เยเรมีย์ 4:5-8
จงประกาศในยูดาห์ และแจ้งให้ชาวเยรูซาเล็มรับรู้
“เป่าแตรให้ทั่วทั้งแผ่นดิน ร้องเสียงดัง กล่าวว่า
‘จงรวมตัวกัน และให้เราไปยังบรรดาเมืองที่มีป้อม’
จงตั้งธงเตือนศิโยน ให้ทุกคนหนีไปหาที่ปลอดภัย อย่าอยู่กับที่
เพราะว่า เราจะนำหายนะมาจากทางเหนือ เป็นวิบัติที่ยิ่งใหญ่นัก
สิงโตได้ออกมาจากดงหนามของมัน ผู้ทำลายล้างประชาชาติได้ออกมาแล้ว
เขาออกมาจากที่ของเขา เพื่อทำให้ดินแดนของเจ้ากลายเป็นที่ร้างเปล่า
เมืองทั้งหลายจะกลายเป็นซากปรักหักพังไม่มีคนอาศัยอยู่
เพราะเหตุนี้ เจ้าจงสวมเสื้อกระสอบ คร่ำครวญโหยไห้
เพราะว่าความโกรธเกรี้ยวขององค์พระเป็นเจ้าไม่ได้หันไปจากเรา”
“ในวันนั้น” พระเป็นเจ้าตรัส “ผู้กล้าจะทำให้กษัตริย์และข้าราชการ
เหล่าปุโรหิตจะตกใจและผู้กล่าวคำของพระเจ้าก็จะตะลึง …
และข้ากล่าวว่า “อา… ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้ทรงลวงคนเหล่านี้ และเยรูซาเล็ม
ว่า ..เจ้าทั้งหลายจะอยู่อย่างมีความสุข..
ในขณะที่จริง ๆ แล้ว ดาบกำลังมาถึงชีวิตของพวกเขา!”
พระเจ้าทรงบอกให้เรียกคนเข้ามารวมกันในเมืองใหญ่ การเป่าแตรเป็นการเรียกรวมพลและเข้ามาตั้งหลักกันในเมืองที่มีป้อม
เมื่อใช้ธงเรียกเตือนแสดงว่า กำลังจะมีผู้เข้ามาโจมตี พวกเขาจะต้องหาที่กำบัง หนีให้ทัน สงครามนี้ไม่ใช่เรื่องของมนุษย์ แต่พระเจ้าทรงส่งเขามาจัดการคนของพระองค์
ศัตรูนั้นเหมือนสิงโตเพื่อออกมาทำลาย สิงโตนี้คือ บาบิโลนนั่นเอง คนทุกชนชั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นสูงจะตกใจ ไม่นึกว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น เป็นเพราะมีผู้กล่าวคำเท็จมาลวงพวกเขาว่า พวกเขาจะไม่เป็นอันตราย จะอยู่อย่างสบาย ตรงนี้เองที่เยเรมีย์พูดเหมือนว่า พระเจ้าลวงคนของพระองค์ เปล่าเลย แต่เป็นคนกล่าวคำเท็จที่พวกเขาชอบฟังต่างหาก