บเกี่ยว เมื่อดอกหมดไปแล้ว  เมื่อดอกลายเป็นผลองุ่นสุก  พระองค์จะทรงตัดกิ่งด้วยขอลิด   และกิ่งต่าง ๆ ที่ยื่นออกมานั้น พระองค์จะลิดและเอามันออกไป

พวกเขาจะถูกทิ้งไว้ให้กับเหยี่ยวบนภูเขา ทิ้งไว้ให้สัตว์ป่าบนแผ่นดิน

นกกินเหยื่อจะกินมันเสียในฤดูร้อน  สัตว์ป่าจะกินมันในฤดูหนาว

ในเวลานั้น เขาจะนำของบรรณาการมาถวายพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  จากประชาชนที่ตัวสูงและหน้าตาเกลี้ยงเกลา  จากประชาชนที่กลัว ทั้งใกล้และไกล

จากประชาชนที่เข้มแข็งและเป็นผู้ชนะเสมอ   แผ่นดินของพวกเขามีน้ำแบ่ง

พวกเขามายังภูเขาศิโยน  สถานที่แห่งพระนามของพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

Ethiopia

อิสยาห์ 17-3

อิสยาห์ 17:10-14

เพราะว่าเจ้าได้ลืมพระเจ้าแห่งความรอดของเจ้า  และไม่จดจำพระศิลาที่หลบภัยของเจ้า

ดังนั้น แม้ว่าเจ้าจะปลูกต้นพืชที่พึงใจ  และหว่านกิ่งองุ่นของคนแปลกหน้า

แม้เจ้าจะทำให้มันเติบโตในวันที่เจ้าปลูกมัน และทำให้มันออกดอกในเช้าวันที่เจ้าหว่าน แต่พืชพันธุ์เหล่านั้นจะหนีออกไป    ในวันแห่งความโศกเศร้าและเจ็บปวดสุดแสนจะทน

อา…เสียงของคนจำนวนมากมาย  เสียงดังราวกับเสียงคำรามของทะเล  อา… เสียงคำรามก้องของประชาชาติทั้งหลาย   พวกเขาส่งเสียงสนั่นราวกับน้ำ

 

ภาพจากhttp://biblicasimagens.blogspot.com
ภาพจากhttp://biblicasimagens.blogspot.com

เสียงครืนเหมือนกับก้อนน้ำใหญ่โต   แต่พระเจ้าจะทรงขนาบมัน  มันจะหนีเตลิดไปไกล   ถูกไล่ออกไปเหมือนกับเปลือกข้าวต้องลมบนภูเขา     เหมือนหญ้าปลิวฟุ้งต่อหน้าพายุ

ในเวลาเย็น  ดูเถอะ  ความน่ากลัว   ก่อนเวลาเช้า ก็จะไม่มีใครเหลือ  นี่เป็นส่วนของคนที่มาปล้นเรา  เป็นส่วนของคนที่แย่งชิงของเราไป

Is17_EveningTerror

หลายประเทศที่เข้ามาโจมตีอิสราเอล  แต่พวกเขาก็จะถูกพิพากษาลงโทษเช่นกัน  แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้มาจัดการกับคนของพระองค์   แต่พวกเขาก็ยังมีความผิดของตัวเองอยู่  มิใช่ว่า พระเจ้าใช้ใครแล้ว คนนั้นจะเป็นคนที่รอดพ้น  เราจะรอดพ้นได้เมื่อเรายอมต่อพระเจ้าในทุกกรณี  

อิสยาห์ 17-2

อิสยาห์ 17:4-9

ในวันนั้น ศักดิ์ศรีของยาโคบจะถูกเหยียดลง และไขมันของร่างเขาจะลีบลง  มันจะเป็นเหมือนตอนที่คนเกี่ยวต้นข้าวที่ออกรวง  แขนของเขาก็โอบรวงข้าวไว้   และเป็นเหมือนตอนที่เขาเก็บเศษข้าวในหุบเขาแห่งเรฟาอิม

สิ่งที่เหลืออยู่ในนั้น ก็เหมือนตอนฟาดต้นมะกอกเพื่อให้ลูกหล่น  จะมีเหลือสองสามลูกบนกิ่งที่สูงสุด   สี่ห้าลูกบนกิ่ง  องค์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้แหละ

ลูกมะกอก ภาพจาก en.wikipedia.org
ลูกมะกอก ภาพจาก en.wikipedia.org

เมื่อพระเจ้าทรงลงโทษอิสราเอลนั้น  พระองค์ทรงเอาจริง ไม่ใช่เล่น ๆ   ดังนั้น จะเหลืออยู่ไม่กี่คน….  เมื่ออัสซีเรียมาตีอิสราเอลทางเหนือ พวกเขาก็เห็นแล้วว่า แทบไม่เหลือคนบนแผ่นดินเลย 

ในวันนั้น  มนุษย์จะมององค์พระผู้สร้างของตน   เขาจะดูองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล   จะไม่มองไปที่แท่นบูชา  และผลงานฝีมือตัวเอง  เขาไม่มองสิ่งที่นิ้วของเขาสร้างมันขึ้นมา  ไม่ว่าจะเป็นอาเชริม หรือแท่นเผาเครื่องหอมที่ตนเองสร้าง

จะมีวันที่มนุษย์ ไม่มองรูปปั้น  รูปที่ตนเองทำขึ้นมาอีกต่อไป  แต่จะหันกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขา   เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า รูปเคารพไม่ใช่ผู้สร้างเขาขึ้นมา 

ในวันนั้น เมืองที่เข้มแข็งจะถูกทิ้งเป็นที่รกร้าง  เหมือนกับ  ที่เขาทิ้งมันให้ร้างก็เพราะคนอิสราเอล  มีพุ่มไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกรุงรัง   มันจะเป็นที่ร้างเปล่า….

อิสยาห์ 17-1

อิสยาห์ 17:1-3

คำของพระเจ้ามาถึงเมืองดามัสกัส

ดูเถิด  ต่อไปดามัสกัสจะไม่เป็นเมืองหลวง   จะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง

หัวเมืองของดามัสกัสเองก็จะไม่มีเหลือต่อไป  จะเป็นที่สำหรับฝูงแพะแกะ

เหล่าสัตว์ทั้งหลายจะนอนลง  และไม่ต้องกลัวใครอีกต่อไป

หลังจากนั้นมาไม่นาน  ดามัสกัสก็ถูกอัสซีเรียตี   แต่เขาก็สร้างเมืองขึ้นมาใหม่  แม้ในปี 1860 ที่ถูกทำลายอีกครั้ง เขาก็ยังสร้างเมืองขึ้นมาได้ใหม่อีก  …. เอ… คำพยากรณ์ของท่านอิสยาห์ยังไม่ถึงที่สุดใช่ไหม ?  วันนี้ ดามัสกัสเองก็เจอกับสงครามกลางเมืองอีก….

ดามัสกัสเมื่อ 1860
ดามัสกัสเมื่อ 1860 

 ภาพจาก lebanontimes.com

อะไรจะเกิดขึ้นกับดามัสกัสต่อไป  

ป้อมปราการทั้งหลาย จะหายไปจากเอฟราอิม  และอาณาจักรจะหายไปจากดามัสกัส

คนที่เหลืออยู่ของซีเรีย จะเป็นเหมือนศักดิ์ศรีของคนอิสราเอล

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ตรัสดังนี้

อิสยาห์ 16-2

อิสยาห์ 16:6-13

เราได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่งของโมอับ… เขาช่างหยิ่งเสียจริง ๆ  ไม่ว่าจะเป็นความยะโสของเขา  ความอวดตัว  ความทรนงของเขา  เขาโอ้อวดอย่างไร้ค่า สูญเปล่า

ดังนั้น ปล่อยให้ชนโมอับร่ำไห้เพื่อแผ่นดินโมอับ  ให้ทุกคนร้องไห้คร่ำครวญ   เจ็บปวดเป็นที่สุด  เพื่อเค้กลูกเกตของคีร์หะเรเสท(นั่นก็คือ ผู้คนในแผ่นดินนั้น)

ท้องทุ่งแห่งเฮชโบนก็แห้งเหี่ยวไป และเถาองุ่นของสิบมาห์ก็ถูกขุนศึกจากประเทศต่าง ๆ เข้ามาเหยียบย่ำ  ทำลายกิ่งที่เคยแผ่ขยายไปจนถึงยาเซอร์  และแผ่เข้าไปในถิ่นกันดาร  หน่อของมันขยายออกไปผลิผลถึงทะเล

ดังนั้นข้าจึงร้องไห้เหมือนที่ยาเซอร์ร่ำไห้ถึงเถาองุ่นแห่งสิบมาห์

โลงหินโบราณของชาวโมอับภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Moab
โลงหินโบราณของชาวโมอับ
ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Moab

ข้าหลั่งน้ำตาให้เจ้าจนชุ่ม… เจ้าเฮชโบนและเอเลอาเลห์   เพราะว่าเสียงโห่ร้องของเจ้ายามที่ผลไม้ฤดูร้อนออกผล และยามที่เก็บเกี่ยวข้าวนั้นเงียบลงไปเสียแล้ว

ความยินดีและความชื่นชมหายไปจากแผ่นดินที่อุดม  ไม่มีเสียงร้องเพลงในสวนองุ่นอีก  ไม่มีเสียงโห่ร้องอย่างมีความสุข   ไม่มีใครย่ำองุ่นในบ่อองุ่นเลย  เราเป็นผู้หยุดเสียงร้องเหล่านั้น

ดังนั้น ส่วนภายในใจของเราจึงคร่ำครวญราวกับเสียงพิณเพื่อโมอับ ส่วนลึกที่สุดของเรานั้นเสียใจแทนคีร์-หะเรเสท โมอับเหนื่อยเปล่าเมื่อเขาไปยังที่สูง  เมื่อเขาไปยังที่เทวสถานเพื่ออธิษฐานบนบาน เพราะเขาจะไม่ได้รับคำตอบ

นี่เป็นคำของพระเจ้าซึ่งตรัสถึงโมอับในอดีต   แต่บัดนี้ พระเจ้าตรัสว่า “ภายในสามปีที่เหมือนกับช่วงปีของการจ้างแรงงาน   ศักดิ์ศรีอันตระการของโมอับจะถูกเหยียดหยาม  แม้ว่าเขาจะมีประชากรมากมาย  แต่คน เหลือจะมีอยู่น้อยมากและยังอ่อนล้าโรยแรงอีกด้วย ..”

อิสยาห์ 16-1

อิสยาห์ 16:1-5

ส่งลูกแกะไปให้ผู้ปกครองแผ่นดิน จากเศ-ลา ผ่านถิ่นกันดาร ไปยังภูเขาของธิดาแห่งศิโยน
ธิดาแห่งโมอับ ที่ท่าอาร์โนน เป็นเหมือนนกที่กำลังหนี  เป็นเหมือนรังนกที่กระจัดกระจาย

อิสยาห์ชวนให้โมอับส่งบรรณาการไปยังราชาแ่ห่งยูดาห์   เพื่อว่าพวกเขาจะได้ปลอดภัย  โมอับนั้น ตอนนี้ กำลังกระเจิดกระเจิงเพราะการลงโทษของพระเจ้า  แต่… ความผู้พันของโมอับกับยูดาห์นั้นก็มีไม่น้อย  เพราะราชาดาวิดทรงเป็นหลานย่าของย่าชาวโมอับ….  อย่างน้อยในราชวงศ์ของดาวิดยังมีเชื้อสายของชาวโมอับอยู่ด้วย   ดูเหมือนว่าท่านอิสยาห์กำลังเสียใจที่โมอับจะถูกทำลาย

จงให้คำปรึกษา  จงให้ความยุติธรรม   จงทำให้เพิงของเจ้าเป็นเหมือนกลางคืนในยามเที่ยง    ช่วยปกป้องคนไร้ถิ่น  อย่าแจ้งความคนที่พลัดบ้านเมืองมา

มองจากโมอับไปทางทะเลตาย
มองจากโมอับไปทางทะเลตาย

อิสยาห์ขอให้คนของพระเจ้าเมตตาต่อชาวโมอับ 

จงให้คนไร้บ้านจากโมอับอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า  จงปกป้องเขาจากผู้ที่จะมาทำลาย   เมื่อไม่มีผู้กดขี่ และความหายนะหมดสิ้นลง  และคนที่เหยียบย่ำประชาชนหายไปจากแผ่นดิน

แล้วจะมีบัลลังก์หนึ่งถูกสถาปนาขึ้น ด้วยความรักมั่นคง  และทรงปกครองจากบัลลังก์ด้วยความซื่อตรง ในเต้นท์แห่งดาวิด  ท่านผู้นี้ ทรงพิพากษาและแสวงหาความยุติธรรม ทรงทำการเที่ยงธรรมอย่างรวดเร็ว

อิสยาห์กำลังทำนายว่า วันหนึ่งพระเมสสิยาห์จะมา  พระองค์เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมเพื่อช่วยให้มนุษย์รอดได้

อิสยาห์ 15

อิสยาห์ 15

คำกล่าวถึงอนาคตของโมอับ …เพราะว่าเมืองอาร์ในโมอับนั้นถูกทำลายในเวลากลางคืน โมอับหายนะ!
เพราะว่าเมืองคีร์ในโมอับถูกทำลายในเวลากลางคืน  โมอับหายนะ!

เขาขึ้นไปยังวิหาร ไปยังดีโบน ไปยังที่สูงเพื่อร่ำไห้เพราะเมืองเนโบ และเมืองเมเดบา  

แผ่นดินโมอับอยู่ทางตะวันออกของยูดาห์   ชนชาวโมอับเป็นลูกหลานของโลทซึ่งเป็นหลานของอับราฮัม    แม้ว่าจะมีเชื้อสายต้นตระกูลมาใกล้ ๆ กัน แต่ทั้งโมอับ กับอิสราเอลก็ต่อสู้กันมาตลอด   โดยที่ช่วงอิสยาห์นั้น โมอับก็เป็นเมืองขึ้นของยูดาห์ด้วย  

โมอับคร่ำครวญ  ศีรษะของทุกคนต่างล้านเลี่ยน  และเคราก็ถูกโกนกันไปหมด 

พวกเขาสวมเสื้อกระสอบเดินไปตามถนน  บนหลังคน และที่สี่แยก  ทุกคนร่ำไห้เต็มด้วยน้ำตา

คนเมืองเฮชโบน และเมืองเอเลอาเลห์ร้องเสียงดังไปถึงเมืองยาฮาส   และนักรบของโมอับก็ร้องเสียงดังด้วยจิตใจที่สั่นระรัว

ใจของข้าร้องไห้เพื่อโมอับ ผู้ลี้ภัยของเขาก็หนีไปยังเมืองโศอาร์ ไปยังเอกลัท-เชลีชิยาห์   พวกเขาร้องไห้ขึ้นไปทางลูฮีท  ทางถนนสู่เมืองโฮโรนาอิมพวกเขาก็ร้องเสียงดังถึงความหายนะ

พระเจ้าเองทรงเสียพระทัยกับการที่พวกเขาจะต้องถูกลงโทษนี้ด้วย   พระเจ้าทรงลงโทษพวกเขาด้วยพระทัยสลาย….
ธารน้ำนิมริมก็แห้ง  หญ้าเหี่ยวเฉา   ผักหญ้าก็ไม่ขึ้น  ไม่มีสีเขียวขจีอีกต่อไป

ดังนั้น เขาจึงแบกความอุดมสมบูรณ์ที่ได้มา และสิ่งที่พวกเขาสะสมไว้ ข้ามลำธารต้นหลิว

เสียงร้องของผู้คนดังไปทั่วดินแดนโมอับ  เสียงคร่ำครวญดังไปถึงเอกลาอิม  เสียงร่ำไห้ดังถึงเบเออร์เอลิม

ภาพโดย Franz Hanfstaengl (1804-1877)
ภาพโดย Franz Hanfstaengl (1804-1877)

 

น้ำในห้วยดิโบนเต็มไปด้วยเลือด  เพราะเราจะจัดการกับดิโบนต่อ

สิงโตตัวหนึ่งจะตามล่าชาวโมอับที่หนีไป  และล่าคนที่ยังหลงเหลืออยู่ในแผ่นดิน

อิสยาห์ 14-6

อิสยาห์ 14:

คำกล่าวเกี่ยวข้องกับฟิลิสเตีย

ในปีที่ราชาอาหัสสิ้นพระชนม์  คำกล่าวนี้ก็เข้ามา… ชนฟิลิสเตียเอ๋ย  เจ้าทั้งหมดนั่นแหละ  อย่าดีใจไปนักที่ไม้พลองซึ่งเคยตีเจ้าตอนนี้แตกหักไปแล้ว

พระเจ้าตรัสว่า ฟิลิสเตียอย่าดีใจที่กษัตริย์อัสซีเรียถูกทำลายไป  เพราะจะมีกษัตริย์ที่ร้ายกว่านั้นขึ้นมา
เพราะว่าจะรากของงูร้ายนั้นจะมีงูพิษอีกตัวเข้ามา  ผลของมันคืออสรพิษไฟที่บินได้

ภาพโดย Kainchaos  จินตนาการ อสรพิษที่บินได้
ภาพโดย Kainchaos จินตนาการ อสรพิษที่บินได้

ลูกหัวปีของคนยากจนจะหากินตามหญ้า  และคนที่ขัดสนจะนอนลงอย่างปลอดภัย   แต่เราจะสังหารรากเง่าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร  และคนที่หลงเหลืออยู่จะถูกฆ่า

ร้องคร่ำครวญซิ  ประตูเมืองเอ๋ย ร้องออกมา เมืองเอ๋ย จงละลายไปด้วยความกลัว  โอฟิลิสเตีย  เจ้าทั้งหมดนั่นแหละ  เพราะว่า ควันนั้นออกมาจากทางเหนือ  และไม่มีคนที่พลัดหลงอยู่ในหมู่พวกเขา
แล้วเราจะตอบผู้สื่อสารของประเทศนั้นว่าอย่างไร
ก็ตอบว่าพระเจ้าได้ทรงสร้างศิโยน และคนที่ยากเข็ญในชนชาติของพระองค์จะได้ลี้หลบภัย

ถ้าใคร ๆ ถามว่า ทำไมพระเจ้าทรงพิพากษาผู้คน   คำตอบก็ง่าย ๆ  พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างเมืองศิโยน และพระเจ้าทรงห่วงคนยากจนเสมอ

อิสยาห์ 14-5

อิยาห์ 14:24-27

คำกล่าวถึงอัสซีเรีย

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพได้ทรงปฏิญาณไว้ “สิ่งที่เราวางแผนไว้ จะสำเร็จผล  และสิ่งที่เรามุ่งหวัง จะยืนมั่นคง เราจะทำลายคนอัสซีเรียในแผ่นดินของเรา  และบนภูเขาของเรา เราจะย่ำพวกเขาให้อยู่ใต้เท้าของเรา

แอกของเขาออกจะไปจากเขา  ภาระของเขาจะไปจากบ่าของเขา

นี่เป็นความมุ่งหมาย ซึ่งเป็นความมุ่งหมายสำหรับคนทั่วโลก

และนี่เป็นพระหัตถ์ที่ยื่นออกมาเหนือประชาชาติทั้งปวง

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ทรงประสงค์ ใครจะมาทำลายได้ล่ะ?

อาณาจักรอัสซีเรีย ปีที่ 900-600 ก่อนคริสตศักราชภาพจากbible-history.com
อาณาจักรอัสซีเรีย ปีที่ 900-600 ก่อนคริสตศักราช
ภาพจากbible-history.com

พระหัตถ์ของพระเจ้าทรงเหยียดออกมา  ผู้ใดจะหันกลับได้?

พระคัมภีร์ตอนนี้ ทำให้เราได้เห็นว่า พระเจ้าทรงอยู่เหนือความต้องการของกษัตริย์ และผู้ปกครองใด ๆ   พระองค์ทรงมีแผนอย่างไร ก็จะทรงทำเช่นนั้น   

ก่อนหน้าที่จะกล่าวถึงอัสซีเรีย  พระเจ้าทรงกล่าวถึงราชาแห่งบาบิโลนที่จะตกต่ำลง ซึ่งมีความหมายถึงลูซิเฟอร์  ผู้ที่เคยมีอำนาจสูงนัก แต่แล้วในอนาคต เขาจะต้องตกลงไปสู่เบื้องล่่าง 

พอย้อนกลับมาอัสซีเรีย   อิสยาห์ได้ย้ำถึงการที่อัสซีเรียเองจะถูกพระเจ้าพิพากษาลงโทษ  และเมื่อพระเจ้าทรงตั้งพระทัยจะทำสิ่งนี้ ก็ไม่มีใครห้ามพระองค์ได้ 

 

 

 

อิสยาห์ 14-4

อิสยาห์ 14:18-23

เหล่ากษัตริย์แห่งบรรดาประชาชาติได้นอนลงด้วยศักดิ์ศรีในหลุมศพของแต่ละท่าน    แต่เจ้ากลับถูกไล่ไป  ไกลจากที่ฝังศพของเจ้า เหมือนกับกิ่งที่ใคร ๆ เกลียดชังยิ่ง   เจ้าสวมเสื้อของ่่่่ดดศพซึ่งถูกแทงด้วยดาบ  คนที่ลงไปยังหินของบึงลึกนั้น  เหมือนกับร่างที่ตายแล้วถูกเหยียบย่ำ

ในขณะที่กษัตริย์องค์อื่น ๆ สิ้นชีวิตไปอย่างสงบ   แต่กษัตริย์แห่งบาบิโลนผู้นี้ กลับไม่สามารถนอนในหลุมศพได้!!  จำได้ไหม สองสามวันก่อนเราบอกว่า เขาจะเจอหนอนใต้เตียง และแมลงจะเป็นผ้าห่มของเขา 

ภาพวาดโดยกุสตาฟ ดอเร่
ภาพวาดโดยกุสตาฟ ดอเร่

เจ้าจะไม่ได้เข้าไปสมทบกับพวกเขาในพิธีฝังศพ  เพราะเจ้าได้ทำลายแผ่นดินของตัวเอง เจ้าได้ฆ่าคนของเจ้า…   ขอให้ลูกหลานของคนที่ทำชั่ว  ไม่มีใครเอ่ยชื่อเขาอีกต่อไป !   แม้กระทั่งคนธรรมดา ยังต้องมีพิธีศพ  แต่กษัตริย์องค์นี้หาได้มีพิธีฝังศพอันมีเกียรติไม่ 

เตรียมการสังหารบรรดาลูกชายเพราะบาปของพวกพ่อ มิฉะนั้นพวกเขาจะลุกขึ้นมาครอบครองโลก และสร้างเมืองเต็มไปหมด”

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพประกาศว่า “เราจะลุกขึ้นต่อสู้พวกเขา และจะตัดชื่อของบาบิโลน รวมทั้งคนที่เหลือ ลูกหลาน และพงศ์พันธุ์ของเขาออกไป”

และเราจะให้แผ่นดินนั้นเป็นที่อยู่ของเม่น  กลายเป็นบ่อน้ำ และเราจะกวาดมันออกไปด้วยไม้กวาดแห่งการทำลาย “พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงประกาศดังนี้

อิสยาห์ 14-3

อิสยาห์ 14:12-17

เจ้าตกลงมาจากสวรรค์  โอ ดวงดาวแห่งกลางวัน (ลูซิเฟอร์)  บุตรชายแห่งรุ่งอรุณ  ท่านถูกตัดร่วงลงมาอยู่บนพื้นดินได้อย่างไร  เจ้าผู้ทำให้ประชาชาติทั้งหลายตกต่ำ  บัดนี้ กษัตริย์แห่งบาบิโลนของโลกฝ่ายวิญญาณ ดาวกลางวันหรือลูซิเฟอร์   กำลังร่วงหล่นลงมาแล้ว ท่านอิสยาห์ได้พยากรณ์ว่า ในอนาคตผู้นี้จะร่วงหล่นลงมาให้ทุกคนได้เห็น เขาเคยรุ่งโรจน์ แต่จะมีวันที่เขาตกลงมา

เจ้าพูดในใจของตนเองว่า “เราจะขึ้นไปบนสวรรค์  เหนือบรรดาดวงดาวของพระเจ้า เราจะตั้งบัลลังก์ของเราไว้ให้สูง  และเราจะนั่งบนภูเขา อยู่กลางที่ประชุมในทางเหนือไกลโพ้น    เราจะขึ้นไปเหนือเมฆ   เราจะทำตัวเทียบเทียมองค์ผู้สูงสุด”  ไม่ได้พูดให้ใครได้ยิน เพียงพูดในใจ  แสดงว่า เขามีความตั้งใจจะทำสิ่งนั้นอย่างแน่นอน  เพื่อน ๆ ลองนับดูซิว่า เขาพูดว่า เราจะ….. กี่ครั้ง  อะไรบ้าง

แต่เจ้านะ ถูกนำลงมาต่ำถึงแดนผู้ตาย  ถึงก้นบึ้งลึกยิ่งของแดนนั้น เขาผู้นี้จะตกลงไปในนรกนั่นเอง 

ภาพโดยกุสตาฟ ดอเร่
ภาพโดยกุสตาฟ ดอเร่

คนที่เห็นเจ้าจะจ้องดูเจ้าและคิดเรื่องของเจ้า   “นี่เป็นคนที่ทำให้โลกหวั่นไหวหรือ   คนที่ทำให้อาณาจักรต่าง ๆ สะเทือน  คนที่ทำให้โลกกลายเป็นเหมือนทะเลทราย  และได้ล้มล้างอำนาจของเจ้าเมืองทั้งหลาย  คนที่ไม่ยอมปล่่อยเชลยกลับบ้านไป ?

คนทั้งหลายจะมองดูการล้มลงของลูซิเฟอร์ผู้นี้  และตระหนักว่า มันไม่มีอำนาจเหลืออยู่เลย…..

 

อิสยาห์ 14-2

อิสยาห์ 14:7-11
มารู้จักกับกษัตริย์แห่งบาบิโลนทางฝ่ายวิญญาณกันบ้าง ในสมัยโบราณนั้น มีกษัตริย์แห่งบาบิโลนที่เป็นมนุษย์ แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น เพราะกษัตริย์แห่งบาบิโลนฝ่ายวิญญาณก็คือ ซาตานซึ่งเป็นศัตรูของพระเจ้านั่นเอง
คราวนี้ ท่านอิสยาห์ได้กล่าวถึงใครคนหนึ่งที่อ่านแล้วอาจจะงง แต่อ่านไป ๆ จะรู้ว่าเขาคือใคร

ทั้งโลกจะพักผ่อน สงบเงียบ เขาออกมาร้องเพลง ต้นไซเปรสก็ยินดีเพราะเจ้า ต้นเสดาร์แห่งเลบานอนกล่าวว่า ตั้งแต่เจ้าถูกทำให้ต่ำลง ก็ไม่มีคนตัดไม้เข้ามาต่อสู้กับเรา”
เมื่อกษัตริย์แห่งบาบิโลนถูกทำลายไป โลกก็สงบ และก็ร้องเพลงด้วยความยินดี ดูซิ แม้ต้นไม้ก็ยังร่าเริง

ดินแดนแห่งความตายข้างใต้นั้นก็ดีใจ เพื่อออกมาพบเจ้าเมื่อเจ้ามา
นี่บอกให้เรารู้ว่า เมื่อเราตายไป มีดินแดนแห่งความตายรอเราอยู่ ในพระคัมภีร์เรียกแดนนี้ว่า แดนคนตาย เชโอล หรือ เฮเดส…. เวลาเราตายไปแล้ว เราจึงไม่ได้ไปเกิดใหม่ วิญญาณไม่ได้มาวนเวียน ในโลกนี้ แต่วิญญาณของเราจะไปรอวันสุดท้ายที่พระเจ้าจะทรงพิพากษามนุษย์ น่ากลัวใช่ไหม…. ยังมีเรื่องราวที่ลึกลับเกี่ยวกับแดนคนตายนี้ที่เราไม่รู้ พระเจ้าทรงเปิดเผยให้เรารู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

มันกระตุ้นเงาของมันให้ทักทายเจ้า มันยกกษัตริย์ทั้งหลายขึ้นจากบัลลังก์ของพวกเขา
ทั้งหมดเหล่านั้นจะตอบ และกล่าวแก่เจ้าว่า “ท่านก็เช่นกัน ท่านกลายเป็นคนอ่อนแอเหมือนกับเรา ท่านกลายเป็นเหมือนเราแล้ว”
ความโอ่อ่าของเจ้าและเสียงพิณที่เจ้าเล่นถูกดึงลงมาถึงแดนผู้ตาย

hnon
ตัวแมลงถูกวางเอาไว้ใต้เตียงนอนของเจ้า และหนอนกลายเป็นผ้าห่มคลุมเจ้า

อิสยาห์ 14-1

อิสยาห์ 14:1-6
การคืนสู่สภาพเดิมของยาโคบ
เพราะว่าพระเจ้าจะทรงมีน้ำพระทัยสงสารยาโคบ และจะทรงเลือกอิสราเอลอีกครั้ง พระองค์จะทรงจัดให้เขาอยู่ในแผ่นดินของตน คนที่เร่ร่อนไปก็จะเข้ามาสมทบ และจะผูกพันตัวเองกับวงศ์วานของยาโคบ
และคนทั้งหลายจะนำเขา และพาเขามาสู่ที่ทางของเขา วงศ์วานแห่งอิสราเอลจะครอบครองเขาในแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้าในฐานะทาสชายและหญิง และเขาจะทำให้คนที่เคยจับเขาเป็นเชลยกลับกลายเป็นเชลย พวกเขาจะได้ปกครองเหนือคนที่เคยกดขี่พวกเขา
พระเจ้าจะประทานพระคุณแรกเริ่มนั้นแก่ชนอิสราเอลอีกครั้ง คนเหล่านี้จะเพิ่มจำนวนขึ้นเพราะมีคนที่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาสมทบด้วย

Klubma

กลับทาง….
เมื่อพระเจ้าได้ทรงให้เจ้าพันห่างจากความเจ็บปวด ความสับสนและการที่ต้องรับใช้อย่างยากเข็ญ เจ้าก็จะเย้ยหยันกษัตริย์แห่งบาบิโลนดังนี้
“ดูซิ คนที่กดขี่ผู้อื่นต้องหยุดแล้ว ความโกรธเกรี้ยวอันโอหังก็หมดไป
พระเจ้าได้ทรงทำลายไม้เท้าของคนชั่วและคธาของเหล่าผู้ปกครองซึ่งพวกเขาได้ใช้มันตีคนอย่างไม่หยุดยั้งด้วยความโกรธ
พวกเขาได้ปกครองประชาชาติด้วยความชิงชัง ไม่ยอมหยุดที่จะกดขี่ประชาชน….
การที่อิสราเอลถูกกระทำอย่างไร้ความปราณีจะสิ้นสุดลง และเหตุการณ์จะผันแปรหน้ามือเป็นหลังมือ เกิดขึ้นเพราะว่า พระเจ้าทรงประสงค์เช่นนั้น
พระเจ้าทรงไม่พอพระทัยอย่างยิ่งที่คนเราจะกดขี่กันเช่นนี้ ทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นราวกับสัตว์ จะจิกหัวใช้อย่างไรก็ได้ …. แม้จะมีทาส แต่พระเจ้าทรงสอนให้นายเมตตาต่อทาส และปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยเสมอ

อิสยาห์ 13-3

อิสยาห์ 13:17-22
ดูเถิด เรากำลังเร้าให้ชาวมีเดียนมาสู้กับเขา ชาวมีเดียนที่ไม่สนใจเงินหรือไม่ได้พอใจกับทอง
ธนูของพวกเขาจะสังหารคนหนุ่ม และพวกเขาจะไม่ปราณีต่อทารกในครรภ์มารดา ตาของพวกเขาไม่มีความสงสารเด็ก ๆ เลย

ชาวมีเดียนโบราณนี้เป็นบรรพบุรุษของชาวเคิร์ดซึ่งอาศัยอยู่ในแนวรอยต่อของอิรัก ตุรกี อิหร่าน ในปัจจุบัน เรื่องที่อิสยาห์กล่าวถึงนั้นได้เกิดขึ้นในเวลาต่อมา คือ บาบิโลนโค่นอำนาจของอัสซีเรียซึ่งเป็นประเทศที่เข้ามาบุกอิสราเอลและยูดาห์ และต่อมามีเดียนก็ได้โค่นอำนาจของบาบิโลน อิสยาห์ได้ทำนายทุกสิ่งตรงตามที่เกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น สิ่งที่อิสยาห์พูดซึ่งยังไม่เกิดขึ้น เราจะได้เห็นสักวันหนึ่งแน่นอน

และบาบิโลน อาณาจักรที่โอ่อ่าตระการ อันเป็นความงดงามและสูงส่งของชาวเคลเดีย
จะกลายเป็นเหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์ในวันที่พระเจ้าทรงเขวี้ยงพวกเขาออกไป
พูดถึงเมืองโสโดม โกโมราห์เมื่อไร ให้คิดไว้เลยว่า พระเจ้ากำลังทรงหมายถึงความเสื่อมศีลธรรมทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเพศ

นิมิตที่อิสยาห์เห็นอนาคตของบาบิโลน  ภาพเขียนโดยกุสตาฟ ดอเร่
นิมิตที่อิสยาห์เห็นอนาคตของบาบิโลน ภาพเขียนโดยกุสตาฟ ดอเร่

จะไม่มีใครพักหรืออาศัยอยู่ในเมืองนี้ตลอดชั่วชาติพันธุ์
บาบิโลนถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่ปี 518 ก่อนคริสตศักราช และหลายร้อยปีต่อมา เมืองนี้ก็ค่อย ๆ พังไปตามกาลเวลา เมื่อไม่นานมานี้ ซัดดัมฮุสเซน พยายามที่จะรื้อฟื้นเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ เขาอ้างว่า เขานี่แหละคือนาบูคัดเนสซาร์ของโลกปัจจุบัน

ชาวอาหรับจะไม่ปักเต้นท์ที่นี่ ไม่มีผู้เลี้ยงแกะให้ฝูงสัตว์ของเขานอนพักที่นั่น
บ้านร้างของพวกเขาจะเต็มด้วยนกฮูกที่ร้องคราง นกกระจอกเทศจะทำรังที่นั่น
แพะป่าจะโลดเต้นในแผ่นดินนั้น หมาป่าฮยีนาจะร้องอยู่ในป้อมสูง และหมาไนจะร้องโหยหวนในวังของพวกเขา

เวลากำลังใกล้เข้ามา และวันเวลาจะไม่ถูกยืดให้ยาวออกไป

อิสยาห์ 13-2

อิสยาห์ 13:10-16

เพราะว่าดวงดาวแห่งสวรรค์ และหมู่ดาวที่โคจรอยู่ จะไม่ส่องแสง

ภาพจาก องค์การนาซา  ภายใต้ creative  commons
ภาพจาก องค์การนาซา ภายใต้ creative commons

แม้ดวงอาทิตย์ก็จะดำมืดยามอรุณรุ่ง ดวงจันทร์จะไม่ส่องแสงอีก ถ้าไม่มีอะไรส่องแสงมาจากเอกภพ โลกจะอยู่ได้อย่างไรกัน พระเจ้ามิได้ทรงแค่ครอบครองโลกนี้เท่านั้น แต่พระองค์ทรงครอบครองทั้งจักรวาลด้วย ความมืด เป็นสัญลักษณ์ของการพิพากษาลงโทษของพระเจ้า

เราจะลงโทษโลกนี้เพราะความชั่วช้าของมัน และจะลงโทษความผิดของคนชั่วร้าย เราจะจบฉากขี้โอ่ของคนที่เย่อหยิ่ง เราจะลากความโอ่อ่าของคนชั่วร้ายไร้ความปราณีให้ตกต่ำลง ดูซิ พระเจ้าทรงย้ำเน้นว่า คนที่ขี้โอ่ โอ้อวดนี่จะโดนหนัก!
เราจะทำให้มนุษย์เป็นสิ่งหายากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์ และมนุษยชาติหายากกว่าทองแห่งโอฟีร์ นี่ยังกะภาพยนต์ที่เล่าเรื่องวันสิ้นโลก….

ดังนั้น เราจะทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือน และแผ่นดินไหวแยกออกจากที่ทางของมัน เนื่องมาจากพระพิโรธของพระเจ้าในวันแห่งความกริ้วของพระองค์
ผู้คนจะหันกลับมาหาคนชาติเดียวกันตน และจะหนีกลับไปยังดินแดนของตนเหมือนกับละมั่งที่ถูกล่า เหมือนกับแกะที่ไม่มีใครคอยต้อนให้อยู่รวมกัน
ใครถูกพบก็จะถูกแทงทะลุ ใครถูกจับจะต้องตายเพราะดาบ ลูกของพวกเขาจะถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าต่อตา บ้านจะถูกปล้น และภรรยาจะถูกช่วงชิงไป